โคคาสุกี้อัดโปรโมชั่นกระหน่ำทั้งปี ชูจุดต่างจากสุกี้ทั่วไป ด้วยการปรับภาพลักษณ์สู่แคชชวล ไดนิ่งที่มีเมนูให้เลือกทานหลากหลายนอกเหนือจากสุกี้ พร้อมนำเทคโนโลยีสมัยใหม่เข้ามาใช้ในร้าน เตรียมรีโนเวตร้านปีนี้ 1-2 แห่ง หวังกระตุ้นลูกค้าคนไทยเข้าร้านมากขึ้น คาดสิ้นปียอดขายเพิ่ม 15-20%
นางสาวพัชรี สร้างบัณฑิตสกุล ผู้จัดการรฝ่ายการตลาดและประชาสัมพันธ์ บริษัทโคคา โอลดิ้ง อินเตอร์เนชั่นแนล จักด เปิดเผยว่า แผนลงทุนในปีนี้ของโคคาสุกี้ใช้งบรวมหลายสิบล้านบาท ประกอบด้วย การปรับปรุงร้านโคคาสุกี้ให้มีความทันสมัยขึ้นทั้งรูปลักษณ์ร้านและบรรยากาศ ซึ่งขณะนี้มีการปรับร้านไปแล้ว 3 แห่งได้แก่ สยามสแควร์,สยาม เซ็นเตอร์ และสุขุมวิท 39 ในปีนี้คาดว่าจะมีการรีโนเวตร้านเพิ่ม 1-2 สาขา คือที่เซ็นทรัล เวิลด์ พลาซ่า จากนั้นร้านอื่นๆจะทยอยปรับเปลี่ยนให้ครบทุกสาขา
ประกอบกับการนำเทคโนโลยีสมัยใหม่เข้ามาใช้ในร้านโคคาสุกี้ เพื่อสามารถให้บริการได้อย่างครอบคลุม อาทิ การนำพีดีเอปาล์มมาใช้ในการสั่งอาหาร และการใช้เตาอินดักส์ชั่นหรือฝังเตาลงในโต๊ะ เพื่อให้ความปลอดภัยและสะดวกในการใช้งาน เป็นต้น
นอกจากนี้บริษัทฯยังใช้งบทางด้านการตลาดและโปรโมชั่นตลอดทั้งปี คิดเป็นงบประมาณ3-5 % ของยอดรายได้ โดยจะมีแคมเปญหรือโปรโมชั่นรวมทั้งปีกว่า 12 แคมเปญ เพื่อดึงกลุ่มลูกค้าคนไทยให้มาทานสุกี้โคคามากขึ้น จากเดิมที่ลูกค้าส่วนมากจะเป็นต่างชาติ คิดเป็นสัดส่วน 60% คนไทย 40% ปีนี้คาดว่าสัดส่วนจะเท่ากันเป็น 50 :50 เนื่องจากตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติมีจำนวนลดลงทั้งจากโรคซาร์สหรือการท่องเที่ยวเอง เป็นต้น ขณะที่ลูกค้าคนไทยได้หันมาทานสุกี้โคคามากขึ้น เป็นเพราะการปรับร้านให้ดูทันสมัย,การทำโปรโมชั่นทุกเดือน,ราคาอาหารไม่แพง และการส่งข้อมูลข่าวสารให้สมาชิกกว่า 1 แสนราย เป็นต้น
“จุดแตกต่างของโคคาสุกี้ที่ต่างจากร้านสุกี้ทั่วไปอยู่ที่โปรโมชั่นของเราที่มีความแคชชวล ไดนิ่ง ซึ่งมีเมนูให้ลูกค้าได้เลือกมากกว่าการกินสุกี้ทั่วๆไป โดยตอนนี้เมนูสุกี้ คิดเป็น 70% และอีก 30% เป็นเมนูอื่น เพื่อเสริมและเป็นอีกทางเลือกให้ลูกค้า” นางสาวพัชรีกล่าว
ล่าสุดบริษัทฯเปิดตัวโปรโมชั่นเทศกาล “ปูเป็นๆ” 24 เมนูด้วยกัน แบ่งเป็นขายที่โคคาสุกี้ 9 เมนู ,แม็งโกทรี 5 เมนู เป็นต้น ซึ่งโปรโมชั่นนี้จะใช้ระยะเวลา 2 เดือนเริ่มตั้งแต่วันที่ 16 พ.ค. -17 ก.ค. นี้ ในส่วนยอดขายรวมบริษัทฯตั้งเป้าขายปูได้ทั้งหมด 1.5 หมื่นตัวหรือประมาณ 3-4 ล้านบาท ขณะที่โปรโมชั่นต่อไปจะเป็นกลุ่มน้ำซุป,เมนูไก่บ้านสาว และบ๊ะจ่าง เป็นต้น
