วอลสตรีท อินเตอร์เนชั่นแนลเผยทิศทางธุรกิจหลังเปลี่ยนมือผู้ร่วมทุนเป็นบริษัทคาลลายกรุ๊ปและซิตี้กรุ๊ป เชื่อทำให้การขยายสาขาเร็วและระบบการเรียนการสอนดีขึ้น มั่นใจพาวอลสตรีทก้าวไปสู่ผู้นำตลาดสอนภาษาได้แน่ พร้อมตั้งเป้ายอดรายได้รวมทั่วโลกปีนี้โตกว่า 20% ด้านวอลสตรีทไทยเตรียมเปิดสาขา 3 ที่ยูเนี่ยนมอลล์ในเดือนต.ค.นี้
นายทิมโมที แดเนียลส์ ผู้บริหารระดับสูงสถาบันสอนภาษาอังกฤษวอลสตรีท อินเตอร์เนชั่นแนล เปิดเผยว่า ทิศทางการดำเนินธุรกิจของวอลสตรีทหลังจากบริษัทตราสารทุนเอกชนข้ามชาติ “คาลลาย กรุ๊ป” และบริษัทซิตี้กรุ๊ป ไพรเวท อีคิวตี้ ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของซิตี้กรุ๊ป อิงค์ ได้ประกาศซื้อวอลสตรีทจาก ลอเรเอท เอ็ดดูเคชั่น ซึ่งในอดีตประกอบการภายใต้ชื่อซิลเวน เลิร์นนิ่ง ซิสเต็มส์ เมื่อวันที่ 28 ก.พ.ที่ผ่านมา และเริ่มดำเนินการในเดือนมีนาคมนี้
การควบรวมกิจการในครั้งนี้จะช่วยให้วอลสตรีทเติบโตขึ้นได้ในระยะยาว จากการที่บริษัทคาลลายกรุ๊ปมีเงินทุนมาก เครือข่ายมีอยู่ทั่วโลก และมีอินโนเวชั่นที่ทันสมัย ซึ่งจะเป็นการช่วยสนับสนุนให้วอลสตรีทสามารถขยายกิจการได้อย่างรวดเร็ว และเพิ่มยอดรายได้ให้มากขึ้น อีกทั้งยังเป็นการเพิ่มศักยภาพระบบการเรียนการสอนให้ดียิ่งขึ้น เพื่อให้เป็นไปตามเป้าหมายของวอลสตรีทที่ต้องการเป็นผู้นำในสถาบันสอนภาษาในอนาคต
ปัจจุบันวอลสตรีททั่วโลกมีจำนวนสาขา 350 แห่งใน24ประเทศ โดยภายใน 1 ปีจะเปิดสาขาประมาณ 30-50แห่ง ส่วนจำนวนนักเรียนที่ลงทะเบียนทั่วโลกมีประมาณ 134,000 คน
ขณะที่ตลาดรวมของสถาบันสอนภาษาทั่วโลกปีที่แล้วมียอดรายได้ 5 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ วอลสตรีทมียอดรายได้ 200 ล้านเหรียญสหรัฐ และมีอัตราการเติบโต 17% แบ่งเป็นสัดส่วนรายได้จากยุโรป 65% ตลาดเอเชีย 25% และอื่นๆ 10% ซึ่งปีที่ผ่านมาตลาดเอเชียมีอัตราการเติบโตสูงสุด คือ 40% และยุโรปโต 10% ส่วนในปีนี้ตั้งเป้ายอดรายได้รวมทั่วโลกโตกว่า 20%
เตรียมเปิดวอลสตรีท3ที่ยูเนี่ยนมอลล์
ด้านนายมิเชล เลอ เคอเลค ผู้อำนวยการสถาบันสอนภาษาอังกฤษวอลสตรีท ประเทศไทย กล่าวว่า ปัจจุบันวอลสตรีทในไทยมีจำนวนสาขา 2 แห่ง คือที่สีลมและสุขุมวิท ซ.23 โดยในช่วงเดือนตุลาคมนี้เตรียมเปิดสาขา 3 ที่ยูเนี่ยนมอลล์ ลาดพร้าว เพื่อรองรับกับความต้องการของตลาดที่มีกำลังเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
