รัฐบาลเตรียมจัดระเบียบวิทยุชุมชน กำลังส่งเกิน 30 วัตต์ เสาสูงเกิน 30 เมตร เจอเล่นงานทางกฎหมาย ที่ปรึกษา รมต.สำนักนายกฯ หน้าแตก แจกบัญชีดำ 59 คลื่น ใช้ความถี่สูง แต่ไม่มี 102.25 ซึ่งเป็นของบริษัท ที่ “เจ๊แดง” น้องนายกฯถือหุ้น ต้องสั่งตรวจสอบใหม่
วานนี้ (28 เม.ย.) คณะกรรมาธิการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ วุฒิสภา ซึ่งมี นพ.นิรันดร์สสพิทักษ์วัชระ ส.ว.อุบลราชธานีเป็นประธาน ได้พิจารณากรณี นโยบายวิทยุชุมชนของรัฐ ระหว่างคณะกรรมการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์แห่งชาติ (กสช.)ยังไม่เกิด เนื่องจากเกิดปัญหาการร้องเรียนกรณีรัฐ คุกคามแทรกแซง คลื่นเอฟเอ็ม 92.25 เมกกะเฮริ์ทที่มี นส.อัญชลี ไพรีรัก เป็นผู้ ดำเนินรายการ และปัญหากลุ่มทุนและนักการเมืองรุกคืบเข้าไปตั้งสถานีวิทยุชุมชน เพื่อผลประโยชน์ทางธุรกิจ และเพิ่มกำลังส่งจนรบกวนคลื่นวิทยุกระแสหลัก โดยมีนายวุฒิพงศ์ พงศ์สุวรรณ ที่ปรึกษารัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นางภัทรียา สุมะโน รองอธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ข้าชี้แจงต่อกรรมาธิการ รวมทั้งเชิญองค์กรเอกชนที่ทำงานวิทยุชุมชนเข้าร่วมรับฟังด้วย
นายวุฒิพงศ์กล่าวว่า มีการร้องเรียนว่าวิทยุชุมชนมีการใช้กำลังส่งเกิน 30 วัตต์ และใช้เสาอากาศสูงเกิน 30 เมตร โดยวัดจากยอดตึกไม่ใช่พื้นดิน ถือว่า เป็นการตีความแบบศรีธนญชัย ทำให้บางสถานีกำลังส่งเป็นกิโลวัตต์ รบกวนวิทยุ แห่งประเทศไทย โดยเฉพาะคลื่น 92.25 อาจมีถึง 5-6 สถานี มีปัญหารบกวนคลื่นอื่น ดังนั้นเริ่มแรกจะเรียกเจ้าของสถานีมาหารือก่อน ถ้ายังฝ่าฝืนค่อยใช้มาตรการ ทางกฎหมาย คิดว่าคงไม่ใช่การแทรกแซงสื่อ
น.ส.สุภิญญาสสกลางณรงค์ เลขาธิการคณะกรรมการปฏิรูปสื่อ (คปส.) กล่าวว่า รัฐบาลได้เลือกปฏิบัติกับวิทยุชุมชน ตอนแรกบอกว่าเถื่อน แต่พอให้มีโฆษณาชั่วโมงละ 6 นาทีได้ก็บอกให้ขออนุญาตกรมประชาสัมพันธ์แล้วบอกว่าถูกกฎหมาย ก่อนหน้านี้รัฐบาลยังไม่จัดระเบียบ เพราะมีแต่คลื่นสงบเสงี่ยมเรียบร้อยทางการเมือง แต่เมื่อมีคลื่นเอฟเอ็ม 92.25 ที่มีเสรีภาพทางการเมืองและเนื้อหาสั่นคลอนรัฐบาล ก็ถูกจัดการ อย่างไรก็ตามแม้จะมีกำลังส่งถึง 100 วัตต์ แต่ถ้าเนื้อหาไม่แตะรัฐบาล ก็ออกได้ใช่หรือไม่ ทำให้เกิดการแบ่งแยก เป็นกติกาที่ทำให้สังคมเกิดความอ่อนแอ เพราะไม่รู้ว่ากติกาอยู่ที่ไหนขึ้นอยู่กับการตีความของภาครัฐ
น.ส.สุภิญญายังได้หยิบยกกรณีวิทยุชุมชนอ่างทองที่ถูกยึดเครื่องส่งสสและยังมีคดีอยู่ในชั้นศาล ทั้ง ๆ ที่วิทยุชุมชนที่มีอยู่ 2,000 กว่าสถานีมีความผิดเดียวกันแต่ไม่ถูกดำเนินคดี ถือว่าเป็นความลักลั่นในการปฏิบัติตามกฎหมาย
