xs
xsm
sm
md
lg

ผู้นำหน้าด้าน..ชาวบ้านควรทำอย่างไร

เผยแพร่:   โดย: ปราโมทย์ นาครทรรพ

หัวข้อที่สุภาพกว่านี้ คือ “ประชาชนกับมาตรฐานทางจริยธรรมของนักการเมือง” กระเดียดไปทางวิชาการฝรั่ง ผมกลับเลือกหัวข้อข้างบน ไมเห็นว่ามันหยาบตรงไหน ซ้ำ อ่านยอดธงบ่อยๆชักเคยตัว

พอดี 4 สตรีอาวุโสมาเยี่ยม เป็นบัณฑิตธรรมศาสตร์รุ่นนายกฯชวน ได้ปริญญาโท รับราชการได้ดิบได้ดี มีสามีใหญ่โตถ้วนหน้า ผมเลยถือโอกาสถาม

ถามก็เหมือนหัวข้อนั่นแหละ “ผู้นำหน้าด้าน.. ชาวบ้านควรทำอย่างไร” คำตอบที่มิได้อยู่ในคำถามที่ผม ได้รับก็คือ ทุกคนต่างก็ยอมรับสถานภาพว่าตนเป็นชาวบ้าน และทุกคนต่างก็นึกว่า ผมถามถึงกรณีหนองงูเห่าพ่นพิษ จนอเมริกาจับคนของตนไปปรับ 2 ครั้ง $800,000 กับ $ 11 ล้านเศษๆ โทษฐานติดสินบนบริษัทและรัฐบาลต่างประเทศ

คำตอบโดยตรง สองคนตอบว่าต้องทนเพราะไม่รู้จะทำอย่างไร คนที่ชิงตอบก่อนเพื่อนบอกว่า ก็ต้องทนจนกว่าจะถึงการเลือกตั้งคราวหน้าอย่าไปเลือกมัน คนสุดท้ายบอกว่า ไม่รู้จะทำยังไงดี เพราะที่เหลือ(ยังไม่มีเรื่อง)ยังมี่ที่ด้านยิ่งกว่านี้ แต่นั่นแหละ ก็ไม่แน่ว่าอีกฝ่ายจะไม่โกง ซ้ำไม่เอาไหนทำงานไม่เป็น

ผมต้องเขียนเรื่องนี้ เพราะนายกฯทักษิณ รมว.สุริยะ รองนายกฯวิษณุ ข่าวจากนสพ.เนชั่น และคอลัมน์ของเซี่ยง เส้า หลง ในเรื่องอื้อฉาวซื้อเครื่องตรวจระเบิดสนามบินสุวรรณภูมิ แต่หัวข้อบทความของผมไม่เกี่ยวกับท่านที่ออกนามมา หากเกี่ยวกับผู้นำหน้าด้านทั่วไป

ผมเคยเขียนเรื่องมาตรฐานทางจริยธรรมของผู้นำทางการเมืองไทย เปรียบเทียบกับต่างประเทศ กรณีของอดีตนายกรัฐมนตรีราบินของอิสราเอลที่ต้องลาออกจากตำแหน่ง เพราะเลินเล่อลืมปิดธนาคารบัญชีในต่างประเทศ ที่ตนมีสมัยเป็นทูตที่กรุงวอชิงตัน มีเงินเหลืออยู่ 27 หรือ 207 เหรียญ ผมจำไม่ได้ อีกคนหนึ่งเป็นสุภาพสตรีกำลังจะขึ้นแท่นเป็นนายกรัฐมนตรีสวีเดน ต้องล้างมือจากวงการเมืองไปเลย เพราะเผลอหยิบบัตรเครดิตผิด เอาของหลวงไป ซื้อนมจากซูเปอร์มาร์เกตให้ลูก จะถึงพันบาทหรือเปล่า ผมก็จำไม่ได้อีก ผมไม่แน่ใจว่าบรรดารัฐมนตรีไทยมีบัญชีธนาคารในต่างประเทศกี่คน ที่มีบ้านผมรู้ว่าเยอะ เพราะผมเคยอยู่ วอชิงตัน นิวยอร์ก และลอนดอน ผมคิดว่าเรื่องอย่างนี้เมืองไทยไม่ถือ มาตรฐานของเรา”หนา” ไม่”บาง” อย่างของเขา

