ทรท.ร้าว!"เสนาะ"ตัดญาติ"แม้ว"ย้ำไม่ต้องโทรมาเคลียร์ และไม่กระสันนั่งตำแหน่งปธ.วิปสภาโจ๊ก ส.ส.อีสานระเบิดศึกอ้างกว่าครึ่งพรรคทนไม่ไหว อยู่แบบไร้ศักดิ์ศรี ไม่มีราคา เป็นแค่พนักงานกดปุ่ม ชี้นายกฯตบหน้าผู้เฒ่า ระบุโคตรเผด็จการ ตั้ง รมต.–เลขาฯ -ประธานกมธ.คนเดียว พวกสอพลอได้ดี ด้าน"วังบัวบาน"เย้ยต้องฟังหัวหน้าพรรค ไม่ใช่ฟังหัวหน้ากลุ่ม
นายเสนาะ เทียนทอง ประธานที่ปรึกษาพรรคไทยรักไทย กล่าวถึงความไม่พอใจกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พูดข้ามประเทศจากญี่ปุ่น ว่า เมื่อกลับมาถึงประเทศไทย จะแต่งตั้งนายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รองหัวหน้าพรรคไทยรักไทย เป็นประธานวิปรัฐบาล และให้นายเสนาะ เป็นประธานวิปรัฐบาลกิตติมศักดิ์ ว่า เรื่องตำแหน่งไม่ต้องมาพูดกับตนแล้ว ตนก็ขอบคุณไปแล้วเอาเหาออกจากหัวได้ก็ถือว่าเป็นพระคุณและดีใจแล้ว แต่ไม่ใช่ให้คนนั้นคนนี้มาพูด แต่ที่ไม่สบายใจเพราะสังคมจะมองว่าตนกระสันจะนั่งตรงนี้แล้วไม่ได้นั่งเลยมาตั้งตำแหน่งประชด มันไม่ถูก ก็แค่ยกหูโทรศัพท์มาคุยกันนิดเดียวตนก็บอกแล้วว่านายพงศ์เทพเป็นคนดี ทำงานร่วมกันมา ตนอยู่ตรงนี้ก็ต้องช่วยกันโดยปริยายอยู่แล้ว
เมื่อถามว่าหากนายกฯมาอธิบายเรื่องนี้ จะทำให้ไม่ติดใจ ใช่หรือไม่ นายเสนาะ ตอบว่า “ไม่ใช่ ไม่จำเป็น ไม่รับตำแหน่งใหม่ ไม่เอา และไม่น้อยใจด้วย แค่ว่าทำไมยกหู มากริ๊ง พี่เหนาะสักคำเดียวเท่านั้น แต่ทีนี้ไม่ต้องโทรมาแล้ว เพราะพูดไปหมดแล้ว”นายเสนาะ กล่าว
**ส.ส.อีสานโวยอยู่แบบไร้ศักดิ์ศรี
น.พ.สุทธิชัย จันทรอารักษ์ ส.ส.ยโสธร กลุ่มพ่อมดดำ พรรคไทยรักไทย กล่าวว่า น่าเห็นใจนายเสนาะ เพราะเป็นเสาหลักของพรรค ทำงานให้กับพรรคตลอด และก็ให้เกียรตินายกฯทักษิณ ในการจัดสรรตำแหน่งต่างๆ ไม่เคยเข้ามายุ่งเกี่ยว ดังนั้นนายกฯก็ควรจะให้เกียรตินายเสนาะบ้าง
สำหรับตำแหน่ง ประธานวิปรัฐบาลที่นายกฯระบุว่าจะมอบให้นายพงศ์เทพ นั้น นอกจากจะไม่โทร.คุยกับนายเสนาะเรื่องนี้แล้ว ยังสายตรงออกอากาศจากญี่ปุ่น บอกว่าจะตั้งให้เป็นประธานวิปกิตติมศักดิ์ ถือเป็นเรื่องตลกมาก เหมือนกับว่านายเสนาะอยากได้ตำแหน่งนี้ ซึ่งนายกฯทำไม่ถูก ทำลายน้ำใจ และตบหน้า นักเลงลูกผู้ชายชื่อเสนาะ ควรจะให้เกียรติกันมากกว่านี้ ส่วนสิ่งที่นายเสนาะ พูดออกมานั้น เป็นการระบายความรู้สึกที่เก็บกด สะสมจากการที่ถูกกระทำมาตลอด ซึ่งเท่าที่ประเมินมี ส.ส.ในไทยรักไทยกว่าครึ่งของพรรคที่มีความรู้สึกแบบนี้ นายเสนาะ เข้าใจ ส.ส.จึงพูดแทนออกมา
“ทุกเรื่องป๋าเหนาะไม่เคยยุ่ง ไม่ว่าการแต่งตั้งบุคคลเป็นรัฐมนตรี นายกฯก็ไม่เคยปรึกษาป๋า หรือการแต่งตั้งผู้ประสานงานในสภา การแต่งตั้งเลขานุการรัฐมนตรี ก็ไม่ให้ความสำคัญกับป๋าเหนาะ ท่านจัดการเองหมด ที่สำคัญการตั้งรองโฆษกรัฐบาล ผมจำคำพูดท่านนายกฯในที่ประชุมพรรคได้ ส.ส.อีสานทุกคนก็จำได้แม่น ท่านพูดว่า ผมทำทุกอย่างเพื่อให้พวกคุณเข้าสภา ถ้าเลือกตั้งแล้วพวกคุณสอบตก ก็ไม่ต้องมาให้เห็นหน้ากัน ท่านพูดเหมือนเป็นการคาดโทษคนที่สอบตก แต่วันนี้นายกฯกลับตั้ง นายดนุพร ปุณณกันต์ ผู้สมัครส.ส.กทม.เป็นรองโฆษกรัฐบาล ทั้งๆที่สอบตก ขณะที่ส.ส.อีสาน เข้ามามากมาย แต่ก็ดูเหมือนไม่มีราคาอะไร”น.พ.สุทธิชัย กล่าว
นายสุทธิชัย กล่าวว่า วันนี้ใครที่ใกล้ชิดมักได้ดี เหมือนประจบ สอพลอแล้วรุ่ง เมื่อนายกฯ ประกาศกับ ส.ส.ว่า “ถ้าใครสอบตก อย่าให้ผมมาเห็นหน้าอีก” กรณีนี้ผลออกมากลับกลายเป็นว่ากลุ่มกทม.ได้ดีฝ่ายเดียว ดังนั้นความรู้สึกว่าไม่มีความเป็นธรรมในพรรคจึงเกิดขึ้นในหัวผู้แทน อย่างไรก็ตามส่วนตัวยืนยันได้ว่า นายเสนาะ ไม่ได้ต่อรองเรื่องตำแหน่ง เหมือนที่ส.ส.กลุ่มอื่นมอง เพราะทุกวันนี้ไม่มีใครต่อรองตำแหน่งกับนายกฯได้ ท่านจัดการคนเดียวหมดตั้งแต่คณะรัฐมนตรี เลขานุการรัฐมนตรี ประธานคณะกรรมาธิการสามัญของสภา ความจริงความขัดแย้งในพรรคการเมืองเป็นเรื่องธรรมชาติ แต่ถ้าไม่รีบจัดการมันก็อาจแตกแยก วันนี้สถานการณ์มันบานปลาย มองหน้ากันลำบากแล้ว ส.ส.ในพรรคต่างมีความรู้สึกว่าอยู่แบบไม่มีศักดิ์ศรี ไม่มีราคา เป็นเหมือนเครื่องมือกดปุ่ม มากขึ้นทุกวัน ไม่รู้ว่าจะทำหน้าที่ในสภาทำไม
