อนุกมธ.ปกครองเรียกสอบทุจริตลำไย ชี้ อตก.ทำผิดกฎหมาย เปลี่ยนแปลงสัญญา ฉบับอ.ต.ก.ลงนามกับปอเฮงเป็นคนละฉบับกับที่ส่งให้อัยการสูงสุดลั่นต้องดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้อง ขณะที่รองผอ.อตก.อ้างทำตามนโยบายของกระทรวงเกษตรฯ เพื่อประโยชน์ของเกษตรกรไม่มีอะไรแอบแฝง เร่งฟ้องค่าเสียหายจากปอเฮง ผู้ประกอบการยันเจ้าหน้าที่มช.และอตก.ฮั้วคิวซีปล่อยลำไยปลอมปน ขึ้นรา ผ่านฉลุย
วานนี้(18 มี.ค.) ที่รัฐสภามีการประชุมอนุกรรมาธิการการปกครอง โดยมี พล.ต.อินทรัตน์ ยอดบางเตย เป็นประธาน เพื่อพิจารณากรณี ทุจริตลำไย โดยเชิญ นายภิญโญ จันทศรัทธาการรองผู้อำนวยการองค์การการตลาดเพื่อเกษตรกร(อตก.) และผู้ประกอบการลำไยภาคเหนือรายหนึ่งมาชี้แจง โดยผู้ประกอบการชี้แจงว่า ในขั้นตอนของการคิวซี ตอนแรกทางมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ (มช.)ได้ส่งอาจารย์มาท่านหนึ่งมาเป็นหัวหน้าคณะ พร้อมทีมงาน ซึ่งคณะคิวซีของอาจารย์ท่านนี้ ถือว่ามีประสบการการณ์ในตรวจสอบคุณภาพ แต่ภายหลังทางมช.ได้เปลี่ยนคณะคิวซี ใหม่เป็นผู้หญิง ซึ่งไม่มีความชำนาญในด้านลำไยอบแห้งเลยทำให้เกิดปัญหาขึ้น ลำไยมีการปลอมปนมากแต่คิวซีคณะนี้ก็ให้ผ่าน ขณะที่คิวซีของอตก.ก็ให้ผ่านเช่นกัน ซึ่งเสมือนมีการฮั้วกันทั้งที่ลำใยมีการปลอมปน และ ขึ้นรา เป็นจำนวนหลายพันกล่อง ซึ่งตนก็แปลกใจว่าให้ผ่านไปได้อย่างไร แต่ก็ได้รับคำตอบว่า โกดังนี้ จู้จี้ขี้บ่น
ดังนั้นเมื่อเกิดปัญหาตนจึงไม่ให้เช่าโกดัง อย่างไรก็ตาม ลำไยจำนวน 241 กล่องที่มีการปลอมปน ขณะนี้ก็ยังเก็บไว้ในโกดังอยู่ พร้อมทั้งได้แจ้งความ และเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้อายัดไว้เพื่อตรวจสอบแล้วส่วนที่เหลือก็ได้มีการส่งต่อไปยัง จ.ลำพูน ทั้งนี้ตนเชื่อว่าลำไยที่ปลอมปน เป็นลำไยเก่า หรือลำไยลมของปี 2545
ผู้ประกอบการรายนี้ กล่าวด้วยว่า หลังจากนั้น อตก.ก็มีการยกเลิกสัญญากับบริษัทปอเฮง ทำให้เกิดปัญหาเพราะ บ.ปอเฮง ไม่ยอมจ่ายเงินส่วนต่างที่เหลืออีกประมาณ 3 บาทให้ชาวบ้าน โดย บ.ปอเฮงได้บอกกับชาวบ้านว่า ให้ไปเบิกเงินค่ากล่อง และค่าถุงจาก อตก.มาให้บ.ปอเฮงให้ได้ก่อน ทั้งนี้ ทาง อตก.ได้ประกาศว่า จะจ่ายเงินดังกล่าวให้กับชาวบ้าน รวมจำนวน 1,200 ล้านบาท แต่จนถึงขณะนี้ ก็ยังมีการจ่ายแต่อย่างใด จึงขอเรียกร้องให้ อตก.เร่งจ่ายเงินให้กับชาวบ้านโดยเร็วเพราะขณะนี้ได้รับความเดือนร้อนอย่างมาก รวมทั้งกรณีที่ อตก.จะเปลี่ยนสัญญาการคิดลำใยสดจาก 3.4 กิโลกรัม มาเป็น 3.3 ก.ก. ถือเป็นเรื่องไม่ถูกต้อง เนื่องจากขณะที่ชาวบ้านรับจ้างปอเฮงอบนั้น คิดเป็นลำใยสด3.4 ก.ก.ได้ลำใยอบแห้ง 1 ก.ก. ซึ่งอตก.จะมาเปลี่ยนส่วนต่างนี้ได้อย่างไร