“เทศกาลอาหารของเราเริ่มมาตั้งแต่ตั้งปีแล้ว อาทิ หูฉลามราดข้าว, ช่วงตรุษจีน, แคมเปญ พาเหรดเป็ดอร่อย และเมนูมะม่วง,ทุเรียน และล่าสุดเมนูปู ส่งผลให้ให้ยอดบิลของลูกค้าต่อครั้งเพิ่มขึ้น จากเดิม 400 บาท เพิ่มขึ้นอีก 250 บาทต่อครั้ง ในส่วนของยอดขายก็เพิ่มขึ้นด้วยถึง 30%”
ปัจจุบันธุรกิจในเครือบริษัทฯ ประกอบด้วย ร้านโคคาสุกี้ 8 สาขา,ร้านอาหารไทยแม็งโกทรี 1สาขา ,ร้านกาแฟและเบเกอรี่ “กรัวซัง เฮ้าส์” 2 สาขา และภัตตาคารญี่ปุ่นสไตล์ฟิวชั่นนิคา-อิ และภัตตาคารญี่ปุ่นโบตันเต อย่างละ 1 สาขา
ด้านตลาดต่างประเทศบริษัทฯจะขายแฟรนไชส์ภายใต้ 2 แบรนด์ คือ โคคาสุกี้ ที่มีเปิดแล้วในหลายประเทศ อาทิ สิงคโปร์ 4 แห่ง,มาเลเซีย 5-6 แห่ง,อินโดนีเซีย 6 แห่ง ,จีน 2 แห่ง,ญี่ปุ่น 3 แห่ง และเกาหลี 2 แห่ง เป็นต้น ส่วนร้านอาหารไทยแม็งโกทรี ขณะนี้มีแล้ว 4 แห่ง คาดว่าจะเปิดสาขาเพิ่ม อาทิ มุมไบ,เวียดนาม
ผลประกอบการของบริษัทฯปีที่แล้วในส่วนของยอดในประเทศมีรายได้ 300 ล้านบาท ปีนี้คาดว่ายอดรายได้จะโต 15-20% หรือประมาณ 350 ล้านบาท โดยโคคาสุกี้ยังเป็นตัวที่ทำรายได้หลัก คิดเป็น 80% ขณะที่ตลาดรวมของสุกี้ในไทยมีมูลค่ากว่า 6,000 ล้านบาท โคคาสุกี้มีส่วนแบ่งทางการตลาด 6-7% และอยู่ในอันดับ 2 ในตลาด รองจากเอ็มเคสุกี้
นางสาวพัชรี สร้างบัณฑิตสกุล ผู้จัดการรฝ่ายการตลาดและประชาสัมพันธ์ บริษัทโคคา โอลดิ้ง อินเตอร์เนชั่นแนล จักด เปิดเผยว่า แผนลงทุนในปีนี้ของโคคาสุกี้ใช้งบรวมหลายสิบล้านบาท ประกอบด้วย การปรับปรุงร้านโคคาสุกี้ให้มีความทันสมัยขึ้นทั้งรูปลักษณ์ร้านและบรรยากาศ ซึ่งขณะนี้มีการปรับร้านไปแล้ว 3 แห่งได้แก่ สยามสแควร์,สยาม เซ็นเตอร์ และสุขุมวิท 39 ในปีนี้คาดว่าจะมีการรีโนเวตร้านเพิ่ม 1-2 สาขา คือที่เซ็นทรัล เวิลด์ พลาซ่า จากนั้นร้านอื่นๆจะทยอยปรับเปลี่ยนให้ครบทุกสาขา
ประกอบกับการนำเทคโนโลยีสมัยใหม่เข้ามาใช้ในร้านโคคาสุกี้ เพื่อสามารถให้บริการได้อย่างครอบคลุม อาทิ การนำพีดีเอปาล์มมาใช้ในการสั่งอาหาร และการใช้เตาอินดักส์ชั่นหรือฝังเตาลงในโต๊ะ เพื่อให้ความปลอดภัยและสะดวกในการใช้งาน เป็นต้น
