xs
xsm
sm
md
lg

นันยางขยายฐานกลุ่มเด็กประถม

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ปัจจัยลบฟาดหางธุรกิจรองเท้าผ้าใบนักเรียนเงียบ คาดภาพรวมตลาดปีนี้โต 2-3% แต่นันยางสวนกระแสตลาด ขอโตกว่าตลาด ตั้งเป้าปีนี้แชร์เพิ่ม 5% เผยยอดขายรองเท้านันยางในช่วงแบ็ค ทู สคูลมีสัดส่วนสูง 40-50%

นายเอี่ยม  พสุธารชาติ  ผู้จัดการทั่วไป  บริษัทนันยางมาร์เก็ตติ้ง จำกัด  กล่าวว่า ตลาดรวมรองเท้าผ้าใบนักเรียนที่มีมูลค่ากว่า 1,000 ล้านบาท   ปีนี้คาดการณ์ว่าจะโต 2-3% จากปัจจัยลบต่างๆที่เกิดขึ้น  ไม่ว่าจะเป็นภาพรวมเศรษฐกิจ  ราคาน้ำมันที่ปรับแพงขึ้น เหตุการณ์ความไม่สงบทางภาคใต้  เป็นต้น จึงส่งผลให้กำลังซื้อของผู้บริโภคชะลอตัวลงไปบ้าง จากเดิมที่ซื้อรองเท้าเฉลี่ย 1 คู่กว่าต่อปี แต่ช่วงนี้อาจซื้อลดลงเป็น 1 คู่ต่อปี  ประกอบกับคู่แข่งในตลาดก็ไม่ค่อยทำกิจกรรมทางการตลาด จึงทำให้ตลาดดูเงียบลงไป   

ในส่วนของนันยางเดิมมีส่วนแบ่งทางการตลาด 20% จากมูลค่าตลาดรวมรองเท้าผ้าใบนักเรียน ปีนี้บริษัทฯตั้งเป้าส่วนแบ่งทางการตลาดเพิ่ม 5%  ซึ่งปัจจัยที่จะทำให้ยอดขายเพิ่มขึ้นมาจากการที่นันยางขยายช่องทางการขายเพิ่มขึ้น โดยเตรียมนำสินค้าไปวางขายที่บิ๊กซี  ทุกสาขา จากเดิมที่วางขายที่ดิสเคานต์สโตร์ เช่น โลตัสและคาร์ฟู  รวมถึงขายผ่านเอเย่นต์ 50 ราย , รถ 10 คัน และโมเดิร์นเทรด  

ประกอบกับการที่บริษัทฯเตรียมขยายฐานลูกค้าจากเดิมจะเป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1-6 ไปสู่นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1-6   
ล่าสุดนันยางส่งรองเท้าผ้าใบนันยาง รุ่น 205-S Plus ในราคาประมาณ 239 บาท เพื่อเจาะกลุ่มนักเรียนประถมโดยเฉพาะ   อีกทั้งเพื่อต้อนรับเทศกาลเปิดเทอมที่จะมีขึ้นในเดือนพฤษภาคมนี้    ทั้งนี้ยอดขายรองเท้าของนันยางในช่วงแบ็ค ทู สคูลหรือประมาณ 4 เดือน(ม.ค.-เม.ย.) จะมียอดขายคิดเป็น 40-50%  จากยอดทั้งปี   ขณะที่ช่วงไตรมาส 3  ยอดขายจะน้อยลง เพราะนักเรียนเปิดเทอมแล้ว และช่วงสิ้นปียอดขายก็กลับมาดีขึ้นอีก  โดยปีนี้นันยางใช้งบทางการตลาดกว่า 20 ล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 10%

นายเอี่ยม กล่าวด้วยว่า  ขณะนี้ต้นทุนวัตถุดิบขึ้นราคา 10% ไม่ว่าจะเป็นค่าแรงงาน,น้ำมันและยางดิบ ในส่วนของนันยางยังไม่มีนโยบายปรับขึ้นราคาสินค้า  โดยบริษัทฯพยายามแบกรับเรื่องราคาเอาไว้   ซึ่งราคาเฉลี่ยของรองเท้านันยางจะอยู่ในระดับกลางประมาณ 230 บาท      
กำลังโหลดความคิดเห็น