นายชูวิทย์ กุ่ย พิทักษ์พรพัลลภ ส.ส.บัญชีรายชื่อ กลุ่มวังน้ำเย็น พรรคไทยรักไทย กล่าวว่า ครั้งนี้นายเสนาะน้อยใจมาก ถ้าไม่เคืองมากก็คงไม่พูด นายเสนาะ เป็นคนตรง คิดอย่างไรก็พูดอย่างนั้น เรื่องเหล่านี้ต้องแคร์กัน ให้เกียรติกัน เหมือนผัว เมีย นิดเดียวก็แตกได้ ส่วนปัญหาจะบานปลายหรือไม่นั้น ในด้านการเมืองเชื่อว่า นายเสนาะคงไม่ละวาง แต่เรื่องความรู้สึกจะมากถึงขั้นจะดำเนินการอย่างไรนั้น คงตอบแทนไม่ได้
**ติงเด็กๆอย่าเสี้ยมให้ผู้ใหญ่ชนกัน
นายสมชาย สุนทรวัฒน์ รมช.มหาดไทย ในฐานะประธาน ส.ส.พรรคไทยรักไทย กล่าวว่า อ่านข่าวแล้วไม่สบายใจมาก นายเสนาะ คงน้อยใจจริงๆ ความจริงแล้วนายกฯเองก็ไม่ได้คาดคิดว่าเรื่องราวจะบานปลายใหญ่โตขนาดนี้ เพราะนายเสนาะ เป็นผู้ใหญ่ในพรรค และเป็นถึงเบอร์ 2 รองจากพ.ต.ท.ทักษิณ ที่ผ่านมานายเสนาะ เคยบอกกับตนหลายครั้งว่า ให้มาเป็นประธานวิปรัฐบาลแทน เพราะไม่อยากรับตำแหน่งนี้แล้ว ครั้งนี้นายกฯ คงอยากให้นายเสนาะ ทำงานสบาย จึงมอบตำแหน่งที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ประธานวิปรัฐบาลให้ สำหรับนายเสนาะนั้น ไม่ว่าจะอยู่ตำแหน่งไหน ยังคงเป็นที่รักและเคารพของส.ส.ในพรรคทุกคน หากสั่งให้ทำอะไรก็พร้อมจะทำตาม
ทั้งนี้ หลังจากนายกฯกลับจากญี่ปุ่น คงเข้าหารือกับนายเสนาะ เชื่อว่าปัญหาต่างๆจะยุติลง ส่วนที่การวิพากษ์วิจารณ์ว่า นายเสนาะ ถูกลดบทบาทนั้นก็ไม่จริง การเลือกตั้งที่ผ่านมานายเสนาะเป็นขุนพลของพรรคที่นั่งอยู่ตรงหัวแถว หัวหน้าพรรคให้เกียรตินายเสนาะตลอดเวลา แสดงความคิดเห็นอะไรก็รับฟังหมด
นายพิเชษฐ สถิรชวาล กรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย กล่าวว่า อาการน้อยใจของนายเสนาะ เป็นเรื่องปกติของมนุษย์ แต่เนื่องจากเป็นเรื่องภายในพรรคไทยรักไทย ดังนั้น นายเสนาะ ควรนำมาพูดคุยกันภายในพรรคจึงจะถูก ไม่ใช่ออกมาโวยวายผ่านสื่อ มันไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง ที่สำคัญในเมื่อสมาชิกพรรคทุกคนมอบอำนาจทุกอย่างให้หัวหน้าพรรคแล้ว ควรเคารพการตัดสินใจของ พ.ต.ท.ทักษิณ ด้วย ใครไม่พอใจก็เก็บอารมณ์ไว้ แล้วค่อยไปถามกันในการประชุมพรรค หรือคุยกับหัวหน้าพรรคโดยตรง เพราะการโวยวายเช่นนี้จะทำให้พรรคเสียหายได้
ส่วนตัวเชื่อว่าปัญหาเล็กๆน้อยๆ แค่นี้ หากทั้ง 2 คนมีโอกาสได้พูดคุยปรับความเข้าใจกันแล้วเรื่องก็จบ เหมือนกับที่เคยเกิดขึ้นหลายๆครั้ง ดังนั้นระหว่างนี้พวก ส.ส.เด็กๆที่คอยคิดเสี้ยมให้ผู้ใหญ่แตกคอกัน ควรหยุดความคิด และการกระทำนี้เสีย
**ต้องฟังหน.พรรคไม่ใช่ฟังหน.กลุ่ม
ด้านนายปกรณ์ บูรณุปกรณ์ ส.ส.เชียงใหม่ กลุ่มวังบัวบาน พรรคไทยรักไทย คนสนิท นางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ กล่าวว่า อย่าไปสนใจนายเสนาะ เป็นเรื่องปกติ เพราะเขาเป็นอย่างนี้มาตลอด 4 ปีที่ผ่านมา สงสัย ช่วงนี้เป็นช่วงฤดูร้อน อากาศจึงร้อน นายเสนาะ ก็เป็นผู้ใหญ่แล้ว คิดว่า คงพูดคุยกันได้ ที่ผ่านมาต้องยอมรับว่า พรรคไทยรักไทยมีวังเยอะ ขณะนี้การเล่นการเมืองต้องมีวินัย ต้องรักษาวัฒนธรรมการเมืองของพรรค ทุกคนก็เป็นสมาชิก เมื่อเราลงมติเลือก พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นนายกฯ เราก็ต้องฟังหัวน้าพรรคๆไม่ใช่ฟังหัวหน้ากลุ่ม ทุกคนต้องมีวินัย วันนี้ไม่มีวังไหนในไทยรักไทยที่ใหญ่กว่าวังทักษิณ อยู่วังทักษิณ ดีที่สุด เพราะเป็นนายกฯ
ชี้"เสนาะ"โวยเพื่อเก้าอี้ประธานกมธ.
