นายบุญถึง ผลพานิชย์ ที่ปรึกษารมว.คลัง แกนนำกลุ่มวังน้ำเย็น กล่าวถึงกรณี นายวิชิต ปลั่งศรีสกุล คณะทำงานฝ่ายกฎหมายพรรคไทยรักไทย จะล่ารายชื่อส.ส.เพื่อขับ นายประมวล รุจนเสรี ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ พรรคไทยรักไทย ออกจากพรรค หลังออกหนังสือ “การใช้อำนาจ เป็นธรรมชาติของมนุษย์” ที่มีเนื้อหาพาดพิงพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคไทยรักไทย ว่า ได้สอบถามนายวิชิตแล้ว ยืนยันว่า ยังไม่มีการล่ารายชื่อแต่อย่างใด และตนก็ได้นัดนายวิชิต กินข้าวด้วยกันที่กระทรวงการคลัง (4เม.ย.)
“เราคงไม่เอาประเด็นของท่านประมวลมาเป็นประเด็นของกลุ่ม ท่านทำด้วยความรู้สึกของท่านเอง หนังสือเล่มนี้ไม่เกี่ยวอะไรกับวังน้ำเย็น คนทั้งกลุ่มคงไม่เข้าไปร่วมด้วย ผมคุยกับท่าน เสนาะ(เทียนทอง) ท่านก็ยังบอกว่าเป็นความเห็นส่วนตัวของท่านประมวล ไม่ใช่เรื่องของวังน้ำเย็น เชื่อว่าท่านเสนาะ คงจะคุยกับหัวหน้าพรรค เพื่อให้รู้ที่มาที่ไป และพยายามทำความเข้าใจกัน ส่วนวังน้ำเย็น คงไม่เข้าไปแสดงความเห็นตรงนี้”นายบุญถึง กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า กลัวจะถูกมองว่าเป็นการลอยแพนายประมวลหรือไม่ นายบุญถึง กล่าวว่า ไม่ได้เป็นการลอยแพ เพราะวังน้ำเย็นไม่ได้ไปขอให้ทำเรื่องนี้ ไม่ใช่มติของกลุ่ม การที่กลุ่มไม่ได้ไปร่วมด้วย ก็ไม่ได้หมายความว่าลอยแพ แต่ทางกลุ่มอาจหาทางประนีประนอมให้
นายกิตติศักดิ์ หัตถสงเคราะห์ ส.ส.หนองบัวลำภู พรรคไทยรักไทย แกนนำกลุ่มวังน้ำเย็น กล่าวว่า เรื่องที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องเล็กน้อย เหมือนลิ้นกับฟัน ไม่ได้รุนแรงอะไร แต่กลับมีการนำมาขยายผลให้ใหญ่โตถึงขั้นจะขับนายประมวลออกจากพรรค ส่วนตัวเห็นว่าเป็นความต้องการแสดงบทบาทอะไรบางอย่างของบางคน อย่างเจตนาของนายวิชิต ที่ออกมาทำเรื่องนี้ก็แค่ต้องการอวดภูมิความรู้ด้านกฎหมาย เชื่อว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่ได้สั่งการลงมา แต่ดำเนินการกันเอง ท้ายที่สุดนายกฯ ก็คงต้องขอให้ยุติ ส่วนความสัมพันธ์ระหว่าง นายเสนาะ เทียนทอง ประธานที่ปรึกษาพรรคไทยรักไทย หัวหน้ากลุ่มวังน้ำเย็น กับ พ.ต.ท.ทักษิณ นั้น คงไม่มีอะไรที่เป็นปัญหา เพราะขณะนี้ได้คุยกันไปบ้างแล้ว การเมืองก็เป็นแบบนี้ ต้องอาศัยความรอบคอบ สำหรับตำแหน่งประธานคณะกรรมาธิการที่พรรคไทยรักไทยได้สัดส่วน 23 ที่นั่งนั้น ต้องรออีก 1-2 สัปดาห์ จึงจะชัดเจนว่าจะมีใครไปดำรงตำแหน่งบ้าง แต่เบื้องต้นทราบว่ากลุ่มวังน้ำเย็น จะได้ตำแหน่งประธานกรรมาธิการ 5-6 ที่นั่ง