เรื่องการลาออกจากตำแหน่งเพื่อแสดงความรับผิดชอบหรือสปิริตทางการเมือง ในกรณีที่เกิดความผิดพลาดหรือเสียหายหรือความเคลือบแคลงสงสัยในสายงานที่ตนดูแล ตัวอย่างมีมากมาย ทั้งเรื่องที่คณะกรรมการหรือศาลตัดสินว่ามีความผิด เพียงแต่ยกโทษจำไว้ก่อน ก็ทู่ซี้เกาะตำแหน่งหรือหลับตาแต่งตั้งกันต่อเพื่อผลประโยชน์ทางการเมือง อดีตรัฐมนตรีนายหนึ่งไม่ยอมลาออกเมื่อมีคนไปโยนระเบิดใกล้พลับพลาประทับพระเจ้าอยู่หัว โดยอ้างว่าในอนาคตถ้าใครอยากให้รัฐมนตรีมหาดไทยลาออกก็จะไปโยนระเบิดใกล้ที่ประทับอีก นี่เป็นมาตรฐานที่ทั้ง”หนา”และ”เหนียว”ที่ยังแข็งแกร่งอยู่เท่าทุกวัน

ผมเคยเปรียบเทียบความรับผิดชอบตามหลักกฎหมายและมาตรฐานทางจริยธรรมของบุคคล 3 ประเภทคือ บุคคลธรรมดา นักบุญ และนักการเมือง แต่ละ ประเภทจะใช้มาตรฐานเหมือนกันไม่ได้ เพราะขอบเขตหรือความเป็นไปได้ของความเสียหายที่บุคคลแต่ละประเภทจะก่อขึ้นนั้นต่างกันลิบลับ

สำหรับบุคคลธรรมดา หากถูกกล่าวหาว่ากระทำความผิด ให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าบริสุทธิ์ จนกว่าจะพิสูจน์ได้ว่ากระทำความผิดจริง

นักบุญหรือนักบวช ถูกกล่าวหาหรือสงสัยว่ากระทำความผิด ให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าผิด จนกว่าจะพิสูจน์ได้ว่าเป็นผู้บริสุทธิ์

สำหรับนักการเมือง ไม่ต้องคอยถูกกล่าวหา เพียงแต่ทำตนให้ต้องสงสัยได้เท่านั้น ให้ถือว่ากระทำความผิด สมควรได้รับโทษ (โดยการแสดงสปิริตของตนเองหรือพรรค เช่นลาออก หรือปรับออก)

ทั้งนี้เพราะการกระทำผิดของบุคคลธรรมดานั้น มีผลกระทบโดยตรงต่อผู้เสียหายในวงจำกัด นักบวชอสัชชีอย่างดีก็ทำให้นิกายมัวหมองและสาวกสาวิกาหม่นเศร้า แต่นักการเมืองคดโกงนั้นกระทบกระเทือนทั้งคนทั้งประเทศทั่วกันหมด

ภาษิตจีนจึงมีว่า รัฐบาลไม่ดี เหมือนห่าลงกิน!

ดังนั้น มาตรฐานนักการเมือง จึงมิใช่มาตรการทางกฎหมายหรือ”ใบเสร็จ”เท่านั้นแต่เป็นมาตรฐานทางจริยธรรม

ในบางกรณี ผู้นำที่ ซื่อสัตย์สุจริต ปฏิบัติหน้าที่ถูกต้อง เป็นประโยชน์ต่อส่วนรวม ก็ไม่ควร”หน้าบาง” เกินไป มิฉะนั้น กระบวนการกระสือจะมาเยาะเย้ยเสียดสีหาความ ให้ลาออกไป เปิดโอกาสให้ฝูงห่าเข้ามาหากิน

นั่นก็คือ ผู้นำหน้าด้านที่ขาดหิริโอตตัปปะ ติดยึดหวงเก้าอี้ เพราะผลประโยชน์ของตนเองและพรรคพวก ทำให้อยากเป็น อยากมี อยากอยู่ อยากได้ ไม่ละอายต่อบาป ผู้นำประเภทนี้ทำลายเวลา ทำลายทรัพย์สินและสาธารณประโยชน์ของบ้านเมือง ในโครงการใหญ่ๆจะแยกหรือแบ่งกันหากินเป็น”สายๆ” ใส่ถุงมือ ฉีดน้ำยากลบเสียงกันกลิ่น หากไม่ซวยจริงๆ ไม่มีวันที่กฎหมายจะจับได้ไล่ทันเพราะไม่มีใบเสร็จ

