xs
xsm
sm
md
lg

แผนแม่บทแก้ปัญหาน้ำ เน้น4มิติพ่วงแก้จน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เตรียมเสนอแผนแม่บท 5 ปีบริหารทรัพยากร 25 ลุ่มน้ำ เข้าครม.สัญจร ที่บุรีรัมย์ แบ่งปัญหา 4 มิติ การขาดแคลนน้ำ น้ำท่วม คุณภาพน้ำ และแก้ปัญหาความยากจน เผยจัดตั้ง “ธนาคารน้ำ”แก้ภัยแล้ง ทำระบบเตือนภัยวิกฤติน้ำ-น้ำท่วม 75 จังหวัด ระบุของบปี 49 แก้ทั้งระบบกว่า 8 หมื่นล้านบาท“พินิจ”ตั้งเป้าเพิ่มปริมาณน้ำ 58 ล้านไร่ใน 5 ปี

ในการประชุมวางแผนเกี่ยวกับการจัดการแหล่งน้ำทั้งระบบ เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาที่ทำเนียบรัฐบาล มีนายพินิจ จารุสมบัติ รองนายกรัฐมนตรีเป็นประธานฯ โดยร่วมประชุมกับนางสุดารัตน์ เกยุราพันธ์ รมว.เกษตรและสหกรณ์ นายยงยุทธ ติยะไพรัช รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมนั้น ในกระประชุมดังกล่าว นายยงยุทธ ได้เสนอร่างแผนแม่บทการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำอย่างเป็นระบบใน 25 ลุ่มน้ำแบบบูรณาการ ระหว่าง ปี 2549-2552 ตามแผนยุทธศาสตร์ของรัฐบาล ซึ่งจัดทำโดยกรมทรัพยากรน้ำ กระทรวงทรัพยากรฯ และกรมชลประทาน กระทรวงเกษตรฯ ซึ่งที่ประชุม ได้กำหนดให้ทั้ง 2 หน่วยงานเป็นเจ้าภาพในการทำยุทธศาสตร์ 25 ลุ่มน้ำ โดยเสนอเป็นแนวทางการพัฒนา นิเวศป่า นิเวศเกษตร นิเวศชุมชน และนิเวศป่าชายเลน

ทั้งนี้มีเป้าประสงค์เชิงยุทธศาสตร์ ตามแผนการบริหารราชการแผ่นดิน ประกอบด้วย 1.การบริหารจัดการน้ำ เพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหา ใน 4 มิติ ประกอบด้วย ยุทธศาสตร์จำนวนน้ำที่ขาดแคลน ,ยุทธศาสตร์น้ำท่วม ,ยุทธศาสตร์คุณภาพน้ำ และยุทธศาสตร์การแก้ไขปัญหาความยากจน โดยการมีส่วนร่วมของชุมชน ท้องถิ่นและภาคเอกชน

2.ประเด็นยุทธศาสตร์หลัก 3 มิติ ประกอบด้วย การป้องกันและแก้ปัญหาน้ำขาดแคลน ภัยแล้งและความยากจน ,การป้องกันและแก้ไขปัญหาน้ำท่วม น้ำหลาก-ดินถล่ม และการป้องกันและแก้ไขปัญหาน้ำเสีย

นอกจากนั้น ในร่างแผนแม่บทฯ ยังกำหนดถึงกรอบแนวคิดหลัก ในการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำอย่างเป็นระบบใน 25 ลุ่มน้ำแบบบูรณาการเพื่อแก้ไขปัญหาทั้ง 4 มิติ ประกอบด้วย กำหนดความต้องการใช้น้ำที่เหมาะสม เพิ่มแหล่งน้ำและกระจายน้ำ ผันน้ำไปสู่ที่ที่ขาดแคลนน้ำ นำน้ำบาดาลมาสนับสนุน ใช้ประโยชน์จากพื้นที่ชุ่มน้ำขนาดใหญ่เป็นแก้มลิง ฝากน้ำไว้ในฤดูฝนแก้น้ำท่วม เป็นธนาคารน้ำในฤดูแล้งแก้ภัยแล้ง รักษาระบบนิเวศน์น้ำกร่อยซึ่งเป็นพื้นที่อุดมสมบูรณ์ที่สุด มีระบบเตือนภัยน้ำท่วมซ้ำซาก น้ำหลากดินถล่ม และประชาชนนักเรียนนักศึกษามีส่วนช่วยในการเฝ้าระวังคุณภาพน้ำ

