xs
xsm
sm
md
lg

นโยบายลอจิสติกส์เหลว ชิบปิ้งแฉเงินใต้โต๊ะยังอยู่

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ชิปปิ้งแฉ โครงการ One Day Clearance เคลียร์สินค้าออกจากท่าเรือ ภายในวันเดียว เป็นแค่นโยบายสร้างภาพ-โฆษณาชวนเชื่อ ระบุ ยังต้องใช้เวลาหลายวันเหมือนเดิม เงินใต้โต๊ะยังมีเหมือนเดิม หากไม่จ่ายจะถูก "คว่ำตั๋ว" หรือไม่ได้รับบริการ สะท้อนนโยบายพัฒนาลอจิสติกส์ล้มเหลว

หลังจากที่กรมศุลกากร การท่าเรือแห่งประเทศไทย (กทท.) บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) และบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ได้ลงนามในบันทึกความร่วมมือโครงการ One Day Clearance ไปเมื่อวันที่ 21 สิงหาคม2547 โดยมีเป้าหมายเพื่อลดขั้นตอนด้านเอกสาร เวลา เพิ่มความรวดเร็ว ทันเวลา ถูกต้อง โปร่งใส อำนวยความสะดวกแก่ผู้นำเข้าและส่งออกให้สามารถรับสินค้าที่นำเข้าและส่งออกได้ภายใน 1 วันทำการ และเป้าหมายสำคัญคือเพื่อแก้ปัญหาเงินใต้โต๊ะที่กรมศุลกากรและการท่าเรือฯ ตามนโยบายเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศไทย ด้วยการพัฒนาระบบลอจิสติคส์ทางบก ทางน้ำ และทางอากาศ

แหล่งข่าวจาการท่าเรือแห่งประเทศไทย (กทท.) เปิดเผยว่า โครงการ One Day Clearance มีเป้าหมายเพื่อลดระยะเวลาของผู้นำเข้า-และส่งออก ที่ท่าเรือและขั้นตอนศุลกากร ซึ่งที่ท่าเรือ กำหนดให้จัดการตู้สินค้าไม่เกิน1 ชั่วโมง จากเดิมที่ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง ส่วนสินค้าทั่วไปให้เหลือ 1 ชั่วโมงครึ่งจากเดิมใช้เวลาประมาณ4 ชั่วโมง ส่วนขั้นตอนของศุลกากรนั้นให้เหลือ 4 ชั่วโมงจาก 7 ชั่วโมง

อย่างไรก็ตาม ผู้ประกอบการชิปปิ้งรายหนึ่งกล่าวว่า One Day Clearance เป็นเพียงโฆษณาชวนเชื่อ เท่านั้น เพราะที่กรมศุลกากรบอกว่าจะตรวจสินค้าใน 4 ชั่วโมง ในความเป็นจริง ใช้เวลามากกว่าครึ่งวัน ทำให้ไม่เหลือเวลาพอที่จะไปดำเนินการมนขั้นตอนอื่นๆ เพื่อนำตู้สินค้าออกจากท่าเรือภายในวันนั้น การนำสินค้าเข้าหรือออกจากท่าเรือ ยังคงต้องใช้เวลาอย่างน้อย 2-3 วัน เหมือนเดิม ในขณะที่ ค่าใช้จ่ายใต้โต๊ะก็ยังมีเหมือนเดิม

"ไม่จ่ายก็โยกโย้ ทำเป็นตรวจเข้ม ของมีปัญหาบ้าง โดยเฉพาะวันหยุด สินค้าจะมีปัญหามาก" ผู้ประกอบการายนี้กล่าว

***เงินใต้โต๊ะยังเหมือนเดิม

ผู้ประกอบการชิปปิ้งอีกรายหนึ่งกล่าวว่า เดิมกรมศุลกากรมีปัญหาเรื่องการตรวจรับสินค้าทั้งเข้า-ออก มีขั้นตอนซับซ้อน มีปัญหาเรียกเงินใต้โต๊ะซึ่งชิปปิ้งก็ต้องไปเรียกกับผู้นำเข้า-ส่งออก เมื่อนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องมีนโยบายปราบปรามเรื่องเงินใต้โต๊ะ จึงให้กรมศุลกากรปรับปรุงเงินที่จ่ายใต้โต๊ะให้มีใบเสร็จถูกต้อง ซึ่งจ่ายกันประมาณ 200 บาท

การปฎิบัติงานตามโครงการ One Day Clearance แต่ละขั้นตอน เจ้าหน้าที่จะต้องเซ็นรับในเอกสารการเคลียร์สินค้าและลงเวลาในการดำเนินงานขั้นตอนนั้นๆ แต่ในทางปฏิบัติทำไม่ได้เพราะขั้นตอนการนำเข้าส่งออกสินค้าแต่ละประเภทมีความยุ่งยาก มีเอกสารระเบียบเกี่ยวข้องมาก บางครั้งสินค้าหรือลูกค้าที่มาติดต่อมีปัญหาเจ้าหน้าที่ต้องอธิบาย ชี้แจง ขณะที่ความเป็นจริงเจ้าหน้าที่มีไม่เพียงพอ ส่วนการลงเวลาในแต่ละขั้นตอนนั้นเจ้าหน้าที่ไม่ได้ลงเวลาตรงกับที่ปฎิบัติจริง ส่วนใหญ่จะลงเวลาเร็วแต่ทำจริงช้ากว่ามาก