น.ส. เอื้อจิต วิโรจน์ไตรรัตน์ ผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาสื่อภาคประชาชน กล่าวว่าต้นตอของปัญหาเกิดจากการอนุญาติให้วิทยุชุมชนโฆษณาได้ไม่เกิน 6 นาทีต่อชั่วโมง เป็นจุดที่เปิดให้กลุ่มทุนและค่ายเพลงเข้าไปยึดสัดส่วนวิทยุชุมชนเพราะสามารถหารายได้ นอกจากนี้ยังมีการทุจริตหารายได้ในส่วนของเจ้าหน้าที่กรมประชาสัมพันธ์บางรายด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าหลังจากการประชุมเสร็จสิ้นแล้ว นายวุฒิพงศ์ ได้กล่าวกับสื่อมวลชน โดยได้พยายามแสดงความรุนแรงของปัญหาด้วยการแสดงเอกสาร รายงานของเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กทช.) ที่ระบุผลการสำรวจเมื่อวันที่ 1 เม.ย. 2548 แจกแจงว่ามี 59 คลื่นวิทยุชุมชนใน กทม. รวมทั้งคลื่น FM 92.25 ที่มีปัญหาการรบกวนคลื่นวิทยุหลักสสแต่เมื่อผู้สื่อข่าว ได้ไล่ดูแล้ว กลับไม่พบในส่วนของคลื่น FM 102.25 ทราฟฟิคคอนเน่อร์ ซึ่งมี นางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ รองหัวหน้าพรรคไทยรักไทย น้องสาว พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ถือหุ้นใหญ่ อยู่ใน 59 สถานีที่ถูกรายงานนั้นด้วย ปรากฏว่า นายวุฒิพงศ์ แสดงอาการตกใจ โดยกล่าวว่าแปลกใจที่ไม่มีรายงานของ 102.25 ด้วย ทั้งที่น่าจะต้องมี
นางภัทรียา สุมะโน ที่ยืนข้างๆ ชี้แจงแทนว่า เป็นไปได้ว่าช่วงที่ทาง กทช. ไปตรวจสอบ อาจจะใช้วิธีลดกำลังส่งลง ทำให้ไม่มีการรบกวนเกิดขึ้น แต่นายวุฒิพงศ์ ก็ถามแทรกว่า ทำไมเขาถึงรู้ว่าจะมีการตรวจเวลาไหน นางภัทรียาตอบว่า เวลาเจ้าหน้าที่ไปตรวจจะมีการแจ้งให้สถานีทราบ ทำให้นายวุฒิพงศ์แสดงสีหน้าประหลาดใจ และกล่าวว่าวิธีแบบนี้ไม่ถูก มันไม่เป็นธรรมาภิบาล การตรวจสอบต้องไม่ให้สถานีรู้ พร้อมกับกล่าวว่าจะให้หน่วยงานไปตรวจสอบอีกครั้งหนึ่ง
วานนี้ (28 เม.ย.) คณะกรรมาธิการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ วุฒิสภา ซึ่งมี นพ.นิรันดร์สสพิทักษ์วัชระ ส.ว.อุบลราชธานีเป็นประธาน ได้พิจารณากรณี นโยบายวิทยุชุมชนของรัฐ ระหว่างคณะกรรมการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์แห่งชาติ (กสช.)ยังไม่เกิด เนื่องจากเกิดปัญหาการร้องเรียนกรณีรัฐ คุกคามแทรกแซง คลื่นเอฟเอ็ม 92.25 เมกกะเฮริ์ทที่มี นส.อัญชลี ไพรีรัก เป็นผู้ ดำเนินรายการ และปัญหากลุ่มทุนและนักการเมืองรุกคืบเข้าไปตั้งสถานีวิทยุชุมชน เพื่อผลประโยชน์ทางธุรกิจ และเพิ่มกำลังส่งจนรบกวนคลื่นวิทยุกระแสหลัก โดยมีนายวุฒิพงศ์ พงศ์สุวรรณ ที่ปรึกษารัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นางภัทรียา สุมะโน รองอธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ข้าชี้แจงต่อกรรมาธิการ รวมทั้งเชิญองค์กรเอกชนที่ทำงานวิทยุชุมชนเข้าร่วมรับฟังด้วย
นายวุฒิพงศ์กล่าวว่า มีการร้องเรียนว่าวิทยุชุมชนมีการใช้กำลังส่งเกิน 30 วัตต์ และใช้เสาอากาศสูงเกิน 30 เมตร โดยวัดจากยอดตึกไม่ใช่พื้นดิน ถือว่า เป็นการตีความแบบศรีธนญชัย ทำให้บางสถานีกำลังส่งเป็นกิโลวัตต์ รบกวนวิทยุ แห่งประเทศไทย โดยเฉพาะคลื่น 92.25 อาจมีถึง 5-6 สถานี มีปัญหารบกวนคลื่นอื่น ดังนั้นเริ่มแรกจะเรียกเจ้าของสถานีมาหารือก่อน ถ้ายังฝ่าฝืนค่อยใช้มาตรการ ทางกฎหมาย คิดว่าคงไม่ใช่การแทรกแซงสื่อ
