พลโทเลิศฤทธิ์ เวชสวรรค์ ผู้อำนวยการสถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบก (ททบ.5) เปิดเผยว่า จากการปรับผังรายการของช่อง 5 เมื่อช่วงต้นปี ถือได้ว่ารายการส่วนใหญ่ในภาพรวมแล้วมีเรตติ้งดี เช่น ละครช่วงสี่ทุ่มของบริษัท เอ็กแซ็กและซีเนริโอมีเรตติ้งดี แต่มีบ้างที่เรตติ้ยังไม่ดี คงต้องมีการปรับรูปแบบรายการรวมทั้งปรับผังบ้างบางส่วนบางช่วงเวลาโดยให้ทางผู้จัดไปปรับปรุงงาน รวมทั้งให้ฝ่ายรายการของช่อง 5 ไปปรับรายการให้เหมาะสมกับช่วงเวลาด้วยเช่นรายการเกี่ยวกับอาหารไม่ควรมาอยู่ในช่วงสี่ทุ่มเป็นต้น ส่วนการปรับรายการนั้นเช่น รายการแฟมิลี่เดิมของเจเอสแอลในช่วง 19.00 น. –19.25 น. ทุกวันจันทร์-ศุกร์ จะปรับเป็นรายการ ห้าสิบ ห้าสิบ
ในไตรมาสที่สองนี้ช่อง 5 ได้เปิดโอกาสให้ผู้ผลิตรายใหม่เข้ามาทำรายการประมาณ 5-6 ราย โดยเฉพาะในช่วงเวลาเช้า 08.00-09.00 น. ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นรายการเกี่ยวกับครอบครัว พ่อบ้านแม่บ้าน ซึ่งจะต้องให้โอกาสในการทำรายการก่อนประมาณ 3 เดือนจึงจะมาพิจารณาผลงานอีกครั้งโดยรายการใหม่ของช่อง 5 ในช่วงเดือนพฤษภาคมนี้ 1.รายการ เฮลท์ตี้ ไลฟ์สไตล์ โดยบริษัทแซดไดเรคทอรี่ จำกัด 2.รายการ เมนูทีวี โดยห้างหุ้นส่วนจำกัดเอ็นพีไอ 3.รายการ จังหวะเฮ้าส์ ของสาว 5 ของบริษัท อาร์พีเอ็ม เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด 4. รายการ เลดี้ ดี 5 โดยบริษัท อิน เอ แชนแนล โซลูชั่น ไทยแลนด์ จำกัด 5. รายการ คุยกันวันศุกร์ โดยบริษัท เคเอเอ็น เอนเตอร์เทนเมนท์ จำกัด 6.รายการ ผู้ชายขอเมาท์ บริษัท มีเดีย เอ็กซ์เพอร์ทิส อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ซึ่งทั้ง 6 รายการนี้จะออกอากาศวันที่ 18 พ.ค.48 และในวันที่ 21 พ.ค. 48 จะมีรายการ ห้าสิบ ห้าสิบ โดยบริษัท เจเอสแอล จำกัด , ละครใหม่ "อยู่กับก๋ง" หลังข่าวภาคค่ำ โดยบริษัท ทูแฮนด์ จำกัด ซึ่งเดิมเป็นเวลาของรายการหนังเกาหลี แต่เมื่อจบซีรี่ส์จึงนำละคร อยู่กับก๋ง มาออกอากาศ เพื่อเป็นโครงการเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารี
อย่างไรก็ตาม ทางช่อง 5 ยังไม่มีนโยบายที่จะปรับราคาค่าเช่าเวลาเพิ่มขึ้น แม้ราคาน้ำมันจะส่งให้ต้นทุนสูง ซึ่งอาจจะทำให้รายได้ของสถานีลดลงบ้าง เนื่องจากสถานีมีรายได้จากค่าเช่าเวลาอย่างเดียว โดยมีอัตราค่าเช่าเฉลี่ยชั่วโมงละ 2-3 แสนบาทที่สูงที่สุด แล้วแต่ช่วงและจำนวนเวลาของรายการ ส่วนการที่ช่อง 5 ได้เซ็นสัญญาให้เอกชน 2 รายคือ บริษัท เอ็นเอส มีเดีย จำกัด และบริษัท ทีวีไดเร็ค จำกัด ได้ส่งรายได้ให้ช่อง 5 ตั้งแต่ต้นปี 13 ล้านบาทต่อเดือนตามสัญญา
