“ทักษิณ” ให้ อาจารย์-นักศึกษา อุเทนฯเสียสละเพื่อส่วนรวม ประกาศรัฐบาลพร้อมทุ่มงบ 200 ล้านสำหรับสถานที่ใหม่ ด้านแกนนำนักศึกษาโวยนายกฯ ไม่สนใจเด็กช่าง มองเป็นพวกเกเร แถมอัดกลับทำไมไม่ใช้สยามสแควร์ เซ็นเตอร์พอยท์สร้างอุทยานการเรียนรู้ ลั่นขอพึ่งกระบวนการยุติธรรมพิสูจน์กรรมสิทธิ์ในที่ดิน ขณะที่เด็กจุฬาฯ กลัวการทำร้ายพบมีการแต่งชุดนักศึกษาบางตา แต่ก็มีไม่น้อยที่เห็นใจ
พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่กลุ่มนักศึกษาอุเทนฯ ออกมาเรียกร้องให้รัฐบาลยกเลิกการย้ายไปอยู่สมุทรปราการ ว่า ความจริงแล้วอุเทนฯ ได้เช่าที่ของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยมานานและก็หมดอายุแล้ว ซึ่งตรงนั้นมีนักเรียนไม่กี่คน และพื้นที่ดังกล่าวก็จะมีการก่อสร้างอุทยานการเรียนรู้เพื่อให้เยาวชนของชาติได้ใช้อย่างเกิดประโยชน์ เท่ากับว่าอุเทนฯ ได้เสียสละเพื่อให้คนส่วนใหญ่ได้ใช้ประโยชน์ และทางรัฐบาลก็ได้จัดสรรงบประมาณให้ 200 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม การย้ายไปอยู่ที่ใหม่ก็อาจจะไม่สะดวกในการเดินทาง แต่นั่นคือการเสียสละ ซึ่งทุกคนก็จะขอบคุณนักเรียน นักศึกษา อาจารย์ของอุเทนฯ ที่ได้เสียสละให้ ส่วนเรื่องการข่มขู่ว่าจะทำร้ายนิสิตจุฬาฯ คงปล่อยให้เกิดไม่ได้ และจะให้ตำรวจเข้ามาดูแล
ด้านความเคลื่อนไหวของนักศึกษานั้น แกนนำได้เปิดแถลงข่าว โดยนายต่อเกียรติ วชิระบงกช นายกสโมสรนักศึกษา กล่าวว่า การขู่นิสิตจุฬาฯ เป็นฝีมือของบุคคลที่ 3 และไม่ใช่การกระทำของนักศึกษาอุเทนฯ ซึ่งข่าวที่เกิดขึ้นให้ได้รับความเสียหาย จึงได้ส่งตัวแทนไปแจ้งความดำเนินคดีกับผู้ที่กระทำเรื่องดังกล่าวที่ สน.ปทุมวัน
นอกจากนี้ สโมสรนักศึกษาฯ ได้ทำหนังเสนอเสนอแนวทางในการแก้ปัญหาความขัดแย้งในเรื่องดังกล่าวยื่นต่อศธ. โดยขอให้รัฐบาลพิจารณาเลือกพื้นที่อื่นในการสร้างอุทยานการเรียนรู้ รวมทั้งให้ช่วยเจรจากับจุฬาฯ เพื่อต่อสัญญาเช่าที่ดินกับอุเทนฯ เป็นเวลา 10 ปี ส่วนกรณีความขัดแย้งเรื่องกรรมสิทธิ์ที่ดินขอให้มีการพิสูจน์สิทธิ์ตามกระบวนการยุติธรรม
ด้านนายอรรคพงศ์ ปิ่นตามูลกล่าวว่า ขอเรียกร้องให้ไล่ นายทวีชัย เหลี่ยมศิริวัฒนา รักษาการผู้อำนวยการออกจากตำแหน่งก่อน เพราะตั้งแต่เข้ามาก็ไปลงนามยินยอมย้ายออกจากพื้นที่เดิม
