“อนุทิน” เผยธุรกิจสปาไทยเฟื่อง เผยปี 47 โกยเงินถึง 5,300 ล้านบาท เผยกลางปีหน้าไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดประชุมเรื่องสปาระดับโลก คาดมีนักธุรกิจด้านสปาทั่วโลกเข้าประชุมกว่า 1,000 คน
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับความคืบหน้าของการพัฒนาประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางสุขภาพของเอเชียหรือ เมดดิคอล ฮับ ออฟ เอเชีย (Medical Hub of Asia) ภายหลังเปิดหอผู้ป่วยพิเศษและศูนย์สุขภาพผู้หญิง ที่โรงพยาบาลกรุงเทพ-ระยอง อ.เมือง จ.ระยอง เมื่อบ่ายวันนี้ (21 เมษายน 2548) ว่า ขณะนี้มีความคืบหน้าไปมาก รัฐบาลได้วางยุทธศาสตร์การพัฒนา 5 ปี เริ่มในกรุงเทพฯ เชียงใหม่ ภูเก็ต และสุราษฎร์ธานี ระหว่าง พ.ศ. 2547-2551 เน้น 3 บริการหลัก ได้แก่การรักษาพยาบาล การส่งเสริมสุขภาพด้วยสปาไทย นวดไทย และการพัฒนาผลิตภัณฑ์สมุนไพร โดยตั้งเป้าทำรายได้ไม่ต่ำกว่า 200,000 ล้านบาท
โดยเฉพาะในปี 2548 นี้ คาดว่าเม็ดเงินเข้าไทยประมาณ 30,000 ล้านบาท โดยบริการรักษาพยาบาล ซึ่งมีโรงพยาบาลเอกชนที่มีศักยภาพเข้าร่วม 33 แห่งรวมทั้งโรงพยาบาลกรุงเทพด้วยจะสร้างรายได้ในปีนี้ 23,000 ล้านบาท สปาไทย นวดไทยจะสร้างรายได้ 6,700 ล้านบาท ส่วนสมุนไพรคาดว่าจะทำเงินได้ 2,000 ล้านบาท
ในปี 2547 มีผู้ใช้บริการสปาไทย 3 ล้านคน ส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติ สามารถสร้างรายได้เข้าไทย 5,300 ล้านบาท สูงกว่าเป้าที่ตั้งไว้ 4,900 ล้านบาท ทำให้ต่างชาติให้ความสนใจ และได้รับเกียรติจากกลุ่มนักธุรกิจสปาทั่วโลกให้เป็นเจ้าภาพจัดประชุมสปาโลกครั้งที่ 8 ในเดือนพฤษภาคม พ.ศ.2549 ที่ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ มีประเทศสมาชิกจากภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกและยุโรป เข้าประชุมประมาณ 1,000 คน
ทั้งนี้ ในการประชุมครั้งนี้ ไทยจะได้โอกาสผลักดันเอกลักษณ์สปาไทยและภูมิปัญญาไทยแขนงต่างๆ ที่มีศักยภาพ ไม่ว่าจะเป็นผลิตภัณฑ์สมุนไพรไทย การนวด แสดงความพร้อมการเป็นศูนย์กลางสุขภาพเอเชียอย่างแท้จริง รวมทั้งมีภูมิปัญญาการดูแลสุขภาพแบบตะวันออกทั้งจีน อินเดียมาร่วมโชว์ด้วย
ขณะนี้กระทรวงสาธารณสุขได้มอบหมายให้นายแพทย์เรวัต วิศรุตเวช อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ ดำเนินการพัฒนามาตรฐานสปาทั่วประเทศ เพื่อสร้างความมั่นใจผู้ใช้บริการ รวมทั้งการนวดเพื่อสุขภาพ การนวดเพื่อเสริมสวย มีสถานประกอบการดังกล่าวยื่นคำร้องทั้งหมด 1,733 แห่ง ผ่านการรับรองมาตรฐาน 684 แห่ง ประกอบด้วย สปา 204 แห่ง นวดเพื่อสุขภาพ 356 แห่ง และนวดเพื่อเสริมสวย 124 แห่ง มีผู้ให้บริการที่ได้มาตรฐานทั้งหมด 9,648 คน โดยกรมสนับสนุนบริการสุขภาพจะตรวจและออกใบรับรองมาตรฐานทุกปี
สำหรับบริการด้านการรักษาพยาบาลในปี 2547 มีนักท่องเที่ยวมาใช้บริการกว่า 6 แสนคน ทำรายได้เข้าประเทศเกือบ 20,000 ล้านบาท บริการที่ชาวต่างชาตินิยมเข้ามารับบริการ ได้แก่ การผ่าตัดหัวใจ ทันตกรรม ศัลยกรรมตกแต่ง ผ่าตัดแปลงเพศ เปลี่ยนข้อสะโพก เลสิค ตรวจสุขภาพ คุณภาพดีและค่าใช้จ่ายถูกกว่าต่างประเทศ ในปี2548 จะเพิ่มบริการให้ได้ 1 ล้านคน
