“แก้เกี้ยว กินปูนร้อนท้อง ร้องแรกแหกกะเฌอ พูดเองเออเอง ไปไหนมา-สามวาสองศอก ฟังไม่ได้ศัพท์-จับเอามากระเดียด” เป็นคำที่ใช้กันเกร่ออยูในสังคมไทย คำทั้งหมดนี้มักมีคำตอบสำเร็จรูป แทนที่จะชวนกันตั้งคำถาม มักจะชวนให้เชื่อ และเกิดข้อสรุปโดยไม่ต้องอาศัยข้อเท็จจริง
ต่างกับคำว่า หิริโอตัปปะ และ สติสัมปชัญญะ ซึ่งเป็นภาษาแขก คนไทย
ไม่ค่อยจะซาบซึ้งกันนัก ทั้งหิริโอตัปปะ และ สติสัมปชัญญะนี้หาได้ยากจากคนมักได้และมักง่าย
ด้วยความเคารพ ผมขอยกเว้นให้ผู้ที่มีระดับการศึกษา วุฒิภาวะและฐานันดรสูง เช่น คณะรัฐมนตรี ผมหวังและเชื่อว่า นายกฯ และ ครม.จะมีวิจารณญาณ ความรู้ ข้อมูล และความรับผิดชอบสูง ไม่ตกอยู่ในวังวนของคำพูดดังกล่าวเหมือนคนเดินถนนทั่วไป
เช่นเดียวกัน คำว่า “ตัดตอน” ก็ไม่น่าจะมีอยู่ในปทานุกรมการบริหารราชการแผ่นดินไทย
บังเอิญเช้านี้ (4 พ.ค) ผมเหลือบเห็นรายการของสรยุทธ พิธีกรกำลังพูดเรื่องอื่นอยู่ แต่มีเทปวิ่งบนจอทีวี ถามผู้ฟังหรือผู้ดูว่า “รัฐบาลสั่งเลิกซื้อซีทีเอกซ์ของ จีอีอินวีชั่น สนามบินสุวรรณภูมิ เชื่อว่าเป็นการตัดตอนหรือไม่”
มีผู้ชมกดมาว่าเชื่อว่าตัดตอนประมาณ 81% ไม่เชื่อ 19 % ขึ้นๆลงๆอยู่แถวนั้น ผมว่า น่าจะบอก ตัวเลขจำนวนผู้กดทั้งหมดมีเท่าไรด้วย แค่เปอร์เซ็นต์เท่านั้นยังไม่พอ นอกจากนั้นก็ยังไม่ทราบว่าผู้กดได้รับคำบอกเล่าหรือมีข้อมูลแจ่มแจ้งแค่ไหน หรือว่าสามารถกดแทนกันได้เหมือนในสภาหรือไม่ ฯลฯ
เราเคยพูดกันไปหยกๆว่า ในการเมืองนั้น ความเชื่อมีพลังมากกว่าความจริง หาก ประชาชนเกิดเชื่อว่ามีการตัดตอนถึง 81% จริงๆ จะต้องรีบแก้ไข หรือกลับลำให้ทัน
นิสัยเสียบางอย่างของคนไทย ก็คือ เมื่อถูกตำหนิ ก็อ้างว่าคนอื่นก็ชั่วเหมือนกัน เช่นบอกว่า ที่ไหนในโลก ไม่มีคอร์รัปชั่น ที่อเมริกาไม่มีคอร์รัปชั่นหรือ
อีกอย่างก็คือ ปฏิกิริยาหรือการปลุกระดมชาตินิยมที่ไม่ถูกทาง เรื่องที่ควรแสดงกลับเฉยเสีย ซ้ำหาทางปกปิดกลบเกลื่อน เช่น เรื่องที่ปล่อยให้สิงคโปร์หรืออเมริกันมาใช้ฐานทัพ โดยไม่คำนึงถึงอธิปไตยของชาติหรือหลักรัฐธรรมนูญเป็นต้น ผมไม่สบายใจที่นายกฯของไทยประกาศว่า ยูเอ็นไม่ใช่พ่อ และคราวนี้ผมก็เป็นห่วงที่มีหางเสียงปลุกระดมให้ประท้วงอเมริกากรณีอินวิชั่น ผมจะปลื้มมาก หากนายกฯของเราคิดได้แต่ไม่ต้องพูดว่าอเมริกันไม่ใช่พ่อ แต่เรื่องการซื้อขายไม่โปร่งใสนี้มันเป็นคนละเรื่อง
ครับ ถ้าไม่มีเรื่องอย่างนี้ ผมก็คงไม่จำเป็นจะต้องเขียนอย่างข้างบนนี้ ไม่สนุกหรอก เปลืองกระดาษ และแม้แต่ผู้เขียนเองก็เสียความรู้สึกด้วย
