วอร์รูมบ้านเมืองทองธานีวันแรกคึกคัก “ป๋าเหนาะ” ดึง 3 วังตบเท้า เข้าร่วมกว่า 60 คน เจ้าตัวโวประสบความสำเร็จ ย้ำเป็นการทำการเมืองรูปแบบใหม่ และยังใช้เป็นที่ระบายอาคมพวกอึดอัด ย้ำไม่มีต่อรองตำแหน่ง ทั้งที่เมื่อปี 43 “ทักษิณ” มาขอให้ช่วยตั้ง ทรท. พร้อมฉะ 4 ปีไม่สนใจเรื่องน้ำ ทำแต่เศรษฐกิจใหญ่จนเกิดปัญหา ยันไม่เชิญนายกฯมาวันเกิด ถ้ายากมาก็มาเอง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ (29 มี.ค.) ที่บ้านพักเมืองทองธานี นายเสนาะ เทียนทอง ประธานที่ปรึกษาพรรคไทยรักไทย ได้เป็นประธานพิธีเปิดศูนย์สร้างสรรค์ การเมือง หลังจากเกิดปัญหาที่กลุ่มต่าง ๆ ภายในพรรค เริ่มไม่ลงรอยกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และแกนนำคนอื่น ๆ โดยการเปิดศูนย์ครั้งนี้ ได้รับความสนใจ จาก ส.ส. 3 กลุ่มใหญ่ในพรรคที่เดินทางเข้าร่วมประมาณ 60 คน ประกอบด้วย กลุ่มวังน้ำยม เช่น น.พ.จาตุรงค์ เพ็งนรพัฒน์ส ส.ส. ศรีสะเกษ นายบัวสอน ประชามอญ ส.ส.เชียงราย น.ส. ชรินทร์รัตน์ พุทธปวน ส.ส. ลำพูน กลุ่มพ่อมดดำ เช่น นายนิสิต สินธุไพร ส.ส.ร้อยเอ็ด ส่วนกลุ่มวังน้ำเย็น มาร่วมอย่างพร้อมเพรียง อาทิ นายประมวล รุจนเสรี ส.ส.บัญชีรายชื่อ นายมานิตย์ สังข์พุ่ม ส.ส.สุรินทร์สนายบุรินทร์ หิรัญบรูณะ นายบุญถึง ผลพานิชย์ เป็นต้น
นอกจากนี้ยังมี ส.ส.กลุ่มวังน้ำโขงของ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ซึ่งเข้ามาเป็นพันธมิตรกับนายเสนาะก็เข้าร่วมด้วย เช่น นายอรรถสิทธิ์ส ทรัพยสิทธิ์ ส.ส.นครพนม ทั้งนี้บนเวที มีข้อความเขียนสั้น ๆส ว่า “เราจะสร้างสรรค์”
นายเสนาะ กล่าวเปิดงานว่า การที่มาจัดที่บ้านเมืองทองธานีของตนโดยไม่ได้จัดที่พรรคนั้นไม่อยากให้มองว่า เป็นการแยกกลุ่มก๊วน เจตนารมณ์การตั้งศูนย์เพื่อต้องการดูว่า นโยบาย 9 ข้อ ที่พรรคใช้หาเสียง มีความคืบหน้าถึงไหนแล้ว เพราะนโยบายเหล่านี้ไม่ใช่ของ พ.ต.ท.ทักษิณ คนเดียว แต่เป็นของพวกเราทุกคน
ดังนั้น เป็นหน้าที่ของ ส.ส. จะต้องผลักดันให้นโยบายดังกล่าว ให้เกิดผลเป็น รูปธรรมให้ได้ เพราะการบริหารราชการแผ่นดิน จะต้องยึดหลัก การฟังเสียงประชาชน ซึ่งก็คือ สภาผู้แทนราษฎร เพราะศูนย์รวมของประชาชนอยู่ที่นั่น
นายเสนาะ กล่าวว่าในการประชุมพรรค ส.ส. ออกความเห็นไม่ค่อยได้ ตนจึงตั้งศูนย์นี้ขึ้นมาเพื่อให้ทุกคนได้มีโอกาสพูด ใครอยากมาก็มาได้ ไม่จำเป็นต้องอยู่กลุ่มไหน ก๊วนไหน เพราะเราไม่ได้ทำตัวแยกกลุ่มใด ๆ ทั้งสิ้น และการถกกันในเวทีนี้จะไม่มีเรื่องของการเมือง หรือ การกระทบกระทั่งใส่กัน เวทีนี้จะเป็นเวทีแห่งการใฝ่หาความรู้ในแต่ละเรื่อง สำหรับตนยังมีไฟอยู่เสมอ และยืนยันจะขอเคียงบ่าเคียงไหล่กับลูก ๆ หลาน ๆ ทุกคน ดังนั้น ไม่ต้องมาถามว่า จะเลิกเล่นการเมืองเมื่อใด เอาไว้ให้ถึงเวลาที่ตนพูดไม่ได้ หรือ เดินไม่ได้ นั่นหมายความว่า จะเลิกแน่ เพราะตนเป็นนักรบ ไม่ใช่ขันที
