xs
xsm
sm
md
lg

ชี้กม.เก็บภาษีฉบับใหม่ฟิลิปปินส์ ไม่ใช่ยาวิเศษแก้ขาดดุลงบประมาณ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เอเอฟพี – นักวิเคราะห์ระบุ กฎหมายจัดเก็บรายได้ฉบับใหม่ไม่สามารถแก้ปัญหาการขาดดุลการคลังอันเรื้อรังและปัญหาหนี้สินของฟิลิปปินส์ได้มากนัก พร้อมเตือนเรื่องความไร้ประสิทธิภาพในการจัดเก็บรายได้ของรัฐ

บรรดานักวิเคราะห์ระบุว่า เมื่อไม่นานมานี้ ทางการต้องการระดมทุนจากตลาดระหว่างประเทศราว 750 ล้านดอลลาร์ เพื่อลดช่องว่างยอดขาดดุลงบประมาณของปีนี้ที่ 3,300 ล้านดอลลาร์ ทว่ากลับไม่มีนโยบายอันชัดเจนในการลดหนี้สิน

แทนที่จะปรับเพิ่มภาษีมูลค่าเพิ่ม (แวต) จาก 10% เป็น 12% เพื่อเพิ่มรายได้ให้รัฐ บรรดาผู้ออกกฎกลับอนุมัติกฎหมายให้คงแวตที่ 10% และเพิ่มภาษีรายได้บริษัทจาก 32% เป็น 35%

อย่างไรก็ตาม พวกผู้ออกกฎก็เปิดช่องให้ประธานาธิบดีกลอเรีย อาร์โรโย สามารถปรับเพิ่มแวตเป็น 12% ได้นับตั้งแต่เดือนมกราคมปีหน้าภายใต้เงื่อนไขที่กำหนด รวมถึงยกเลิกการละเว้นภาษีในบางอุตสาหกรรม กระนั้นก็ดีอาร์โรโยจะต้องมีเกราะป้องกันทางการเมืองสำหรับความเคลื่อนไหวที่ไม่พึงปรารถนา

ขณะเดียวกัน ไม่มีใครรู้ว่ามาตรการใหม่จะสามารถจัดเก็บภาษีได้เท่าไร บ้างก็คาดการณ์ว่าปีนี้จะเก็บรายได้ได้ 35,000-150,000 ล้านเปโซ (650-2,770 ล้านดอลลาร์) ทว่าปัจจัยสำคัญประการหนึ่งที่ยังคงมีอยู่คือ ทางการไร้ศักยภาพในการจัดเก็บภาษี

นักเศรษฐศาสตร์ที่ไม่เปิดเผยชื่อรายหนึ่งบอกว่า “สิ่งที่เรียกว่ากฎหมายภาษีบาป (ภาษีที่เรียกเก็บจากบุหรี่และเหล้าซึ่งผ่านสภาเมื่อปีที่แล้ว) ถูกลดความสำคัญลงโดยพวกสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งเข้าข้างกลุ่มผลประโยชน์ที่มีอำนาจ โดยกฎหมายเก็บภาษีดังกล่าวจะเพิ่มรายได้ให้รัฐ 7,000-8,000 ล้านเปโซ แทนที่จะเป็น 14,000-18,000 ล้านเปโซตามที่คาดการณ์ไว้แต่แรก”

เขากล่าวต่อว่า การปรับเพิ่มภาษีรายได้บริษัทเป็นเรื่องน่าประหลาดใจ เนื่องจากไม่มีการหารือในประเด็นนี้มาก่อน หรือไม่มีการศึกษาผลกระทบที่จะมีต่อภาคธุรกิจ

ปัจจุบันฟิลิปปินส์ หนึ่งในบรรดาประเทศที่มีเศรษฐกิจขนาดเล็กที่สุดในภูมิภาค มีอัตราภาษีรายได้บริษัทสูงสุดประเทศหนึ่งในเอเชีย กล่าวคือ เวียดนามอยู่ที่ 32% อินโดนีเซียและไทย 30% มาเลเซีย 28% ไต้หวัน 25% สิงคโปร์ 22% และฮ่องกง 16%

โดนัลด์ ดี นักธุรกิจและประธานสภาหอการค้าและอุตสาหกรรมของฟิลิปปินส์ (พีซีซีไอ) เรียกการปรับเพิ่มอัตราภาษีว่า “ไม่มีเหตุผลอันสมควร” พร้อมทั้งระบุว่า เป็นการส่งสัญญาณอย่างผิดๆไปยังบรรดานักลงทุนที่ต้องการเข้ามาลงทุนในแดนตากาล็อก

นอกจากนี้ พีซีซีไอมองว่า การปรับเพิ่มภาษีรายได้บริษัทเป็น 35% จะทำให้ธุรกิจขนาดกลางและขนาดเล็กปิดตัวลง และจะมีคนตกงานมากขึ้น
กำลังโหลดความคิดเห็น