ทีนี้เรามาติดตามเรื่องระเบิดอินวิชั่นต่อ ขอท่านผู้อ่านทำจิตให้ว่างไว้ก่อน และโปรดจำว่าบริษัทอินวิชั่นเทคโนโลยีบัดนี้ไม่มีแล้ว บริษัทอินวิชั่นเทคโนโลยีเป็นผู้ผลิตและผู้จะขายเครื่องตรวจระเบิดให้บริษัทแพทริออตคอนซัลแต๊น(นายหน้า)เพื่อเอาไปขายต่อให้อีตัลไทย ซึ่งเป็นคู่สัญญากับการท่า บริษัทอินวิชั่นเทคโนโลยีได้ขายบริษัทให้กับกลุ่มอภิมหาบริษัทคือจีอี และได้เปลี่ยนชื่อเป็น จีอีอินวิชั่น เรียบร้อยไปตั้งแต่เดือนธันวาคม 2547
ผมเล่าไปแล้วว่าไม่รู้หรือสนใจเรื่องนี้เลย จนกระทั่งมีข่าวคึกโครม จึงได้เปิด google ดู ครั้งแรกก็กดถามเฉพาะ foreign corruption practices Thailandซึ่งก็ได้คำตอบว่ามีเว็บไซต์พาดพิงถึงเรื่องนี้อยู่ 265,000 ชิ้น ให้ไปหาอ่านเอาเอง เขาเรียงไว้เป็นหน้าๆหรือแผ่นๆละ 10 ชิ้น เพียงอ่านแค่หน้าแรกก็ได้ข้อมูลพื้นฐานเพียงพอ เปิดต่อไปหน้าที่ 2 ก็ได้ข้อมูลแถมจาก www.thaistudents.com/thebeach/release7.html - 19k (Request for a Statement from the United States Justice Department ...... according to the Foreign Corrupt Practices Act Opinion Procedure ... citizens of Thailand, we would like to bring to your attention a case of corruption ) ซึ่งบรรดาคนไทยประกอบด้วย Ms Sirinee Yomana ,Phuket Environmental Protection Association,PEP Bangkok Office, 70 Onnouch 52, Suanluang, Bangkok 10250, Thailand phone: (66-1) 499-0729; fax: (66 2) 721-4965 ในนามขององค์กรต่างๆคือ อบต.อ่าวนาง อบจ.กระบี่ กรรมการรณรงค์ประชาธิปไตย คณะกรรมการประสานงานพัฒนาเอ็นจีโอ สมาคมรักษาสิ่งแวดล้อมภูเก็ต สมัชชานักศึกษาภาคใต้ โครงการรื้อฟื้นนิเวศน์ อาสาสมัครไทย เครือข่ายตุลาคม ภาคใต้ สมาพันธ์ครูแห่งประเทศไทย ชมรมรักสุราษฏร์ ศิลปินเพื่อประชาธิปไตยและสิ่งแวดล้อม อบจ.ตรัง สมัชชาคนจนฯลฯ ได้เขียนไปถึง Peter B. Clark,Deputy Chief,Fraud Section,Criminal Division,US Department of Justice, Room 2424, Bond Building,1400 New York Avenue, NW, Washington, DC 20530 USA เมื่อ 29 มกราคม 1999 ขอข้อมูลเรื่องคอร์รัปชั่นในการจัดชายหาดให้บริษัทฟ่อกซ์มาถ่ายทำหนังเรื่อง The Beach ผมลงชื่อไม่หมด แต่ลงส่วนมากเพื่อแสดงให้เห็นว่าคนไทยและองค์กรที่ไม่นิ่งดูดายเครื่องคอร์รัปชั่นมีไม่น้อย เรื่องใหญ่ๆอย่างอินวิชั่นไม่น่าจะเงียบเฉย อย่างน้อยปปช. กรรมาธิการของสภาทั้งสองที่มีหน้าที่โดยตรงที่จะสืบหาความจริง
