tavanron@yahoo.com
วันนั้นเป็นวันที่พระนารายณ์โกรธอย่างหนัก
ผมจำไม่ได้และก็ไม่รู้ด้วยว่ามันเป็นวันที่เท่าไร เดือนไหน เพราะดูเหมือนว่าโลกนี้จะสร้างขึ้นมาได้ไม่นานนัก จึงไม่มีเรื่องราวที่จะต้องจดจำนำมาเล่ากันเท่าที่ควร นอกจากเรื่องนี้เป็นเรื่องแรกที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่สร้างโลกขึ้นมาหลายแสนหลายล้านปีมาแล้ววันนั้น
วันนั้นขนมเปียกปูน โอเลี้ยง หรืออาหารสีต่างๆ ยังไม่ได้สร้างขึ้นมา เพราะดูเหมือนจะไม่มีใครกินหรือกินไม่เป็นก็อาจเป็นไปได้
แต่เป็นวันที่เทพเจ้าและองค์อวตารต่างๆ บนสรวงสวรรค์ที่กำลังสนุกสนานกันอยู่กับการ "กินเหล้า" เมายา และสนุกสนานกับอีตัวเหมือนแถวสนามหลวงที่มีการวิ่งไล่จับกันอยู่โดยถือว่าการกินเหล้าเมายา และการมั่วกับความรักความใคร่ที่ไม่ต้องเลือกที่เลือกทางเป็นเสรีภาพและอารยธรรมของเทวดา แม้แต่ตัวพระนารายณ์เอง ก็มั่วอยู่กับเรื่องพรรค์นี้อย่างหนักเหมือนกัน
กินเหล้ากัน มั่วอีหนูกันไม่ต้องทำอะไร
แต่สาเหตุที่พระนารายณ์ต้องโมโหขนาดหนัก และอดรนทนไม่ได้ก็คือมันเกิดมี ตัวเสนียดจัญไร ของสวรรค์และเทวดาอยู่รายหนึ่งชื่อว่า ราหู ซึ่งมันเป็นลูกเต้าเหล่าใครไม่รู้มาขโมยเหล้าของเทวดากินเป็นการตีเสมอแสดงถึงความเท่าเทียมกันระหว่างตัวมันกับบรรดาเทวดา และองค์พระนารายณ์และดูถูกสวรรค์
ตัวอะไรก็รู้ ไม่ใช่เทวดาไม่ใช่มนุษย์หรือยักษ์มาร แต่เป็นลูกของปีศาจร้ายรายหนึ่งชื่อ นางสิงหิกา เกิดมีความคิดว่าสวรรค์นี้มันจะบ้า เทพเจ้าเทวดาและองค์นารายณ์ทั้งหลายไม่ได้ทำอะไรกันเป็นชิ้นเป็นอัน แต่ถือว่าการกินเหล้ากันจนหัวราน้ำขนาดนั้นเป็นเกียรติยศอันสูงสุดของผู้อยู่ในสวรรค์
ตั้งแต่วันนั้นมาจนกระทั่งถึงวันนี้ เหล้าที่พระนารายณ์และเทวดากินกันตั้งแต่วันที่เริ่มสร้างโลกมาถึงทุกวันนี้ ยังคงไม่เลิกผลิตกลับผลิตมาให้คนกินทุกหนทุกแห่งทั้งโลก มันจะกี่หมื่นกี่แสนล้านปีมาแล้ว ไม่ได้เปลี่ยนแปลงเป็นอย่างอื่น
แต่มันมีความจริงอยู่อย่างหนึ่งคือ คนทั้งโลกที่มีอยู่ก็ไม่ได้กินเหล้าเมายาสนุกสนานไปเสียทุกคน เพระว่าใครที่ไม่กินเหล้าหรือไปกินอย่างอื่นมันก็มีชีวิตอยู่ได้
มนุษย์ที่เกิดมากันแน่นโลกอยู่ทุกวันนี้ แต่ละคนไม่เหมือนกัน มันมีทางเลือกที่จะอยู่จะกิน หาความสุขความสบายของมันโดยไม่ต้องกินเหล้าก็ได้ทำไมไม่พิจารณากันตรงนี้หรือพูดกันตรงนี้เสียก่อน ก่อนที่จะไปรวบหัวรวบหางเอาว่าถ้าเพียงแต่เห็นคนตอกเสาทำโรงเหล้าเท่านั้นบ้านเมืองก็จะมีคนเมาตายกันหมด?
ไม่โง่ไปหน่อยหรือครับ ถ้าจะลองถามกันเล่นๆ สักนิด
เราเกิดมาเป็นคนมีสติปัญญาและมีความคิด แต่เมื่อคิดขึ้นมาว่าจะไม่ให้คนกินเหล้าทำไมจะต้องมาอาฆาตจองเวรเอาที่เหล้า มันไม่ได้ทำอะไรผิด คนต่างหากที่ทำผิดที่ไปกินเหล้า แต่ทำไมไม่แก้ที่คนไม่ให้กินเหล้าเรื่องมันก็จบ
สมัยที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าประสูติที่อินเดียในสมัยนั้น ก็ไม่เคยทราบประวัติว่าท่านดื่มเหล้าเมาสุราหรือไม่ แต่ท่านเลือกออกบวชเพื่อที่จะสั่งสอนคนไม่ให้กินเหล้าหรือมัวเมาในสุรายาเมา เพราะห้ามไม่ได้ แต่ละคนเกิดมามีทางเลือกหรือ
สามารถเลือกได้หรือเลือกไม่ได้ว่าจะมีชีวิตอยู่อย่างไร จะอยู่ด้วยการเป็นคนกินเหล้าหรือไม่กินเหล้าก็ได้ ไม่ว่าใครจะมั่งมีเงินทองและทุนทรัพย์แค่ไหน จะสามารถทำความชั่วช้าเลวทรามอื่นๆ ได้ อย่างการคอร์รัปชัน การรีดไถ หรือการโกงกินลำไยกันทั้งเมืองก็ทำกันไป ท่านไม่เคยห้ามว่าอย่าไปทำเหล้ามาขาย หรือห้ามว่าอย่าไปแสวงหาทุนและความมั่งคั่งที่ไหนมาทำเหล้าให้คนอินเดียกิน การกินเหล้าหรืออะไรที่เป็นความสุขของคน มันเป็นเรื่องของธุรกิจ และการทำมาหากินของคน ท่านก็ไม่ว่าอะไร เพราะหน้าที่ของท่านที่เกิดมาเป็นพระพุทธเจ้าไม่เหมือนพระรับจ้างอื่นๆ ที่จะไปเที่ยวบังคับขู่เข็ญว่าทำอะไรถูกอะไรผิด ท่านบอกแต่เพียง "อักขาตาโร ตถาคโต" คือท่านว่า พระพุทธเจ้านั้นเป็นแต่เพียงผู้บอกกล่าวเท่านั้น ใครจะทำหรือไม่ทำก็ตามใจ
แม้แต่เรื่องเหล้า ท่านไม่ได้ไปเที่ยวลากคอใครมาสั่งสอนว่าจะกินอย่างไรหรือไม่ให้กิน แต่ท่านบอกว่าให้กินด้วยความไม่ประมาทพอเหมาะพอควรหรือ "สุราเมรยะ มัชชะ ปมาทัฏฐานาเวรมณี" เท่านั้น
ไม่ได้ถือพัดไปเที่ยวยืนสวดหน้าศพอยู่อย่างที่เห็นๆ
ในการที่บริษัทเบียร์แห่งหนึ่งกำลังจะเอาบริษัทที่ผลิตเบียร์เข้าตลาดหุ้นเพื่อให้ได้ทุนเพิ่มเติมขึ้นมา เพื่อขยายการผลิตให้ได้มากยิ่งขึ้นและขายเอาเงินเข้าประเทศมากขึ้นเมื่อไม่มีกี่วันมานี้ เป็นธุรกิจของมนุษย์ที่เกิดมาต้องทำมาหากินตามแนวถนัดและตามความรู้ความสามารถของตน มันไม่ทำให้ใครชั่วหรือต่ำทรามลงไป แต่เป็นเรื่องของคนที่ต้องการจะแสวงหาความชั่วกันเอง น่าอนาถที่ปรากฏว่าในวงการสงฆ์ของเราเกิดมีพระรับจ้างกลุ่มหนึ่งไปจัดตั้งกันออกมาประท้วงตลาดหลักทรัพย์ฯ เป็นการบอกกล่าวบริษัทเบียร์ไม่ให้ยอมรับว่าบริษัทคนไทยในเมืองไทยจำเป็นจะต้องมีทุนเพิ่ม เมื่อบริษัทประเภทนี้ทั่วโลกเขาขายหุ้นโกยเงินจากประเทศของเราไปสร้างชาติบ้านเมืองของเขาจนจะเกลี้ยงแผ่นดินไปแล้ว
แต่เราไม่เคยคิดไม่เคยสนใจว่าทุกวันนี้โลกมันเป็นอย่างไร ผู้รักชาติบ้านเมืองในไทยที่ไม่เคยทำอะไรเพื่อชาตินอกจากนั่งรอก่อกวนชาวบ้าน หลับหูหลับตาคอยนั่งจับผิดโวยวายคนอื่น ที่อื่นเขาทำมาหากินกันอย่างไร เราต้องไม่สนใจ ขออย่างเดียวอย่านำบริษัทเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ เท่านั้น เพราะจะทำให้คนไทยกินเหล้ากันมากขึ้น เพราะบริษัทเกิดเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ ขึ้นมา เฉพาะบริษัทนี้บริษัทเดียวเท่านั้น บริษัทที่ผลิตเหล้าผลิตเบียร์อื่นๆ ทั่วโลกที่มาผลิตขายอยู่ในเมืองไทยคนไทยจะไม่มีวันกินเพิ่มขึ้น ซึ่งฟังดูเหมือนว่าเหล้าเบียร์บริษัทนี้จะวิ่งมากินคนไทยทั้งประเทศ ถ้าหากเหล้าหรือเบียร์ที่ทำขึ้นในประเทศไทยหรือทำโดยผู้ถือหุ้นเป็นคนไทย
นี่เป็นความคิด ความรู้สึก และความเข้าใจที่โง่เขลาที่สุดเรื่องหนึ่งนับตั้งแตสร้างประเทศไทยขึ้นมา
พระเกิดหาความสุขไม่ได้ เพราะคนไทยจะช่วยกันหาทุนมาสร้างประเทศให้มันแกร่งขึ้น
ถ้าเป็นสมัยก่อน ก็อุทานออกมาด้วยความตื่นเต้นตกใจได้เลยว่า "บ้าฉิบหาย!!"