รายงานข่าวจากกลุ่มวังน้ำเย็น แจ้งว่า กรณีที่นายเสนาะ แสดงอาการโกรธพ.ต.ท.ทักษิณ ครั้งนี้ เป็นการออกมาเคลื่อนไหว เพื่อปกป้องส.ส.ในสังกัดที่อาจพลาดตำแหน่งสำคัญๆทางการเมือง เช่น เลขานุการรัฐมนตรี และที่ปรึกษา รวมทั้งตำแหน่งประธานคณะกรรมาธิการที่กลุ่มนายเสนาะเคยได้รับ
รายงานข่าวแจ้งว่า สองเก้าอี้รัฐมนตรีที่กลุ่มวังน้ำเย็นได้รับคือ รมว.แรงงาน(นายสรอรรถ กลิ่นประทุม และมี นายธานี ยี่สาร เป็นเลขานุการรัฐมนตรี แต่ยังไม่มีที่ปรึกษา)รมว.วัฒนธรรม(นางอุไรวรรณ เทียนทอง ยังไม่มีเลขานุการและที่ปรึกษารัฐมนตรี) และเมื่อรัฐบาลชุดที่ผ่านมา ส.ส.วังน้ำเย็นได้รับตำแหน่งประธานกมธ.ปกครอง(นายเกรียง กัลป์ตินันท์)ประธานกมธ.เกษตรและสหกรณ์(นายก่ำซุง ประภากรแก้วรัตน์)ประธานกมธ.การเงิน การคลังและสถาบันการเงิน(นายบุรินทร์ หิรัญบูรณะ)ประธานกมธ.การสื่อสารและโทรคมนาคม (นายนิรันดร์ นาเมืองรักษ์) ประธานกมธ.วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี(นายกิตติศักดิ์ หัตถสงเคราะห์)ประธานกมธ.การท่องเที่ยว(นายทรงศักดิ์ ทองศรี)ประธานกมธ.กิจการเด็ก สตรีและผู้สูงอายุ (นางพิมพา จันทร์ประสงค์)
ทั้งนี้ ทางกลุ่มวังน้ำเย็นทราบมาว่า นายกรัฐมนตรีจะจัดสรรตำแหน่งต่างๆทางการเมืองด้วยตัวเองโดยจะไม่เปิดโอกาสให้กลุ่มต่างๆได้เลือก และมีความเป็นไปได้สูงว่ากลุ่มวังน้ำเย็นจะไม่ได้เป็นประธานกมธ.เลย เพราะข้อมูลการทำงานของส.ส.และประธานกมธ.ชุดต่างๆของพรรคไทยรักไทยนั้น นายกรัฐมนตรีมีคณะติดตามการทำงานของส.ส.ทุกคน และมีข้อมูลพบว่า โควต้าทางการเมืองของกลุ่มวังน้ำเย็นไม่มีผลงานตามที่นายกรัฐมนตรีตั้งเป้าไว้ จึงจำเป็นต้องยึดคืน และเปลี่ยนแปลงการทำงาน แต่เมื่อนายเสนาะออกมาเคลื่อนไหวเช่นนี้ นายกรัฐมนตรีคงต้องหารือกับนายเสนาะ เพื่อเคลียร์ปัญหาต่างๆ
“นายเสนาะ สั่งส.ส.ในกลุ่มห้ามเคลื่อนไหวใดๆทั้งสิ้น ส.ส.ทุกคนรู้ดีว่า นายเสนาะไม่พอใจอย่างมาก เพราะการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา นายเสนาะ ออกเงินส่วนตัวดูแลส.ส.ในกลุ่มเป็นจำนวนมาก แต่การตั้งครม.นายเสนาะ ก็ไม่ได้ต่อรองเลยแม้จะมีโอกาสขอตำแหน่งรัฐมนตรีให้ นายบุญถึง ผลพานิช ก็ตาม เมื่อตั้งนางอุไรวรรณไปเป็นรมว.วัฒนธรรม ทั้งๆที่ตอนแรกยังมีชื่อเป็นรมว.พัฒนาสังคมฯ นายเสนาะ ก็อยู่นิ่งๆ แม้จะไม่พอใจ เพราะกระทรวงที่ได้เป็นเกรดบี และเกรดซีทั้งนั้น ยิ่งเมื่อนายกรัฐมนตรีมาพูดในรายการวิทยุอีก นายเสนาะ ก็ไม่พอใจเพิ่มขึ้นจนต้องออกมาพูดแบบนั้น”แหล่งข่าว กล่าว
นอกจากนี้ ในช่วงการแต่งตั้งประธานสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งเคยมีชื่อนายสุชาติ ตันเจริญ แข่งขันกับนายโภคิน พลกุลนั้น กลุ่มต่างๆในพรรคร่วมมือกับ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ และนายเสนาะเพื่อผลักดันนายสุชาติ ให้เป็นประธานสภาฯและหากผลักดันนายสุชาติ ได้กลุ่มต่างๆก็มีสิทธิ์ต่องรองเก้าอี้รัฐมนตรี แต่เรื่องนี้ไม่สำเร็จเพราะกลุ่มวังน้ำยมไม่รับข้อตกลงนี้ เนื่องจากกลุ่มวังน้ำยมกลัวว่า หากเคลื่อนไหวกดดันนายกรัฐมนตรีจริงๆนายสมศักดิ์ เทพสุทิน จะมีสิทธิ์พลาดเก้าอี้รัฐมนตรีสูงมาก การเคลื่อนไหวดังกล่าวจึงยุติลง