น.ส.สุภิญญาสสกลางณรงค์ เลขาธิการคณะกรรมการปฏิรูปสื่อ (คปส.) กล่าวว่า รัฐบาลได้เลือกปฏิบัติกับวิทยุชุมชน ตอนแรกบอกว่าเถื่อน แต่พอให้มีโฆษณาชั่วโมงละ 6 นาทีได้ก็บอกให้ขออนุญาตกรมประชาสัมพันธ์แล้วบอกว่าถูกกฎหมาย ก่อนหน้านี้รัฐบาลยังไม่จัดระเบียบ เพราะมีแต่คลื่นสงบเสงี่ยมเรียบร้อยทางการเมือง แต่เมื่อมีคลื่นเอฟเอ็ม 92.25 ที่มีเสรีภาพทางการเมืองและเนื้อหาสั่นคลอนรัฐบาล ก็ถูกจัดการ อย่างไรก็ตามแม้จะมีกำลังส่งถึง 100 วัตต์ แต่ถ้าเนื้อหาไม่แตะรัฐบาล ก็ออกได้ใช่หรือไม่ ทำให้เกิดการแบ่งแยก เป็นกติกาที่ทำให้สังคมเกิดความอ่อนแอ เพราะไม่รู้ว่ากติกาอยู่ที่ไหนขึ้นอยู่กับการตีความของภาครัฐ
น.ส.สุภิญญายังได้หยิบยกกรณีวิทยุชุมชนอ่างทองที่ถูกยึดเครื่องส่งสสและยังมีคดีอยู่ในชั้นศาล ทั้ง ๆ ที่วิทยุชุมชนที่มีอยู่ 2,000 กว่าสถานีมีความผิดเดียวกันแต่ไม่ถูกดำเนินคดี ถือว่าเป็นความลักลั่นในการปฏิบัติตามกฎหมาย
น.ส. เอื้อจิต วิโรจน์ไตรรัตน์ ผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาสื่อภาคประชาชน กล่าวว่าต้นตอของปัญหาเกิดจากการอนุญาติให้วิทยุชุมชนโฆษณาได้ไม่เกิน 6 นาทีต่อชั่วโมง เป็นจุดที่เปิดให้กลุ่มทุนและค่ายเพลงเข้าไปยึดสัดส่วนวิทยุชุมชนเพราะสามารถหารายได้ นอกจากนี้ยังมีการทุจริตหารายได้ในส่วนของเจ้าหน้าที่กรมประชาสัมพันธ์บางรายด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าหลังจากการประชุมเสร็จสิ้นแล้ว นายวุฒิพงศ์ ได้กล่าวกับสื่อมวลชน โดยได้พยายามแสดงความรุนแรงของปัญหาด้วยการแสดงเอกสาร รายงานของเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กทช.) ที่ระบุผลการสำรวจเมื่อวันที่ 1 เม.ย. 2548 แจกแจงว่ามี 59 คลื่นวิทยุชุมชนใน กทม. รวมทั้งคลื่น FM 92.25 ที่มีปัญหาการรบกวนคลื่นวิทยุหลักสสแต่เมื่อผู้สื่อข่าว ได้ไล่ดูแล้ว กลับไม่พบในส่วนของคลื่น FM 102.25 ทราฟฟิคคอนเน่อร์ ซึ่งมี นางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ รองหัวหน้าพรรคไทยรักไทย น้องสาว พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ถือหุ้นใหญ่ อยู่ใน 59 สถานีที่ถูกรายงานนั้นด้วย ปรากฏว่า นายวุฒิพงศ์ แสดงอาการตกใจ โดยกล่าวว่าแปลกใจที่ไม่มีรายงานของ 102.25 ด้วย ทั้งที่น่าจะต้องมี
นางภัทรียา สุมะโน ที่ยืนข้างๆ ชี้แจงแทนว่า เป็นไปได้ว่าช่วงที่ทาง กทช. ไปตรวจสอบ อาจจะใช้วิธีลดกำลังส่งลง ทำให้ไม่มีการรบกวนเกิดขึ้น แต่นายวุฒิพงศ์ ก็ถามแทรกว่า ทำไมเขาถึงรู้ว่าจะมีการตรวจเวลาไหน นางภัทรียาตอบว่า เวลาเจ้าหน้าที่ไปตรวจจะมีการแจ้งให้สถานีทราบ ทำให้นายวุฒิพงศ์แสดงสีหน้าประหลาดใจ และกล่าวว่าวิธีแบบนี้ไม่ถูก มันไม่เป็นธรรมาภิบาล การตรวจสอบต้องไม่ให้สถานีรู้ พร้อมกับกล่าวว่าจะให้หน่วยงานไปตรวจสอบอีกครั้งหนึ่ง