นอกจากนี้บริษัทฯยังใช้งบทางด้านการตลาดและโปรโมชั่นตลอดทั้งปี คิดเป็นงบประมาณ3-5 % ของยอดรายได้ โดยจะมีแคมเปญหรือโปรโมชั่นรวมทั้งปีกว่า 12 แคมเปญ เพื่อดึงกลุ่มลูกค้าคนไทยให้มาทานสุกี้โคคามากขึ้น จากเดิมที่ลูกค้าส่วนมากจะเป็นต่างชาติ คิดเป็นสัดส่วน 60% คนไทย 40% ปีนี้คาดว่าสัดส่วนจะเท่ากันเป็น 50 :50 เนื่องจากตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติมีจำนวนลดลงทั้งจากโรคซาร์สหรือการท่องเที่ยวเอง เป็นต้น ขณะที่ลูกค้าคนไทยได้หันมาทานสุกี้โคคามากขึ้น เป็นเพราะการปรับร้านให้ดูทันสมัย,การทำโปรโมชั่นทุกเดือน,ราคาอาหารไม่แพง และการส่งข้อมูลข่าวสารให้สมาชิกกว่า 1 แสนราย เป็นต้น
“จุดแตกต่างของโคคาสุกี้ที่ต่างจากร้านสุกี้ทั่วไปอยู่ที่โปรโมชั่นของเราที่มีความแคชชวล ไดนิ่ง ซึ่งมีเมนูให้ลูกค้าได้เลือกมากกว่าการกินสุกี้ทั่วๆไป โดยตอนนี้เมนูสุกี้ คิดเป็น 70% และอีก 30% เป็นเมนูอื่น เพื่อเสริมและเป็นอีกทางเลือกให้ลูกค้า” นางสาวพัชรีกล่าว
ล่าสุดบริษัทฯเปิดตัวโปรโมชั่นเทศกาล “ปูเป็นๆ” 24 เมนูด้วยกัน แบ่งเป็นขายที่โคคาสุกี้ 9 เมนู ,แม็งโกทรี 5 เมนู เป็นต้น ซึ่งโปรโมชั่นนี้จะใช้ระยะเวลา 2 เดือนเริ่มตั้งแต่วันที่ 16 พ.ค. -17 ก.ค. นี้ ในส่วนยอดขายรวมบริษัทฯตั้งเป้าขายปูได้ทั้งหมด 1.5 หมื่นตัวหรือประมาณ 3-4 ล้านบาท ขณะที่โปรโมชั่นต่อไปจะเป็นกลุ่มน้ำซุป,เมนูไก่บ้านสาว และบ๊ะจ่าง เป็นต้น
“เทศกาลอาหารของเราเริ่มมาตั้งแต่ตั้งปีแล้ว อาทิ หูฉลามราดข้าว, ช่วงตรุษจีน, แคมเปญ พาเหรดเป็ดอร่อย และเมนูมะม่วง,ทุเรียน และล่าสุดเมนูปู ส่งผลให้ให้ยอดบิลของลูกค้าต่อครั้งเพิ่มขึ้น จากเดิม 400 บาท เพิ่มขึ้นอีก 250 บาทต่อครั้ง ในส่วนของยอดขายก็เพิ่มขึ้นด้วยถึง 30%”
ปัจจุบันธุรกิจในเครือบริษัทฯ ประกอบด้วย ร้านโคคาสุกี้ 8 สาขา,ร้านอาหารไทยแม็งโกทรี 1สาขา ,ร้านกาแฟและเบเกอรี่ “กรัวซัง เฮ้าส์” 2 สาขา และภัตตาคารญี่ปุ่นสไตล์ฟิวชั่นนิคา-อิ และภัตตาคารญี่ปุ่นโบตันเต อย่างละ 1 สาขา
ด้านตลาดต่างประเทศบริษัทฯจะขายแฟรนไชส์ภายใต้ 2 แบรนด์ คือ โคคาสุกี้ ที่มีเปิดแล้วในหลายประเทศ อาทิ สิงคโปร์ 4 แห่ง,มาเลเซีย 5-6 แห่ง,อินโดนีเซีย 6 แห่ง ,จีน 2 แห่ง,ญี่ปุ่น 3 แห่ง และเกาหลี 2 แห่ง เป็นต้น ส่วนร้านอาหารไทยแม็งโกทรี ขณะนี้มีแล้ว 4 แห่ง คาดว่าจะเปิดสาขาเพิ่ม อาทิ มุมไบ,เวียดนาม
ผลประกอบการของบริษัทฯปีที่แล้วในส่วนของยอดในประเทศมีรายได้ 300 ล้านบาท ปีนี้คาดว่ายอดรายได้จะโต 15-20% หรือประมาณ 350 ล้านบาท โดยโคคาสุกี้ยังเป็นตัวที่ทำรายได้หลัก คิดเป็น 80% ขณะที่ตลาดรวมของสุกี้ในไทยมีมูลค่ากว่า 6,000 ล้านบาท โคคาสุกี้มีส่วนแบ่งทางการตลาด 6-7% และอยู่ในอันดับ 2 ในตลาด รองจากเอ็มเคสุกี้