ถ้าอยากได้รายละเอียดมากกว่านี้ ขอให้กดถาม googleให้เฉพาะเจาะจงลงไป เช่น กด InVision Technologies Inc, GE Invision, InVision Bribery Case Thailand , DOJ FCPA Thailand, SEC Invision Thailand ก็จะได้ข้อมูลที่ชัดแจ้งปราศจากกังขาว่าอะไรเกิดขึ้น สามารถนำไปให้ผู้แทนหรือรัฐบาลของท่านประกอบการตัดสินใจต่อไป
ผมอยากจะเรียนคนไทยที่รักชาติทั้งหลายว่าอย่าเพิ่งผลีผลามแสดงความเกรี้ยวกราดแอนตี้อเมริกันในเรื่องนี้เลย นอกจากจะเหนื่อยเปล่าแล้วบ้านเมืองจะเสียหายหนักกว่าเดิม แล้วเราจะพากันติดนิสัยชาตินิยมไม่ถูกทาง เรามีเรื่องที่จะแอนตี้อเมริกันได้ แต่ไม่ใช่เรื่องนี้
เรื่องนี้เกิดขึ้นและบานปลายใหญ่โตในเมืองไทย มิใช่เพราะอินวิชั่น หรือ จีอีอินวิชั่นจงใจหมายหัวประเทศไทยแต่อย่างใดไม่ใช่เรื่องที่เขาต้องการใส่ร้ายหรือสร้างความเสื่อมเสียให้แก่ประเทศไทย มีหรือที่เขาจะไม่อยากขายของ แต่บังเอิญมีเรื่องที่บริษัทต้องบรรเทาความเสียหายให้ตนเองและ ผู้ถือหุ้น เมื่อจะมีการซื้อขายบริษัท จำต้องมีรายงานและการสอบสวนอันเป็นปกติธุระตามกระบวนการกฎหมาย รายงานและประกาศแบบนี้มีออกมาเป็นประจำวันแล้วแต่จะถึงเวรใครครั้งละหลายๆบริษัท ครอบคลุมหลายๆประเทศแม้แต่ญี่ปุ่นก็ไม่เว้น ไม่มีการลงข่าวพาดหัวในสื่อท้องถิ่นหรือแม้แต่ระดับชาติจนผิดสังเกตเลย ในวิทยุหรือทีวีรับรองได้ว่าแทบจะไม่มี
จะมีมากมายก็อยู่ในเว็บเท่านั้น ที่มีข้อมูลที่เป็นเอกสารมหาชน คือคำให้การ คำสั่งศาลข้อตกลงกับSECหรือกลต. เกือบทั้งหมดนี้ เซี่ยง เส้า หลง ก็ได้นำมาลง และวิเคราะห์ให้ฟังอย่างชัดเจนแล้ว ผมไม่จำเป็นจะต้องขยายต่อ นอกจากจะบอกว่าแหล่งเผยแพร่ข่าวดังกล่าวได้แก่สถาบันใหญ่ 4 ประเภทซึ่งเขามีหน้าที่ต้องศึกษาเรื่องอย่างนี้โดยเฉพาะ เพราะเป็นอาชีพของเขาที่จะต้องแข่งขันกับคนอื่นด้วย นั่นก็คือ สำนักงานกฎหมายระหว่างประเทศ โรงเรียนกฎหมาย สมาคมหรือมูลนิธิต่างๆที่ส่งเสริมธรรมาภิบาลในวงธุรกิจ และวารสารที่เกี่ยวกับการค้าระหว่างประเทศ ทั้งนี้มิได้มีผู้ใดเจาะจงหมายหัว หรือใส่ร้ายประเทศไทยโดยเฉพาะ แต่เขาแข่งขันกันวิเคราะห์เพื่อแย่งลูกค้ากันเท่านั้นเอง
ผมเองรังเกียจนโยบายต่างประเทศอเมริกัน ขยะแขยงลัทธิทุนนิยมครอบโลกของสหรัฐฯ แต่ผมต้องเปิดหมวกให้สังคมอเมริกันที่พยายามรักษามาตรฐานและจริยธรรมป้องกันการคดโกงคอร์รัปชั่นทางการค้าทั้งในและนอกประเทศ ผลงานองค์กรทั้ง 3 คือ ศาล เรื่องควบคุมมิให้บริษัทกระทำผิด PCPA และSEC หรือ กลต. ดาบสองเรื่องความโปร่งใสในการซื้อขายหุ้น กับ Federal Trade Commission (FTC) ดาบสามที่ป้องกันไม่ให้บริษัทที่ควบกิจการกระทำการผูกขาดหรือขึ้นราคาสินค้าจนผู้บริโภคเสียเปรียบ บริษัทจีอีอินวิชั่นถึงจะใหญ่โตมาจากไหนก็สยบให้สำนักดาบทั้งสามนี้ ผมจึงมีความสงสาร “หมูเห็นสีหราชท้า ชวนรบ” ถ้าไทยส่งเอาบริษัทแพทริออตกับอิตัลไทยไปขึ้นเขียง เพียงเพื่อจะประกาศว่า อินวิชั่นก็เลวเหมือนกัน
ผมเห็นใจและเข้าใจว่าวัฒนธรรมการเมืองไทย วิถีของสื่อไทย ปฏิกิริยาของสังคมมักจะโวยวายจนเกินเหตุ จริงอยู่เรื่องคอร์รัปชั่นเครื่องตรวจระเบิดนี้ไม่ใช่เรื่องเล็กๆ แต่ก็หาใช่เรื่องที่ใหญ่จนกระทั่งนายกฯและคณะรัฐมนตรีจะต้องออกมาเต้นแร้งเต้นกา รำท่ามวยใส่บริษัทจีอีกับสหรัฐฯไม่ เพียงแต่พ.ต.ท.ดร.ทักษิณปฏิบัติหน้าที่ในฐานะประธานโครงการสนามบินสุวรรณภูมิ เรียกบริษัทแพทริออทกับอิตัลไทยมาเจรจา เรื่องทั้งหมดก็จะเรียบร้อยลงตัว
เราไม่จำเป็นต้อง เสียเวลา เสียเงิน เสียของดี และเสียชื่อเสียงของประเทศไปเปล่าๆปลี้ๆ
ฉบับหน้าเป็นบทสรุป ผมจะเขียนเรื่อง What is good for GE is good for America จะเสนอวิธีที่เอาชนะ GE และทางออกที่รัฐบาลจะได้ทั้งขึ้นทั้งล่อง (win-win ) ผมเชื่อว่าป่านนี้ นายกฯอาจจะมองทะลุแล้ว ท่านที่สนใจทุกฝ่ายกรุณาอ่านข้อตกลงยอมความระหว่าง InVision และGE InViSion กับศาล และกลต.ให้ดี เพลงดาบต่อไปของรัฐบาลอาจจะชื่อว่า Force Majeure หาให้เจอนะครับ
ต่างกับคำว่า หิริโอตัปปะ และ สติสัมปชัญญะ ซึ่งเป็นภาษาแขก คนไทย
ไม่ค่อยจะซาบซึ้งกันนัก ทั้งหิริโอตัปปะ และ สติสัมปชัญญะนี้หาได้ยากจากคนมักได้และมักง่าย
ด้วยความเคารพ ผมขอยกเว้นให้ผู้ที่มีระดับการศึกษา วุฒิภาวะและฐานันดรสูง เช่น คณะรัฐมนตรี ผมหวังและเชื่อว่า นายกฯ และ ครม.จะมีวิจารณญาณ ความรู้ ข้อมูล และความรับผิดชอบสูง ไม่ตกอยู่ในวังวนของคำพูดดังกล่าวเหมือนคนเดินถนนทั่วไป
เช่นเดียวกัน คำว่า “ตัดตอน” ก็ไม่น่าจะมีอยู่ในปทานุกรมการบริหารราชการแผ่นดินไทย
บังเอิญเช้านี้ (4 พ.ค) ผมเหลือบเห็นรายการของสรยุทธ พิธีกรกำลังพูดเรื่องอื่นอยู่ แต่มีเทปวิ่งบนจอทีวี ถามผู้ฟังหรือผู้ดูว่า “รัฐบาลสั่งเลิกซื้อซีทีเอกซ์ของ จีอีอินวีชั่น สนามบินสุวรรณภูมิ เชื่อว่าเป็นการตัดตอนหรือไม่”
มีผู้ชมกดมาว่าเชื่อว่าตัดตอนประมาณ 81% ไม่เชื่อ 19 % ขึ้นๆลงๆอยู่แถวนั้น ผมว่า น่าจะบอก ตัวเลขจำนวนผู้กดทั้งหมดมีเท่าไรด้วย แค่เปอร์เซ็นต์เท่านั้นยังไม่พอ นอกจากนั้นก็ยังไม่ทราบว่าผู้กดได้รับคำบอกเล่าหรือมีข้อมูลแจ่มแจ้งแค่ไหน หรือว่าสามารถกดแทนกันได้เหมือนในสภาหรือไม่ ฯลฯ
