บาจาผลัดเปลี่ยนกรรมการผู้จัดการคนใหม่สิ้นเดือนนี้ ท่ามกลางปัญหาราคาน้ำมันต้นทุนการผลิตพุ่ง ยืนยันตรึงราคาสินค้าช่วงซัมเมอร์แบ็คทูสคูล ไม่ปรับราคา เหตุคุมต้นทุนได้เพราะผลิตมาก แต่จบซัมเมอร์นี้ว่ากันใหม่ ไม่ยืนยันว่าจะมีราคาเดิม 189 บาทในปีหน้าอีกหรือไม่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริษัท รองเท้าบาจาแห่งประเทศไทย จำกัด (มหาชน) ได้เตรียมเปลี่ยนตัวกรรมการผู้จัดการคนใหม่ จากเดิมที่เป็นนาย อัลเบอร์โต้ เออร์ริโก้ บริหารงานในไทยได้เกือบ 2 ปี ซึ่งได้รับการแต่งตั้งเป็นผู้อำนวยการภาคพื้นเอเชียแปซิฟิก มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่สิงคโปร์ มาเป็นนายคลาวดิโอ อเลสซี่ ชาวอิตาลี อายุ 38 ปี ที่โยกมาจากบาจาอินโดนีเซีย โดยจะมีผลเป็นทางการในวันที่ 1 เมษายนศกนี้ ซึ่งถือเป็นการผลัดเปลี่ยนผู้นำองค์กรในช่วงจังหวะที่สถานการณ์ราคาน้ำมันผันผวนอย่างหนัก
โดยนายคลาวดิโอ นั้นจบการศึกษาด้านพณิชยการและการเงินที่อิตาลี เคยผ่านการเป็นผู้ตรวจสอบบัญชี และเป็นรองประธานหอการค้าอิตาลีมาก่อน อีกทั้งยังเคยเป็นเจ้าของธุรกิจร้านรองเท้าในอิตาลีจำนวน 5 แห่งซึ่งมีร้านที่เป็นแฟรนไชส์ของบาจาด้วย โดยเมื่อช่วงปี 2001-2002 ได้เริ่มทำงานกับบาจาที่ประเทศไทยตำแหน่งฝ่ายบริหารด้านร้านค้าปลีกประมาณปีกว่า ก่อนที่จะถูกย้ายไปเป็นผู้จัดการฝ่ายการตลาดประจำที่บาจาประเทศอินโดนีเซีย ดูแลด้านฝ่ายขายปลีก เมอร์ชันไดซิ่งส์ ขายส่ง โฆษณา ส่งเสริมการขาย อสังหาริมทรัพย์ นาน 3 ปี กระทั่งได้รับการแต่งตั้งเป็นกรรมการผู้จัดการที่ประเทศไทย
นายอัลเบอร์โต้ เออร์ริโก้ กรรมการผู้จัดการ บริษัท รองเท้าบาจาแห่งประเทศไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า สถานการณ์ด้านเศรษฐกิจในขณะนี้ทั้งปัจจัยราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้น รวมถึงต้นทุนวัตถุดิบที่เพิ่มขึ้น แต่บาจายังคงยืนยันที่จะจำหน่ายรองเท้านักเรียนในราคาพิเศษตามที่วางแผนไว้ เนื่องจากอาศัยต้นทุนการผลิตที่ต่ำและการวางแผนที่เหมาะสม โดยเฉพาะการสั่งซื้อวัตถุดิบจำนวนมากเป็นการสั่งซื้อรวมในเอเซียแปซิฟิก ทำให้มีอำนาจต่อรองกับซัปพลายเออร์มากพอที่จะได้ราคาต่ำ ซึ่งโรงงานของบาจาในภาคพื้นนี้เช่น อินโดนีเซีย 2 แห่ง, ไทย ปากีสถาน บังคลาเทศ อินโดนีเซีย ประเทศละ 1 โรงงาน และอินเดียอีกหลายโรงงาน เป็นต้น
ขณะเดียวกันทางกระทรวงพาณิชย์ได้ติดต่อประสานงานมายังบริษัทฯเพื่อขอให้ตรึงราคาสินค้ารองเท้าไปก่อนในระยะนี้เพื่อเป็นการผ่อนหนักเป็นเบาให้กับผู้บริโภค