**เตรียมส่ง"พงศ์เทพ"เป็นทัพหน้ากาวใจ
ผู้สื่อข่าวรายงานจากพรรคไทยรักไทย ว่า เรื่องนี้ แกนนำพรรคหลายคน อาทิ นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รองหัวหน้าพรรค นายสุธรรม แสงประทุม รองหัวหน้าพรรค นายจำลอง ครุฑขุนทด รองหัวหน้าพรรค นายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล กรรมการบริหารพรรค นายสุรนันทน์ เวชชาชีวะ รมต.ประจำสำนักนายกฯ ได้มีการหยิบยกเรื่องนี้มาหารือกัน ในระหว่างประชุมหารือเรื่องการแถลงนโยบายรัฐบาลที่จะแถลงต่อรัฐสภาในวันที่ 23-24 มี.ค.นี้ด้วย เพราะก่อนหน้านี้มีรายงานว่านายกรัฐมนตรี ได้หารือกับ น.พ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ว่าจะไม่ตั้งนายเสนาะให้เป็นประธานวิปรัฐบาล รวมทั้งประธานที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีฝ่ายติดตามการบริหารราชการ แต่จะให้นายเสนาะ เป็นประธานที่ปรึกษาวิปรัฐบาลแทน
โดยก่อนหน้านี้น.พ.พรหมินทร์ ได้นำเรื่องนี้มาหารือกับแกนนำพรรคว่า สมควรจะมอบตำแหน่งประธานที่ปรึกษาวิปรัฐบาลให้นายเสนาะ หรือไม่ โดยเสียงส่วนใหญ่เห็นว่าไม่ควรแต่งตั้ง เพราะในอดีตก็ไม่เคยมีตำแหน่งนี้มาก่อน แต่บรรดาแกนนำไม่ทราบว่า น.พ.พรหมินทร์ ไปรายงานนายกรัฐมนตรีอย่างไร จึงทำให้นายกรัฐมนตรีกล่าวในรายการวิทยุว่า จะให้นายเสนาะไปเป็นประธานที่ปรึกษาวิปรัฐบาลกิตติมศักดิ์ ซึ่งเมื่อเกิดเรื่องนี้ขึ้น แกนนำพรรคหลายคนก็มีความกังวล โดยในเบื้องต้นจะส่งนายพงศ์เทพ เทพกาญจนา ไปปรับความเข้าใจกับนายเสนาะก่อน และรอให้นายกรัฐมนตรีไปชี้แจงกับนายเสนาะด้วยตัวเองอีกครั้ง
**พงศ์เทพ รอทักษิณกลับมาเคลียร์เอง
ขณะที่ นายพงศ์เทพ กล่าวถึงเรื่องนี้ ว่า ขณะนี้นายกรัฐมนตรียังไม่มีคำสั่งแต่งตั้งคณะวิปรัฐบาลเป็นทางการ เนื่องจากอยู่ระหว่างเดินทางไปต่างประเทศ จึงยังไม่ได้หารือกับผู้อาวุโสหรือผู้บริหารของพรรค เชื่อว่าเมื่อกลับมาคงจะได้มีการพูดคุยกัน และหลังจากมีคำสั่งแต่งตั้งเชื่อว่านายกฯ จะสามารถอธิบายเหตุผลให้ทุกคนเข้าใจได้
ผู้สื่อข่าวถามว่าตั้งแต่นายเสนาะออกมาพูด ได้มีการโทรศัพท์ไปพูดคุยกันบ้างหรือยัง นายพงศ์เทพ กล่าวว่า ในส่วนของนายกฯตนไม่ทราบว่ามีการพูดคุยกันบ้างหรือยัง แต่ในส่วนของตนถ้ามีเวลาก็จะหาโอกาสไปกราบและพบท่านอยู่แล้ว
นายสุรนันทน์ เวชชาชีวะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า นายเสนาะเป็นผู้หลักผู้ใหญ่คนหนึ่ง และเป็นอาวุโสทางการเมืองที่คอยให้คำปรึกษากับคนในพรรคไทยรักไทยมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะนายกรัฐมนตรี มีความสนิทสนมกับนายเสนาะเป็นอย่างมาก นายกรัฐมนตรีก็ให้เกียรตินายเสนาะมาตลอด และนายเสนาะเองก็เอ็นดูนายกรัฐมนตรีเหมือนน้องคนหนึ่ง
“บางครั้งในความสัมพันธ์ของเรา โดยเฉพาะถ้าสื่อมวลชนไปถามตรงนั้นตรงนี้อาจมีช่องว่างในการสื่อสารกันบ้าง ก็ทำให้นายเสนาะอาจเป็นประเด็น แต่ผมมองว่าเป็นประเด็นที่เหมือนกับพี่รักน้องและพูดออกมาแค่นั้นเอง เชื่อว่าเมื่อนายกรัฐมนตรีกลับมาและได้มีการหารือกันแล้วนายเสนาะก็จะเข้าใจ และนายกรัฐมนตรีก็จะเข้าใจ ไม่มีความขัดแย้งอะไรกันในลักษณะที่จะทำให้พรรคแตกหัก อย่างที่นำเสนอไป” นายสุรนันทน์ กล่าว