เราเคยพูดกันไปหยกๆว่า ในการเมืองนั้น ความเชื่อมีพลังมากกว่าความจริง หาก ประชาชนเกิดเชื่อว่ามีการตัดตอนถึง 81% จริงๆ จะต้องรีบแก้ไข หรือกลับลำให้ทัน
นิสัยเสียบางอย่างของคนไทย ก็คือ เมื่อถูกตำหนิ ก็อ้างว่าคนอื่นก็ชั่วเหมือนกัน เช่นบอกว่า ที่ไหนในโลก ไม่มีคอร์รัปชั่น ที่อเมริกาไม่มีคอร์รัปชั่นหรือ
อีกอย่างก็คือ ปฏิกิริยาหรือการปลุกระดมชาตินิยมที่ไม่ถูกทาง เรื่องที่ควรแสดงกลับเฉยเสีย ซ้ำหาทางปกปิดกลบเกลื่อน เช่น เรื่องที่ปล่อยให้สิงคโปร์หรืออเมริกันมาใช้ฐานทัพ โดยไม่คำนึงถึงอธิปไตยของชาติหรือหลักรัฐธรรมนูญเป็นต้น ผมไม่สบายใจที่นายกฯของไทยประกาศว่า ยูเอ็นไม่ใช่พ่อ และคราวนี้ผมก็เป็นห่วงที่มีหางเสียงปลุกระดมให้ประท้วงอเมริกากรณีอินวิชั่น ผมจะปลื้มมาก หากนายกฯของเราคิดได้แต่ไม่ต้องพูดว่าอเมริกันไม่ใช่พ่อ แต่เรื่องการซื้อขายไม่โปร่งใสนี้มันเป็นคนละเรื่อง
ครับ ถ้าไม่มีเรื่องอย่างนี้ ผมก็คงไม่จำเป็นจะต้องเขียนอย่างข้างบนนี้ ไม่สนุกหรอก เปลืองกระดาษ และแม้แต่ผู้เขียนเองก็เสียความรู้สึกด้วย
ทีนี้เรามาติดตามเรื่องระเบิดอินวิชั่นต่อ ขอท่านผู้อ่านทำจิตให้ว่างไว้ก่อน และโปรดจำว่าบริษัทอินวิชั่นเทคโนโลยีบัดนี้ไม่มีแล้ว บริษัทอินวิชั่นเทคโนโลยีเป็นผู้ผลิตและผู้จะขายเครื่องตรวจระเบิดให้บริษัทแพทริออตคอนซัลแต๊น(นายหน้า)เพื่อเอาไปขายต่อให้อีตัลไทย ซึ่งเป็นคู่สัญญากับการท่า บริษัทอินวิชั่นเทคโนโลยีได้ขายบริษัทให้กับกลุ่มอภิมหาบริษัทคือจีอี และได้เปลี่ยนชื่อเป็น จีอีอินวิชั่น เรียบร้อยไปตั้งแต่เดือนธันวาคม 2547
ผมเล่าไปแล้วว่าไม่รู้หรือสนใจเรื่องนี้เลย จนกระทั่งมีข่าวคึกโครม จึงได้เปิด google ดู ครั้งแรกก็กดถามเฉพาะ foreign corruption practices Thailandซึ่งก็ได้คำตอบว่ามีเว็บไซต์พาดพิงถึงเรื่องนี้อยู่ 265,000 ชิ้น ให้ไปหาอ่านเอาเอง เขาเรียงไว้เป็นหน้าๆหรือแผ่นๆละ 10 ชิ้น เพียงอ่านแค่หน้าแรกก็ได้ข้อมูลพื้นฐานเพียงพอ เปิดต่อไปหน้าที่ 2 ก็ได้ข้อมูลแถมจาก www.thaistudents.com/thebeach/release7.html - 19k (Request for a Statement from the United States Justice Department ...... according to the Foreign Corrupt Practices Act Opinion Procedure ... citizens of Thailand, we would like to bring to your attention a case of corruption ) ซึ่งบรรดาคนไทยประกอบด้วย Ms Sirinee Yomana ,Phuket Environmental Protection Association,PEP Bangkok Office, 70 Onnouch 52, Suanluang, Bangkok 10250, Thailand phone: (66-1) 499-0729; fax: (66 2) 721-4965 ในนามขององค์กรต่างๆคือ อบต.