“คุณหญิงสุดารัตน์” เผย “ประภ้ตร” พร้อม ส.ส.ชท.ขอพบเคลียร์ปัญหาทั้งเรื่องน้ำ และเด็กทะเลาะกัน ด้าน “ศิธา” ระบุทำความเข้าใจกับ “แบม”แล้ว ไม่คิดปีนเกลียว “บรรหาร” โยน “ชูวิทย์” ยั่วอารมย์ก่อน
คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ รมว.เกษตร และสหกรณ์ ในฐานะรองหัวหน้าพรรค ไทยรักไทย กล่าวว่า ได้รับการติดต่อจาก นายประภัตร โพธสุธน เลขาธิการพรรคชาติไทย และส.ส.ภาคกลางของพรรคชาติไทยว่าจะขอเข้าพบตนที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ในเร็ว ๆ นี้ เพื่อมาแสดงความยินดีภายหลังจากตนได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ชั้น จตุตถจุลจอมเกล้า ให้เป็นคุณหญิง นอกจากนั้นจะมีการหารือในเรื่องของงานโดยเฉพาะปัญหาเรื่องการจัดสรรน้ำในเขื่อนเจ้าพระยา จ.ชัยนาท ซึ่งคงต้องหาเวลาว่างให้ตรงกันทั้ง 2 ฝ่าย
อย่างไรก็ตามตนเห็นว่าปัญหาความขัดแย้งกันของทั้งสองพรรคไม่น่าจะนำมา เป็นประเด็นทางการเมืองเหมือนอย่างที่ พ.ต.ท. ทักษิณ หัวหน้าพรรคไทยรักไทย ได้กล่าวไว้ โดยเฉพาะเรื่องความเดือดร้อนของประชาชนซึ่งตนได้สั่งการให้ อธิบดีกรมชลประทานไปดูแลให้มีการปล่อยน้ำให้ประชาชนไม่ให้มีความเดือดร้อนและให้เป็นไปอย่างทั่วถึง เนื่องจากการเฉลี่ยน้ำถึงแม้จะสามารถคลี่คลายปัญหาภัยแล้งได้ระดับหนึ่ง แต่ยังไม่สามารถช่วยได้ทั้งหมด ดังนั้นจึงต้องเฉลี่ยให้แต่ละพื้นที่มีความทัดเทียมกัน
“ตอนนี้ยังไม่ทราบว่าท่านจะคุยปัญหาเรื่องความขัดแย้งไหมแต่ถ้าคุยก็ไม่มีปัญหา เพราะเราไม่อยากให้เป็นประเด็นการเมือง”
น.ต.ศิธา ทิวารี โฆษกพรรคไทยรักไทย กล่าวถึงกรณีพรรคชาติไทยประกาศ ไม่ร่วมกิจกรรมกับทีมโฆษกพรรคไทยรักไทย เนื่องจากไม่พอใจคำพูดของ ส.ส.พรรคไทยรักไทย ที่ไม่ให้เกียรติ นายบรรหาร ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทย ว่า ก่อนหน้านี้เคยคุยกับ น.ส.จณิสตา ลิ่วเฉลิมวงศ์ โฆษกพรรคชาติไทยว่า จะร่วมทำงาน การเมืองอย่างสร้างสรรค์ด้วยกัน ความสัมพันธ์ก็ดีมาตลอด กระทั่งนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ รองหัวหน้าพรรคชาติไทย ออกมาให้ข่าวรายวันอ้างว่า นายบรรหาร ยุให้พูด ขณะเดียวกันก็ยั่วยุให้ตนออกมาตอบโต้ ตนจึงบอกว่าไม่อยากต่อล้อต่อเถียงกับคนที่ไม่มีเครดิต และเรื่องก็ไม่เกิดประโยชน์ต่อพรรคด้วย ตนจะตอบโต้ก็ต่อเมื่อ นายชูวิทย์ได้รับการแต่งตั้งจากนายบรรหารอย่างเป็นทางการว่าเป็นการให้สัมภาษณ์ ในนามพรรคชาติไทยแล้วเท่านั้น หรือให้นายบรรหารออกมาพูดด้วยตัวเอง ซึ่งตอนนี้ นายบรรหารก็ยังไม่ออกมาพูดอะไร และส่วนตัวเชื่อว่านายบรรหารคงไม่สิ้นคิด ถึงขนาดตั้ง นายชูวิทย์ออกมาพูดในนามพรรคชาติไทยด้วย
