เอเอฟพี –อีไอยูเผยโตเกียว โอซากา และโกเบ ยังครองอันดับเมืองที่มีค่าครองชีพแพงสุดในโลก ขณะที่บอมเบย์ มะนิลา เตหะรานครอง 3 อันดับท้ายสุด ด้านไทยอยู่อันดับ 102 จากการสำรวจเมืองทั้งหมด 130 แห่ง
อิโคโนมิสต์ อินเทลลิเจนซ์ ยูนิต (อีไอยู) เผยผลสำรวจค่าครองชีพในเมืองต่างๆ กว่า 130 แห่งทั่วโลก ซึ่งจัดทำปีละ 2 ครั้งวานนี้ (23) พบว่า โตเกียวมีค่าดัชนีสูงถึง 141 ส่วนโอซากาและโกเบได้ 136 และทั้งสามเมืองยังคงครองตำแหน่งเมืองที่มีค่าครองชีพแพงที่สุดในโลก
ลอนดอน ซึ่งเป็นเมืองที่ค่าครองชีพเพิ่มขึ้นมากที่สุดจากปีที่แล้ว ครองอันดับ 7 โดยมีค่าดัชนีอยู่ที่ 121 ขณะที่เมืองต่างๆ ในสหรัฐฯ มีค่าครองชีพลดต่ำลงเนื่องจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ อาทิ นิวยอร์ก ซึ่งถูกจัดให้เป็นฐานในการเปรียบเทียบอ่านค่าดัชนีอยู่ที่ 100 ตกจากอันดับ 13 ในปีก่อนไปอยู่ที่อันดับ 23
สำหรับเมืองที่มีค่าครองชีพอยู่ในระดับต่ำ ได้แก่ นิวเดลีจากอินเดีย และการาจีจากปากีสถาน ซึ่งมีค่าดัชนีเพียง 45 และอยู่ในอันดับ 120 เท่ากัน, บอมเบย์ อยู่ที่ 122 มีค่าดัชนี 44 ตามด้วยมะนิลา อันดับที่ 123 มีค่าดัชนี 38 ส่วนเมืองที่ครองอันดับต่ำสุดคือ เตหะรานจากอิหร่าน ซึ่งมีค่าดัชนีเพียง 32
ส่วนเมืองอื่นๆ ในแถบเอเชีย-แปซิฟิกที่ติดอันดับใน 25 เมืองแรก อาทิ ฮ่องกง ซึ่งอยู่ที่ 12 ตกจากอันดับ 7 ในปีที่แล้ว ตามมาด้วยสิงคโปร์ อยู่ที่ 19 ตกจากอันดับที่ 17 และโซล ตกจากอันดับที่ 19 ลงมาครองอันดับ 25 ร่วมกับซิดนีย์ ซึ่งขึ้นมาจากอันดับ 27 ในปีที่แล้ว
ทั้งนี้ ตะกร้าราคาสินค้าและบริการจะถูกนำมาใช้ในการคำนวณค่าดัชนีต่างๆ นอกจากนี้ ความแข็งแกร่งของสกุลเงินยังเป็นปัจจัยอีกประการที่สำคัญมากเช่นกัน เนื่องจากราคาสินค้าและบริการในแต่ละประเทศจะถูกปรับให้กลายเป็นสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯ
ค่าครองชีพของเมืองต่างๆ ในออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์จึงถีบตัวสูงขึ้นมากจากการที่ค่าเงินแข็งแกร่งขึ้น ส่งให้เวลลิงตัน และโอ๊คแลนด์ของนิวซีแลนด์กลายเป็นเมืองหนึ่งที่มีค่าครองชีพสูงที่สุดในโลก อยู่ที่อันดับ 39 อ่านค่าดัชนีได้ 91
ส่วนเมืองที่มีค่าครองชีพสูงอยู่แล้วอย่างฮ่องกง กลับมีค่าครองชีพต่ำลงเนื่องจากภาวะเงินเฟ้อต่ำ และการตรึงค่าเงินไว้กับสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ขณะที่เมืองในยุโรปมีค่าครองชีพสูงใกล้เคียงกับโตเกียวและโอซากา
เมืองสำคัญในเอเชียอื่นๆ ติดอันดับหลากหลายกันไป อาทิ ปักกิ่งและไทเป ครองอันดับที่ 44 ร่วมกัน ค่าดัชนีอยู่ที่ 87 ขณะที่เซี่ยงไฮ้ ไมอามี่ และฟลอริดาอยู่อันดับ 46 (86)