ส่วนศิษย์เก่าอุเทนฯ คนหนึ่งระบุว่า ได้มีการตรวจสอบผู้ที่เขียนข้อความข่มขู่ แล้ว พบว่าเป็นศิษย์เก่าคนหนึ่งที่ศึกษาไม่จบและทำตัวมีปัญหามาตลอด ทำให้ไม่เป็นที่ยอมรับของเพื่อนๆ และสถาบัน ส่วนมีจุดประสงค์ใดนั้นไม่ทราบ
นอกจากนี้ ในระหว่างที่ พ.ต.ท.ทักษิณเดินทางมาถึง ศธ.เพื่อเข้าร่วมประชุมระดับปลัด ตัวแทนของกลุ่มนักศึกษาพยายามที่จะขอเข้าพบเพื่อเรียกร้องขอความเป็นธรรมแต่ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจสกัดกั้นไม่ให้เข้าไปภายใน
จากนั้นนายต่อเกียรติ กล่าวถึงกรณีที่นายกรัฐมนตรีระบุว่านักศึกษาอุเทนฯ ต้องเสียสละให้คนส่วนมากของประเทศว่า พื้นที่ของจุฬาฯ ส่วนใหญ่ให้เอกชนเช่าไปทำการค้าเป็นแหล่งมั่วสุ่มของวัยรุ่นมากมายบริเวณมาบุญครอง สยามเซ็นเตอร์ สยามสแควร์ เซนเตอร์พอยท์ ขณะที่พื้นที่สถานศึกษากลับไล่ให้ย้ายไปอยู่ที่อื่น
ทั้งนี้ ผู้ใหญ่ในบ้านเมืองควรหันมาฟังนักศึกษาอาชีวะพูดบ้าง อย่ามองแค่เป็นเรื่องของเด็กที่เก่งแต่ยกพวกตีกัน อยากถามว่าถูกต้องแล้วหรือที่ย้ายสถานศึกษาที่มีอายุ 72ปีสร้างคุณค่ากับสังคมและสร้างบุคลากรทางการก่อสร้างมากมาย คุณค่าของอุเทนฯเปรียบเทียบกับอุทยานการเรียนรู้ที่นำคอมพิวเตอร์มาให้เด็กเล่นเกมไม่ได้เลยหรือ
นายต่อเกียรติ กล่าวต่อว่า ถ้าสถานที่ใหม่ มีอุปกรณ์ สถานที่พร้อมเหมือนกับที่รัฐบาลย้าย โรงเรียนนายร้อยจปร.หรือม.ธรรมศาสตร์ศูนย์รังสิตนักศึกษาก็พร้อมที่จะไปแต่นี่สถานที่ใหม่ก็ยังไม่พร้อม จะย้ายไปได้อย่างไร ที่ผ่านมารัฐบาลไม่เคยให้ความสำคัญกับเด็กอาชีวะเลย
สำหรับบรรยากาศภายในจุฬาฯ นั้นพบว่า มีการแต่งชุดนิสิตค่อนข้างบางตา นายธีรพล นักศึกษาคณะวิศวกรรมศาสตร์ ปี 2 กล่าวว่า ระยะนี้ไม่มีใครกล้าใส่ฟอร์มนิสิต และเพื่อความปลอดภัยของนิสิตทุกคนอยากให้อาจารย์ออกเกรดผ่านอินเทอร์เน็ตจะได้ไม่ต้องมามหาวิทยาลัย แล้วตอนนี้มีการกระจายข่าวมาไม่ให้เดินเข้า-ออกทางด้านหน้าจุฬาฯ ให้เข้าทางด้านหลังแทนด้วย
ขณะที่นายทวีศักดิ์ เอื้อเฟื้อ นักศึกษาปริญญาโท คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ กล่าวว่า เรื่องนี้น่าเป็นข่าวลือมากกว่า เพราะคณะสถาปัตย์อยู่ติดกับอุเทนฯ ซึ่งเด็กอุเทนฯ ก็เข้ามาซื้ออุปกรณ์บ่อยๆ น่าจะเป็นสร้างกระแสเพื่อเบี่ยงเบนประเด็นจากการไล่ที่ แล้วสร้างภาพเด็กอุเทนฯ ให้ติดลบในสายตาสังคม