“ตอนแรกคุณจณิสตาก็คิดว่าผมจงใจจะไปตอบโต้กับคุณบรรหาร แต่ล่าสุด ผมโทรศัพท์ไปทำความเข้าใจกับคุณจณิสตาแล้วว่าผมไม่เคยก้าวล่วงกับ คุณบรรหารเลย คิดว่าคุณจณิตาน่าจะเข้าใจแล้ว ส่วนจะทำกิจกรรมร่วมกับพรรคไทยรักไทยเหมือนเดิมอีกต่อไปหรือไม่ ขึ้นอยู่ที่คุณจณิสตาจะพิจารณา”
นายชัยวัฒน์ ทรัพย์รวงทอง ส.ส.ชัยนาท พรรคไทยรักไทย แถลงถึงกรณีนางนันทนา สงฆ์ประชา ส.ว.ชัยนาท ระบุว่าเป็นส.ส.ปากยังไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมว่า ความจริง ตนเป็นส.ส.มาตั้งแต่ปี 2529 ขณะนี้เป็นส.ส.ได้ 4 สมัย และเมื่อปี 2538 ตนก็เคยเป็นส.ส.พร้อมกันกับนายมณฑล สงฆ์ประชา บิดาของนางนันทนา ที่นางนันทนากล่าวว่าตนไม่มีความรู้ความเข้าใจในการทำงานนั้น ความจริงตนเคย ดำรงตำแหน่งประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญแก้ไขปัญหาภัยแล้ง สภาผู้แทนราษฎร เมื่อปี พ.ศ. 2535
นอกจากนี้ ตนไม่เคยใส่ร้ายนายบรรหาร ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทย แต่อย่างใด ดังนั้นในวันนี้ จึงได้นำรูปถ่ายของเขื่อนในจังหวัดชัยนาทที่ถ่ายเมื่อวันที่ 9 มาให้สื่อมวลชนดู ซึ่งจะเห็นได้ว่าแกนประตูบานเขื่อนไม่เลื่อนขึ้น จนไม่มีน้ำไป ช่วยเหลือเกษตรกร แต่สำหรับเขื่อนในจังหวัดสุพรรณบุรีนั้น แกนประตูบานเขื่อนกลับเลื่อนขึ้น ส่งผลให้มีน้ำเต็มในจังหวัดดังกล่าว ตนจึงขอร้องให้ฝ่ายตรงข้าม อย่าเบี่ยงเบนประเด็น แต่ต้องแก้ข้อกล่าวหาให้ได้ว่านายบรรหาร ไม่ได้ทำในสิ่งที่ไม่ให้ความเป็นธรรมต่อคนไทยทั้งประเทศ
ผู้สื่อข่าวถามว่า 4 ปีที่ผ่านมา กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ก็ถูกควบคุมโดยคนของพรรคไทยรักไทย แสดงว่าพรรคไทยรักไทยไม่สามารถแก้ไขปัญหาภัยแล้งได้ นายชัยวัฒน์กล่าวว่า 4 ปีที่แล้ว ยังไม่มีวิกฤตภัยแล้งอย่างในปีนี้ ซึ่งในปีนี้ก็ควรให้คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ รมว.เกษตรฯ ทำงานโดยใช้ความรู้ความสามารถเต็มที่ นอกจากนี้ต้องให้พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี บริหารประเทศอย่างแท้จริง และไม่มีการล้วงลูกจากใคร
สำหรับกรณีที่คนนอกพรรคไทยรักไทยยังมีอิทธิพลต่อกรมชลประทาน ทั้งที่พรรคไทยรักไทยเป็นรัฐบาลพรรคเดียวอยู่ แสดงถึงอะไรหรือไม่ นายชัยวัฒน์กล่าวว่า กรมชลประทานคงเกรงใจคนนอกพรรคอยู่บ้าง อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าเพราะ 4 ปีที่ผ่านมา พี่น้องประชาชนในชัยนาทต้องทนเห็นความไม่เป็นธรรมในปัญหานี้อย่างหนัก จึงได้เลือกตนเองเข้ามาเป็นส.ส.ในการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างที่นายชัยวัฒน์แถลงข่าวนั้น นายพายัพ ปั้นเกตุ ส.ส.สิงห์บุรี และนายประแสง มงคลศิริ ส.ส.อุทัยธานี พรรคไทยรักไทย ได้มานั่งฟังการแถลงข่าวด้วย
คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ รมว.เกษตร และสหกรณ์ ในฐานะรองหัวหน้าพรรค ไทยรักไทย กล่าวว่า ได้รับการติดต่อจาก นายประภัตร โพธสุธน เลขาธิการพรรคชาติไทย และส.ส.ภาคกลางของพรรคชาติไทยว่าจะขอเข้าพบตนที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ในเร็ว ๆ นี้ เพื่อมาแสดงความยินดีภายหลังจากตนได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ชั้น จตุตถจุลจอมเกล้า ให้เป็นคุณหญิง นอกจากนั้นจะมีการหารือในเรื่องของงานโดยเฉพาะปัญหาเรื่องการจัดสรรน้ำในเขื่อนเจ้าพระยา จ.ชัยนาท ซึ่งคงต้องหาเวลาว่างให้ตรงกันทั้ง 2 ฝ่าย
อย่างไรก็ตามตนเห็นว่าปัญหาความขัดแย้งกันของทั้งสองพรรคไม่น่าจะนำมา เป็นประเด็นทางการเมืองเหมือนอย่างที่ พ.ต.ท. ทักษิณ หัวหน้าพรรคไทยรักไทย ได้กล่าวไว้ โดยเฉพาะเรื่องความเดือดร้อนของประชาชนซึ่งตนได้สั่งการให้ อธิบดีกรมชลประทานไปดูแลให้มีการปล่อยน้ำให้ประชาชนไม่ให้มีความเดือดร้อนและให้เป็นไปอย่างทั่วถึง เนื่องจากการเฉลี่ยน้ำถึงแม้จะสามารถคลี่คลายปัญหาภัยแล้งได้ระดับหนึ่ง แต่ยังไม่สามารถช่วยได้ทั้งหมด ดังนั้นจึงต้องเฉลี่ยให้แต่ละพื้นที่มีความทัดเทียมกัน
“ตอนนี้ยังไม่ทราบว่าท่านจะคุยปัญหาเรื่องความขัดแย้งไหมแต่ถ้าคุยก็ไม่มีปัญหา เพราะเราไม่อยากให้เป็นประเด็นการเมือง”
น.ต.ศิธา ทิวารี โฆษกพรรคไทยรักไทย กล่าวถึงกรณีพรรคชาติไทยประกาศ ไม่ร่วมกิจกรรมกับทีมโฆษกพรรคไทยรักไทย เนื่องจากไม่พอใจคำพูดของ ส.ส.พรรคไทยรักไทย ที่ไม่ให้เกียรติ นายบรรหาร ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทย ว่า ก่อนหน้านี้เคยคุยกับ น.ส.จณิสตา ลิ่วเฉลิมวงศ์ โฆษกพรรคชาติไทยว่า จะร่วมทำงาน การเมืองอย่างสร้างสรรค์ด้วยกัน ความสัมพันธ์ก็ดีมาตลอด กระทั่งนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ รองหัวหน้าพรรคชาติไทย ออกมาให้ข่าวรายวันอ้างว่า นายบรรหาร ยุให้พูด ขณะเดียวกันก็ยั่วยุให้ตนออกมาตอบโต้ ตนจึงบอกว่าไม่อยากต่อล้อต่อเถียงกับคนที่ไม่มีเครดิต และเรื่องก็ไม่เกิดประโยชน์ต่อพรรคด้วย ตนจะตอบโต้ก็ต่อเมื่อ นายชูวิทย์ได้รับการแต่งตั้งจากนายบรรหารอย่างเป็นทางการว่าเป็นการให้สัมภาษณ์ ในนามพรรคชาติไทยแล้วเท่านั้น หรือให้นายบรรหารออกมาพูดด้วยตัวเอง ซึ่งตอนนี้ นายบรรหารก็ยังไม่ออกมาพูดอะไร และส่วนตัวเชื่อว่านายบรรหารคงไม่สิ้นคิด ถึงขนาดตั้ง นายชูวิทย์ออกมาพูดในนามพรรคชาติไทยด้วย