มันเป็นไปไม่ได้ที่คนไทยกินเหล้ากินสาโทหรือยาดองของเมากันมาตั้งแต่สมัยไหนก็ไม่รู้ มีตำรับตำรา มีหลักวิชาถ่ายทอดกันมา รับกันมาทำกินกันมาไม่เคยหยุดไม่เคยเว้น เมื่อกินยาดองของเมาเหล่านี้เข้าไปแล้วก็ไม่เคยไปวิ่งฆ่าคนที่ไหน บ้านใครบ้านมันก็อยู่กันตามปกติ
สมัยโบราณ เอากันตั้งแต่สมัยพระนารายณ์ และบรรดาเทวดานางฟ้านางสวรรค์ที่มั่วกันอยู่เพราะเหล้า จนราหูทนไม่ไหวต้องหาทางเข้าไปขโมยกินเป็นต้นมา มันจะกี่ล้านกี่แสนปีก็ไม่มีใครไปประท้วงคนทำเหล้าที่เป็นอาชีพของเขาได้ พระนารายณ์หรือเทวดาต่างๆ ที่ร่วมกันสร้างโลกขึ้นมาก็ไม่เคยมีใครเดือดร้อนนอกจากได้กินเหล้าและถือว่าเหล้าคืออาหารสวรรค์ ใครไม่กินก็ไม่เดือดร้อน แต่ยอมไม่ได้เหมือนกันที่จะให้ใครมาทำลายเหล้าเล่นๆ หรือแม้แต่มาแย่งกันอย่างที่ราหูได้ประสบมาแล้ว จนกระทั่งบัดนี้ก็ยังไม่มีใครบังอาจทำอีก
พระพุทธเจ้าเอง ก็ทรงมองเห็นโทษภัยของคนกินเหล้า แต่ไม่ได้ลงโทษว่าการทำเหล้ามันเสียหาย เพียงแต่เตือนคนที่จะกินเหล้า ไม่ให้เมาอย่างประมาทหรือลืมตัว เท่านั้นที่ท่านห้าม
พระสงฆ์ของเราที่พากันออกมาเดินขบวนประท้วงคราวนี้ นับว่าได้กระทำสิ่งที่ ไม่ใช่กิจของสงฆ์ ซึ่งมันน่าเกลียดที่สุดเมื่อนึกต่อไปว่า การเดินขบวนมาชุมนุมและประท้วงของพระคุณเจ้านั้น เป็นการรวมตัวจัดตั้งของ พวกอลัชชี ที่อาศัยศาสนาทำมาหากิน ใช้เงินสนับสนุนของรัฐบาลที่เป็นเงินของประชาชนไปใช้จ่าย และรับจ้างออกเดินขบวนประท้วง น่าจะได้พากันกลับวัดและพากันไปทบทวนดูว่าการเคลื่อนไหวหรือการแสดงออกต่างๆ ในทางที่ไม่ใช่กิจของตัวเองนั้น มันน่าเกลียดขนาดไหน ถ้าเราจะปล่อยให้ทำอะไรต่ออะไรทุเรศโดยไม่ได้พูดกันตรงๆ
ทุกวันนี้ เมืองไทยหรือประเทศไทยของเราเสื่อมโทรมลงไปเกือบทุกด้าน ไม่ว่าคุณธรรม ศีลธรรม สติสัมปชัญญะ ความละอายเราไม่ค่อยจะมีเหลืออยู่เลยหรือมีก็น้อย ปัญหาของบ้านเมืองที่เลวร้ายลงมันก็เกิดกันขึ้นมาทุกวัน โดยที่คนไทยที่มีบุญวาสนาก็พากันหุบปากและลงมือทำสกปรกกันเสียเอง หรือทำโดยไม่มีความคิดกัน มันน่าจะถึงเวลาแล้วที่เราจะบอกกล่าวกันตรงไปตรงมาเสียที ขอให้เราทุกคนมาเปลี่ยนแปลงบ้านเมืองผู้คนของเราให้ดีขึ้นมาเสียบ้าง โดยใช้สติปัญญาและความถูกต้องเข้ามาแก้ไขน่าจะดีกว่า
ปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นในโลกหรือในบ้านเมืองของเราทุกวันนี้ ไม่ใช่เกิดจากการกินหล้าหรือมีเหล้ามีเบียร์ขาย แต่ปัญหาทุกอย่างที่มันเกิดขึ้นนั้น ทุกปัญหามันอยู่ที่ "คน" ที่เราเห็นๆ กันอยู่นี่แหละ
คนที่พยายามอยู่กันด้วยความชั่วและกระทำความชั่ว
หรือถ้าไม่ทำก็ยอมให้คนอื่นเขาทำหรือร่วมกับเขาทำหรืออยู่กันเฉยๆ ไปวันๆ
แม้ว่าคนพวกนั้นจะมีอำนาจและมีหน้าที่รับผิดชอบที่จะทำ