นายเสนาะ เทียนทอง ประธานที่ปรึกษาพรรคไทยรักไทย กล่าวถึงความไม่พอใจกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พูดข้ามประเทศจากญี่ปุ่น ว่า เมื่อกลับมาถึงประเทศไทย จะแต่งตั้งนายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รองหัวหน้าพรรคไทยรักไทย เป็นประธานวิปรัฐบาล และให้นายเสนาะ เป็นประธานวิปรัฐบาลกิตติมศักดิ์ ว่า เรื่องตำแหน่งไม่ต้องมาพูดกับตนแล้ว ตนก็ขอบคุณไปแล้วเอาเหาออกจากหัวได้ก็ถือว่าเป็นพระคุณและดีใจแล้ว แต่ไม่ใช่ให้คนนั้นคนนี้มาพูด แต่ที่ไม่สบายใจเพราะสังคมจะมองว่าตนกระสันจะนั่งตรงนี้แล้วไม่ได้นั่งเลยมาตั้งตำแหน่งประชด มันไม่ถูก ก็แค่ยกหูโทรศัพท์มาคุยกันนิดเดียวตนก็บอกแล้วว่านายพงศ์เทพเป็นคนดี ทำงานร่วมกันมา ตนอยู่ตรงนี้ก็ต้องช่วยกันโดยปริยายอยู่แล้ว
เมื่อถามว่าหากนายกฯมาอธิบายเรื่องนี้ จะทำให้ไม่ติดใจ ใช่หรือไม่ นายเสนาะ ตอบว่า “ไม่ใช่ ไม่จำเป็น ไม่รับตำแหน่งใหม่ ไม่เอา และไม่น้อยใจด้วย แค่ว่าทำไมยกหู มากริ๊ง พี่เหนาะสักคำเดียวเท่านั้น แต่ทีนี้ไม่ต้องโทรมาแล้ว เพราะพูดไปหมดแล้ว”นายเสนาะ กล่าว
**ส.ส.อีสานโวยอยู่แบบไร้ศักดิ์ศรี
น.พ.สุทธิชัย จันทรอารักษ์ ส.ส.ยโสธร กลุ่มพ่อมดดำ พรรคไทยรักไทย กล่าวว่า น่าเห็นใจนายเสนาะ เพราะเป็นเสาหลักของพรรค ทำงานให้กับพรรคตลอด และก็ให้เกียรตินายกฯทักษิณ ในการจัดสรรตำแหน่งต่างๆ ไม่เคยเข้ามายุ่งเกี่ยว ดังนั้นนายกฯก็ควรจะให้เกียรตินายเสนาะบ้าง
สำหรับตำแหน่ง ประธานวิปรัฐบาลที่นายกฯระบุว่าจะมอบให้นายพงศ์เทพ นั้น นอกจากจะไม่โทร.คุยกับนายเสนาะเรื่องนี้แล้ว ยังสายตรงออกอากาศจากญี่ปุ่น บอกว่าจะตั้งให้เป็นประธานวิปกิตติมศักดิ์ ถือเป็นเรื่องตลกมาก เหมือนกับว่านายเสนาะอยากได้ตำแหน่งนี้ ซึ่งนายกฯทำไม่ถูก ทำลายน้ำใจ และตบหน้า นักเลงลูกผู้ชายชื่อเสนาะ ควรจะให้เกียรติกันมากกว่านี้ ส่วนสิ่งที่นายเสนาะ พูดออกมานั้น เป็นการระบายความรู้สึกที่เก็บกด สะสมจากการที่ถูกกระทำมาตลอด ซึ่งเท่าที่ประเมินมี ส.ส.ในไทยรักไทยกว่าครึ่งของพรรคที่มีความรู้สึกแบบนี้ นายเสนาะ เข้าใจ ส.ส.จึงพูดแทนออกมา
“ทุกเรื่องป๋าเหนาะไม่เคยยุ่ง ไม่ว่าการแต่งตั้งบุคคลเป็นรัฐมนตรี นายกฯก็ไม่เคยปรึกษาป๋า หรือการแต่งตั้งผู้ประสานงานในสภา การแต่งตั้งเลขานุการรัฐมนตรี ก็ไม่ให้ความสำคัญกับป๋าเหนาะ ท่านจัดการเองหมด ที่สำคัญการตั้งรองโฆษกรัฐบาล ผมจำคำพูดท่านนายกฯในที่ประชุมพรรคได้ ส.ส.อีสานทุกคนก็จำได้แม่น ท่านพูดว่า ผมทำทุกอย่างเพื่อให้พวกคุณเข้าสภา ถ้าเลือกตั้งแล้วพวกคุณสอบตก ก็ไม่ต้องมาให้เห็นหน้ากัน ท่านพูดเหมือนเป็นการคาดโทษคนที่สอบตก แต่วันนี้นายกฯกลับตั้ง นายดนุพร ปุณณกันต์ ผู้สมัครส.ส.กทม.เป็นรองโฆษกรัฐบาล ทั้งๆที่สอบตก ขณะที่ส.ส.อีสาน เข้ามามากมาย แต่ก็ดูเหมือนไม่มีราคาอะไร”น.พ.สุทธิชัย กล่าว
นายสุทธิชัย กล่าวว่า วันนี้ใครที่ใกล้ชิดมักได้ดี เหมือนประจบ สอพลอแล้วรุ่ง เมื่อนายกฯ ประกาศกับ ส.ส.ว่า “ถ้าใครสอบตก อย่าให้ผมมาเห็นหน้าอีก” กรณีนี้ผลออกมากลับกลายเป็นว่ากลุ่มกทม.ได้ดีฝ่ายเดียว ดังนั้นความรู้สึกว่าไม่มีความเป็นธรรมในพรรคจึงเกิดขึ้นในหัวผู้แทน อย่างไรก็ตามส่วนตัวยืนยันได้ว่า นายเสนาะ ไม่ได้ต่อรองเรื่องตำแหน่ง เหมือนที่ส.ส.กลุ่มอื่นมอง เพราะทุกวันนี้ไม่มีใครต่อรองตำแหน่งกับนายกฯได้ ท่านจัดการคนเดียวหมดตั้งแต่คณะรัฐมนตรี เลขานุการรัฐมนตรี ประธานคณะกรรมาธิการสามัญของสภา ความจริงความขัดแย้งในพรรคการเมืองเป็นเรื่องธรรมชาติ แต่ถ้าไม่รีบจัดการมันก็อาจแตกแยก วันนี้สถานการณ์มันบานปลาย มองหน้ากันลำบากแล้ว ส.ส.ในพรรคต่างมีความรู้สึกว่าอยู่แบบไม่มีศักดิ์ศรี ไม่มีราคา เป็นเหมือนเครื่องมือกดปุ่ม มากขึ้นทุกวัน ไม่รู้ว่าจะทำหน้าที่ในสภาทำไม
