xs
xsm
sm
md
lg

แฉรัฐบาลถลุงงบกลางปี แต่งแอร์ฟอร์ซวัน84ล.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ปชป.แฉรัฐบาลถลุงงบกลางปี 48 ปรนเปรอนายกฯ ซ่อมแอร์บัส 84 ล้าน หมกเม็ดตั้งงบฉุกเฉินกลางปีเพิ่มเติม 1.7 หมื่นล้าน สนองโครงการ 30 บาท แนะใช้งบกลางโปะหนี้กองทุนน้ำมัน หวั่นปัญหาน้ำมันลอยตัว จับตางบผู้ว่าฯซีอีโอ ฮั้วส.ส.นำงบลงพื้นที่

เมื่อเวลา 14.00 น.วานนี้ (25 เม.ย.) มีการประชุมคณะกรรมาธิการพิจารณางบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมกลางปี 2548 วงเงิน 5 หมื่นล้านบาท โดยมี นายวราเทพ รัตนากร รองประธานกรรมาธิการฯ เป็นประธานการประชุม ได้เชิญหน่วยงานจัดเก็บภาษีประกอบด้วย กรมสรรพากร กรมสรรพสามิต กรมศุลกากร และสำนักงานเศรษฐกิจการคลังมาชี้แจง โดยที่ประชุมได้พิจารณาถึงการประมาณการการจัดเก็บรายได้ และเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉิน หรือจำเป็น

ทั้งนี้ กรรมาธิการซีกฝ่ายค้าน ประกอบด้วยนายพิเชฐ พันธ์วิชาติกุล ส.ส.กระบี่ พรรคประชาธิปัตย์ และนายศิริโชค โสภา ส.ส.สงขลา ได้ย้ำถึงการประมาณการจัดเก็บรายได้ ซึ่งอาจจะไม่เป็นไปตามเป้าที่ตั้งไว้ที่ 5 หมื่นล้านบาท เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจโลกชะลอตัว ปัญหาราคาน้ำมันที่สูงขึ้น ซึ่งจะฉุดให้อัตราการเจริญเติบโตของไทยไม่ถึง 5.5-6.5 เปอร์เซ็นต์ ตามที่ประมาณการไว้

นายศิริโชค กล่าวว่า การที่รัฐบาลอ้างว่ามีรายได้จากการจัดเก็บงบภาษีเพิ่มขึ้นนั้น ส่วนหนึ่งมาจากภาษีของราคาน้ำมันที่เพิ่มขึ้น ดังนั้นการประมาณการจัดเก็บภาษี 5 หมื่นล้านบาท จึงไม่สอดคล้องกับความเป็นจริง เนื่องจากเงินกองทุนน้ำมันต้องเข้าไปแบกรับภาระจากราคาน้ำมันที่เพิ่มขึ้นกว่า 8.5 หมื่นล้านบาท โดยกองทุนน้ำมันต้องไปกู้เงินสถาบันการเงิน กว่า 6.3 หมื่นล้านบาท ซึ่งต้องชำระให้เสร็จภายในเดือนมิ.ย.นี้ โดยแบ่งเป็น 3 งวด งวดแรก 8 พันล้านบาท งวดที่สอง 2 หมื่นล้าน และงวดที่สาม 3.5 หมื่นล้านบาท

ดังนั้นพรรคประชาธิปัตย์จึงเสนอว่า การจัดเก็บภาษีที่เพิ่มขึ้นสมควรนำไปใช้หนี้กองทุนน้ำมัน เพราะหากนำมาใช้จ่ายเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจตามที่สำนักงานงบประมาณอ้างว่าเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจรากหญ้าไม่ได้เกิดประโยชน์อย่างแท้จริง เพราะจากภาวะราคาน้ำมันที่เพิ่มขึ้นจะส่งผลกระทบต่อประชาชนในวงกว้าง เนื่องจากกระทรวงการคลังไม่สามารถค้ำประกันกองทุนน้ำมันได้อีกต่อไป จึงต้องใช้วิธีการออกพันธบัตรแทน

จากนั้นที่ประชุมได้พิจารณาถึงงบสำรองจ่ายฉุกเฉิน หรือจำเป็น จำนวน 1.7 หมื่นล้านบาท โดยนายศิริโชค ได้ตั้งข้อสังเกตถึงงบกลางปี 48 วงเงิน 1.1 หมื่นล้านบาท ซึ่งรัฐบาลได้ใช้หมดแล้ว ว่า แต่ละโครงการมีความจำเป็นแค่ไหน เช่น การจัดงบแรลลี่ไปประเทศอินเดีย วงเงิน 1.9 ล้านบาท การซื้อรถโดยสารส่วนกลางของสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีจำนวน 2 คัน จำนวน 4.041 ล้านบาท ที่สำคัญ ยังมีการใช้งบประมาณกว่า 84 ล้านบาท ในการปรนนิบัติ และซ่อมบำรุง เครื่องบินลำเลียงขนาดกลาง แบบ 15 ที่นั่ง ของบริษัทแอร์บัส 319 ซีเจ หรือเครื่องบินนายกฯ ซึ่งการใช้งบประมาณเหล่านี้ ถือเป็นงบที่ไม่จำเป็น เพราะไม่ได้ใช้จ่ายในกรณีฉุกเฉิน แต่รัฐบาลได้เบิกจ่ายไปจนหมดแล้ว แถมยังตั้งงบกลางเพิ่มเติมกลางปีฉุกเฉินเข้ามาอีก 1.7 ล้านบาท ซึ่งจากการตรวจสอบรายละเอียดพบว่า มีการตั้งงบกว่า 7 พันล้านบาท ในโครงการประกันสุขภาพถ้วนหน้า แบ่งเป็นค่าใช้จ่ายหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าวงเงิน 4.99 พันล้านบาท และค่าใช้จ่ายชำระหนี้ค้างของหน่วยบริการในสังกัดที่เกิดจากการดำเนินโครงการสร้างหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าจำนวน 2.3 พันล้านบาท ซึ่งความจริงการตั้งงบประมาณจำนวนนี้ รัฐบาลสามารถบรรจุไว้ในงบรายจ่ายปกติ ไม่จำเป็นต้องใช้ตั้งงบกลางขึ้นมา และเข้าใจว่าที่ตั้งงบกลางเข้ามาเพราะต้องการปกปิดรายละเอียด และตรวจสอบได้ยาก

นายศิริโชค กล่าวว่า ในวันนี้( 26 เม.ย.)คณะกรรมาธิการฯจะมีการพิจารณางบประมาณในส่วนของงบบูรณาการ จำนวน 1.5 หมื่นล้านบาท ซึ่งได้เกิดความขัดแย้งในหมู่ ส.ส.เนื่องจากผู้ว่าราชการจังหวัดบางจังหวัดได้เรียกตัวส.ส.เข้าไปหารือ เพื่อจัดสรรรายละเอียดในงบประมาณ เพราะแต่ละจังหวัดจะได้รับงบประมาณไม่เท่ากัน โดยเฉพาะจังหวัดที่ไม่สนองความต้องการรัฐบาล จะได้รับการจัดสรรน้อยกว่าจังหวัดอื่น ซึ่งกรรมาธิการซีกฝ่ายค้านจะซักถามในประเด็นนี้ โดยเฉพาะการเกลี่ยงบที่ไม่เป็นธรรม
กำลังโหลดความคิดเห็น