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับความคืบหน้าของการพัฒนาประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางสุขภาพของเอเชียหรือ เมดดิคอล ฮับ ออฟ เอเชีย (Medical Hub of Asia) ภายหลังเปิดหอผู้ป่วยพิเศษและศูนย์สุขภาพผู้หญิง ที่โรงพยาบาลกรุงเทพ-ระยอง อ.เมือง จ.ระยอง เมื่อบ่ายวันนี้ (21 เมษายน 2548) ว่า ขณะนี้มีความคืบหน้าไปมาก รัฐบาลได้วางยุทธศาสตร์การพัฒนา 5 ปี เริ่มในกรุงเทพฯ เชียงใหม่ ภูเก็ต และสุราษฎร์ธานี ระหว่าง พ.ศ. 2547-2551 เน้น 3 บริการหลัก ได้แก่การรักษาพยาบาล การส่งเสริมสุขภาพด้วยสปาไทย นวดไทย และการพัฒนาผลิตภัณฑ์สมุนไพร โดยตั้งเป้าทำรายได้ไม่ต่ำกว่า 200,000 ล้านบาท
โดยเฉพาะในปี 2548 นี้ คาดว่าเม็ดเงินเข้าไทยประมาณ 30,000 ล้านบาท โดยบริการรักษาพยาบาล ซึ่งมีโรงพยาบาลเอกชนที่มีศักยภาพเข้าร่วม 33 แห่งรวมทั้งโรงพยาบาลกรุงเทพด้วยจะสร้างรายได้ในปีนี้ 23,000 ล้านบาท สปาไทย นวดไทยจะสร้างรายได้ 6,700 ล้านบาท ส่วนสมุนไพรคาดว่าจะทำเงินได้ 2,000 ล้านบาท
ในปี 2547 มีผู้ใช้บริการสปาไทย 3 ล้านคน ส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติ สามารถสร้างรายได้เข้าไทย 5,300 ล้านบาท สูงกว่าเป้าที่ตั้งไว้ 4,900 ล้านบาท ทำให้ต่างชาติให้ความสนใจ และได้รับเกียรติจากกลุ่มนักธุรกิจสปาทั่วโลกให้เป็นเจ้าภาพจัดประชุมสปาโลกครั้งที่ 8 ในเดือนพฤษภาคม พ.ศ.2549 ที่ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ มีประเทศสมาชิกจากภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกและยุโรป เข้าประชุมประมาณ 1,000 คน
ทั้งนี้ ในการประชุมครั้งนี้ ไทยจะได้โอกาสผลักดันเอกลักษณ์สปาไทยและภูมิปัญญาไทยแขนงต่างๆ ที่มีศักยภาพ ไม่ว่าจะเป็นผลิตภัณฑ์สมุนไพรไทย การนวด แสดงความพร้อมการเป็นศูนย์กลางสุขภาพเอเชียอย่างแท้จริง รวมทั้งมีภูมิปัญญาการดูแลสุขภาพแบบตะวันออกทั้งจีน อินเดียมาร่วมโชว์ด้วย
ขณะนี้กระทรวงสาธารณสุขได้มอบหมายให้นายแพทย์เรวัต วิศรุตเวช อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ ดำเนินการพัฒนามาตรฐานสปาทั่วประเทศ เพื่อสร้างความมั่นใจผู้ใช้บริการ รวมทั้งการนวดเพื่อสุขภาพ การนวดเพื่อเสริมสวย มีสถานประกอบการดังกล่าวยื่นคำร้องทั้งหมด 1,733 แห่ง ผ่านการรับรองมาตรฐาน 684 แห่ง ประกอบด้วย สปา 204 แห่ง นวดเพื่อสุขภาพ 356 แห่ง และนวดเพื่อเสริมสวย 124 แห่ง มีผู้ให้บริการที่ได้มาตรฐานทั้งหมด 9,648 คน โดยกรมสนับสนุนบริการสุขภาพจะตรวจและออกใบรับรองมาตรฐานทุกปี
สำหรับบริการด้านการรักษาพยาบาลในปี 2547 มีนักท่องเที่ยวมาใช้บริการกว่า 6 แสนคน ทำรายได้เข้าประเทศเกือบ 20,000 ล้านบาท บริการที่ชาวต่างชาตินิยมเข้ามารับบริการ ได้แก่ การผ่าตัดหัวใจ ทันตกรรม ศัลยกรรมตกแต่ง ผ่าตัดแปลงเพศ เปลี่ยนข้อสะโพก เลสิค ตรวจสุขภาพ คุณภาพดีและค่าใช้จ่ายถูกกว่าต่างประเทศ ในปี2548 จะเพิ่มบริการให้ได้ 1 ล้านคน