“ตอนแรกคุณจณิสตาก็คิดว่าผมจงใจจะไปตอบโต้กับคุณบรรหาร แต่ล่าสุด ผมโทรศัพท์ไปทำความเข้าใจกับคุณจณิสตาแล้วว่าผมไม่เคยก้าวล่วงกับ คุณบรรหารเลย คิดว่าคุณจณิตาน่าจะเข้าใจแล้ว ส่วนจะทำกิจกรรมร่วมกับพรรคไทยรักไทยเหมือนเดิมอีกต่อไปหรือไม่ ขึ้นอยู่ที่คุณจณิสตาจะพิจารณา”
นายชัยวัฒน์ ทรัพย์รวงทอง ส.ส.ชัยนาท พรรคไทยรักไทย แถลงถึงกรณีนางนันทนา สงฆ์ประชา ส.ว.ชัยนาท ระบุว่าเป็นส.ส.ปากยังไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมว่า ความจริง ตนเป็นส.ส.มาตั้งแต่ปี 2529 ขณะนี้เป็นส.ส.ได้ 4 สมัย และเมื่อปี 2538 ตนก็เคยเป็นส.ส.พร้อมกันกับนายมณฑล สงฆ์ประชา บิดาของนางนันทนา ที่นางนันทนากล่าวว่าตนไม่มีความรู้ความเข้าใจในการทำงานนั้น ความจริงตนเคย ดำรงตำแหน่งประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญแก้ไขปัญหาภัยแล้ง สภาผู้แทนราษฎร เมื่อปี พ.ศ. 2535
นอกจากนี้ ตนไม่เคยใส่ร้ายนายบรรหาร ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทย แต่อย่างใด ดังนั้นในวันนี้ จึงได้นำรูปถ่ายของเขื่อนในจังหวัดชัยนาทที่ถ่ายเมื่อวันที่ 9 มาให้สื่อมวลชนดู ซึ่งจะเห็นได้ว่าแกนประตูบานเขื่อนไม่เลื่อนขึ้น จนไม่มีน้ำไป ช่วยเหลือเกษตรกร แต่สำหรับเขื่อนในจังหวัดสุพรรณบุรีนั้น แกนประตูบานเขื่อนกลับเลื่อนขึ้น ส่งผลให้มีน้ำเต็มในจังหวัดดังกล่าว ตนจึงขอร้องให้ฝ่ายตรงข้าม อย่าเบี่ยงเบนประเด็น แต่ต้องแก้ข้อกล่าวหาให้ได้ว่านายบรรหาร ไม่ได้ทำในสิ่งที่ไม่ให้ความเป็นธรรมต่อคนไทยทั้งประเทศ
ผู้สื่อข่าวถามว่า 4 ปีที่ผ่านมา กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ก็ถูกควบคุมโดยคนของพรรคไทยรักไทย แสดงว่าพรรคไทยรักไทยไม่สามารถแก้ไขปัญหาภัยแล้งได้ นายชัยวัฒน์กล่าวว่า 4 ปีที่แล้ว ยังไม่มีวิกฤตภัยแล้งอย่างในปีนี้ ซึ่งในปีนี้ก็ควรให้คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ รมว.เกษตรฯ ทำงานโดยใช้ความรู้ความสามารถเต็มที่ นอกจากนี้ต้องให้พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี บริหารประเทศอย่างแท้จริง และไม่มีการล้วงลูกจากใคร
สำหรับกรณีที่คนนอกพรรคไทยรักไทยยังมีอิทธิพลต่อกรมชลประทาน ทั้งที่พรรคไทยรักไทยเป็นรัฐบาลพรรคเดียวอยู่ แสดงถึงอะไรหรือไม่ นายชัยวัฒน์กล่าวว่า กรมชลประทานคงเกรงใจคนนอกพรรคอยู่บ้าง อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าเพราะ 4 ปีที่ผ่านมา พี่น้องประชาชนในชัยนาทต้องทนเห็นความไม่เป็นธรรมในปัญหานี้อย่างหนัก จึงได้เลือกตนเองเข้ามาเป็นส.ส.ในการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างที่นายชัยวัฒน์แถลงข่าวนั้น นายพายัพ ปั้นเกตุ ส.ส.สิงห์บุรี และนายประแสง มงคลศิริ ส.ส.อุทัยธานี พรรคไทยรักไทย ได้มานั่งฟังการแถลงข่าวด้วย