อ่าวนาง อบจ.กระบี่ กรรมการรณรงค์ประชาธิปไตย คณะกรรมการประสานงานพัฒนาเอ็นจีโอ สมาคมรักษาสิ่งแวดล้อมภูเก็ต สมัชชานักศึกษาภาคใต้ โครงการรื้อฟื้นนิเวศน์ อาสาสมัครไทย เครือข่ายตุลาคม ภาคใต้ สมาพันธ์ครูแห่งประเทศไทย ชมรมรักสุราษฏร์ ศิลปินเพื่อประชาธิปไตยและสิ่งแวดล้อม อบจ.ตรัง สมัชชาคนจนฯลฯ ได้เขียนไปถึง Peter B. Clark,Deputy Chief,Fraud Section,Criminal Division,US Department of Justice, Room 2424, Bond Building,1400 New York Avenue, NW, Washington, DC 20530 USA เมื่อ 29 มกราคม 1999 ขอข้อมูลเรื่องคอร์รัปชั่นในการจัดชายหาดให้บริษัทฟ่อกซ์มาถ่ายทำหนังเรื่อง The Beach ผมลงชื่อไม่หมด แต่ลงส่วนมากเพื่อแสดงให้เห็นว่าคนไทยและองค์กรที่ไม่นิ่งดูดายเครื่องคอร์รัปชั่นมีไม่น้อย เรื่องใหญ่ๆอย่างอินวิชั่นไม่น่าจะเงียบเฉย อย่างน้อยปปช. กรรมาธิการของสภาทั้งสองที่มีหน้าที่โดยตรงที่จะสืบหาความจริง
ถ้าอยากได้รายละเอียดมากกว่านี้ ขอให้กดถาม googleให้เฉพาะเจาะจงลงไป เช่น กด InVision Technologies Inc, GE Invision, InVision Bribery Case Thailand , DOJ FCPA Thailand, SEC Invision Thailand ก็จะได้ข้อมูลที่ชัดแจ้งปราศจากกังขาว่าอะไรเกิดขึ้น สามารถนำไปให้ผู้แทนหรือรัฐบาลของท่านประกอบการตัดสินใจต่อไป
ผมอยากจะเรียนคนไทยที่รักชาติทั้งหลายว่าอย่าเพิ่งผลีผลามแสดงความเกรี้ยวกราดแอนตี้อเมริกันในเรื่องนี้เลย นอกจากจะเหนื่อยเปล่าแล้วบ้านเมืองจะเสียหายหนักกว่าเดิม แล้วเราจะพากันติดนิสัยชาตินิยมไม่ถูกทาง เรามีเรื่องที่จะแอนตี้อเมริกันได้ แต่ไม่ใช่เรื่องนี้
เรื่องนี้เกิดขึ้นและบานปลายใหญ่โตในเมืองไทย มิใช่เพราะอินวิชั่น หรือ จีอีอินวิชั่นจงใจหมายหัวประเทศไทยแต่อย่างใดไม่ใช่เรื่องที่เขาต้องการใส่ร้ายหรือสร้างความเสื่อมเสียให้แก่ประเทศไทย มีหรือที่เขาจะไม่อยากขายของ แต่บังเอิญมีเรื่องที่บริษัทต้องบรรเทาความเสียหายให้ตนเองและ ผู้ถือหุ้น เมื่อจะมีการซื้อขายบริษัท จำต้องมีรายงานและการสอบสวนอันเป็นปกติธุระตามกระบวนการกฎหมาย รายงานและประกาศแบบนี้มีออกมาเป็นประจำวันแล้วแต่จะถึงเวรใครครั้งละหลายๆบริษัท ครอบคลุมหลายๆประเทศแม้แต่ญี่ปุ่นก็ไม่เว้น ไม่มีการลงข่าวพาดหัวในสื่อท้องถิ่นหรือแม้แต่ระดับชาติจนผิดสังเกตเลย ในวิทยุหรือทีวีรับรองได้ว่าแทบจะไม่มี