ไม่กี่วันมานี้ ผมติดตามดูข่าวเรื่องที่บ้านเมืองของเราในภาคเหนือปลูกลำไยเอาไปขายให้จีนจากข่าว "ไอทีวี" ก็เกิดความรู้อย่างทะลุฟ้าทะลุดินขึ้นมาตั้งแต่ต้นจนจบว่า การปล้นบ้านกินเมืองของคนที่มีอำนาจวาสนา และมีความรับผิดชอบทุกวันนี้ ความรู้ความสามารถมันก็น้อยกว่าพระนารายณ์ และเทวดาทั้งหลายที่กินเหล้ามัวเมากันอยู่ แต่ก็ยังแพ้คนไทยทุกวันนี้ เพราะการปล้นชาติปล้นแผ่นดินทุกวันนี้ร่วมมือกันทั้งชาติ ไม่ว่าจะมีตำแหน่งหน้าที่รับผิดชอบระดับไหนประเภทใด จะปล่อยให้มีการวางแผนการปล้นการฉ้อฉลกันอย่างไม่มีใครยอมปริปาก ลำไยเป็นหมื่นกิโลกรัมราคาเป็นพันๆ ล้าน ไม่รู้ว่าจะต้องใช้เนื้อที่สำหรับการปลูกมากน้อยเท่าไรไม่ต้องพูดถึง ใครจะรู้จะเห็นไม่สำคัญ มันไม่แคร์ เพราะทุกฝ่ายจะได้รับแบ่งปันกันอย่างทั่วถึง
มันเริ่มวางแผนปล้นสะดม และเอาประเทศชาติไปขายกันตั้งแต่เริ่มต้นฤดูปลูกจนกระทั่งฤดูเก็บเกี่ยว คนไทยทั้งชาติตั้งแต่ทำเนียบลงมาจนถึงกระต๊อบที่เชียงรายไม่เคยมีใครรู้ใครเห็นว่ามันปลูกขึ้นมาท่ามกลางสายลม และแสงแดดมีลูกมีผลไปขายได้ยังไงเป็นพันๆ ล้านบาท แต่มันก็ทำได้สำเร็จเป็นการปล้นประเทศชาติประชาชนกันอย่างยิ่งใหญ่ที่สุดของชาวบ้านนอกไม่กี่คน ซึ่งส่วนมากไม่มีสวนลำไยและไม่มีลำไยแม้แต่ต้นเดียว แต่มีลำไยไปขายได้เป็นพันกิโล และชาวบ้านเหล่านั้นทุกครัวเรือนซึ่งมีหน้าที่เป็นเจ้าของสวนลำไยมีบัตรประจำตัวแผ่นเล็กๆ สามารถนำเอารายการลงไว้ในสมุดเล่มเล็กๆ นั้นเป็นเอกสารไปเบิกเงินจากรัฐบาลได้ตั้งแต่รายละ 100,000บาท ไปจนกระทั่งถึง 200,000 บาท โดยที่ไม่มีใครมีลำไยแม้แต่เม็ดเดียว และไม่ต้องทำอะไรนอกจากนั่งสั่งน้ำมูก
มันคือการปล้นสะดมหรือการร่วมมือกันปล้นสะดมที่ข้าราชการทุกคนหรือนักการเมืองทุกคนในคณะรัฐบาลนี้ขึ้นมาปกครองประเทศชาติก็เพื่อจะทำให้ประเทศไทยเป็นดินแดนสำหรับร่วมมือกันปล้นประเทศชาติประชาชน และหลอกลวงคนทั้งโลกทั้งสิ้น
เมืองไทยความชั่วร้ายทั้งหลายกำลังถล่มทลายอยู่อย่างหนัก ในทะเลคลื่นสึนามิก็ลงมือถล่มทลายกันอยู่หยกๆ ในท้องฟ้าเมฆในก็หายตัวไปเหลือแต่ความแห้งแล้ง ในบ้านเมืองทั่วทั้งประเทศชาติก็อดอยากปากเแห้งกันอย่างน่าเศร้า ถ้าถือตามแบบโบราณท่านก็ว่าเพราะเรามีผู้ปกครองบ้านเมืองเป็นกาลกิณีแก่แผ่นดินซึ่ง "เพลงยาวพยากรณ์กรุงศรีอยุธยา" ได้เขียนทำนายเอาไว้ว่า
เดือนดาวดินฟ้าจะอาเพศ อุบัติเหตุเกิดทั่วทุกทิศาน
มหาเมฆจะลุกเป็นเพลิงกาฬ เกิดนิมิตพิสดารทุกบ้านเมือง
พระคงคาจะแดงเป็นเลือดนก อกแผ่นดินจะบ้าฟ้าจะเหลือง
ผีป่าก็จะวิ่งเข้าสิงเมือง ผีเมืองนั้นจะออกไปอยู่ไพร
พระเสื้อเมืองจะเอาตัวหนี พระกาฬกุลีจะเข้ามาเป็นไส้
พระธรณีจะตีอกไห้ อกพระกาฬจะไห้อยู่เกรียมกรม