สำหรับมาตรการตามร่างการบริหารจัดการน้ำอย่างเป็นระบบ(25 ลุ่มน้ำแบบบูรณาการ)นั้น ประกอบด้วย การวางแผนลุ่มน้ำแบบบูรณาการ โดยการมีส่วนร่วมของชุมชนท้องถิ่น และภาคประชาชน 25 ลุ่มน้ำ และมีการวางแผนแม่บทการบริหารจัดการน้ำของประเทศระยะ 20 ปี จะมีการประเมินผลการจัดการน้ำอย่างเป็นระบบใน 4 ลุ่มน้ำ แรกประกอบด้วย ลุ่มน้ำปิง ลุ่มน้ำมูล ลุมน้ำโขง และลุ่มน้ำเจ้าพระยาตอนล่าง จะมีการพัฒนาแหล่งน้ำให้ประชาชนมีน้ำเพื่อประกอบอาชีพ เพื่อการอุปโภคบริโภค และเพื่อแก้ปัญหาภัยแล้ง โดยกรมทรัยากรน้ำ จะร่วมกับกองทัพบก พัฒนาแหล่งน้ำผิวดิน และแหล่งน้ำบาดาล เพื่อจัดทำระบบประปาให้ชุมชนที่ยังไม่มีน้ำสะอาดใช้

ทั้งนี้ กรมชลประทาน ยังจะจัดทำโครงการพัฒนาแหล่งน้ำเพิ่มขึ้นอีก 5,212 ล้านลูกบาศก์เมตร โดยจะพัฒนาแหล่งน้ำประปาหมู่บ้านขนาด 20,000 ลูกบาศก์เมตร 7,111 แห่ง พัฒนาแหล่งน้ำชุมชน/ชนบท 1,767 แห่ง พัฒนาโครงการชลประทานขนาดกลาง 216 แห่ง และโครงการชลประทานขนาดใหญ่ 8 โครงการ

นอกจากนั้นจะมีระบบเตือนภัยน้ำบาดาล 100 สถานี และทดลองโครงการเติมน้ำบาดาลด้วยน้ำฝน 5 ลุ่มน้ำ รวมทั้งการแก้ปัญหาน้ำท่วมซ้ำซากที่มีผลกระทบต่อชุมชนในแต่ละลุ่มน้ำ พื้นที่ชุมชนที่วิกฤติมากที่สุด 46 พื้นที่ พื้นที่ชุมชนที่วิกฤติ-วิกฤติมาก 77 พื้นที่ จะมีระบบพยากรณ์และเตือนภัยและระบบคาดการณ์น้ำท่วมใน 75 จังหวัด

“จะมีการจัดทำฝายแม้ว เพื่อชะลอน้ำ เสริมความชุมชื้น และดักตะกอนโดยการมีส่วนร่วมของประชาชน ในพื้นที่อุทยานและป่าไม้ 4 หมื่นแห่ง ก่อสร้างฝายและฝายยางในลุ่มน้ำสาขา เพื่อยกระดับน้ำให้สูง และกระจายไปเก็บในแก้มลิง แหล่งน้ำสาธารณะ จำนวน 4,300 แห่ง (กว้าง 6-12 เมตร สูง 1-1.5 เมตร) โดยจะลดการใช้พลังงานกระจายน้ำไปสู่ไร่นา และจะมีการประเมินความปลอดภัยของเขื่อน และอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ ปรับปรุงระบบน้ำเสีย 15 แห่ง และปรับปรุงประสิทธิภาพการใช้น้ำเพื่อการเกษตรกรรม พื้นที่ชลประทาน ลดการใช้น้ำเหลือ 1,421 ลูกบาศก์เมตร/ไร่/ปี พื้นที่เกษตรกรรมนอกเขตชลประทาน ลดการใช้น้ำเหลือ 618
ลูกบาศก์เมตร/ไร่/ปี”รายงานระบุ

สำหรับแผนงบประมาณในเชิงบูรณาการ การบริหารจัดการน้ำทั้งระบบใน ปี 2549 ที่จะต้องมาตรวจสอบกับมาตรการที่ระบุไว้ข้างต้นนั้น ประกอบด้วย งบประมาณส่วนกลาง 6 กระทรวง 12 กรม 1 รัฐวิสาหดิจ ใช้จ่ายในด้านการบริหารจัดการ 101 โครงการ จำนวน 2,021 ล้านบาท ด้านการจัดหาพัฒนา 1,318 โครงการ จำนวน 20,066 ล้านบาท ด้านเพิ่มประสิทธิภาพ 2,381 โครงการ จำนวน 27,059 ล้านบาท รวม 3,800 โครงการ จำนวน 49,146 ล้านบาท สำหรับงบประมาณต่อมาตรการของกรรมการลุ่มน้ำ 25 ลุ่มน้ำ และจังหวัด ประกอบด้วย ด้านการบริหารจัดการ 34 โครงการ จำนวน 169 ล้านบาท ด้านการจัดหาพัฒนา 1,176 โครงการ จำนวน 15,505 ล้านบาท ด้านการเพิ่มประสิทธิภาพ 1,725 โครงการ จำนวน 18,180 ล้านบาท รวม 2,935 โครงการ จำนวน 33,854 ล้านบาท