**“วิชิต”จ๋อยฝ่ายกฎหมายชิ่งหนีเกมล่าชื่อ
นายสามารถ แก้วมีชัย ส.ส.เชียงราย กลุ่มวังน้ำยม พรรคไทยรักไทย คณะทำงานฝ่ายกฎหมายพรรคไทยรักไทย กล่าวถึงกรณีนายวิชิต เตรียมเสนอให้คณะกรรมการจริยธรรมของพรรคตรวจสอบ นายประมวล ว่า ตนโทรศัพท์สอบถามนายวิชิต เกี่ยวกับความเป็นมาของเรื่องนี้ โดยนายวิชิต ชี้แจงว่า ขณะนี้ยังไม่ได้ส่งเรื่อง หรือรวบรวมรายชื่อส.ส.ทั้ง 20 คน ขับไล่นายประมวล และยังอ้างว่า ที่เป็นเรื่องขึ้น เพราะสื่อมวลชนมาถามความคิดเห็นเรื่องหนังสือของนายประมวลเอง จึงตอบไปตามข้อบังคับของพรรคเท่านั้นเอง ไม่ได้รับลูกจากผู้ใหญ่ในพรรคคนใดเพื่อเอาใจนายกฯ ส่วนตัวในฐานะคณะทำงานฝ่ายกฎหมายของพรรค ยืนยันว่าการเคลื่อนไหวของนายวิชิต ไม่เกี่ยวข้องกับทีมกฎหมายใดๆทั้งสิ้น และก็ไม่ได้มีส่วนรู้เห็นกับการล่ารายชื่อด้วย โดยล่าสุดตรวจสอบแล้วก็ไม่พบว่ามีส.ส.พรรคไทยรักไทยคนใดร่วมลงชื่อขับไล่นายประมวล
ด้านนายประมวล รุจนเสรี ส.ส.บัญชีรายชื่อ แกนนำกลุ่มวังน้ำเย็น พรรคไทยรักไทย ให้สัมภาษณ์ด้วยน้ำเสียงหงุดหงิดว่า “ไม่น่ามีอะไรแล้วนี่ แต่ถึงมีผมก็ไม่กลัวอยู่แล้ว รู้จักคนอย่างประมวลน้อยไป ให้ไปถามอีกฝ่ายจะดีกว่า เห็นกำลังรนๆอยู่ ผมอยู่ของผมเฉยๆ”นายประมวล กล่าว
**วังน้ำยมตามบี้ทุจริตคอมพ์สธ.
นายโสภณ เพชรสว่าง ส.ส.บุรีรัมย์ กลุ่มวังน้ำยม พรรคไทยรักไทย ที่ปรึกษานายกฯ กล่าวถึงความคืบหน้าในการตรวจสอบความไม่โปร่งใสในการประมูลคอมพิวเตอร์ 900 ล้านบาท ของกระทรวงสาธารณสุข สมัยที่นางสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ เป็นรมว.สาธารณสุข ว่า ตนกำลังติดต่อกับน.พ.วัลลภ ไทยเหนือ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ อดีตปลัดกระทรวงสาธารณสุข เพื่อขอรายละเอียดโครงการดังกล่าวมาประกอบการตรวจสอบของกลุ่มประชาธิปไตยใสสะอาด ที่มีตนเป็นประธาน ล่าสุดได้เชิญนักวิชาการ และผู้เชี่ยวชาญจากจุฬาฯ มาเป็นคณะกรรมการตรวจสอบเรื่องนี้โดยตรง ซึ่งมี พล.อ.จรัล กุลละวณิชย์ อดีตเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติมาร่วมตรวจสอบเรื่องนี้ด้วย โดยนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา กำชับว่า ให้ดำเนินการอย่างจริงจัง และยังให้ตรวจสอบการทุจริตโครงการลำไยอบแห้งอย่างต่อเนื่อง โดยตนกำลังทำเรื่องขอเอกสารข้อมูลจาก อ.ต.ก. ซึ่งเมื่อไรที่การแต่งตั้งประธานคณะกรรมาธิการสามัญ สภาผู้แทนราษฎร เสร็จสิ้น ตนจะนำเรื่องเข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมาธิการป้องกัน และปราบปรามการทุริต สภาผู้แทนราษฎร เพราะคณะกรรมาธิการมีอำนาจขอเอกสารเพิ่มเติมได้ หากมีข้อสงสัยในประเด็นใดๆ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสำหรับพล.อ.จรัล เป็นน้องชาย พล.อ.พิจิตร กุลละวณิชย์ องคมนตรี โดยมีรายงานว่านับตั้งแต่นายโสภณ ประกาศตั้งคณะกรรมการประชาธิปไตยใสสะอาด เพื่อตรวจสอบเรื่องการทุจริตคอร์รัปชัน พล.อ.จรัล ได้โทรศัพท์ติดต่อมายังนายโสภณ เพื่อให้การสนับสนุนการตั้งคณะกรรมการชุดดังกล่าวด้วยตัวเอง