ครับ ดูไปคอยไปเถอะครับ ถ้าตราบใดที่เรายังคิดแก้ปัญหาด้วยการเอาความชั่วต่างๆ ที่เราร่วมมือกันทำขึ้นอย่างเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันอยู่นี้ไปแก้ มันก็คงจะแก้ไขอะไรมากไปกว่านี้ไม่ได้ ยกเว้นเสียแต่ว่าเราจะใช้คนแก้ปัญหาความชั่วทุกอย่างบ้านเมืองคงจะรอด
วันนั้นเป็นวันที่พระนารายณ์โกรธอย่างหนัก
ผมจำไม่ได้และก็ไม่รู้ด้วยว่ามันเป็นวันที่เท่าไร เดือนไหน เพราะดูเหมือนว่าโลกนี้จะสร้างขึ้นมาได้ไม่นานนัก จึงไม่มีเรื่องราวที่จะต้องจดจำนำมาเล่ากันเท่าที่ควร นอกจากเรื่องนี้เป็นเรื่องแรกที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่สร้างโลกขึ้นมาหลายแสนหลายล้านปีมาแล้ววันนั้น
วันนั้นขนมเปียกปูน โอเลี้ยง หรืออาหารสีต่างๆ ยังไม่ได้สร้างขึ้นมา เพราะดูเหมือนจะไม่มีใครกินหรือกินไม่เป็นก็อาจเป็นไปได้
แต่เป็นวันที่เทพเจ้าและองค์อวตารต่างๆ บนสรวงสวรรค์ที่กำลังสนุกสนานกันอยู่กับการ "กินเหล้า" เมายา และสนุกสนานกับอีตัวเหมือนแถวสนามหลวงที่มีการวิ่งไล่จับกันอยู่โดยถือว่าการกินเหล้าเมายา และการมั่วกับความรักความใคร่ที่ไม่ต้องเลือกที่เลือกทางเป็นเสรีภาพและอารยธรรมของเทวดา แม้แต่ตัวพระนารายณ์เอง ก็มั่วอยู่กับเรื่องพรรค์นี้อย่างหนักเหมือนกัน
กินเหล้ากัน มั่วอีหนูกันไม่ต้องทำอะไร
แต่สาเหตุที่พระนารายณ์ต้องโมโหขนาดหนัก และอดรนทนไม่ได้ก็คือมันเกิดมี ตัวเสนียดจัญไร ของสวรรค์และเทวดาอยู่รายหนึ่งชื่อว่า ราหู ซึ่งมันเป็นลูกเต้าเหล่าใครไม่รู้มาขโมยเหล้าของเทวดากินเป็นการตีเสมอแสดงถึงความเท่าเทียมกันระหว่างตัวมันกับบรรดาเทวดา และองค์พระนารายณ์และดูถูกสวรรค์
ตัวอะไรก็รู้ ไม่ใช่เทวดาไม่ใช่มนุษย์หรือยักษ์มาร แต่เป็นลูกของปีศาจร้ายรายหนึ่งชื่อ นางสิงหิกา เกิดมีความคิดว่าสวรรค์นี้มันจะบ้า เทพเจ้าเทวดาและองค์นารายณ์ทั้งหลายไม่ได้ทำอะไรกันเป็นชิ้นเป็นอัน แต่ถือว่าการกินเหล้ากันจนหัวราน้ำขนาดนั้นเป็นเกียรติยศอันสูงสุดของผู้อยู่ในสวรรค์
ตั้งแต่วันนั้นมาจนกระทั่งถึงวันนี้ เหล้าที่พระนารายณ์และเทวดากินกันตั้งแต่วันที่เริ่มสร้างโลกมาถึงทุกวันนี้ ยังคงไม่เลิกผลิตกลับผลิตมาให้คนกินทุกหนทุกแห่งทั้งโลก มันจะกี่หมื่นกี่แสนล้านปีมาแล้ว ไม่ได้เปลี่ยนแปลงเป็นอย่างอื่น
แต่มันมีความจริงอยู่อย่างหนึ่งคือ คนทั้งโลกที่มีอยู่ก็ไม่ได้กินเหล้าเมายาสนุกสนานไปเสียทุกคน เพระว่าใครที่ไม่กินเหล้าหรือไปกินอย่างอื่นมันก็มีชีวิตอยู่ได้
มนุษย์ที่เกิดมากันแน่นโลกอยู่ทุกวันนี้ แต่ละคนไม่เหมือนกัน มันมีทางเลือกที่จะอยู่จะกิน หาความสุขความสบายของมันโดยไม่ต้องกินเหล้าก็ได้ทำไมไม่พิจารณากันตรงนี้หรือพูดกันตรงนี้เสียก่อน ก่อนที่จะไปรวบหัวรวบหางเอาว่าถ้าเพียงแต่เห็นคนตอกเสาทำโรงเหล้าเท่านั้นบ้านเมืองก็จะมีคนเมาตายกันหมด?