นายชูวิทย์ กุ่ย พิทักษ์พรพัลลภ ส.ส.บัญชีรายชื่อ กลุ่มวังน้ำเย็น พรรคไทยรักไทย กล่าวว่า ครั้งนี้นายเสนาะน้อยใจมาก ถ้าไม่เคืองมากก็คงไม่พูด นายเสนาะ เป็นคนตรง คิดอย่างไรก็พูดอย่างนั้น เรื่องเหล่านี้ต้องแคร์กัน ให้เกียรติกัน เหมือนผัว เมีย นิดเดียวก็แตกได้ ส่วนปัญหาจะบานปลายหรือไม่นั้น ในด้านการเมืองเชื่อว่า นายเสนาะคงไม่ละวาง แต่เรื่องความรู้สึกจะมากถึงขั้นจะดำเนินการอย่างไรนั้น คงตอบแทนไม่ได้
**ติงเด็กๆอย่าเสี้ยมให้ผู้ใหญ่ชนกัน
นายสมชาย สุนทรวัฒน์ รมช.มหาดไทย ในฐานะประธาน ส.ส.พรรคไทยรักไทย กล่าวว่า อ่านข่าวแล้วไม่สบายใจมาก นายเสนาะ คงน้อยใจจริงๆ ความจริงแล้วนายกฯเองก็ไม่ได้คาดคิดว่าเรื่องราวจะบานปลายใหญ่โตขนาดนี้ เพราะนายเสนาะ เป็นผู้ใหญ่ในพรรค และเป็นถึงเบอร์ 2 รองจากพ.ต.ท.ทักษิณ ที่ผ่านมานายเสนาะ เคยบอกกับตนหลายครั้งว่า ให้มาเป็นประธานวิปรัฐบาลแทน เพราะไม่อยากรับตำแหน่งนี้แล้ว ครั้งนี้นายกฯ คงอยากให้นายเสนาะ ทำงานสบาย จึงมอบตำแหน่งที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ประธานวิปรัฐบาลให้ สำหรับนายเสนาะนั้น ไม่ว่าจะอยู่ตำแหน่งไหน ยังคงเป็นที่รักและเคารพของส.ส.ในพรรคทุกคน หากสั่งให้ทำอะไรก็พร้อมจะทำตาม
ทั้งนี้ หลังจากนายกฯกลับจากญี่ปุ่น คงเข้าหารือกับนายเสนาะ เชื่อว่าปัญหาต่างๆจะยุติลง ส่วนที่การวิพากษ์วิจารณ์ว่า นายเสนาะ ถูกลดบทบาทนั้นก็ไม่จริง การเลือกตั้งที่ผ่านมานายเสนาะเป็นขุนพลของพรรคที่นั่งอยู่ตรงหัวแถว หัวหน้าพรรคให้เกียรตินายเสนาะตลอดเวลา แสดงความคิดเห็นอะไรก็รับฟังหมด
นายพิเชษฐ สถิรชวาล กรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย กล่าวว่า อาการน้อยใจของนายเสนาะ เป็นเรื่องปกติของมนุษย์ แต่เนื่องจากเป็นเรื่องภายในพรรคไทยรักไทย ดังนั้น นายเสนาะ ควรนำมาพูดคุยกันภายในพรรคจึงจะถูก ไม่ใช่ออกมาโวยวายผ่านสื่อ มันไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง ที่สำคัญในเมื่อสมาชิกพรรคทุกคนมอบอำนาจทุกอย่างให้หัวหน้าพรรคแล้ว ควรเคารพการตัดสินใจของ พ.ต.ท.ทักษิณ ด้วย ใครไม่พอใจก็เก็บอารมณ์ไว้ แล้วค่อยไปถามกันในการประชุมพรรค หรือคุยกับหัวหน้าพรรคโดยตรง เพราะการโวยวายเช่นนี้จะทำให้พรรคเสียหายได้
ส่วนตัวเชื่อว่าปัญหาเล็กๆน้อยๆ แค่นี้ หากทั้ง 2 คนมีโอกาสได้พูดคุยปรับความเข้าใจกันแล้วเรื่องก็จบ เหมือนกับที่เคยเกิดขึ้นหลายๆครั้ง ดังนั้นระหว่างนี้พวก ส.ส.เด็กๆที่คอยคิดเสี้ยมให้ผู้ใหญ่แตกคอกัน ควรหยุดความคิด และการกระทำนี้เสีย
**ต้องฟังหน.พรรคไม่ใช่ฟังหน.กลุ่ม
ด้านนายปกรณ์ บูรณุปกรณ์ ส.ส.เชียงใหม่ กลุ่มวังบัวบาน พรรคไทยรักไทย คนสนิท นางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ กล่าวว่า อย่าไปสนใจนายเสนาะ เป็นเรื่องปกติ เพราะเขาเป็นอย่างนี้มาตลอด 4 ปีที่ผ่านมา สงสัย ช่วงนี้เป็นช่วงฤดูร้อน อากาศจึงร้อน นายเสนาะ ก็เป็นผู้ใหญ่แล้ว คิดว่า คงพูดคุยกันได้ ที่ผ่านมาต้องยอมรับว่า พรรคไทยรักไทยมีวังเยอะ ขณะนี้การเล่นการเมืองต้องมีวินัย ต้องรักษาวัฒนธรรมการเมืองของพรรค ทุกคนก็เป็นสมาชิก เมื่อเราลงมติเลือก พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นนายกฯ เราก็ต้องฟังหัวน้าพรรคๆไม่ใช่ฟังหัวหน้ากลุ่ม ทุกคนต้องมีวินัย วันนี้ไม่มีวังไหนในไทยรักไทยที่ใหญ่กว่าวังทักษิณ อยู่วังทักษิณ ดีที่สุด เพราะเป็นนายกฯ
ชี้"เสนาะ"โวยเพื่อเก้าอี้ประธานกมธ.