จากนั้น พล.ต.อินทรัตน์ ได้สอบถาม รองผอ.อตก.ในเรื่องการทำสัญญากับปอเฮง ที่มีการเปลี่ยนสัญญาไม่ตรงกับสัญญาที่ส่งให้อัยการสูงสุด ในประเด็นการวางประกันหลังหลังจากเซ็นสัญญาไปแล้ว 3 วัน ซึ่งสัญญาที่ส่งให้อัยการสูงสุดไม่มีกำหนดวางหลักประกัน 3 วัน และปอเฮง ก็วางเงินประกันแค่ 105 ล้านบาท แทนที่ตามสัญญาจะต้องวางเงิน 330 ล้านบาท ซึ่งถือว่าผิดเงื่อนไข และผิดกฎหมาย
นายภิญโญ ชี้แจงว่า ที่ตนได้เซ็นสัญญาไป เพราะเชื่อมั่นว่าคณะกรรมการพิจารณาหลักเกณฑ์ฯ ได้ตรวจสอบอย่างดีแล้วเพราะเรื่องนี้ต้องผ่านทั้งปลัด และรองปลัดกระทรวง อีกทั้งมีการเร่งรัดว่าจะต้องรีบดำเนินการเซ็นสัญญาให้เสร็จสิ้นภายในวันที่ 10 ก.ค.47 โดยรองปลัดกระทรวงเกษตร แต่ยืนยันว่า ไม่มีการแก้ไขทีโออาร์แต่อย่างใด
อย่างไรก็ตาม ทาง อตก.ได้คำนึงถึงประโยชน์ที่จะเกิดกับเกษตรกร หากไม่อตก.ไม่ยอมเซ็นโครงการรับซื้อลำไยจะต้องหยุดทันที ซึ่งจะสร้างเดือนร้อนและความเสียหายให้กับเกษตรกร ขณะเดียวกันอตก.ก็ต้องทำตามนโยบายของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่พยายามเข้ามาแก้ไขปัญหาให้กับชาวบ้าน
ส่วนกรณีที่ชาวบ้านเรียกร้องให้ อตก.จ่ายเงินในส่วนต่างที่เหลือนั้นขอยืนยันว่า อตก.ได้จ่ายเงินให้หมดแล้วขณะเดียวกันอตก.ก็อยู่ระหว่างการพิจารณาจะฟ้องร้องเรียกค่าเสียหาย บ.ปอเฮง ในเรื่องการผิดสัญญาวางเงินประกัน
ประธานอนุกมธ. กล่าวสรุปว่า คณะอนุกรรมาธิการฯ เห็นว่า การที่อตก.ไปเปลี่ยนแปลงร่างสัญญา เป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย ซึ่งคงต้องมีการดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้องอย่างแน่นอน ซึ่งในสัปดาห์หน้าคณะอนุกรรมาธิการฯ จะเชิญ อัยการสูงสุด ผอ. และรอง ผอ.อตก. มาชี้แจง อีกครั้ง ก่อนที่จะสรุปเรื่องทั้งหมดเสนอรัฐบาลต่อไป
วานนี้(18 มี.ค.) ที่รัฐสภามีการประชุมอนุกรรมาธิการการปกครอง โดยมี พล.ต.อินทรัตน์ ยอดบางเตย เป็นประธาน เพื่อพิจารณากรณี ทุจริตลำไย โดยเชิญ นายภิญโญ จันทศรัทธาการรองผู้อำนวยการองค์การการตลาดเพื่อเกษตรกร(อตก.) และผู้ประกอบการลำไยภาคเหนือรายหนึ่งมาชี้แจง โดยผู้ประกอบการชี้แจงว่า ในขั้นตอนของการคิวซี ตอนแรกทางมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ (มช.)ได้ส่งอาจารย์มาท่านหนึ่งมาเป็นหัวหน้าคณะ พร้อมทีมงาน ซึ่งคณะคิวซีของอาจารย์ท่านนี้ ถือว่ามีประสบการการณ์ในตรวจสอบคุณภาพ แต่ภายหลังทางมช.ได้เปลี่ยนคณะคิวซี ใหม่เป็นผู้หญิง ซึ่งไม่มีความชำนาญในด้านลำไยอบแห้งเลยทำให้เกิดปัญหาขึ้น ลำไยมีการปลอมปนมากแต่คิวซีคณะนี้ก็ให้ผ่าน ขณะที่คิวซีของอตก.ก็ให้ผ่านเช่นกัน ซึ่งเสมือนมีการฮั้วกันทั้งที่ลำใยมีการปลอมปน และ ขึ้นรา เป็นจำนวนหลายพันกล่อง ซึ่งตนก็แปลกใจว่าให้ผ่านไปได้อย่างไร แต่ก็ได้รับคำตอบว่า โกดังนี้ จู้จี้ขี้บ่น
ดังนั้นเมื่อเกิดปัญหาตนจึงไม่ให้เช่าโกดัง อย่างไรก็ตาม ลำไยจำนวน 241 กล่องที่มีการปลอมปน ขณะนี้ก็ยังเก็บไว้ในโกดังอยู่ พร้อมทั้งได้แจ้งความ และเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้อายัดไว้เพื่อตรวจสอบแล้วส่วนที่เหลือก็ได้มีการส่งต่อไปยัง จ.ลำพูน ทั้งนี้ตนเชื่อว่าลำไยที่ปลอมปน เป็นลำไยเก่า หรือลำไยลมของปี 2545
