เอเอฟพี – ยอดเกินดุลบัญชีเดินสะพัดญี่ปุ่นเดือนมีนาคมดีดตัวเป็นครั้งแรกในรอบ 3 เดือน เนื่องจากแรงหนุนของรายได้จากการลงทุนในต่างประเทศอันแข็งแกร่ง ขณะที่การส่งออกขยายตัวต่ำกว่าการนำเข้า
กระทรวงการคลังญี่ปุ่นเปิดเผยวานนี้ (16) ยอดเกินดุลบัญชีเดินสะพัดเดือนมีนาคมเพิ่มขึ้น 0.5% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้วเป็น 1.85 ล้านล้านเยน (17,500 ล้านดอลลาร์) ขณะที่ยอดเกินดุลบัญชีเดินสะพัดสำหรับปีที่สิ้นสุดเดือนมีนาคมทะยานขึ้น 5.8% อยู่ที่ 18.29 ล้านล้านเยน แตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์
ทั้งนี้ตัวเลขการส่งออกในปีดังกล่าวดีดตัวขึ้น 10.2% แตะระดับสูงสุดที่ 58.83 ล้านล้านเยน ขณะที่ตัวเลขการนำเข้าทะยานขึ้น 13% ทำสถิติที่ 45.27 ล้านล้านเยน
เจ้าหน้าที่ของกระทรวงระบุว่า “เงินปันผลและดอกเบี้ยรับจากการลงทุนในหุ้นกู้และหุ้นสามัญต่างชาติ เพิ่มขึ้นอย่างมากในเดือนมีนาคม ส่งผลให้ยอดเกินดุลบัญชีเดินสะพัดโดยรวมทะยานขึ้นด้วย”
อย่างไรก็ตาม บรรดานักวิเคราะห์มองว่า การเพิ่มขึ้นโดยรวมของยอดเกินดุลบัญชีเดินสะพัด ซึ่งชี้วัดการเคลื่อนไหวของรายได้จากสินค้า บริการ และการลงทุน รวมถึงการถ่ายโอนทางการเงินอื่น อาจไม่ยั่งยืน เนื่องจากการปรับตัวของสินค้าคงคลังภาคไอที ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่เพิ่มขึ้น และความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการขยายตัวทางเศรษฐกิจของจีนและสหรัฐฯ
อนึ่ง ยอดเกินดุลการค้าเดือนมีนาคมหดตัวลง 8.5% เหลือ 1.23 ล้านล้านเยน โดยมูลค่าการส่งออกเพิ่มขึ้น 6.5% อยู่ที่ 5.51 ล้านล้านเยน ขณะที่มูลค่าการนำเข้าพุ่งขึ้น 11.8% เป็น 4.28 ล้านล้านเยน เนื่องจากราคาน้ำมันแพงยังคงส่งผลต่อมูลค่าสินค้านำเข้า
กระทรวงการคลังญี่ปุ่นเปิดเผยวานนี้ (16) ยอดเกินดุลบัญชีเดินสะพัดเดือนมีนาคมเพิ่มขึ้น 0.5% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้วเป็น 1.85 ล้านล้านเยน (17,500 ล้านดอลลาร์) ขณะที่ยอดเกินดุลบัญชีเดินสะพัดสำหรับปีที่สิ้นสุดเดือนมีนาคมทะยานขึ้น 5.8% อยู่ที่ 18.29 ล้านล้านเยน แตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์
ทั้งนี้ตัวเลขการส่งออกในปีดังกล่าวดีดตัวขึ้น 10.2% แตะระดับสูงสุดที่ 58.83 ล้านล้านเยน ขณะที่ตัวเลขการนำเข้าทะยานขึ้น 13% ทำสถิติที่ 45.27 ล้านล้านเยน
เจ้าหน้าที่ของกระทรวงระบุว่า “เงินปันผลและดอกเบี้ยรับจากการลงทุนในหุ้นกู้และหุ้นสามัญต่างชาติ เพิ่มขึ้นอย่างมากในเดือนมีนาคม ส่งผลให้ยอดเกินดุลบัญชีเดินสะพัดโดยรวมทะยานขึ้นด้วย”
อย่างไรก็ตาม บรรดานักวิเคราะห์มองว่า การเพิ่มขึ้นโดยรวมของยอดเกินดุลบัญชีเดินสะพัด ซึ่งชี้วัดการเคลื่อนไหวของรายได้จากสินค้า บริการ และการลงทุน รวมถึงการถ่ายโอนทางการเงินอื่น อาจไม่ยั่งยืน เนื่องจากการปรับตัวของสินค้าคงคลังภาคไอที ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่เพิ่มขึ้น และความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการขยายตัวทางเศรษฐกิจของจีนและสหรัฐฯ
อนึ่ง ยอดเกินดุลการค้าเดือนมีนาคมหดตัวลง 8.5% เหลือ 1.23 ล้านล้านเยน โดยมูลค่าการส่งออกเพิ่มขึ้น 6.5% อยู่ที่ 5.51 ล้านล้านเยน ขณะที่มูลค่าการนำเข้าพุ่งขึ้น 11.8% เป็น 4.28 ล้านล้านเยน เนื่องจากราคาน้ำมันแพงยังคงส่งผลต่อมูลค่าสินค้านำเข้า