โดยในช่วงซัมเมอร์หรือแบ็คทูสคูลนี้ ทางบาจาได้นำเสนอ 3 โครงการคือ 1.เปิดตัวรุ่น 189 เป็นรองเท้านักเรียนราคาเดียวกัน 189 บาท ทุกเบอร์ ทั้งชายและหญิง ซึ่งเป็นราคาถูกกว่ารองเท้าของคู่แข่งกว่า 60-70 บาทต่อคู่ 2.เปิดตัวรุ่นแถมถุงเท้าฟรี แต่ราคาเดิมเท่ากับปีที่แล้ว เป็นรองเท้านักเรียนชายหญิง ราคา 269 บาท แถมถุงเท้า 1 คู่ 3.รองเท้าของนักศึกษา ของผู้หญิงเริ่มต้นที่ 299-399 บาทต่อคู่ ของผู้ชายเริ่มต้นที่ 399-599 บาทต่อคู่ ซึ่งรองเท้าทั้งหมดนี้เป็นรองเท้าที่ผลิตขึ้นมาใหม่
ในช่วงซัมเมอร์นี้คาดว่ายอดขายจะเพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่า 10% เพราะเป็นช่วงฤดูขายสินค้ารองเท้าและผลิตภัณฑ์นักเรียนอยู่แล้ว ส่วนเป้าหมายรายได้ปีนี้คาดว่าจะมียอดขายรวมมากกว่า 1,000 ล้านบาทเติบโต 10-15% จากปีที่แล้วที่มีรายได้เกือบ 1,000 ล้านบาท โดยมียอดขายคิดเป็นประมาณ 1.5 ล้านคู่
เขากล่าวด้วยว่า ในช่วงซัมเมอร์นี้ยังยืนยันราคาเดิม แต่หลังจากนี้ไปจะต้องมีการพิจารณากันใหม่ว่าต้นทุนเพิ่มมากน้อยอย่างไร และในปีหน้าจะทำแผนการตลาดด้วยราคาแบบนี้อีกหรือไม่ยังไม่สามารถยืนยันได้ในขณะนี้
นอกจากนั้นในปีนี้จะมีการรีโนเวตสาขาเก่าบางแห่งที่เหมาะสมให้เป็นแฟลกชิปสโตร์ โดยเริ่มต้นที่สาขาเอ็มบีเคเป็นแห่งแรก คาดว่าในปีนี้จะรีโนเวทอีก 5 สาขา และจะเปิดสาขาใหม่อีก 10 สาขา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริษัท รองเท้าบาจาแห่งประเทศไทย จำกัด (มหาชน) ได้เตรียมเปลี่ยนตัวกรรมการผู้จัดการคนใหม่ จากเดิมที่เป็นนาย อัลเบอร์โต้ เออร์ริโก้ บริหารงานในไทยได้เกือบ 2 ปี ซึ่งได้รับการแต่งตั้งเป็นผู้อำนวยการภาคพื้นเอเชียแปซิฟิก มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่สิงคโปร์ มาเป็นนายคลาวดิโอ อเลสซี่ ชาวอิตาลี อายุ 38 ปี ที่โยกมาจากบาจาอินโดนีเซีย โดยจะมีผลเป็นทางการในวันที่ 1 เมษายนศกนี้ ซึ่งถือเป็นการผลัดเปลี่ยนผู้นำองค์กรในช่วงจังหวะที่สถานการณ์ราคาน้ำมันผันผวนอย่างหนัก
โดยนายคลาวดิโอ นั้นจบการศึกษาด้านพณิชยการและการเงินที่อิตาลี เคยผ่านการเป็นผู้ตรวจสอบบัญชี และเป็นรองประธานหอการค้าอิตาลีมาก่อน อีกทั้งยังเคยเป็นเจ้าของธุรกิจร้านรองเท้าในอิตาลีจำนวน 5 แห่งซึ่งมีร้านที่เป็นแฟรนไชส์ของบาจาด้วย โดยเมื่อช่วงปี 2001-2002 ได้เริ่มทำงานกับบาจาที่ประเทศไทยตำแหน่งฝ่ายบริหารด้านร้านค้าปลีกประมาณปีกว่า ก่อนที่จะถูกย้ายไปเป็นผู้จัดการฝ่ายการตลาดประจำที่บาจาประเทศอินโดนีเซีย ดูแลด้านฝ่ายขายปลีก เมอร์ชันไดซิ่งส์ ขายส่ง โฆษณา ส่งเสริมการขาย อสังหาริมทรัพย์ นาน 3 ปี กระทั่งได้รับการแต่งตั้งเป็นกรรมการผู้จัดการที่ประเทศไทย