“เราคงไม่เอาประเด็นของท่านประมวลมาเป็นประเด็นของกลุ่ม ท่านทำด้วยความรู้สึกของท่านเอง หนังสือเล่มนี้ไม่เกี่ยวอะไรกับวังน้ำเย็น คนทั้งกลุ่มคงไม่เข้าไปร่วมด้วย ผมคุยกับท่าน เสนาะ(เทียนทอง) ท่านก็ยังบอกว่าเป็นความเห็นส่วนตัวของท่านประมวล ไม่ใช่เรื่องของวังน้ำเย็น เชื่อว่าท่านเสนาะ คงจะคุยกับหัวหน้าพรรค เพื่อให้รู้ที่มาที่ไป และพยายามทำความเข้าใจกัน ส่วนวังน้ำเย็น คงไม่เข้าไปแสดงความเห็นตรงนี้”นายบุญถึง กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า กลัวจะถูกมองว่าเป็นการลอยแพนายประมวลหรือไม่ นายบุญถึง กล่าวว่า ไม่ได้เป็นการลอยแพ เพราะวังน้ำเย็นไม่ได้ไปขอให้ทำเรื่องนี้ ไม่ใช่มติของกลุ่ม การที่กลุ่มไม่ได้ไปร่วมด้วย ก็ไม่ได้หมายความว่าลอยแพ แต่ทางกลุ่มอาจหาทางประนีประนอมให้
นายกิตติศักดิ์ หัตถสงเคราะห์ ส.ส.หนองบัวลำภู พรรคไทยรักไทย แกนนำกลุ่มวังน้ำเย็น กล่าวว่า เรื่องที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องเล็กน้อย เหมือนลิ้นกับฟัน ไม่ได้รุนแรงอะไร แต่กลับมีการนำมาขยายผลให้ใหญ่โตถึงขั้นจะขับนายประมวลออกจากพรรค ส่วนตัวเห็นว่าเป็นความต้องการแสดงบทบาทอะไรบางอย่างของบางคน อย่างเจตนาของนายวิชิต ที่ออกมาทำเรื่องนี้ก็แค่ต้องการอวดภูมิความรู้ด้านกฎหมาย เชื่อว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่ได้สั่งการลงมา แต่ดำเนินการกันเอง ท้ายที่สุดนายกฯ ก็คงต้องขอให้ยุติ ส่วนความสัมพันธ์ระหว่าง นายเสนาะ เทียนทอง ประธานที่ปรึกษาพรรคไทยรักไทย หัวหน้ากลุ่มวังน้ำเย็น กับ พ.ต.ท.ทักษิณ นั้น คงไม่มีอะไรที่เป็นปัญหา เพราะขณะนี้ได้คุยกันไปบ้างแล้ว การเมืองก็เป็นแบบนี้ ต้องอาศัยความรอบคอบ สำหรับตำแหน่งประธานคณะกรรมาธิการที่พรรคไทยรักไทยได้สัดส่วน 23 ที่นั่งนั้น ต้องรออีก 1-2 สัปดาห์ จึงจะชัดเจนว่าจะมีใครไปดำรงตำแหน่งบ้าง แต่เบื้องต้นทราบว่ากลุ่มวังน้ำเย็น จะได้ตำแหน่งประธานกรรมาธิการ 5-6 ที่นั่ง