จาการ์ตาอันดับ 86 (68) โฮจิมินห์ ซิตี้ (66) ครองอันดับ 90 ฮานอยและกัวลาลัมเปอร์ (62) อยู่ที่อันดับ 98 และกรุงเทพฯ ซึ่งมีค่าดัชนี 60 อยู่อันดับ 102
อิโคโนมิสต์ อินเทลลิเจนซ์ ยูนิต (อีไอยู) เผยผลสำรวจค่าครองชีพในเมืองต่างๆ กว่า 130 แห่งทั่วโลก ซึ่งจัดทำปีละ 2 ครั้งวานนี้ (23) พบว่า โตเกียวมีค่าดัชนีสูงถึง 141 ส่วนโอซากาและโกเบได้ 136 และทั้งสามเมืองยังคงครองตำแหน่งเมืองที่มีค่าครองชีพแพงที่สุดในโลก
ลอนดอน ซึ่งเป็นเมืองที่ค่าครองชีพเพิ่มขึ้นมากที่สุดจากปีที่แล้ว ครองอันดับ 7 โดยมีค่าดัชนีอยู่ที่ 121 ขณะที่เมืองต่างๆ ในสหรัฐฯ มีค่าครองชีพลดต่ำลงเนื่องจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ อาทิ นิวยอร์ก ซึ่งถูกจัดให้เป็นฐานในการเปรียบเทียบอ่านค่าดัชนีอยู่ที่ 100 ตกจากอันดับ 13 ในปีก่อนไปอยู่ที่อันดับ 23
สำหรับเมืองที่มีค่าครองชีพอยู่ในระดับต่ำ ได้แก่ นิวเดลีจากอินเดีย และการาจีจากปากีสถาน ซึ่งมีค่าดัชนีเพียง 45 และอยู่ในอันดับ 120 เท่ากัน, บอมเบย์ อยู่ที่ 122 มีค่าดัชนี 44 ตามด้วยมะนิลา อันดับที่ 123 มีค่าดัชนี 38 ส่วนเมืองที่ครองอันดับต่ำสุดคือ เตหะรานจากอิหร่าน ซึ่งมีค่าดัชนีเพียง 32
ส่วนเมืองอื่นๆ ในแถบเอเชีย-แปซิฟิกที่ติดอันดับใน 25 เมืองแรก อาทิ ฮ่องกง ซึ่งอยู่ที่ 12 ตกจากอันดับ 7 ในปีที่แล้ว ตามมาด้วยสิงคโปร์ อยู่ที่ 19 ตกจากอันดับที่ 17 และโซล ตกจากอันดับที่ 19 ลงมาครองอันดับ 25 ร่วมกับซิดนีย์ ซึ่งขึ้นมาจากอันดับ 27 ในปีที่แล้ว
ทั้งนี้ ตะกร้าราคาสินค้าและบริการจะถูกนำมาใช้ในการคำนวณค่าดัชนีต่างๆ นอกจากนี้ ความแข็งแกร่งของสกุลเงินยังเป็นปัจจัยอีกประการที่สำคัญมากเช่นกัน เนื่องจากราคาสินค้าและบริการในแต่ละประเทศจะถูกปรับให้กลายเป็นสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯ
ค่าครองชีพของเมืองต่างๆ ในออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์จึงถีบตัวสูงขึ้นมากจากการที่ค่าเงินแข็งแกร่งขึ้น ส่งให้เวลลิงตัน และโอ๊คแลนด์ของนิวซีแลนด์กลายเป็นเมืองหนึ่งที่มีค่าครองชีพสูงที่สุดในโลก อยู่ที่อันดับ 39 อ่านค่าดัชนีได้ 91
ส่วนเมืองที่มีค่าครองชีพสูงอยู่แล้วอย่างฮ่องกง กลับมีค่าครองชีพต่ำลงเนื่องจากภาวะเงินเฟ้อต่ำ และการตรึงค่าเงินไว้กับสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ขณะที่เมืองในยุโรปมีค่าครองชีพสูงใกล้เคียงกับโตเกียวและโอซากา
เมืองสำคัญในเอเชียอื่นๆ ติดอันดับหลากหลายกันไป อาทิ ปักกิ่งและไทเป ครองอันดับที่ 44 ร่วมกัน ค่าดัชนีอยู่ที่ 87 ขณะที่เซี่ยงไฮ้ ไมอามี่ และฟลอริดาอยู่อันดับ 46 (86)
จาการ์ตาอันดับ 86 (68) โฮจิมินห์ ซิตี้ (66) ครองอันดับ 90 ฮานอยและกัวลาลัมเปอร์ (62) อยู่ที่อันดับ 98 และกรุงเทพฯ ซึ่งมีค่าดัชนี 60 อยู่อันดับ 102