คุรุสภาฝันค้าง รัฐยังไม่จัดสรรงบประมาณออกใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครูให้ และไม่รู้ว่าจะได้เมื่อไร ต้องปรับแผนใหม่วุ่น เตรียมพิมพ์ใบอนุญาตลงบนกระดาษ เอ 4 แทน หลังเคยฝันหรูว่าจะทำเป็นสมาร์ทการ์ด คาดเดือนหน้าให้ใบอนุญาตได้หมื่นกว่าราย
นายเสริมศักดิ์ วิศาลาภรณ์ ประธานคณะกรรมการคุรุสภา เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการคุรุสภา ว่า สำนักงานเลขาธิการได้ออกข้อบังคับว่าด้วยใบอนุญาตประกอบวิชาชีพทางการศึกษา พ.ศ.2547 ซึ่งข้อบังคับดังกล่าวกำหนดให้ผู้ที่มีคุณสมบัติขอขึ้นทะเบียนรับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ ยื่นคำขอภายใน 120 วัน นับตั้งแต่วันที่ข้อบังคับนี้มีผลบังคับใช้ ซึ่งขณะนี้พ้นกำหนดระยะเวลาดังกล่าวแล้ว โดยมีครูยื่นขอใบอนุญาตทั้งสิ้น 511,920 ราย
ทั้งนี้ ยังมีครูที่ไม่ยื่นขอใบอนุญาตอีกกว่า 1 แสนราย โดยครูกลุ่มดังกล่าวอาจเกิดความเข้าใจผิดว่าจะได้รับใบอนุญาตโดยอัตโนมัติ จึงขอให้คณะอนุกรรมการคุรุสภาไปพิจารณาด้านกฎหมายว่าจะมีแนวทางในการช่วยเหลือครูเหล่านี้อย่างไรบ้าง ซึ่งอาจจะต้องออกข้อบังคับอนุโลมให้ยื่นขอรับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพได้หลังจากนี้
อย่างไรก็ตาม ปัญหาสำคัญของคุรุสภาขณะนี้คือ ยังไม่ได้รับการจัดสรรงบประมาณจากรัฐบาลในการออกใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู และไม่รู้ว่าจะได้รับการจัดสรรเมื่อไร ซึ่งคุรุสภาได้ของบไป 124 ล้านบาท แต่ถึงแม้จะไม่มีงบประมาณดังกล่าว ในเดือนหน้าก็ต้องประกาศให้ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครูแก่ครูที่มีคุณสมบัติครบ และได้รับการบรรจุเป็นข้าราชการครูก่อนวันที่ 12 มิ.ย.46 ประมาณ 10,000 รายก่อน
“แรกทีเดียวคุรุสภาจะดำเนินการออกใบอนุญาตฯ ในรูปแบบบัตรสมาร์ทการ์ดที่เก็บข้อมูลทั้งหมดไว้ แต่เมื่อประสบปัญหาเรื่องงบประมาณ ก็อาจจะต้องพิมพ์ประกาศลงบนกระดาษ เอ 4 มอบให้ไปก่อน เพราะหากจะไม่ออกใบอนุญาตให้เพราะไม่มีงบประมาณหรือรอจนได้รับเงินมาก็คงไม่ได้”
นายเสริมศักดิ์ กล่าวด้วยว่า ที่ประชุมได้หารือกันถึงครูในโรงเรียนสาธิต ซึ่งสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา(สกอ.) แต่มีภาระหน้าที่การสอนในระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน และการศึกษาภาคบังคับ ซึ่งที่ประชุมเห็นว่าครูในโรงเรียนสาธิต ควรยื่นขอใบอนุญาตใบประกอบวิชาชีพด้วย สำหรับโรงเรียนเอกชน 15(2)ที่เปิดสอนหลักสูตรระยะสั้น เดิมไม่บังคับให้มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพฯ แต่หากครูที่สอนอยู่ในโรงเรียนเอกชน 15(2) คนใด มีคุณสมบัติครบ ก็สามารถยื่นขอใบอนุญาตฯได้
นายเสริมศักดิ์ วิศาลาภรณ์ ประธานคณะกรรมการคุรุสภา เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการคุรุสภา ว่า สำนักงานเลขาธิการได้ออกข้อบังคับว่าด้วยใบอนุญาตประกอบวิชาชีพทางการศึกษา พ.ศ.2547 ซึ่งข้อบังคับดังกล่าวกำหนดให้ผู้ที่มีคุณสมบัติขอขึ้นทะเบียนรับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ ยื่นคำขอภายใน 120 วัน นับตั้งแต่วันที่ข้อบังคับนี้มีผลบังคับใช้ ซึ่งขณะนี้พ้นกำหนดระยะเวลาดังกล่าวแล้ว โดยมีครูยื่นขอใบอนุญาตทั้งสิ้น 511,920 ราย
ทั้งนี้ ยังมีครูที่ไม่ยื่นขอใบอนุญาตอีกกว่า 1 แสนราย โดยครูกลุ่มดังกล่าวอาจเกิดความเข้าใจผิดว่าจะได้รับใบอนุญาตโดยอัตโนมัติ จึงขอให้คณะอนุกรรมการคุรุสภาไปพิจารณาด้านกฎหมายว่าจะมีแนวทางในการช่วยเหลือครูเหล่านี้อย่างไรบ้าง ซึ่งอาจจะต้องออกข้อบังคับอนุโลมให้ยื่นขอรับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพได้หลังจากนี้
อย่างไรก็ตาม ปัญหาสำคัญของคุรุสภาขณะนี้คือ ยังไม่ได้รับการจัดสรรงบประมาณจากรัฐบาลในการออกใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู และไม่รู้ว่าจะได้รับการจัดสรรเมื่อไร ซึ่งคุรุสภาได้ของบไป 124 ล้านบาท แต่ถึงแม้จะไม่มีงบประมาณดังกล่าว ในเดือนหน้าก็ต้องประกาศให้ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครูแก่ครูที่มีคุณสมบัติครบ และได้รับการบรรจุเป็นข้าราชการครูก่อนวันที่ 12 มิ.ย.46 ประมาณ 10,000 รายก่อน
“แรกทีเดียวคุรุสภาจะดำเนินการออกใบอนุญาตฯ ในรูปแบบบัตรสมาร์ทการ์ดที่เก็บข้อมูลทั้งหมดไว้ แต่เมื่อประสบปัญหาเรื่องงบประมาณ ก็อาจจะต้องพิมพ์ประกาศลงบนกระดาษ เอ 4 มอบให้ไปก่อน เพราะหากจะไม่ออกใบอนุญาตให้เพราะไม่มีงบประมาณหรือรอจนได้รับเงินมาก็คงไม่ได้”
นายเสริมศักดิ์ กล่าวด้วยว่า ที่ประชุมได้หารือกันถึงครูในโรงเรียนสาธิต ซึ่งสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา(สกอ.) แต่มีภาระหน้าที่การสอนในระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน และการศึกษาภาคบังคับ ซึ่งที่ประชุมเห็นว่าครูในโรงเรียนสาธิต ควรยื่นขอใบอนุญาตใบประกอบวิชาชีพด้วย สำหรับโรงเรียนเอกชน 15(2)ที่เปิดสอนหลักสูตรระยะสั้น เดิมไม่บังคับให้มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพฯ แต่หากครูที่สอนอยู่ในโรงเรียนเอกชน 15(2) คนใด มีคุณสมบัติครบ ก็สามารถยื่นขอใบอนุญาตฯได้