ไม่โง่ไปหน่อยหรือครับ ถ้าจะลองถามกันเล่นๆ สักนิด
เราเกิดมาเป็นคนมีสติปัญญาและมีความคิด แต่เมื่อคิดขึ้นมาว่าจะไม่ให้คนกินเหล้าทำไมจะต้องมาอาฆาตจองเวรเอาที่เหล้า มันไม่ได้ทำอะไรผิด คนต่างหากที่ทำผิดที่ไปกินเหล้า แต่ทำไมไม่แก้ที่คนไม่ให้กินเหล้าเรื่องมันก็จบ
สมัยที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าประสูติที่อินเดียในสมัยนั้น ก็ไม่เคยทราบประวัติว่าท่านดื่มเหล้าเมาสุราหรือไม่ แต่ท่านเลือกออกบวชเพื่อที่จะสั่งสอนคนไม่ให้กินเหล้าหรือมัวเมาในสุรายาเมา เพราะห้ามไม่ได้ แต่ละคนเกิดมามีทางเลือกหรือ
สามารถเลือกได้หรือเลือกไม่ได้ว่าจะมีชีวิตอยู่อย่างไร จะอยู่ด้วยการเป็นคนกินเหล้าหรือไม่กินเหล้าก็ได้ ไม่ว่าใครจะมั่งมีเงินทองและทุนทรัพย์แค่ไหน จะสามารถทำความชั่วช้าเลวทรามอื่นๆ ได้ อย่างการคอร์รัปชัน การรีดไถ หรือการโกงกินลำไยกันทั้งเมืองก็ทำกันไป ท่านไม่เคยห้ามว่าอย่าไปทำเหล้ามาขาย หรือห้ามว่าอย่าไปแสวงหาทุนและความมั่งคั่งที่ไหนมาทำเหล้าให้คนอินเดียกิน การกินเหล้าหรืออะไรที่เป็นความสุขของคน มันเป็นเรื่องของธุรกิจ และการทำมาหากินของคน ท่านก็ไม่ว่าอะไร เพราะหน้าที่ของท่านที่เกิดมาเป็นพระพุทธเจ้าไม่เหมือนพระรับจ้างอื่นๆ ที่จะไปเที่ยวบังคับขู่เข็ญว่าทำอะไรถูกอะไรผิด ท่านบอกแต่เพียง "อักขาตาโร ตถาคโต" คือท่านว่า พระพุทธเจ้านั้นเป็นแต่เพียงผู้บอกกล่าวเท่านั้น ใครจะทำหรือไม่ทำก็ตามใจ
แม้แต่เรื่องเหล้า ท่านไม่ได้ไปเที่ยวลากคอใครมาสั่งสอนว่าจะกินอย่างไรหรือไม่ให้กิน แต่ท่านบอกว่าให้กินด้วยความไม่ประมาทพอเหมาะพอควรหรือ "สุราเมรยะ มัชชะ ปมาทัฏฐานาเวรมณี" เท่านั้น
ไม่ได้ถือพัดไปเที่ยวยืนสวดหน้าศพอยู่อย่างที่เห็นๆ
ในการที่บริษัทเบียร์แห่งหนึ่งกำลังจะเอาบริษัทที่ผลิตเบียร์เข้าตลาดหุ้นเพื่อให้ได้ทุนเพิ่มเติมขึ้นมา เพื่อขยายการผลิตให้ได้มากยิ่งขึ้นและขายเอาเงินเข้าประเทศมากขึ้นเมื่อไม่มีกี่วันมานี้ เป็นธุรกิจของมนุษย์ที่เกิดมาต้องทำมาหากินตามแนวถนัดและตามความรู้ความสามารถของตน มันไม่ทำให้ใครชั่วหรือต่ำทรามลงไป แต่เป็นเรื่องของคนที่ต้องการจะแสวงหาความชั่วกันเอง น่าอนาถที่ปรากฏว่าในวงการสงฆ์ของเราเกิดมีพระรับจ้างกลุ่มหนึ่งไปจัดตั้งกันออกมาประท้วงตลาดหลักทรัพย์ฯ เป็นการบอกกล่าวบริษัทเบียร์ไม่ให้ยอมรับว่าบริษัทคนไทยในเมืองไทยจำเป็นจะต้องมีทุนเพิ่ม เมื่อบริษัทประเภทนี้ทั่วโลกเขาขายหุ้นโกยเงินจากประเทศของเราไปสร้างชาติบ้านเมืองของเขาจนจะเกลี้ยงแผ่นดินไปแล้ว
แต่เราไม่เคยคิดไม่เคยสนใจว่าทุกวันนี้โลกมันเป็นอย่างไร ผู้รักชาติบ้านเมืองในไทยที่ไม่เคยทำอะไรเพื่อชาตินอกจากนั่งรอก่อกวนชาวบ้าน หลับหูหลับตาคอยนั่งจับผิดโวยวายคนอื่น ที่อื่นเขาทำมาหากินกันอย่างไร เราต้องไม่สนใจ ขออย่างเดียวอย่านำบริษัทเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ เท่านั้น เพราะจะทำให้คนไทยกินเหล้ากันมากขึ้น เพราะบริษัทเกิดเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ ขึ้นมา เฉพาะบริษัทนี้บริษัทเดียวเท่านั้น บริษัทที่ผลิตเหล้าผลิตเบียร์อื่นๆ ทั่วโลกที่มาผลิตขายอยู่ในเมืองไทยคนไทยจะไม่มีวันกินเพิ่มขึ้น ซึ่งฟังดูเหมือนว่าเหล้าเบียร์บริษัทนี้จะวิ่งมากินคนไทยทั้งประเทศ ถ้าหากเหล้าหรือเบียร์ที่ทำขึ้นในประเทศไทยหรือทำโดยผู้ถือหุ้นเป็นคนไทย
นี่เป็นความคิด ความรู้สึก และความเข้าใจที่โง่เขลาที่สุดเรื่องหนึ่งนับตั้งแตสร้างประเทศไทยขึ้นมา
พระเกิดหาความสุขไม่ได้ เพราะคนไทยจะช่วยกันหาทุนมาสร้างประเทศให้มันแกร่งขึ้น
ถ้าเป็นสมัยก่อน ก็อุทานออกมาด้วยความตื่นเต้นตกใจได้เลยว่า "บ้าฉิบหาย!!"