จะมีมากมายก็อยู่ในเว็บเท่านั้น ที่มีข้อมูลที่เป็นเอกสารมหาชน คือคำให้การ คำสั่งศาลข้อตกลงกับSECหรือกลต. เกือบทั้งหมดนี้ เซี่ยง เส้า หลง ก็ได้นำมาลง และวิเคราะห์ให้ฟังอย่างชัดเจนแล้ว ผมไม่จำเป็นจะต้องขยายต่อ นอกจากจะบอกว่าแหล่งเผยแพร่ข่าวดังกล่าวได้แก่สถาบันใหญ่ 4 ประเภทซึ่งเขามีหน้าที่ต้องศึกษาเรื่องอย่างนี้โดยเฉพาะ เพราะเป็นอาชีพของเขาที่จะต้องแข่งขันกับคนอื่นด้วย นั่นก็คือ สำนักงานกฎหมายระหว่างประเทศ โรงเรียนกฎหมาย สมาคมหรือมูลนิธิต่างๆที่ส่งเสริมธรรมาภิบาลในวงธุรกิจ และวารสารที่เกี่ยวกับการค้าระหว่างประเทศ ทั้งนี้มิได้มีผู้ใดเจาะจงหมายหัว หรือใส่ร้ายประเทศไทยโดยเฉพาะ แต่เขาแข่งขันกันวิเคราะห์เพื่อแย่งลูกค้ากันเท่านั้นเอง
ผมเองรังเกียจนโยบายต่างประเทศอเมริกัน ขยะแขยงลัทธิทุนนิยมครอบโลกของสหรัฐฯ แต่ผมต้องเปิดหมวกให้สังคมอเมริกันที่พยายามรักษามาตรฐานและจริยธรรมป้องกันการคดโกงคอร์รัปชั่นทางการค้าทั้งในและนอกประเทศ ผลงานองค์กรทั้ง 3 คือ ศาล เรื่องควบคุมมิให้บริษัทกระทำผิด PCPA และSEC หรือ กลต. ดาบสองเรื่องความโปร่งใสในการซื้อขายหุ้น กับ Federal Trade Commission (FTC) ดาบสามที่ป้องกันไม่ให้บริษัทที่ควบกิจการกระทำการผูกขาดหรือขึ้นราคาสินค้าจนผู้บริโภคเสียเปรียบ บริษัทจีอีอินวิชั่นถึงจะใหญ่โตมาจากไหนก็สยบให้สำนักดาบทั้งสามนี้ ผมจึงมีความสงสาร “หมูเห็นสีหราชท้า ชวนรบ” ถ้าไทยส่งเอาบริษัทแพทริออตกับอิตัลไทยไปขึ้นเขียง เพียงเพื่อจะประกาศว่า อินวิชั่นก็เลวเหมือนกัน
ผมเห็นใจและเข้าใจว่าวัฒนธรรมการเมืองไทย วิถีของสื่อไทย ปฏิกิริยาของสังคมมักจะโวยวายจนเกินเหตุ จริงอยู่เรื่องคอร์รัปชั่นเครื่องตรวจระเบิดนี้ไม่ใช่เรื่องเล็กๆ แต่ก็หาใช่เรื่องที่ใหญ่จนกระทั่งนายกฯและคณะรัฐมนตรีจะต้องออกมาเต้นแร้งเต้นกา รำท่ามวยใส่บริษัทจีอีกับสหรัฐฯไม่ เพียงแต่พ.ต.ท.ดร.ทักษิณปฏิบัติหน้าที่ในฐานะประธานโครงการสนามบินสุวรรณภูมิ เรียกบริษัทแพทริออทกับอิตัลไทยมาเจรจา เรื่องทั้งหมดก็จะเรียบร้อยลงตัว
เราไม่จำเป็นต้อง เสียเวลา เสียเงิน เสียของดี และเสียชื่อเสียงของประเทศไปเปล่าๆปลี้ๆ
ฉบับหน้าเป็นบทสรุป ผมจะเขียนเรื่อง What is good for GE is good for America จะเสนอวิธีที่เอาชนะ GE และทางออกที่รัฐบาลจะได้ทั้งขึ้นทั้งล่อง (win-win ) ผมเชื่อว่าป่านนี้ นายกฯอาจจะมองทะลุแล้ว ท่านที่สนใจทุกฝ่ายกรุณาอ่านข้อตกลงยอมความระหว่าง InVision และGE InViSion กับศาล และกลต.ให้ดี เพลงดาบต่อไปของรัฐบาลอาจจะชื่อว่า Force Majeure หาให้เจอนะครับ