รายงานข่าวจากกลุ่มวังน้ำเย็น แจ้งว่า กรณีที่นายเสนาะ แสดงอาการโกรธพ.ต.ท.ทักษิณ ครั้งนี้ เป็นการออกมาเคลื่อนไหว เพื่อปกป้องส.ส.ในสังกัดที่อาจพลาดตำแหน่งสำคัญๆทางการเมือง เช่น เลขานุการรัฐมนตรี และที่ปรึกษา รวมทั้งตำแหน่งประธานคณะกรรมาธิการที่กลุ่มนายเสนาะเคยได้รับ
รายงานข่าวแจ้งว่า สองเก้าอี้รัฐมนตรีที่กลุ่มวังน้ำเย็นได้รับคือ รมว.แรงงาน(นายสรอรรถ กลิ่นประทุม และมี นายธานี ยี่สาร เป็นเลขานุการรัฐมนตรี แต่ยังไม่มีที่ปรึกษา)รมว.วัฒนธรรม(นางอุไรวรรณ เทียนทอง ยังไม่มีเลขานุการและที่ปรึกษารัฐมนตรี) และเมื่อรัฐบาลชุดที่ผ่านมา ส.ส.วังน้ำเย็นได้รับตำแหน่งประธานกมธ.ปกครอง(นายเกรียง กัลป์ตินันท์)ประธานกมธ.เกษตรและสหกรณ์(นายก่ำซุง ประภากรแก้วรัตน์)ประธานกมธ.การเงิน การคลังและสถาบันการเงิน(นายบุรินทร์ หิรัญบูรณะ)ประธานกมธ.การสื่อสารและโทรคมนาคม (นายนิรันดร์ นาเมืองรักษ์) ประธานกมธ.วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี(นายกิตติศักดิ์ หัตถสงเคราะห์)ประธานกมธ.การท่องเที่ยว(นายทรงศักดิ์ ทองศรี)ประธานกมธ.กิจการเด็ก สตรีและผู้สูงอายุ (นางพิมพา จันทร์ประสงค์)
ทั้งนี้ ทางกลุ่มวังน้ำเย็นทราบมาว่า นายกรัฐมนตรีจะจัดสรรตำแหน่งต่างๆทางการเมืองด้วยตัวเองโดยจะไม่เปิดโอกาสให้กลุ่มต่างๆได้เลือก และมีความเป็นไปได้สูงว่ากลุ่มวังน้ำเย็นจะไม่ได้เป็นประธานกมธ.เลย เพราะข้อมูลการทำงานของส.ส.และประธานกมธ.ชุดต่างๆของพรรคไทยรักไทยนั้น นายกรัฐมนตรีมีคณะติดตามการทำงานของส.ส.ทุกคน และมีข้อมูลพบว่า โควต้าทางการเมืองของกลุ่มวังน้ำเย็นไม่มีผลงานตามที่นายกรัฐมนตรีตั้งเป้าไว้ จึงจำเป็นต้องยึดคืน และเปลี่ยนแปลงการทำงาน แต่เมื่อนายเสนาะออกมาเคลื่อนไหวเช่นนี้ นายกรัฐมนตรีคงต้องหารือกับนายเสนาะ เพื่อเคลียร์ปัญหาต่างๆ
“นายเสนาะ สั่งส.ส.ในกลุ่มห้ามเคลื่อนไหวใดๆทั้งสิ้น ส.ส.ทุกคนรู้ดีว่า นายเสนาะไม่พอใจอย่างมาก เพราะการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา นายเสนาะ ออกเงินส่วนตัวดูแลส.ส.ในกลุ่มเป็นจำนวนมาก แต่การตั้งครม.นายเสนาะ ก็ไม่ได้ต่อรองเลยแม้จะมีโอกาสขอตำแหน่งรัฐมนตรีให้ นายบุญถึง ผลพานิช ก็ตาม เมื่อตั้งนางอุไรวรรณไปเป็นรมว.วัฒนธรรม ทั้งๆที่ตอนแรกยังมีชื่อเป็นรมว.พัฒนาสังคมฯ นายเสนาะ ก็อยู่นิ่งๆ แม้จะไม่พอใจ เพราะกระทรวงที่ได้เป็นเกรดบี และเกรดซีทั้งนั้น ยิ่งเมื่อนายกรัฐมนตรีมาพูดในรายการวิทยุอีก นายเสนาะ ก็ไม่พอใจเพิ่มขึ้นจนต้องออกมาพูดแบบนั้น”แหล่งข่าว กล่าว
นอกจากนี้ ในช่วงการแต่งตั้งประธานสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งเคยมีชื่อนายสุชาติ ตันเจริญ แข่งขันกับนายโภคิน พลกุลนั้น กลุ่มต่างๆในพรรคร่วมมือกับ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ และนายเสนาะเพื่อผลักดันนายสุชาติ ให้เป็นประธานสภาฯและหากผลักดันนายสุชาติ ได้กลุ่มต่างๆก็มีสิทธิ์ต่องรองเก้าอี้รัฐมนตรี แต่เรื่องนี้ไม่สำเร็จเพราะกลุ่มวังน้ำยมไม่รับข้อตกลงนี้ เนื่องจากกลุ่มวังน้ำยมกลัวว่า หากเคลื่อนไหวกดดันนายกรัฐมนตรีจริงๆนายสมศักดิ์ เทพสุทิน จะมีสิทธิ์พลาดเก้าอี้รัฐมนตรีสูงมาก การเคลื่อนไหวดังกล่าวจึงยุติลง