ในช่วงเย็นวันเดียวกันดร.รุ่ง แก้วแดง รมช.สธ.ได้เปิดเผยหลังหารือร่วมกับผู้เกี่ยวข้องว่า ยังไม่มีข้อสรุปใด ๆ เนื่องจากต้องหาข้อมูลจากแต่ละกลุ่มเพิ่มเติมก่อนทั้งกลุ่มนักศึกษา อาจารย์และศิษย์เก่า ซึ่งคาดว่าภายใน 1-2 วันนี้น่าจะได้ข้อสรุป
พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่กลุ่มนักศึกษาอุเทนฯ ออกมาเรียกร้องให้รัฐบาลยกเลิกการย้ายไปอยู่สมุทรปราการ ว่า ความจริงแล้วอุเทนฯ ได้เช่าที่ของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยมานานและก็หมดอายุแล้ว ซึ่งตรงนั้นมีนักเรียนไม่กี่คน และพื้นที่ดังกล่าวก็จะมีการก่อสร้างอุทยานการเรียนรู้เพื่อให้เยาวชนของชาติได้ใช้อย่างเกิดประโยชน์ เท่ากับว่าอุเทนฯ ได้เสียสละเพื่อให้คนส่วนใหญ่ได้ใช้ประโยชน์ และทางรัฐบาลก็ได้จัดสรรงบประมาณให้ 200 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม การย้ายไปอยู่ที่ใหม่ก็อาจจะไม่สะดวกในการเดินทาง แต่นั่นคือการเสียสละ ซึ่งทุกคนก็จะขอบคุณนักเรียน นักศึกษา อาจารย์ของอุเทนฯ ที่ได้เสียสละให้ ส่วนเรื่องการข่มขู่ว่าจะทำร้ายนิสิตจุฬาฯ คงปล่อยให้เกิดไม่ได้ และจะให้ตำรวจเข้ามาดูแล
ด้านความเคลื่อนไหวของนักศึกษานั้น แกนนำได้เปิดแถลงข่าว โดยนายต่อเกียรติ วชิระบงกช นายกสโมสรนักศึกษา กล่าวว่า การขู่นิสิตจุฬาฯ เป็นฝีมือของบุคคลที่ 3 และไม่ใช่การกระทำของนักศึกษาอุเทนฯ ซึ่งข่าวที่เกิดขึ้นให้ได้รับความเสียหาย จึงได้ส่งตัวแทนไปแจ้งความดำเนินคดีกับผู้ที่กระทำเรื่องดังกล่าวที่ สน.ปทุมวัน
นอกจากนี้ สโมสรนักศึกษาฯ ได้ทำหนังเสนอเสนอแนวทางในการแก้ปัญหาความขัดแย้งในเรื่องดังกล่าวยื่นต่อศธ. โดยขอให้รัฐบาลพิจารณาเลือกพื้นที่อื่นในการสร้างอุทยานการเรียนรู้ รวมทั้งให้ช่วยเจรจากับจุฬาฯ เพื่อต่อสัญญาเช่าที่ดินกับอุเทนฯ เป็นเวลา 10 ปี ส่วนกรณีความขัดแย้งเรื่องกรรมสิทธิ์ที่ดินขอให้มีการพิสูจน์สิทธิ์ตามกระบวนการยุติธรรม
ด้านนายอรรคพงศ์ ปิ่นตามูลกล่าวว่า ขอเรียกร้องให้ไล่ นายทวีชัย เหลี่ยมศิริวัฒนา รักษาการผู้อำนวยการออกจากตำแหน่งก่อน เพราะตั้งแต่เข้ามาก็ไปลงนามยินยอมย้ายออกจากพื้นที่เดิม
ส่วนศิษย์เก่าอุเทนฯ คนหนึ่งระบุว่า ได้มีการตรวจสอบผู้ที่เขียนข้อความข่มขู่ แล้ว พบว่าเป็นศิษย์เก่าคนหนึ่งที่ศึกษาไม่จบและทำตัวมีปัญหามาตลอด ทำให้ไม่เป็นที่ยอมรับของเพื่อนๆ และสถาบัน ส่วนมีจุดประสงค์ใดนั้นไม่ทราบ