ด้านหลักสูตรใหม่ที่จะนำมาใช้ในวอลสตรีทไทยจะเป็นคอร์สเรียนภาษาอังกฤษได้ทุกที่ทางอินเทอร์เน็ต ซึ่งไทยเป็นประเทศที่ 4 ที่ใช้ต่อจาก เยอรมัน,โปรตุเกสและอาร์เจนติน่า ขณะที่ราคาค่าเรียนเฉลี่ยของวอลสตรีทประมาณ 10,000 บาทต่อคอร์ส
ในปีนี้วอลสตรีทตั้งงบทางการตลาดไว้ 8-12% ของยอดรายได้ โดยจะใช้สื่อโฆษณาผ่านทางสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส, สื่อสิ่งพิมพ์, จับมือกับรายการทีวี เป็นต้น ซึ่งจากการจัดกิจกรรมทางการตลาดของวอลสตรีทที่ผ่านมาส่งผลให้มีผู้ที่สนใจมาเรียนเพิ่มขึ้น
ปัจจุบันวอลสตรีทไทยมีจำนวนผู้เรียนประมาณ 2,500 คน แบ่งเป็นอายุ 20-28 ปี 65% อายุ 16-20 ปี 20% และกลุ่มแม่บ้าน 15% ขณะที่ลูกค้ากลุ่มองค์กรมีจำนวนประมาณ 300 คน หรือ คิดเป็น 10% และคาดว่าภายใน 2 ปีจะเพิ่มสัดส่วนเป็น 30% ซึ่งลูกค้าองค์กรที่มาเรียนกับวอลสตรีท อาทิ กลุ่มโรงพยาบาล, ธนาคารไทยพาณิชย์ เป็นต้น
ล่าสุดไทยได้รับเกียรติให้เป็นเจ้าภาพในการประชุมระดับภูมิภาคเอเชียของวอลสตรีท โดยมีประเทศต่างๆเข้าร่วมประชุม เช่น สิงคโปร์,จีน,ฮ่องกง,ไต้หวัน,ญี่ปุ่นและไทย ซึ่งวาระการประชุมจะเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับทิศทางของวอลสตรีทหลังการควบกิจการ
นายทิมโมที แดเนียลส์ ผู้บริหารระดับสูงสถาบันสอนภาษาอังกฤษวอลสตรีท อินเตอร์เนชั่นแนล เปิดเผยว่า ทิศทางการดำเนินธุรกิจของวอลสตรีทหลังจากบริษัทตราสารทุนเอกชนข้ามชาติ “คาลลาย กรุ๊ป” และบริษัทซิตี้กรุ๊ป ไพรเวท อีคิวตี้ ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของซิตี้กรุ๊ป อิงค์ ได้ประกาศซื้อวอลสตรีทจาก ลอเรเอท เอ็ดดูเคชั่น ซึ่งในอดีตประกอบการภายใต้ชื่อซิลเวน เลิร์นนิ่ง ซิสเต็มส์ เมื่อวันที่ 28 ก.พ.ที่ผ่านมา และเริ่มดำเนินการในเดือนมีนาคมนี้
การควบรวมกิจการในครั้งนี้จะช่วยให้วอลสตรีทเติบโตขึ้นได้ในระยะยาว จากการที่บริษัทคาลลายกรุ๊ปมีเงินทุนมาก เครือข่ายมีอยู่ทั่วโลก และมีอินโนเวชั่นที่ทันสมัย ซึ่งจะเป็นการช่วยสนับสนุนให้วอลสตรีทสามารถขยายกิจการได้อย่างรวดเร็ว และเพิ่มยอดรายได้ให้มากขึ้น อีกทั้งยังเป็นการเพิ่มศักยภาพระบบการเรียนการสอนให้ดียิ่งขึ้น เพื่อให้เป็นไปตามเป้าหมายของวอลสตรีทที่ต้องการเป็นผู้นำในสถาบันสอนภาษาในอนาคต