“ปัญหาภัยแล้งขณะนี้ 4 ปีที่ผ่านมา ต้องยอมรับว่า รัฐบาลยังไม่ได้คำนึงถึง เรามีงบประมาณจัดการน้ำ 2 แสนล้านบาท แต่ปัจจุบัน คนที่ดูแลกลับไม่ทำอะไร เคยบอกจะทำท่อให้ แต่เมื่อไม่มีน้ำ พอห้วยหนอง คลองบึงตึ้นเขิน ถามว่า จะเอาน้ำที่ไหนมาใส่ท่อ มัวแต่ทำเรื่องเศรษฐกิจ ทั้งที่เรื่องนี้ถือเป็นเศรษฐกิจใหญ่ คือ อนาคตของประเทศ”
นายเสนาะ กล่าวว่า เราต้องทำการเมืองรูปแบบใหม่ เพราะ ส.ส.เก่ามักจะขาดประชุม หรือมาประชุมก็แค่ฟังเขาพูด แล้วก็เดินออกมาจากสภาฯ จนถูกกล่าวหา เป็น ส.ส.หลังยาว ในฐานะที่เป็นนักรบมาตลอดชีวิต ได้ตั้งปณิธานไว้ก่อนจะออกศึกว่า ขอให้ได้อำนาจ ขณะนี้ก็ได้มาแล้ว คือ เป็นรัฐบาลพรรคเดียว ระหว่างนี้ขอให้ทุกคน อยู่ด้วยกันด้วยความรัก สามัคคี ยึดความถูกต้องเป็นหลัก ใครมีอะไรอึดอัดก็ค่อย ๆ พูด อย่าเอาเวทีนี้มาใช้สร้างความขัดแย้ง และเมื่อเป็นรัฐบาลพรรคเดียว ก็ต้องระวังด้วย เพราะทั้งสังคมและสื่อมวลชน จ้องดูเราอยู่ว่า จะเป็นอย่างไร โดยเฉพาะสภาจะล่มหรือไม่
“แม้ผมไม่ได้เป็นประธานวิป แต่ผมจะเป็นหลัก เป็นต้นไม้ใหญ่รับรองต้นไม้นี้จะไม่เหี่ยวเฉา ถ้าจะเป็นภูผา ก็จะเป็นอย่างนี้ จะเยี่ยวจะอึใส่ก็ไม่ว่ากัน เพราะไม่นาน เดี๋ยวฝนก็มาชะล้างไป ส่วนเรื่องการตั้งศูนย์ 2-3 วันที่ผ่านมา ผมได้รับโทรศัพท์หาว่า เราตั้งก๊วน แก๊งค์ สร้างความวุ่นวายให้กับพรรค ถ้าผมมีความคิดจะทำอย่างนั้น คงทำตั้งนานแล้ว ไม่ทนกลืนเลือดไว้จนถึงตอนนี้หรอก”
นายเสนาะให้สัมภาษณ์ว่า ยืนยันว่าการเปิดศูนย์สร้างสรรค์ครั้งนี้ ไม่ใช่ เพื่อการกดดันหรือต่อรองขอตำแหน่ง เราเป็นกลุ่มสร้างสรรค์ทางการเมือง ที่ทำเพื่อพรรค เป็นเหมือนการให้ข้อมูล ให้กับ ส.ส. ก่อนการประชุมพรรค เพราะรัฐบาลชุดนี้มีนโยบายมากมาย อย่าง สงครามแก้ปัญหาความยากจนก็เป็น นโยบายใหญ่ ไม่มีประเทศไหน กล้าประกาศ และตนก็ไม่กลัวด้วยว่า จะถูกนายกฯ มองว่า รวมกลุ่มเพื่อต่อรองทางการเมืองเพราะถ้าคนอื่นทำคงเละไปแล้ว แต่การที่ตนรวมกลุ่มครั้งนี้ถือว่า ประสบความสำเร็จ เพราะมี ส.ส. มาร่วมมากมาย และก็ถือเป็นการเริ่มต้นที่ดี ซึ่งที่ผ่านมาเมื่อปี 2543 พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มาจับมือตน เพื่อขอให้ช่วยตั้งพรรคไทยรักไทย ขณะนั้นตนไม่ได้ขอร้อง จะเอาตำแหน่งอะไร