ผู้ประกอบการรายนี้ กล่าวด้วยว่า หลังจากนั้น อตก.ก็มีการยกเลิกสัญญากับบริษัทปอเฮง ทำให้เกิดปัญหาเพราะ บ.ปอเฮง ไม่ยอมจ่ายเงินส่วนต่างที่เหลืออีกประมาณ 3 บาทให้ชาวบ้าน โดย บ.ปอเฮงได้บอกกับชาวบ้านว่า ให้ไปเบิกเงินค่ากล่อง และค่าถุงจาก อตก.มาให้บ.ปอเฮงให้ได้ก่อน ทั้งนี้ ทาง อตก.ได้ประกาศว่า จะจ่ายเงินดังกล่าวให้กับชาวบ้าน รวมจำนวน 1,200 ล้านบาท แต่จนถึงขณะนี้ ก็ยังมีการจ่ายแต่อย่างใด จึงขอเรียกร้องให้ อตก.เร่งจ่ายเงินให้กับชาวบ้านโดยเร็วเพราะขณะนี้ได้รับความเดือนร้อนอย่างมาก รวมทั้งกรณีที่ อตก.จะเปลี่ยนสัญญาการคิดลำใยสดจาก 3.4 กิโลกรัม มาเป็น 3.3 ก.ก. ถือเป็นเรื่องไม่ถูกต้อง เนื่องจากขณะที่ชาวบ้านรับจ้างปอเฮงอบนั้น คิดเป็นลำใยสด3.4 ก.ก.ได้ลำใยอบแห้ง 1 ก.ก. ซึ่งอตก.จะมาเปลี่ยนส่วนต่างนี้ได้อย่างไร
จากนั้น พล.ต.อินทรัตน์ ได้สอบถาม รองผอ.อตก.ในเรื่องการทำสัญญากับปอเฮง ที่มีการเปลี่ยนสัญญาไม่ตรงกับสัญญาที่ส่งให้อัยการสูงสุด ในประเด็นการวางประกันหลังหลังจากเซ็นสัญญาไปแล้ว 3 วัน ซึ่งสัญญาที่ส่งให้อัยการสูงสุดไม่มีกำหนดวางหลักประกัน 3 วัน และปอเฮง ก็วางเงินประกันแค่ 105 ล้านบาท แทนที่ตามสัญญาจะต้องวางเงิน 330 ล้านบาท ซึ่งถือว่าผิดเงื่อนไข และผิดกฎหมาย
นายภิญโญ ชี้แจงว่า ที่ตนได้เซ็นสัญญาไป เพราะเชื่อมั่นว่าคณะกรรมการพิจารณาหลักเกณฑ์ฯ ได้ตรวจสอบอย่างดีแล้วเพราะเรื่องนี้ต้องผ่านทั้งปลัด และรองปลัดกระทรวง อีกทั้งมีการเร่งรัดว่าจะต้องรีบดำเนินการเซ็นสัญญาให้เสร็จสิ้นภายในวันที่ 10 ก.ค.47 โดยรองปลัดกระทรวงเกษตร แต่ยืนยันว่า ไม่มีการแก้ไขทีโออาร์แต่อย่างใด
อย่างไรก็ตาม ทาง อตก.ได้คำนึงถึงประโยชน์ที่จะเกิดกับเกษตรกร หากไม่อตก.ไม่ยอมเซ็นโครงการรับซื้อลำไยจะต้องหยุดทันที ซึ่งจะสร้างเดือนร้อนและความเสียหายให้กับเกษตรกร ขณะเดียวกันอตก.ก็ต้องทำตามนโยบายของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่พยายามเข้ามาแก้ไขปัญหาให้กับชาวบ้าน
ส่วนกรณีที่ชาวบ้านเรียกร้องให้ อตก.จ่ายเงินในส่วนต่างที่เหลือนั้นขอยืนยันว่า อตก.ได้จ่ายเงินให้หมดแล้วขณะเดียวกันอตก.ก็อยู่ระหว่างการพิจารณาจะฟ้องร้องเรียกค่าเสียหาย บ.ปอเฮง ในเรื่องการผิดสัญญาวางเงินประกัน
ประธานอนุกมธ. กล่าวสรุปว่า คณะอนุกรรมาธิการฯ เห็นว่า การที่อตก.ไปเปลี่ยนแปลงร่างสัญญา เป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย ซึ่งคงต้องมีการดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้องอย่างแน่นอน ซึ่งในสัปดาห์หน้าคณะอนุกรรมาธิการฯ จะเชิญ อัยการสูงสุด ผอ. และรอง ผอ.อตก. มาชี้แจง อีกครั้ง ก่อนที่จะสรุปเรื่องทั้งหมดเสนอรัฐบาลต่อไป