เขียนถึงตรงนี้ อ.ประหยัด หงษ์ทองคำ อาจารย์เกษียณคณะรัฐศาสตร์จุฬาฯ อดีตอาจารย์พิเศษร.ร.นายร้อยตำรวจของนายกฯทักษิณ เดี๋ยวนี้เป็นนักวิจารณ์การเมืองปากกล้าทางทีวีและวิทยุกระจายเสียง โทรมาหาพอดี ผมเลยถือโอกาสถามคำถามเดียวกันว่า “ผู้นำหน้าด้าน..ชาวบ้านควรทำอย่างไร”

อ.ประหยัดตอบโดยไม่พักต้องคิด “ก็ต้องหน้าด้านกว่าซิวะ” แล้วขยายความต่อว่า ชาวบ้านต้องกล้าด่า กล้าหาเรื่อง กล้าขุดคุ้ย กล้าวิเคราะห์ กล้าทะเลาะ กล้าฟ้อง กล้าฟัด กล้ากัดไม่รู้จักปล่อย ฯลฯ ผู้นำหน้าด้านจึงจะลดจำนวนลง หรือหน้าด้านน้อยลง
ผมเล่าทัศนะ 4 สตรีอาวุโสให้ฟัง อาจารย์บอกว่า อย่างนี้นี่เล่าบ้านเมืองจึงได้จมปลัก

นับว่าผมพอจะเป็นชาวบ้านของอ.ประหยัดได้ เพราะพอผมได้อ่านข่าวอื้อฉาว ผมเกิดความสนใจ ค้นคว้าหาข้อมูลและความรู้ต่อทันที ทั้งนี้ผมได้ตั้งใจให้เที่ยง มิได้ปักใจว่าผู้ใดกระทำผิด ถือว่าผู้ที่เกี่ยวข้องเสมือนเป็นบุคคลธรรมดาทุกคน ผมขอรายงานข้อมูลและความคิดเห็นเป็นข้อๆดังนี้

1.คำชี้แจงของนายกฯ รมว.คมนาคม กระทู้ของฝ่ายค้าน รายงานของสื่อ ยังมี
ช่องโหว่อย่างมาก ไม่ควรถือเป็นข้อยุติ เร็วเกินไป การตั้งกรรมการของรองนายกฯวิษณุเป็นวิธีโบราณประกอบด้วยคนโบราณ ไม่ทันยุคสมัย เวลาที่กำหนดไว้ 15 วันสั้นจุดจู๋ไม่พอสำหรับเรื่องข้ามรัฐข้ามประเทศ หลากหลายองค์กรและบุคคล มีความซับซ้อนซ่อนเงื่อนต่อเนื่องมาหลายปี

2.นอกจากผู้ตรวจราชการแผ่นดินของรัฐสภา ปปช. ตรวจเงินแผ่นดิน และ
กรรมาธิการที่เกี่ยวข้องของทั้ง 2 สภาจะต้องเข้าไปสอดส่องสืบสวนตามหน้าที่แล้ว ควรมีการตั้งคณะกรรมาธิการอิสระโดยรัฐสภา และอำนวยความสะดวกให้ เอ็นจีโอ องค์กรประชาชน สถาบันและนักวิชาการ นักศึกษาตลอดจนชาวบ้านทั่วไปที่สนใจสามารถสอบถามสืบสวนและเข้าถึงข้อเท็จจริงได้

3.ทุกวันนี้เราอยู่ในยุคข่าวสาร รัฐบาลสนับสนุนให้ข่าวสารและตอบชาวบ้านอยู่แล้ว ไม่เชื่อลองโทร.ไป 1111 ดู ถามหารายชื่อผู้ถือหุ้น รายรับรายจ่าย งบดุล และข้อมูลอื่นๆของบริษัททั้งหลายที่รับเหมาและขายของให้สนามบินสุวรรณภูมิ ก็น่าจะได้ หากไม่พอ ยังมี กขร. และกวฉ.อยู่ในทำเนียบฯคือคณะกรรมการข่าวสารราชการ และคณะกรรมการวินิจฉัยคำร้องให้เปิดเผยข่าวสาร ชาวบ้านมีสิทธิถาม และรัฐบาลมีหน้าที่ตอบ หากองค์กรไทยเชื่องช้า เรื่องนี้ ชาวบ้านไทยก็อาจถามโดยตรงไปที่อเมริกาได้ ไม่ว่าจะเป็นสถานทูต กระทรวงต่างประเทศ กระทรวงยุติธรรม หรือ The U.S. Securities and Exchange Commission ก็ได้ทั้งนั้น ผมรับรองว่าจะต้องได้คำตอบ ตัวอย่างมีอยู่แล้ว เมื่อชาวบ้านไทยกลุ่มหนึ่ง ยื่นหนังสือถึงกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯเรื่องบริษัทหนังติดสินบนรัฐบาลไทยเกี่ยวกับสถานที่ถ่ายทำหนังเรื่อง The Beach