ส่วนตำแหน่งประธานคณะกรรมาธิการสามัญประจำสภานั้น นายเสนาะ กล่าวว่า เมื่อมอบอำนาจให้หัวหน้าพรรคแล้วส หัวหน้าพรรคก็คงมอบให้คณะกรรมการ เราคงจะไม่ไปก้าวก่ายท่าน
นายเสนาะยังกล่าวถึงสาเหตุที่ไม่ได้ไปตีกอล์ฟก๊วนนายกฯ ว่า ไม่ได้น้อยใจ นายกฯ เพราะบางครั้งไปตีด้วยกันแต่อาจอยู่คนละก๊วน และวันที่ไม่ได้ไป เพราะนายก ฯเชิญผ่านสื่อ ไม่ได้เชิญด้วยตัวเอง ตนไม่ถือสาหาความ เพราะต่างคนต่างไปตี ปกติอยู่แล้ว
ส่วนการจัดงานวันเกิดครบรอบ 71 ปีวันศุกร์ที่ 1เม.ย.นี้เดิมทีเดียว จะไม่จัด แต่ ส.ส.ในกลุ่มเรียกร้อง จึงต้องจัดให้ ส่วนพ.ต.ท.ทักษิณ ปกติทุกปี ตนก็ไม่ได้เชิญใครเป็นพิเศษอยู่แล้ว แต่ก็มากันเอง ส่วนนายกฯ ถ้าไม่ติดธุระ ก็คงมาอยู่แล้ว การจะเชิญใครมานั้น ใครอยากมาก็มา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมพรรคไทยรักไทยวันเดียวกัน นายเสนาะ ซึ่งทำหน้าที่เป็นประธานเปิดศูนย์การเมือง ที่บ้านพักเมืองทองธานี โดยไม่ยอม มาร่วมประชุมพรรคเหมือนเคย ขณะที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ก็ไม่ได้เข้าร่วมประชุมพรรค แต่เดินทางมาที่อาคารชินวัตร 3 เพื่อนัดประชุมกับ 25 ส.ส. ที่มอบหมายให้ดูแลเรื่องปัญหาภาคใต้
ทั้งนี้ นายสุรชาติ ชำนาญศิลป์ ส.ส.อุดรธานี กลุ่มวังพญานาค ซึ่งไม่กินเส้นกับกลุ่มวังน้ำเย็น ให้สัมภาษณ์ตำหนินายเสนาะสั้น ๆ “นายเสนาะ จะมาประชุมพรรคก็มา แต่ถ้าไม่มา ก็ให้ลาออกไป”
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ (29 มี.ค.) ที่บ้านพักเมืองทองธานี นายเสนาะ เทียนทอง ประธานที่ปรึกษาพรรคไทยรักไทย ได้เป็นประธานพิธีเปิดศูนย์สร้างสรรค์ การเมือง หลังจากเกิดปัญหาที่กลุ่มต่าง ๆ ภายในพรรค เริ่มไม่ลงรอยกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และแกนนำคนอื่น ๆ โดยการเปิดศูนย์ครั้งนี้ ได้รับความสนใจ จาก ส.ส. 3 กลุ่มใหญ่ในพรรคที่เดินทางเข้าร่วมประมาณ 60 คน ประกอบด้วย กลุ่มวังน้ำยม เช่น น.พ.จาตุรงค์ เพ็งนรพัฒน์ส ส.ส. ศรีสะเกษ นายบัวสอน ประชามอญ ส.ส.เชียงราย น.ส. ชรินทร์รัตน์ พุทธปวน ส.ส. ลำพูน กลุ่มพ่อมดดำ เช่น นายนิสิต สินธุไพร ส.ส.ร้อยเอ็ด ส่วนกลุ่มวังน้ำเย็น มาร่วมอย่างพร้อมเพรียง อาทิ นายประมวล รุจนเสรี ส.ส.บัญชีรายชื่อ นายมานิตย์ สังข์พุ่ม ส.ส.สุรินทร์สนายบุรินทร์ หิรัญบรูณะ นายบุญถึง ผลพานิชย์ เป็นต้น
นอกจากนี้ยังมี ส.ส.กลุ่มวังน้ำโขงของ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ซึ่งเข้ามาเป็นพันธมิตรกับนายเสนาะก็เข้าร่วมด้วย เช่น นายอรรถสิทธิ์ส ทรัพยสิทธิ์ ส.ส.นครพนม ทั้งนี้บนเวที มีข้อความเขียนสั้น ๆส ว่า “เราจะสร้างสรรค์”
