xs
xsm
sm
md
lg

นายแบงก์แห่เข้าตลาดเอ็มแอนด์เอ ญี่ปุ่นรับกระแส“แข่งขันจากขนาด”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เอเชียน วอลล์สตรีท เจอร์นัล – บรรดาวาณิชธนกรต่างมุ่งเป้าชิงเค้กส่วนแบ่งธุรกิจใหม่ที่ร้อนแรงที่สุดของญี่ปุ่น นั่นคือ การควบรวมกิจการ (เอ็มแอนด์เอ)

ตามธรรมเนียมแล้ว บริษัทแดนปลาดิบหลีกเลี่ยงข้อตกลงที่เอื้อประโยชน์ต่อการเติบโตของธุรกิจที่มีอยู่ อย่างไรก็ตาม หลังภาวะเฉื่อยชาราวหนึ่งทศวรรษ บริษัทหลายแห่งพากันวิตกว่า ตนเองจะไม่สามารถแข่งขันได้หากไม่ขยายขนาดให้ใหญ่ขึ้น และที่แย่กว่านั้นคือ บริษัทเหล่านี้อาจดึงความสนใจที่ไม่พึงปรารถนาจากบรรดาผู้เสนอซื้ออันแข็งกร้าว

โคอิชิโร ยาซุดะ ประธานร่วมฝ่ายเอ็มแอนด์เอของนิกโก ซิตี้กรุ๊ป กิจการร่วมทุนของบริษัทโบรกเกอร์อันดับ 3 ของญี่ปุ่นและซิตี้กรุ๊ป อิงค์ กล่าวว่า “บริษัทบลูชิปจะต้องลงทุนเรื่องการควบกิจการ ซึ่งหากบริษัทเหล่านี้ไม่ดำเนินการดังกล่าว พวกเขาอาจไม่สามารถหลีกเลี่ยงสถานการณ์ไม่พึงประสงค์”

การปรับเปลี่ยนดังกล่าวทำให้บริษัทโบรกเกอร์ญี่ปุ่นและต่างชาติเริ่มสร้างทีมเอ็มแอนด์เอ ในขณะที่ตัวกลางการเจรจาควบกิจการ ซึ่งไม่ใช่เรื่องปกติทั่วไปในญี่ปุ่น ได้รับความนิยมมากขึ้น

ด้านเมอร์ริล ลินช์ได้เพิ่มทีมงานเอ็มแอนด์เอซึ่งรวมถึงนายธนาคารอาวุโสหลายราย เกือบ 20% ในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา ขณะที่ดีลการควบกิจการของมอร์แกน สแตนเลย์ เพิ่มจากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้วราว 20% ส่วนไดวา ซิเคียวริตี้ส์ กิจการร่วมทุนของบริษัทโบรกเกอร์หมายเลข 2 ของญี่ปุ่นและแบงก์ใหญ่รายหนึ่ง ตั้งเป้าที่จะเพิ่มจำนวนวาณิชธนกรจาก 75 คน เป็น 100 คนภายในปีหน้า

นอกจากนี้ บางบริษัทยังยื้อแย่งพนักงานจากบริษัทอื่นด้วย อาทิ เมื่อปลายปีที่แล้ว เลห์แมน บราเธอร์ส อิงค์ ดึงตัวนายธนาคารชั้นนำจากคู่แข่งอย่าง โกลด์แมน แซคส์ มาเป็นหัวหน้าทีมเอ็มแอนด์เอของตน

ทั้งนี้ภาวะการควบรวมกิจการทำให้จำนวนของเหล่าวาณิชธนกรทะยานขึ้น และสูงเป็นประวัติการณ์ในปี 2004 โดยโรเบิร์ต แบ็บบิช นักวิจัยจากธอมสัน ไฟแนนเชียลคาดการณ์ว่า หากการควบกิจการเติบโตในระดับปัจจุบัน จำนวนการเจรจาซื้อขายในปีนี้จะเพิ่มขึ้นราว 20% จาก 2,077 ดีลเมื่อปีที่แล้ว และมูลค่าตลาดเอ็มแอนด์เอในญี่ปุ่นจะพุ่งขึ้นด้วย โดยเมื่อปี 2004 คิดเป็นมูลค่า 78,300 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 2.5% จากปี 2003

อย่างไรก็ตาม การควบรวมกิจการในญี่ปุ่นยังคงเป็นสัดส่วนเล็กน้อยเมื่อเทียบกับมาตรฐานโลก โดยมูลค่ารวมอยู่ที่ 0.3% ของเศรษฐกิจไตรมาสสุดท้ายเมื่อปีที่แล้ว ขณะที่ฝรั่งเศสอยู่ที่ราว 6% และ สหรัฐฯ 2.8%

แม้จำนวนธุรกรรมการควบรวมกิจการอยู่ในช่วงขาขึ้น ทว่าบางคนยังต่อต้านแนวคิดเอ็มแอนด์เอ เห็นได้จาก บรรดาผู้บริหารและข้าราชการได้ผลักดันแผนการปกป้องตนเองของภาคเอกชนในกรณีที่มีการเจรจาซื้อขายอย่างไม่เป็นมิตรเกิดขึ้น

ทั้งนี้เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (11) นักการเมืองแดนปลาดิบยืดเวลาการผ่านกฎหมายที่เปิดทางให้บริษัทต่างชาติใช้หุ้นจ่ายแทนเงินในการซื้อกิจการแดนปลาดิบออกไปจนกว่าปี 2007 ซึ่งช้ากว่าที่คาดการณ์ไว้ 1 ปี

กระนั้นก็ดี หลักฐานที่ว่าเอ็มแอนด์เอกำลังร้อนแรงนั้นปรากฏขึ้นเมื่อเดือนที่แล้ว เมื่อซันเกียว ผู้ผลิตยาหมายเลข 2 ของญี่ปุ่นเปิดเผยว่า จะซื้อไดอิชิ ฟาร์มาซูทิคอล ผู้ผลิตยาคู่แข่ง เป็นมูลค่า 8,000 ล้านดอลลาร์ โดยตั้งเป้าเป็นคู่แข่งกับผู้นำตลาดท้องถิ่นอย่าง ทาเคดะ ฟาร์มาซูทิคอล และยักษ์ใหญ่ระดับโลกอย่าง ไฟเซอร์ อิงค์ และ เมิร์ก

ทั้งนี้เหล่านายธนาคารคาดว่า จะมีการเจรจาซื้อขายกิจการมากขึ้นในภาคอุตสาหกรรมที่แบ่งแยกเป็นส่วนๆ อย่าง ภาคเวชภัณฑ์ ซึ่งบริษัทญี่ปุ่นมีความแข็งแกร่งด้านเทคโนโลยี แต่ขาดแคลนปัจจัยด้านขนาด
กำลังโหลดความคิดเห็น