4. ผมเองใช่ว่าจะรู้ทุกเรื่อง อาศัยเครื่องมือค้น คือ www.google.com พอเคาะ
ถามว่า Foreign Corruption Practices Thailand ก็ได้เค้ามากว่า 2 แสนหัวข้อ ( Results 1 - 10 of about 265,000 for Foreign Corruption Practices Thailand. (0.27 seconds)) มีข้อมูลเพียบทั้งคำให้การบริษัท คำสั่งกระทรวงยุติธรรม กรณีปรับบริษัทเดิมคือ InVision Technologies, Inc. เมื่อวันที่6 ธันวาคม 2547 เป็นเงิน 8 แสนเหรียญ และต่อมา The U.S. Securities and Exchange Commission ได้ยื่นฟ้องบริษัทใหม่คือ GE InVision Inc ที่กลุ่ม GE ได้ซื้อบริษัทเดิมมา ศาล UNITED STATES DISTRICT COURT ,NORTHERN DISTRICT OF CALIFORNIA, SAN FRANCISCO DIVISION ได้สั่งเมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2548 ให้จำเลยจ่ายค่าปรับเป็นเงินอีก 1.1 ล้านเหรียญ ทนายของโจทก์มีชื่อและที่อยู่ดังต่อไปนี้

HELANE L. MORRISON (Cal. Bar No. 127752) ,ROBERT L. MITCHELL (Cal. Bar No. 161 354), TRACY L. DAVIS (cal. BX NO. 184129) ,ROBERT L. TASHJIAN (Cal. Bar No. 191007)

The US SECURITIES AND EXCHANGE COMMISSION ,44 Monteomerv Street. Suite 2600 San Francisco, California 941 04, Telephone: (41 5) 705-2500 ,Fax (41 5) 705-2501 คำฟ้องของโจทก์เฉพาะที่เกี่ยวกับไทยมี 22 วรรค 41 บรรทัด รวมทั้งสิ้น 1,983 ตัวอักษร สรุปว่าต่างกรรมต่างวาระตั้งแต่ปี 2545 จากมกราคม 2546 ถึง เมษายน 2547 พนักงานของบริษัทได้ติดสินบนหรือให้สัญญากับผู้มีอิทธิพลในการตัดสินใจ เพื่อให้ซื้อเครื่องมือตรวจระเบิดสนามบินสุวรรณภูมิต่อจากบริษัทลูกช่วงในราคาที่แพงกว่ารัฐบาลซื้อตรง เนื่องจากจำเลยไม่ต่อสู้ จึงไม่มีรายละเอียดในการสืบสวน แต่รายละเอียดทั้งหมดมีอยู่ และสาวต่อไปได้

เรื่องนี้ถึงกระทรวงยุติธรรมและขึ้นสู่ศาล ตามกระบวนการปกติของกฎหมาย Foreign Corruption Practices Act หาใช่เพราะการต่อสู้ภายในเรื่องการซื้อขายบริษัทตามที่พันศักดิ์ วิญญรัตน์ ประธานที่ปรึกษานายกฯชี้แจงไม่

ผมสัญญาจะส่งบทความนี้ให้อ.ประหยัดไปหน้าด้านต่อในวิทยุจุฬาฯ เรา 2 คนยังไม่พอ ชาวบ้าน ส่วนบุคคล องค์กรและสถาบัน รวมทั้งสื่อจะต้องช่วยกันหน้าด้านด้วย อย่างน้อยก็ต้องตามรอยยุคลบาทช่วยในหลวงแช่ง ว่าใครโกงขอให้ฉิบหาย!
กำลังโหลดความคิดเห็น