xs
xsm
sm
md
lg

ธปท.ชี้ปรับดอกเบี้ยอิงปัจจัยในปท.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ผู้จัดการรายวัน - ผู้ว่าการ ธปท. ดอดหารือนโยบายการเงินและสถาบันการเงินกับ "ขุนคลัง" ยันโดนปลดจากตำแหน่งแค่ข่าวลือ ส่วนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายจะพิจารณาจากปัจจัยภายในประเทศจะส่งผลกระทบต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจของไทยมากกว่าปัจจัยนอกประเทศ ขณะที่เงินนอกยังไหลเข้าต่อเนื่องเหตุดอลลาร์ยังอ่อนค่า ด้าน "สมคิด" เรียกประชุมผู้บริหารระดับสูงกระทรวงการคลัง ระบุงบปี 2549 ต้องรอแถลงนโยบายรัฐบาลก่อน

ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่า เมื่อวันศุกร์ที่ 17 มีนาคมที่ผ่านมาได้เข้าหารือกับนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง โดยมีการหารือเกี่ยวกับการทำงานในด้านนโยบายการเงินและสถาบันการเงิน อาทิ งานเก่าที่ยังค้างอยู่นั้นมีเรื่องไหนที่ต้องทำอย่างเร่งด่วน และนโยบายที่จะทำต่อไป

"ผมค่อนข้างสบายใจหลังจากได้คุยกับนายสมคิดแล้ว และการกลับมาดำรงตำแหน่งรมช.คลัง ครั้งนี้ ถือว่าดีกว่าคนอื่น เพราะการดำเนินนโยบายต่างๆ จะได้เป็นไปอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งการหารือก็ไม่ได้หยิบเรื่องปลดผมออกจากตำแหน่งผู้ว่าการธปท.ขึ้นมาพูดแต่อย่างใด"

ม.ร.ว. ปรีดิยาธร กล่าวว่า ประเด็นการหารือส่วนใหญ่จะเป็นแผนงานที่ต้องดำเนินการในระยะต่อไป ทั้งนี้การที่ภาครัฐปรับขึ้นราคาน้ำมันดีเซลนั้น ทางกระทรวงการคลังพร้อมที่จะใช้นโยบายการคลังช่วยเสริมในการกระตุ้นการขยายตัวของเศรษฐกิจเนื่องจากหากใช้เพียงนโยบายการเงินคงทำไม่ได้

อย่างไรก็ตาม การดำเนินนโยบายการเงิน และการพิจารณาการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายนั้น ธปท.จะพิจารณาจากปัจจัยที่เกิดขึ้นภายในประเทศที่ส่งผลต่อภาวะเศรษฐกิจโดยรวมเป็นหลัก เช่น ผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการที่ราคาน้ำมันที่ปรับตัวแพงขึ้นอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งปัญหาภัยแล้งที่อาจจะส่งผลกระทบต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจของไทย

สำหรับการประชุมของคณะกรรมการธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่จะมีขึ้นในวันที่ 22 มีนาคม ที่หลายฝ่ายคาดว่าจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นอีก 0.25% นั้น ม.ร.ว.ปรีดิยาธร กล่าวว่า ต้องรอดูผลที่จะเกิดขึ้นจริงก่อน แต่ไม่ว่าผลการประชุมจะมีการปรับขึ้นอัตราตราดอกเบี้ยหรือไม่ ธปท. จะนำปัจจัยที่เกิดขึ้นภายในประเทศ เช่น ราคาน้ำมันและภัยแล้งมาพิจารณามากกว่าปัจจัยภายนอกประเทศ

ขณะเดียวกัน ธปท.ไม่มีความเป็นห่วงในเรื่องของเงินทุนไหลออก เนื่องจากที่ผ่านเงินทุนมีแต่ไหลเข้าประเทศอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากตลาดคาดการณ์ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐมีแนวโน้มอ่อนค่าอย่างต่อเนื่อง ทำให้เงินยังคงไหลไปลงในสกุลอื่นรวมทั้งเงินบาท ดังนั้นเรื่องการไหลออกของเงินทุนต่างประเทศจึงไม่กดดันต่อนโยบายดอกเบี้ยของ ธปท.แต่อย่างใด

"หากค่าเงินดอลลาร์มีแนวโน้มอ่อนค่าลงในอนาคต ธปท .ก็ยังไม่มีความเป็นที่จะต้องปรับสัดส่วนทุนสำรองทางการของไทย เนื่องจากได้มีการปรับเปลี่ยนสัดส่วนการถือครองเงินดอลลาร์สหรัฐมาถือเงินสกุลอื่นมาประมาณ 2 ปีแล้ว ซึ่งการเปลี่ยนแปลงคราวนั้นยังทำให้สัดส่วนสกุลเงินต่างๆ ในทุนสำรองทางการระหว่างประเทศของ ธปท. เหมาะสม โดยไม่ลดสัดส่วนการถือครองเงินดอลลาร์ลงอีกเพราะทุกอย่างมีจุดสมดุล แต่ที่ประเทศอื่นยังต้องขายดอลลาร์ออกมาอยู่เพราะจำนวนทุนสำรองทางการของประเทศนั้นๆ มีมากกว่า"

นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวภายหลังการประชุมรวมกับผู้บริหารระดับสูงกระทรวงการคลัง วานนี้ (21 มี.ค.) เป็นการหารือเพื่อสรุปแนวทางการทำงานของหน่วยงานภายใต้สังกัดกระทรวงการคลังหลังจากที่กลับเข้ามารับตำแหน่งอีกวาระหนึ่ง โดยในการประชุมไม่ได้มีการหารือเรื่องใดเป็นพิเศษ

สำหรับความคืบหน้าในการจัดทำงบประมาณประจำปี 2549 ว่า การดำเนินการในเรื่องนี้ได้เตรียมแผนไว้หมดแล้ว แต่จะต้องรอให้มีการแถลงนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภาเสียก่อน โดยยืนยันว่าการทำงบประมาณสมดุลนั้น ยังเป็นเป้าหมายของรัฐบาลเช่นเดิมส่วน จะมีการรวมงบประมาณสำหรับการปรับขึ้นเงินเดือนให้แก่ข้าราชการ ปีงบประมาณ 2549 ด้วยหรือไม่นั้น จะต้องขอพิจารณาในเรื่องนี้อีกครั้ง
กำลังโหลดความคิดเห็น