นายอัลเบอร์โต้ เออร์ริโก้ กรรมการผู้จัดการ บริษัท รองเท้าบาจาแห่งประเทศไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า สถานการณ์ด้านเศรษฐกิจในขณะนี้ทั้งปัจจัยราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้น รวมถึงต้นทุนวัตถุดิบที่เพิ่มขึ้น แต่บาจายังคงยืนยันที่จะจำหน่ายรองเท้านักเรียนในราคาพิเศษตามที่วางแผนไว้ เนื่องจากอาศัยต้นทุนการผลิตที่ต่ำและการวางแผนที่เหมาะสม โดยเฉพาะการสั่งซื้อวัตถุดิบจำนวนมากเป็นการสั่งซื้อรวมในเอเซียแปซิฟิก ทำให้มีอำนาจต่อรองกับซัปพลายเออร์มากพอที่จะได้ราคาต่ำ ซึ่งโรงงานของบาจาในภาคพื้นนี้เช่น อินโดนีเซีย 2 แห่ง, ไทย ปากีสถาน บังคลาเทศ อินโดนีเซีย ประเทศละ 1 โรงงาน และอินเดียอีกหลายโรงงาน เป็นต้น
ขณะเดียวกันทางกระทรวงพาณิชย์ได้ติดต่อประสานงานมายังบริษัทฯเพื่อขอให้ตรึงราคาสินค้ารองเท้าไปก่อนในระยะนี้เพื่อเป็นการผ่อนหนักเป็นเบาให้กับผู้บริโภค
โดยในช่วงซัมเมอร์หรือแบ็คทูสคูลนี้ ทางบาจาได้นำเสนอ 3 โครงการคือ 1.เปิดตัวรุ่น 189 เป็นรองเท้านักเรียนราคาเดียวกัน 189 บาท ทุกเบอร์ ทั้งชายและหญิง ซึ่งเป็นราคาถูกกว่ารองเท้าของคู่แข่งกว่า 60-70 บาทต่อคู่ 2.เปิดตัวรุ่นแถมถุงเท้าฟรี แต่ราคาเดิมเท่ากับปีที่แล้ว เป็นรองเท้านักเรียนชายหญิง ราคา 269 บาท แถมถุงเท้า 1 คู่ 3.รองเท้าของนักศึกษา ของผู้หญิงเริ่มต้นที่ 299-399 บาทต่อคู่ ของผู้ชายเริ่มต้นที่ 399-599 บาทต่อคู่ ซึ่งรองเท้าทั้งหมดนี้เป็นรองเท้าที่ผลิตขึ้นมาใหม่
ในช่วงซัมเมอร์นี้คาดว่ายอดขายจะเพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่า 10% เพราะเป็นช่วงฤดูขายสินค้ารองเท้าและผลิตภัณฑ์นักเรียนอยู่แล้ว ส่วนเป้าหมายรายได้ปีนี้คาดว่าจะมียอดขายรวมมากกว่า 1,000 ล้านบาทเติบโต 10-15% จากปีที่แล้วที่มีรายได้เกือบ 1,000 ล้านบาท โดยมียอดขายคิดเป็นประมาณ 1.5 ล้านคู่
เขากล่าวด้วยว่า ในช่วงซัมเมอร์นี้ยังยืนยันราคาเดิม แต่หลังจากนี้ไปจะต้องมีการพิจารณากันใหม่ว่าต้นทุนเพิ่มมากน้อยอย่างไร และในปีหน้าจะทำแผนการตลาดด้วยราคาแบบนี้อีกหรือไม่ยังไม่สามารถยืนยันได้ในขณะนี้
นอกจากนั้นในปีนี้จะมีการรีโนเวตสาขาเก่าบางแห่งที่เหมาะสมให้เป็นแฟลกชิปสโตร์ โดยเริ่มต้นที่สาขาเอ็มบีเคเป็นแห่งแรก คาดว่าในปีนี้จะรีโนเวทอีก 5 สาขา และจะเปิดสาขาใหม่อีก 10 สาขา