นายพินิจ กล่าวว่า ร่างดังกล่าวจะมีการนำไปปรับปรุงบางส่วนในเรื่องของการกระจายตัวของน้ำ เพื่อความเหมาะสม ก่อนที่จะเสนอต่อคณะรัฐมนตรี ในการประชุมนอกสถานที่ ที่ จ.บุรีรัมย์ ในวันที่ 17 พ.ค.นี้

อย่างไรก็ตาม ในส่วนของภาคประชาชนที่เข้ามามีส่วนร่วมกับรัฐบาลในคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำอย่างเป็นระบบ 25 ลุ่มน้ำ ในระดับจังหวัดนั้น ตนเห็นว่า บางแห่งมีการเสนอพัฒนาเฉพาะลุ่มน้ำขนาดเล็กหรือลุ่มน้ำรอง ซึ่งจะมีการนำมาร่วมกับแผนใหญ่อีกครั้ง

นายพินิจ กล่าวว่า เป้าหมายการเพิ่มปริมาณน้ำ และแหล่งน้ำที่จะช่วยประชาชนในแผน 5 ปีนั้น จากจำนวนปริมาณพื้นที่การเกษตรทั่วประเทศ 131 ล้านไร่ มีเกษตรกรถือครองทำการเกษตรโดยประมาณ 5.8 ล้านครัวเรือนที่ได้รับการช่วยเหลือแล้ว 3.7 ล้านครัวเรือน แบ่งเป็นพื้นที่ที่มีศักยภาพ 58 ล้านไร่ ที่สามารถดำเนินการสมบูรณ์ไปแล้ว 22.87 ล้านไร่ เหลือ 25 ล้านไร่ ดำเนินการกึ่งสมบูรณ์ และ 9.9 ล้านไร่ที่เป็นลุ่มน้ำขนาดเล็ก เป็นพื้นที่ที่ยังไม่ได้ดำเนินการ นอกจากนั้นยังแบ่งเป็นพื้นที่ที่ไม่มีศักยภาพอีก 73 ล้านไร่

ด้านนายยงยุทธ กล่าวว่า ตนจะทำการประชุมเพื่อหาตัวเลขความต้องการและข้อเท็จจริงให้สอดคล้องกับสภาพลุ่มน้ำ โดยจัดลำดับความสำคัญของ 25 ลุ่มน้ำก่อนเสนอที่ประชุมใหญ่ในการจัดวางแผนน้ำฯ หลังช่วงเทศกาลสงกรานต์ ทั้งนี้ที่ประชุมยังมีการพิจารณากรณีของการผันน้ำที่มีระดับความสูง เช่น ในส่วนของลุ่มน้ำปิงตอนบน จะสามารถแก้ปัญหาการขาดแคลนน้ำท่าประปาเมืองเชียงใหม่และนิคมอุตสาหกรรมลำพูน ที่ปัจจุบันขาดน้ำ 136 ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งอนาคตคาดว่าจะขาดน้ำเพิ่มเป็น 173 ล้านลูกบาศก์เมตร โดยแนวทางแก้ไข จะมีการดำเนินการโครงการเพิ่มปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำ เขื่อนแม่กวงอุดรธารา จ.เชียงใหม่ โดยเป็นการก่อสร้างอุโมงค์ส่งน้ำแม่งัด-แม่กวง ระยะทาง 20.93 กิโลเมตรใช้ระยะเวลาก่อสร้าง 4 ปีงบประมาณคาดการณ์ในปี 2544 ไว้ที่ 2,353 ล้านบาท

นอกจากนั้นยังจะมีโครงการแก้ปัญหาการขาดแคลนน้ำในพื้นที่ชายฝั่งทะเลภาคตะวันออก ในโครงการไฟฟ้าพลังงานน้ำผัน น้ำสตึงนัม-ตราด-ระยอง ระยะทาง 200 กิโลเมตร ที่จะสามารถเพิ่มปริมาณน้ำได้ 400-700 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อปี
กำลังโหลดความคิดเห็น