นายเสนาะ กล่าวเปิดงานว่า การที่มาจัดที่บ้านเมืองทองธานีของตนโดยไม่ได้จัดที่พรรคนั้นไม่อยากให้มองว่า เป็นการแยกกลุ่มก๊วน เจตนารมณ์การตั้งศูนย์เพื่อต้องการดูว่า นโยบาย 9 ข้อ ที่พรรคใช้หาเสียง มีความคืบหน้าถึงไหนแล้ว เพราะนโยบายเหล่านี้ไม่ใช่ของ พ.ต.ท.ทักษิณ คนเดียว แต่เป็นของพวกเราทุกคน
ดังนั้น เป็นหน้าที่ของ ส.ส. จะต้องผลักดันให้นโยบายดังกล่าว ให้เกิดผลเป็น รูปธรรมให้ได้ เพราะการบริหารราชการแผ่นดิน จะต้องยึดหลัก การฟังเสียงประชาชน ซึ่งก็คือ สภาผู้แทนราษฎร เพราะศูนย์รวมของประชาชนอยู่ที่นั่น
นายเสนาะ กล่าวว่าในการประชุมพรรค ส.ส. ออกความเห็นไม่ค่อยได้ ตนจึงตั้งศูนย์นี้ขึ้นมาเพื่อให้ทุกคนได้มีโอกาสพูด ใครอยากมาก็มาได้ ไม่จำเป็นต้องอยู่กลุ่มไหน ก๊วนไหน เพราะเราไม่ได้ทำตัวแยกกลุ่มใด ๆ ทั้งสิ้น และการถกกันในเวทีนี้จะไม่มีเรื่องของการเมือง หรือ การกระทบกระทั่งใส่กัน เวทีนี้จะเป็นเวทีแห่งการใฝ่หาความรู้ในแต่ละเรื่อง สำหรับตนยังมีไฟอยู่เสมอ และยืนยันจะขอเคียงบ่าเคียงไหล่กับลูก ๆ หลาน ๆ ทุกคน ดังนั้น ไม่ต้องมาถามว่า จะเลิกเล่นการเมืองเมื่อใด เอาไว้ให้ถึงเวลาที่ตนพูดไม่ได้ หรือ เดินไม่ได้ นั่นหมายความว่า จะเลิกแน่ เพราะตนเป็นนักรบ ไม่ใช่ขันที
“ปัญหาภัยแล้งขณะนี้ 4 ปีที่ผ่านมา ต้องยอมรับว่า รัฐบาลยังไม่ได้คำนึงถึง เรามีงบประมาณจัดการน้ำ 2 แสนล้านบาท แต่ปัจจุบัน คนที่ดูแลกลับไม่ทำอะไร เคยบอกจะทำท่อให้ แต่เมื่อไม่มีน้ำ พอห้วยหนอง คลองบึงตึ้นเขิน ถามว่า จะเอาน้ำที่ไหนมาใส่ท่อ มัวแต่ทำเรื่องเศรษฐกิจ ทั้งที่เรื่องนี้ถือเป็นเศรษฐกิจใหญ่ คือ อนาคตของประเทศ”
นายเสนาะ กล่าวว่า เราต้องทำการเมืองรูปแบบใหม่ เพราะ ส.ส.เก่ามักจะขาดประชุม หรือมาประชุมก็แค่ฟังเขาพูด แล้วก็เดินออกมาจากสภาฯ จนถูกกล่าวหา เป็น ส.ส.หลังยาว ในฐานะที่เป็นนักรบมาตลอดชีวิต ได้ตั้งปณิธานไว้ก่อนจะออกศึกว่า ขอให้ได้อำนาจ ขณะนี้ก็ได้มาแล้ว คือ เป็นรัฐบาลพรรคเดียว ระหว่างนี้ขอให้ทุกคน อยู่ด้วยกันด้วยความรัก สามัคคี ยึดความถูกต้องเป็นหลัก ใครมีอะไรอึดอัดก็ค่อย ๆ พูด อย่าเอาเวทีนี้มาใช้สร้างความขัดแย้ง และเมื่อเป็นรัฐบาลพรรคเดียว ก็ต้องระวังด้วย เพราะทั้งสังคมและสื่อมวลชน จ้องดูเราอยู่ว่า จะเป็นอย่างไร โดยเฉพาะสภาจะล่มหรือไม่