พลตรีไวยุทธ โชติธาดา หัวหน้าสถานีเอฟเอ็ม 94.0 เมกะเฮิร์ตซ์ กล่าวว่า หลังจากที่ช่อง 5 เข้ามาบริหารคลื่นดังกล่าวตั้งแต่ต้นปี มีนโยบายทำเป็นคลื่นธุรกิจและคลื่นกีฬา ซึ่งขณะนี้มีรายได้พออยู่ได้ ทั้งนี้ตามนโยบายของกองทัพบกคือ แบ่งเวลา 10 ชั่วโมงให้เอกชนเข้ามาเช่าเวลาผลิต ส่วนที่เหลือทางช่อง 5 ดำเนินการเอง ซึ่งในส่วนของเอกชนนั้นขณะนี้มีแล้ว 2 ราย ที่เข้ามาเช่าเวลา
ในไตรมาสที่สองนี้ช่อง 5 ได้เปิดโอกาสให้ผู้ผลิตรายใหม่เข้ามาทำรายการประมาณ 5-6 ราย โดยเฉพาะในช่วงเวลาเช้า 08.00-09.00 น. ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นรายการเกี่ยวกับครอบครัว พ่อบ้านแม่บ้าน ซึ่งจะต้องให้โอกาสในการทำรายการก่อนประมาณ 3 เดือนจึงจะมาพิจารณาผลงานอีกครั้งโดยรายการใหม่ของช่อง 5 ในช่วงเดือนพฤษภาคมนี้ 1.รายการ เฮลท์ตี้ ไลฟ์สไตล์ โดยบริษัทแซดไดเรคทอรี่ จำกัด 2.รายการ เมนูทีวี โดยห้างหุ้นส่วนจำกัดเอ็นพีไอ 3.รายการ จังหวะเฮ้าส์ ของสาว 5 ของบริษัท อาร์พีเอ็ม เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด 4. รายการ เลดี้ ดี 5 โดยบริษัท อิน เอ แชนแนล โซลูชั่น ไทยแลนด์ จำกัด 5. รายการ คุยกันวันศุกร์ โดยบริษัท เคเอเอ็น เอนเตอร์เทนเมนท์ จำกัด 6.รายการ ผู้ชายขอเมาท์ บริษัท มีเดีย เอ็กซ์เพอร์ทิส อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ซึ่งทั้ง 6 รายการนี้จะออกอากาศวันที่ 18 พ.ค.48 และในวันที่ 21 พ.ค. 48 จะมีรายการ ห้าสิบ ห้าสิบ โดยบริษัท เจเอสแอล จำกัด , ละครใหม่ "อยู่กับก๋ง" หลังข่าวภาคค่ำ โดยบริษัท ทูแฮนด์ จำกัด ซึ่งเดิมเป็นเวลาของรายการหนังเกาหลี แต่เมื่อจบซีรี่ส์จึงนำละคร อยู่กับก๋ง มาออกอากาศ เพื่อเป็นโครงการเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารี
อย่างไรก็ตาม ทางช่อง 5 ยังไม่มีนโยบายที่จะปรับราคาค่าเช่าเวลาเพิ่มขึ้น แม้ราคาน้ำมันจะส่งให้ต้นทุนสูง ซึ่งอาจจะทำให้รายได้ของสถานีลดลงบ้าง เนื่องจากสถานีมีรายได้จากค่าเช่าเวลาอย่างเดียว โดยมีอัตราค่าเช่าเฉลี่ยชั่วโมงละ 2-3 แสนบาทที่สูงที่สุด แล้วแต่ช่วงและจำนวนเวลาของรายการ ส่วนการที่ช่อง 5 ได้เซ็นสัญญาให้เอกชน 2 รายคือ บริษัท เอ็นเอส มีเดีย จำกัด และบริษัท ทีวีไดเร็ค จำกัด ได้ส่งรายได้ให้ช่อง 5 ตั้งแต่ต้นปี 13 ล้านบาทต่อเดือนตามสัญญา
พลตรีไวยุทธ โชติธาดา หัวหน้าสถานีเอฟเอ็ม 94.0 เมกะเฮิร์ตซ์ กล่าวว่า หลังจากที่ช่อง 5 เข้ามาบริหารคลื่นดังกล่าวตั้งแต่ต้นปี มีนโยบายทำเป็นคลื่นธุรกิจและคลื่นกีฬา ซึ่งขณะนี้มีรายได้พออยู่ได้ ทั้งนี้ตามนโยบายของกองทัพบกคือ แบ่งเวลา 10 ชั่วโมงให้เอกชนเข้ามาเช่าเวลาผลิต ส่วนที่เหลือทางช่อง 5 ดำเนินการเอง ซึ่งในส่วนของเอกชนนั้นขณะนี้มีแล้ว 2 ราย ที่เข้ามาเช่าเวลา