มันเป็นไปไม่ได้ที่คนไทยกินเหล้ากินสาโทหรือยาดองของเมากันมาตั้งแต่สมัยไหนก็ไม่รู้ มีตำรับตำรา มีหลักวิชาถ่ายทอดกันมา รับกันมาทำกินกันมาไม่เคยหยุดไม่เคยเว้น เมื่อกินยาดองของเมาเหล่านี้เข้าไปแล้วก็ไม่เคยไปวิ่งฆ่าคนที่ไหน บ้านใครบ้านมันก็อยู่กันตามปกติ
สมัยโบราณ เอากันตั้งแต่สมัยพระนารายณ์ และบรรดาเทวดานางฟ้านางสวรรค์ที่มั่วกันอยู่เพราะเหล้า จนราหูทนไม่ไหวต้องหาทางเข้าไปขโมยกินเป็นต้นมา มันจะกี่ล้านกี่แสนปีก็ไม่มีใครไปประท้วงคนทำเหล้าที่เป็นอาชีพของเขาได้ พระนารายณ์หรือเทวดาต่างๆ ที่ร่วมกันสร้างโลกขึ้นมาก็ไม่เคยมีใครเดือดร้อนนอกจากได้กินเหล้าและถือว่าเหล้าคืออาหารสวรรค์ ใครไม่กินก็ไม่เดือดร้อน แต่ยอมไม่ได้เหมือนกันที่จะให้ใครมาทำลายเหล้าเล่นๆ หรือแม้แต่มาแย่งกันอย่างที่ราหูได้ประสบมาแล้ว จนกระทั่งบัดนี้ก็ยังไม่มีใครบังอาจทำอีก
พระพุทธเจ้าเอง ก็ทรงมองเห็นโทษภัยของคนกินเหล้า แต่ไม่ได้ลงโทษว่าการทำเหล้ามันเสียหาย เพียงแต่เตือนคนที่จะกินเหล้า ไม่ให้เมาอย่างประมาทหรือลืมตัว เท่านั้นที่ท่านห้าม
พระสงฆ์ของเราที่พากันออกมาเดินขบวนประท้วงคราวนี้ นับว่าได้กระทำสิ่งที่ ไม่ใช่กิจของสงฆ์ ซึ่งมันน่าเกลียดที่สุดเมื่อนึกต่อไปว่า การเดินขบวนมาชุมนุมและประท้วงของพระคุณเจ้านั้น เป็นการรวมตัวจัดตั้งของ พวกอลัชชี ที่อาศัยศาสนาทำมาหากิน ใช้เงินสนับสนุนของรัฐบาลที่เป็นเงินของประชาชนไปใช้จ่าย และรับจ้างออกเดินขบวนประท้วง น่าจะได้พากันกลับวัดและพากันไปทบทวนดูว่าการเคลื่อนไหวหรือการแสดงออกต่างๆ ในทางที่ไม่ใช่กิจของตัวเองนั้น มันน่าเกลียดขนาดไหน ถ้าเราจะปล่อยให้ทำอะไรต่ออะไรทุเรศโดยไม่ได้พูดกันตรงๆ
ทุกวันนี้ เมืองไทยหรือประเทศไทยของเราเสื่อมโทรมลงไปเกือบทุกด้าน ไม่ว่าคุณธรรม ศีลธรรม สติสัมปชัญญะ ความละอายเราไม่ค่อยจะมีเหลืออยู่เลยหรือมีก็น้อย ปัญหาของบ้านเมืองที่เลวร้ายลงมันก็เกิดกันขึ้นมาทุกวัน โดยที่คนไทยที่มีบุญวาสนาก็พากันหุบปากและลงมือทำสกปรกกันเสียเอง หรือทำโดยไม่มีความคิดกัน มันน่าจะถึงเวลาแล้วที่เราจะบอกกล่าวกันตรงไปตรงมาเสียที ขอให้เราทุกคนมาเปลี่ยนแปลงบ้านเมืองผู้คนของเราให้ดีขึ้นมาเสียบ้าง โดยใช้สติปัญญาและความถูกต้องเข้ามาแก้ไขน่าจะดีกว่า
ปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นในโลกหรือในบ้านเมืองของเราทุกวันนี้ ไม่ใช่เกิดจากการกินหล้าหรือมีเหล้ามีเบียร์ขาย แต่ปัญหาทุกอย่างที่มันเกิดขึ้นนั้น ทุกปัญหามันอยู่ที่ "คน" ที่เราเห็นๆ กันอยู่นี่แหละ
คนที่พยายามอยู่กันด้วยความชั่วและกระทำความชั่ว
หรือถ้าไม่ทำก็ยอมให้คนอื่นเขาทำหรือร่วมกับเขาทำหรืออยู่กันเฉยๆ ไปวันๆ
แม้ว่าคนพวกนั้นจะมีอำนาจและมีหน้าที่รับผิดชอบที่จะทำ