ปัจจุบันวอลสตรีททั่วโลกมีจำนวนสาขา 350 แห่งใน24ประเทศ โดยภายใน 1 ปีจะเปิดสาขาประมาณ 30-50แห่ง ส่วนจำนวนนักเรียนที่ลงทะเบียนทั่วโลกมีประมาณ 134,000 คน
ขณะที่ตลาดรวมของสถาบันสอนภาษาทั่วโลกปีที่แล้วมียอดรายได้ 5 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ วอลสตรีทมียอดรายได้ 200 ล้านเหรียญสหรัฐ และมีอัตราการเติบโต 17% แบ่งเป็นสัดส่วนรายได้จากยุโรป 65% ตลาดเอเชีย 25% และอื่นๆ 10% ซึ่งปีที่ผ่านมาตลาดเอเชียมีอัตราการเติบโตสูงสุด คือ 40% และยุโรปโต 10% ส่วนในปีนี้ตั้งเป้ายอดรายได้รวมทั่วโลกโตกว่า 20%
เตรียมเปิดวอลสตรีท3ที่ยูเนี่ยนมอลล์
ด้านนายมิเชล เลอ เคอเลค ผู้อำนวยการสถาบันสอนภาษาอังกฤษวอลสตรีท ประเทศไทย กล่าวว่า ปัจจุบันวอลสตรีทในไทยมีจำนวนสาขา 2 แห่ง คือที่สีลมและสุขุมวิท ซ.23 โดยในช่วงเดือนตุลาคมนี้เตรียมเปิดสาขา 3 ที่ยูเนี่ยนมอลล์ ลาดพร้าว เพื่อรองรับกับความต้องการของตลาดที่มีกำลังเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
ด้านหลักสูตรใหม่ที่จะนำมาใช้ในวอลสตรีทไทยจะเป็นคอร์สเรียนภาษาอังกฤษได้ทุกที่ทางอินเทอร์เน็ต ซึ่งไทยเป็นประเทศที่ 4 ที่ใช้ต่อจาก เยอรมัน,โปรตุเกสและอาร์เจนติน่า ขณะที่ราคาค่าเรียนเฉลี่ยของวอลสตรีทประมาณ 10,000 บาทต่อคอร์ส
ในปีนี้วอลสตรีทตั้งงบทางการตลาดไว้ 8-12% ของยอดรายได้ โดยจะใช้สื่อโฆษณาผ่านทางสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส, สื่อสิ่งพิมพ์, จับมือกับรายการทีวี เป็นต้น ซึ่งจากการจัดกิจกรรมทางการตลาดของวอลสตรีทที่ผ่านมาส่งผลให้มีผู้ที่สนใจมาเรียนเพิ่มขึ้น
ปัจจุบันวอลสตรีทไทยมีจำนวนผู้เรียนประมาณ 2,500 คน แบ่งเป็นอายุ 20-28 ปี 65% อายุ 16-20 ปี 20% และกลุ่มแม่บ้าน 15% ขณะที่ลูกค้ากลุ่มองค์กรมีจำนวนประมาณ 300 คน หรือ คิดเป็น 10% และคาดว่าภายใน 2 ปีจะเพิ่มสัดส่วนเป็น 30% ซึ่งลูกค้าองค์กรที่มาเรียนกับวอลสตรีท อาทิ กลุ่มโรงพยาบาล, ธนาคารไทยพาณิชย์ เป็นต้น
ล่าสุดไทยได้รับเกียรติให้เป็นเจ้าภาพในการประชุมระดับภูมิภาคเอเชียของวอลสตรีท โดยมีประเทศต่างๆเข้าร่วมประชุม เช่น สิงคโปร์,จีน,ฮ่องกง,ไต้หวัน,ญี่ปุ่นและไทย ซึ่งวาระการประชุมจะเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับทิศทางของวอลสตรีทหลังการควบกิจการ