“แม้ผมไม่ได้เป็นประธานวิป แต่ผมจะเป็นหลัก เป็นต้นไม้ใหญ่รับรองต้นไม้นี้จะไม่เหี่ยวเฉา ถ้าจะเป็นภูผา ก็จะเป็นอย่างนี้ จะเยี่ยวจะอึใส่ก็ไม่ว่ากัน เพราะไม่นาน เดี๋ยวฝนก็มาชะล้างไป ส่วนเรื่องการตั้งศูนย์ 2-3 วันที่ผ่านมา ผมได้รับโทรศัพท์หาว่า เราตั้งก๊วน แก๊งค์ สร้างความวุ่นวายให้กับพรรค ถ้าผมมีความคิดจะทำอย่างนั้น คงทำตั้งนานแล้ว ไม่ทนกลืนเลือดไว้จนถึงตอนนี้หรอก”
นายเสนาะให้สัมภาษณ์ว่า ยืนยันว่าการเปิดศูนย์สร้างสรรค์ครั้งนี้ ไม่ใช่ เพื่อการกดดันหรือต่อรองขอตำแหน่ง เราเป็นกลุ่มสร้างสรรค์ทางการเมือง ที่ทำเพื่อพรรค เป็นเหมือนการให้ข้อมูล ให้กับ ส.ส. ก่อนการประชุมพรรค เพราะรัฐบาลชุดนี้มีนโยบายมากมาย อย่าง สงครามแก้ปัญหาความยากจนก็เป็น นโยบายใหญ่ ไม่มีประเทศไหน กล้าประกาศ และตนก็ไม่กลัวด้วยว่า จะถูกนายกฯ มองว่า รวมกลุ่มเพื่อต่อรองทางการเมืองเพราะถ้าคนอื่นทำคงเละไปแล้ว แต่การที่ตนรวมกลุ่มครั้งนี้ถือว่า ประสบความสำเร็จ เพราะมี ส.ส. มาร่วมมากมาย และก็ถือเป็นการเริ่มต้นที่ดี ซึ่งที่ผ่านมาเมื่อปี 2543 พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มาจับมือตน เพื่อขอให้ช่วยตั้งพรรคไทยรักไทย ขณะนั้นตนไม่ได้ขอร้อง จะเอาตำแหน่งอะไร
ส่วนตำแหน่งประธานคณะกรรมาธิการสามัญประจำสภานั้น นายเสนาะ กล่าวว่า เมื่อมอบอำนาจให้หัวหน้าพรรคแล้วส หัวหน้าพรรคก็คงมอบให้คณะกรรมการ เราคงจะไม่ไปก้าวก่ายท่าน
นายเสนาะยังกล่าวถึงสาเหตุที่ไม่ได้ไปตีกอล์ฟก๊วนนายกฯ ว่า ไม่ได้น้อยใจ นายกฯ เพราะบางครั้งไปตีด้วยกันแต่อาจอยู่คนละก๊วน และวันที่ไม่ได้ไป เพราะนายก ฯเชิญผ่านสื่อ ไม่ได้เชิญด้วยตัวเอง ตนไม่ถือสาหาความ เพราะต่างคนต่างไปตี ปกติอยู่แล้ว
ส่วนการจัดงานวันเกิดครบรอบ 71 ปีวันศุกร์ที่ 1เม.ย.นี้เดิมทีเดียว จะไม่จัด แต่ ส.ส.ในกลุ่มเรียกร้อง จึงต้องจัดให้ ส่วนพ.ต.ท.ทักษิณ ปกติทุกปี ตนก็ไม่ได้เชิญใครเป็นพิเศษอยู่แล้ว แต่ก็มากันเอง ส่วนนายกฯ ถ้าไม่ติดธุระ ก็คงมาอยู่แล้ว การจะเชิญใครมานั้น ใครอยากมาก็มา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมพรรคไทยรักไทยวันเดียวกัน นายเสนาะ ซึ่งทำหน้าที่เป็นประธานเปิดศูนย์การเมือง ที่บ้านพักเมืองทองธานี โดยไม่ยอม มาร่วมประชุมพรรคเหมือนเคย ขณะที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ก็ไม่ได้เข้าร่วมประชุมพรรค แต่เดินทางมาที่อาคารชินวัตร 3 เพื่อนัดประชุมกับ 25 ส.ส. ที่มอบหมายให้ดูแลเรื่องปัญหาภาคใต้
ทั้งนี้ นายสุรชาติ ชำนาญศิลป์ ส.ส.อุดรธานี กลุ่มวังพญานาค ซึ่งไม่กินเส้นกับกลุ่มวังน้ำเย็น ให้สัมภาษณ์ตำหนินายเสนาะสั้น ๆ “นายเสนาะ จะมาประชุมพรรคก็มา แต่ถ้าไม่มา ก็ให้ลาออกไป”