นอกจากนี้ ในระหว่างที่ พ.ต.ท.ทักษิณเดินทางมาถึง ศธ.เพื่อเข้าร่วมประชุมระดับปลัด ตัวแทนของกลุ่มนักศึกษาพยายามที่จะขอเข้าพบเพื่อเรียกร้องขอความเป็นธรรมแต่ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจสกัดกั้นไม่ให้เข้าไปภายใน
จากนั้นนายต่อเกียรติ กล่าวถึงกรณีที่นายกรัฐมนตรีระบุว่านักศึกษาอุเทนฯ ต้องเสียสละให้คนส่วนมากของประเทศว่า พื้นที่ของจุฬาฯ ส่วนใหญ่ให้เอกชนเช่าไปทำการค้าเป็นแหล่งมั่วสุ่มของวัยรุ่นมากมายบริเวณมาบุญครอง สยามเซ็นเตอร์ สยามสแควร์ เซนเตอร์พอยท์ ขณะที่พื้นที่สถานศึกษากลับไล่ให้ย้ายไปอยู่ที่อื่น
ทั้งนี้ ผู้ใหญ่ในบ้านเมืองควรหันมาฟังนักศึกษาอาชีวะพูดบ้าง อย่ามองแค่เป็นเรื่องของเด็กที่เก่งแต่ยกพวกตีกัน อยากถามว่าถูกต้องแล้วหรือที่ย้ายสถานศึกษาที่มีอายุ 72ปีสร้างคุณค่ากับสังคมและสร้างบุคลากรทางการก่อสร้างมากมาย คุณค่าของอุเทนฯเปรียบเทียบกับอุทยานการเรียนรู้ที่นำคอมพิวเตอร์มาให้เด็กเล่นเกมไม่ได้เลยหรือ
นายต่อเกียรติ กล่าวต่อว่า ถ้าสถานที่ใหม่ มีอุปกรณ์ สถานที่พร้อมเหมือนกับที่รัฐบาลย้าย โรงเรียนนายร้อยจปร.หรือม.ธรรมศาสตร์ศูนย์รังสิตนักศึกษาก็พร้อมที่จะไปแต่นี่สถานที่ใหม่ก็ยังไม่พร้อม จะย้ายไปได้อย่างไร ที่ผ่านมารัฐบาลไม่เคยให้ความสำคัญกับเด็กอาชีวะเลย
สำหรับบรรยากาศภายในจุฬาฯ นั้นพบว่า มีการแต่งชุดนิสิตค่อนข้างบางตา นายธีรพล นักศึกษาคณะวิศวกรรมศาสตร์ ปี 2 กล่าวว่า ระยะนี้ไม่มีใครกล้าใส่ฟอร์มนิสิต และเพื่อความปลอดภัยของนิสิตทุกคนอยากให้อาจารย์ออกเกรดผ่านอินเทอร์เน็ตจะได้ไม่ต้องมามหาวิทยาลัย แล้วตอนนี้มีการกระจายข่าวมาไม่ให้เดินเข้า-ออกทางด้านหน้าจุฬาฯ ให้เข้าทางด้านหลังแทนด้วย
ขณะที่นายทวีศักดิ์ เอื้อเฟื้อ นักศึกษาปริญญาโท คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ กล่าวว่า เรื่องนี้น่าเป็นข่าวลือมากกว่า เพราะคณะสถาปัตย์อยู่ติดกับอุเทนฯ ซึ่งเด็กอุเทนฯ ก็เข้ามาซื้ออุปกรณ์บ่อยๆ น่าจะเป็นสร้างกระแสเพื่อเบี่ยงเบนประเด็นจากการไล่ที่ แล้วสร้างภาพเด็กอุเทนฯ ให้ติดลบในสายตาสังคม
ในช่วงเย็นวันเดียวกันดร.รุ่ง แก้วแดง รมช.สธ.ได้เปิดเผยหลังหารือร่วมกับผู้เกี่ยวข้องว่า ยังไม่มีข้อสรุปใด ๆ เนื่องจากต้องหาข้อมูลจากแต่ละกลุ่มเพิ่มเติมก่อนทั้งกลุ่มนักศึกษา อาจารย์และศิษย์เก่า ซึ่งคาดว่าภายใน 1-2 วันนี้น่าจะได้ข้อสรุป