"ขณะนี้ผู้ใช้บริการที่กรมศุลกากรต้องรอสินค้าเหมือนเดิม และการจ่ายใต้โต๊ะขณะนี้กลับมาเหมือนเดิมและเงินที่จ่ายมากกว่าเดิมอีกด้วย คือเมื่อรัฐให้ดึงเงิน 200บาทที่เคยจ่ายกันใต้โต๊ะขึ้นมาข้างบนมีใบเสร็จ แต่ในความเป็นจริงเจ้าหน้าที่มีน้อยและรายได้ที่เคยได้กลับไม่ได้ และหากสินค้ามีปัญหาและผู้ติดต่อต้องการคำแนะนำจากเจ้าหน้าที่เพื่อแก้ไข เจ้าหน้าที่บางคนกลับพูดจาไม่ดีบางครั้งไล่ไปเลย "ผู้ประกอบการชิปปิ้งกล่าว

ผู้ประกอบการชิปปิ้งรายเดิมกล่าวถึงรายละเอียดการนำสินค้าผ่านเข้า-ออกว่า ขณะนี้นอกจากจ่ายค่าบริการปกติที่เรียกเก็บแล้วจะต้องเสียเงินใต้โต๊ะให้เจ้าหน้าที่เพิ่มอีก โดยไม่มีใบเสร็จ เช่น สินค้า LCLที่ไม่เป็นตู้ จะต้องผ่านเจ้าหน้าที่ประเมินประมาณ 500 บาท นายตรวจอีก 500 บาท สินค้าตู้สั้น (20 ฟุต) จ่ายเจ้าหน้าที่ประเมิน 800 บาท นายตรวจ 1,000 บาท สินค้าตู้ยาว(40 ฟุต) จ่ายเจ้าหน้าที่ประเมิน 800-1,000 บาท นายตรวจ 1,000-1,500 บาท ถ้าไม่จ่ายจะถูกคว่ำตั๋ว คือ เอกสารที่จะดำเนินการเกี่ยวกับสินค้านั้นจะไม่ได้รับการดำเนินการจากเจ้าหน้าที่เลย

"กรมศุลฯมีเวปไซต์ให้ร้องเรียนได้แต่ไม่มีใครกล้าเพราะกลัวเจ้าหน้าที่รู้ว่าใครร้องจะกลั่นแกล้ง คว่ำตั๋วไม่จัดการอะไรให้ สินค้าก็มีปัญหาเป็นลูกโซ่เสียหายหมด ส่วนใหญ่ก็ต้องยอมจ่ายเพื่อให้สินค้าผ่านไปเร็วที่สุด ธุรกิจไม่เสียหาย ก็ต้องไปเรียกเก็บจากลูกค้าเพิ่ม ต้นทุนสินค้าก็เพิ่ม ไม่อย่างนั้นก็ไม่ต้องทำมาหากินอะไรเพราะเจ้าหน้าที่จะไม่ทำเอกสารเลย วิธีการจ่ายเงินเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมที่เจ้าหน้าที่จะเปิดลิ้นชักให้ใส่เงินเลยแต่เดี๋ยวนี้ให้สอดเงินไว้ในเอกสารแล้วยื่นให้เจ้าหน้าที่ หากเอกสารใครไม่มีเงินสอดไว้ด้วย เอกสารก็ถูกวางเฉยๆ ปล่อยแช่ไว้ One Day Clearanceไว้ชาติหน้าคงได้ผล ตอนนี้เงินไม่มางานไม่เดิน"

ส่วนปัญหาในส่วนของท่าเรือ คือ เครื่องมือไม่เพียงพอ และการบริหารจัดการไม่ดี ส่วนเงินใต้โต๊ะมีบ้างแต่ไม่มากเหมือนส่วนของกรมศุลกากร ท่าเรือจะอยู่ประมาณ 20-50-100-150 บาท ต้องจ่ายทุกขั้นตอนที่ผ่าน ส่วนของกรมศุลกากร ประมาณการจากตู้สินค้าสั้น (20 ฟุต) ค่าใช้จ่ายที่มีใบเสร็จประมาณ 3,000 บาท และต้องจ่ายส่วนที่ไม่มีใบเสร็จอีก 1,500 บาท ครึ่งหนึ่งของค่าใช้จ่ายปกติ

"ตรงนี้ผู้ประกอบการทราบดีว่า เป็นค่าน้ำร้อน น้ำชา แต่เมื่อรัฐประกาศว่าจะไม่ให้มีก็ควรจะไม่มี" ผู้ประกอบการกล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น