ไม่กี่วันมานี้ ผมติดตามดูข่าวเรื่องที่บ้านเมืองของเราในภาคเหนือปลูกลำไยเอาไปขายให้จีนจากข่าว "ไอทีวี" ก็เกิดความรู้อย่างทะลุฟ้าทะลุดินขึ้นมาตั้งแต่ต้นจนจบว่า การปล้นบ้านกินเมืองของคนที่มีอำนาจวาสนา และมีความรับผิดชอบทุกวันนี้ ความรู้ความสามารถมันก็น้อยกว่าพระนารายณ์ และเทวดาทั้งหลายที่กินเหล้ามัวเมากันอยู่ แต่ก็ยังแพ้คนไทยทุกวันนี้ เพราะการปล้นชาติปล้นแผ่นดินทุกวันนี้ร่วมมือกันทั้งชาติ ไม่ว่าจะมีตำแหน่งหน้าที่รับผิดชอบระดับไหนประเภทใด จะปล่อยให้มีการวางแผนการปล้นการฉ้อฉลกันอย่างไม่มีใครยอมปริปาก ลำไยเป็นหมื่นกิโลกรัมราคาเป็นพันๆ ล้าน ไม่รู้ว่าจะต้องใช้เนื้อที่สำหรับการปลูกมากน้อยเท่าไรไม่ต้องพูดถึง ใครจะรู้จะเห็นไม่สำคัญ มันไม่แคร์ เพราะทุกฝ่ายจะได้รับแบ่งปันกันอย่างทั่วถึง
มันเริ่มวางแผนปล้นสะดม และเอาประเทศชาติไปขายกันตั้งแต่เริ่มต้นฤดูปลูกจนกระทั่งฤดูเก็บเกี่ยว คนไทยทั้งชาติตั้งแต่ทำเนียบลงมาจนถึงกระต๊อบที่เชียงรายไม่เคยมีใครรู้ใครเห็นว่ามันปลูกขึ้นมาท่ามกลางสายลม และแสงแดดมีลูกมีผลไปขายได้ยังไงเป็นพันๆ ล้านบาท แต่มันก็ทำได้สำเร็จเป็นการปล้นประเทศชาติประชาชนกันอย่างยิ่งใหญ่ที่สุดของชาวบ้านนอกไม่กี่คน ซึ่งส่วนมากไม่มีสวนลำไยและไม่มีลำไยแม้แต่ต้นเดียว แต่มีลำไยไปขายได้เป็นพันกิโล และชาวบ้านเหล่านั้นทุกครัวเรือนซึ่งมีหน้าที่เป็นเจ้าของสวนลำไยมีบัตรประจำตัวแผ่นเล็กๆ สามารถนำเอารายการลงไว้ในสมุดเล่มเล็กๆ นั้นเป็นเอกสารไปเบิกเงินจากรัฐบาลได้ตั้งแต่รายละ 100,000บาท ไปจนกระทั่งถึง 200,000 บาท โดยที่ไม่มีใครมีลำไยแม้แต่เม็ดเดียว และไม่ต้องทำอะไรนอกจากนั่งสั่งน้ำมูก
มันคือการปล้นสะดมหรือการร่วมมือกันปล้นสะดมที่ข้าราชการทุกคนหรือนักการเมืองทุกคนในคณะรัฐบาลนี้ขึ้นมาปกครองประเทศชาติก็เพื่อจะทำให้ประเทศไทยเป็นดินแดนสำหรับร่วมมือกันปล้นประเทศชาติประชาชน และหลอกลวงคนทั้งโลกทั้งสิ้น
เมืองไทยความชั่วร้ายทั้งหลายกำลังถล่มทลายอยู่อย่างหนัก ในทะเลคลื่นสึนามิก็ลงมือถล่มทลายกันอยู่หยกๆ ในท้องฟ้าเมฆในก็หายตัวไปเหลือแต่ความแห้งแล้ง ในบ้านเมืองทั่วทั้งประเทศชาติก็อดอยากปากเแห้งกันอย่างน่าเศร้า ถ้าถือตามแบบโบราณท่านก็ว่าเพราะเรามีผู้ปกครองบ้านเมืองเป็นกาลกิณีแก่แผ่นดินซึ่ง "เพลงยาวพยากรณ์กรุงศรีอยุธยา" ได้เขียนทำนายเอาไว้ว่า
เดือนดาวดินฟ้าจะอาเพศ อุบัติเหตุเกิดทั่วทุกทิศาน
มหาเมฆจะลุกเป็นเพลิงกาฬ เกิดนิมิตพิสดารทุกบ้านเมือง
พระคงคาจะแดงเป็นเลือดนก อกแผ่นดินจะบ้าฟ้าจะเหลือง
ผีป่าก็จะวิ่งเข้าสิงเมือง ผีเมืองนั้นจะออกไปอยู่ไพร
พระเสื้อเมืองจะเอาตัวหนี พระกาฬกุลีจะเข้ามาเป็นไส้
พระธรณีจะตีอกไห้ อกพระกาฬจะไห้อยู่เกรียมกรม
ครับ ดูไปคอยไปเถอะครับ ถ้าตราบใดที่เรายังคิดแก้ปัญหาด้วยการเอาความชั่วต่างๆ ที่เราร่วมมือกันทำขึ้นอย่างเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันอยู่นี้ไปแก้ มันก็คงจะแก้ไขอะไรมากไปกว่านี้ไม่ได้ ยกเว้นเสียแต่ว่าเราจะใช้คนแก้ปัญหาความชั่วทุกอย่างบ้านเมืองคงจะรอด