**“วิชิต”จ๋อยฝ่ายกฎหมายชิ่งหนีเกมล่าชื่อ
นายสามารถ แก้วมีชัย ส.ส.เชียงราย กลุ่มวังน้ำยม พรรคไทยรักไทย คณะทำงานฝ่ายกฎหมายพรรคไทยรักไทย กล่าวถึงกรณีนายวิชิต เตรียมเสนอให้คณะกรรมการจริยธรรมของพรรคตรวจสอบ นายประมวล ว่า ตนโทรศัพท์สอบถามนายวิชิต เกี่ยวกับความเป็นมาของเรื่องนี้ โดยนายวิชิต ชี้แจงว่า ขณะนี้ยังไม่ได้ส่งเรื่อง หรือรวบรวมรายชื่อส.ส.ทั้ง 20 คน ขับไล่นายประมวล และยังอ้างว่า ที่เป็นเรื่องขึ้น เพราะสื่อมวลชนมาถามความคิดเห็นเรื่องหนังสือของนายประมวลเอง จึงตอบไปตามข้อบังคับของพรรคเท่านั้นเอง ไม่ได้รับลูกจากผู้ใหญ่ในพรรคคนใดเพื่อเอาใจนายกฯ ส่วนตัวในฐานะคณะทำงานฝ่ายกฎหมายของพรรค ยืนยันว่าการเคลื่อนไหวของนายวิชิต ไม่เกี่ยวข้องกับทีมกฎหมายใดๆทั้งสิ้น และก็ไม่ได้มีส่วนรู้เห็นกับการล่ารายชื่อด้วย โดยล่าสุดตรวจสอบแล้วก็ไม่พบว่ามีส.ส.พรรคไทยรักไทยคนใดร่วมลงชื่อขับไล่นายประมวล
ด้านนายประมวล รุจนเสรี ส.ส.บัญชีรายชื่อ แกนนำกลุ่มวังน้ำเย็น พรรคไทยรักไทย ให้สัมภาษณ์ด้วยน้ำเสียงหงุดหงิดว่า “ไม่น่ามีอะไรแล้วนี่ แต่ถึงมีผมก็ไม่กลัวอยู่แล้ว รู้จักคนอย่างประมวลน้อยไป ให้ไปถามอีกฝ่ายจะดีกว่า เห็นกำลังรนๆอยู่ ผมอยู่ของผมเฉยๆ”นายประมวล กล่าว
**วังน้ำยมตามบี้ทุจริตคอมพ์สธ.
นายโสภณ เพชรสว่าง ส.ส.บุรีรัมย์ กลุ่มวังน้ำยม พรรคไทยรักไทย ที่ปรึกษานายกฯ กล่าวถึงความคืบหน้าในการตรวจสอบความไม่โปร่งใสในการประมูลคอมพิวเตอร์ 900 ล้านบาท ของกระทรวงสาธารณสุข สมัยที่นางสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ เป็นรมว.สาธารณสุข ว่า ตนกำลังติดต่อกับน.พ.วัลลภ ไทยเหนือ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ อดีตปลัดกระทรวงสาธารณสุข เพื่อขอรายละเอียดโครงการดังกล่าวมาประกอบการตรวจสอบของกลุ่มประชาธิปไตยใสสะอาด ที่มีตนเป็นประธาน ล่าสุดได้เชิญนักวิชาการ และผู้เชี่ยวชาญจากจุฬาฯ มาเป็นคณะกรรมการตรวจสอบเรื่องนี้โดยตรง ซึ่งมี พล.อ.จรัล กุลละวณิชย์ อดีตเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติมาร่วมตรวจสอบเรื่องนี้ด้วย โดยนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา กำชับว่า ให้ดำเนินการอย่างจริงจัง และยังให้ตรวจสอบการทุจริตโครงการลำไยอบแห้งอย่างต่อเนื่อง โดยตนกำลังทำเรื่องขอเอกสารข้อมูลจาก อ.ต.ก. ซึ่งเมื่อไรที่การแต่งตั้งประธานคณะกรรมาธิการสามัญ สภาผู้แทนราษฎร เสร็จสิ้น ตนจะนำเรื่องเข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมาธิการป้องกัน และปราบปรามการทุริต สภาผู้แทนราษฎร เพราะคณะกรรมาธิการมีอำนาจขอเอกสารเพิ่มเติมได้ หากมีข้อสงสัยในประเด็นใดๆ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสำหรับพล.อ.จรัล เป็นน้องชาย พล.อ.พิจิตร กุลละวณิชย์ องคมนตรี โดยมีรายงานว่านับตั้งแต่นายโสภณ ประกาศตั้งคณะกรรมการประชาธิปไตยใสสะอาด เพื่อตรวจสอบเรื่องการทุจริตคอร์รัปชัน พล.อ.จรัล ได้โทรศัพท์ติดต่อมายังนายโสภณ เพื่อให้การสนับสนุนการตั้งคณะกรรมการชุดดังกล่าวด้วยตัวเอง