**เตรียมส่ง"พงศ์เทพ"เป็นทัพหน้ากาวใจ
ผู้สื่อข่าวรายงานจากพรรคไทยรักไทย ว่า เรื่องนี้ แกนนำพรรคหลายคน อาทิ นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รองหัวหน้าพรรค นายสุธรรม แสงประทุม รองหัวหน้าพรรค นายจำลอง ครุฑขุนทด รองหัวหน้าพรรค นายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล กรรมการบริหารพรรค นายสุรนันทน์ เวชชาชีวะ รมต.ประจำสำนักนายกฯ ได้มีการหยิบยกเรื่องนี้มาหารือกัน ในระหว่างประชุมหารือเรื่องการแถลงนโยบายรัฐบาลที่จะแถลงต่อรัฐสภาในวันที่ 23-24 มี.ค.นี้ด้วย เพราะก่อนหน้านี้มีรายงานว่านายกรัฐมนตรี ได้หารือกับ น.พ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ว่าจะไม่ตั้งนายเสนาะให้เป็นประธานวิปรัฐบาล รวมทั้งประธานที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีฝ่ายติดตามการบริหารราชการ แต่จะให้นายเสนาะ เป็นประธานที่ปรึกษาวิปรัฐบาลแทน
โดยก่อนหน้านี้น.พ.พรหมินทร์ ได้นำเรื่องนี้มาหารือกับแกนนำพรรคว่า สมควรจะมอบตำแหน่งประธานที่ปรึกษาวิปรัฐบาลให้นายเสนาะ หรือไม่ โดยเสียงส่วนใหญ่เห็นว่าไม่ควรแต่งตั้ง เพราะในอดีตก็ไม่เคยมีตำแหน่งนี้มาก่อน แต่บรรดาแกนนำไม่ทราบว่า น.พ.พรหมินทร์ ไปรายงานนายกรัฐมนตรีอย่างไร จึงทำให้นายกรัฐมนตรีกล่าวในรายการวิทยุว่า จะให้นายเสนาะไปเป็นประธานที่ปรึกษาวิปรัฐบาลกิตติมศักดิ์ ซึ่งเมื่อเกิดเรื่องนี้ขึ้น แกนนำพรรคหลายคนก็มีความกังวล โดยในเบื้องต้นจะส่งนายพงศ์เทพ เทพกาญจนา ไปปรับความเข้าใจกับนายเสนาะก่อน และรอให้นายกรัฐมนตรีไปชี้แจงกับนายเสนาะด้วยตัวเองอีกครั้ง
**พงศ์เทพ รอทักษิณกลับมาเคลียร์เอง
ขณะที่ นายพงศ์เทพ กล่าวถึงเรื่องนี้ ว่า ขณะนี้นายกรัฐมนตรียังไม่มีคำสั่งแต่งตั้งคณะวิปรัฐบาลเป็นทางการ เนื่องจากอยู่ระหว่างเดินทางไปต่างประเทศ จึงยังไม่ได้หารือกับผู้อาวุโสหรือผู้บริหารของพรรค เชื่อว่าเมื่อกลับมาคงจะได้มีการพูดคุยกัน และหลังจากมีคำสั่งแต่งตั้งเชื่อว่านายกฯ จะสามารถอธิบายเหตุผลให้ทุกคนเข้าใจได้
ผู้สื่อข่าวถามว่าตั้งแต่นายเสนาะออกมาพูด ได้มีการโทรศัพท์ไปพูดคุยกันบ้างหรือยัง นายพงศ์เทพ กล่าวว่า ในส่วนของนายกฯตนไม่ทราบว่ามีการพูดคุยกันบ้างหรือยัง แต่ในส่วนของตนถ้ามีเวลาก็จะหาโอกาสไปกราบและพบท่านอยู่แล้ว
นายสุรนันทน์ เวชชาชีวะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า นายเสนาะเป็นผู้หลักผู้ใหญ่คนหนึ่ง และเป็นอาวุโสทางการเมืองที่คอยให้คำปรึกษากับคนในพรรคไทยรักไทยมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะนายกรัฐมนตรี มีความสนิทสนมกับนายเสนาะเป็นอย่างมาก นายกรัฐมนตรีก็ให้เกียรตินายเสนาะมาตลอด และนายเสนาะเองก็เอ็นดูนายกรัฐมนตรีเหมือนน้องคนหนึ่ง
“บางครั้งในความสัมพันธ์ของเรา โดยเฉพาะถ้าสื่อมวลชนไปถามตรงนั้นตรงนี้อาจมีช่องว่างในการสื่อสารกันบ้าง ก็ทำให้นายเสนาะอาจเป็นประเด็น แต่ผมมองว่าเป็นประเด็นที่เหมือนกับพี่รักน้องและพูดออกมาแค่นั้นเอง เชื่อว่าเมื่อนายกรัฐมนตรีกลับมาและได้มีการหารือกันแล้วนายเสนาะก็จะเข้าใจ และนายกรัฐมนตรีก็จะเข้าใจ ไม่มีความขัดแย้งอะไรกันในลักษณะที่จะทำให้พรรคแตกหัก อย่างที่นำเสนอไป” นายสุรนันทน์ กล่าว