xs
xsm
sm
md
lg

ปชป.วอล์กเอาต์ประเดิมประชุมสภาประท้วง‘โภคิน’ไล่‘รังสิมา’หลังแฉทรท.ลงคะแนนให้กัน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ปชป.วอล์กเอาต์ประเดิมประชุมสภา ประท้วง “โภคิน” เชิญ“รังสิมา” ออกนอกห้องประชุม หลังแฉมีคนลงคะแนนแทนกัน ประธานสภาปากไวท้าให้เปิดชื่อ เลยแฉกลางสภาว่าเป็น “พายัพ ปั้นเกตุ” จนที่ประชุมป่วน ที่สุด “โภคิน” โดดอุ้มพวกกันเอง ไล่ “รังสิมา” ออกนอกห้อง พร้อมตั้งกก.สอบการลงคะแนนแทนกัน โดยให้“ลลิตา” เป็นประธาน มี ส.ส.ทุกพรรคร่วมเป็นกรรมการ “สมศักดิ์” เชื่อสุดท้ายจับมือใครดมไม่ได้ แนะใช้เครื่องสแกนนิ้วแทน


ที่รัฐสภา เมื่อเวลา 09.30 น. วานนี้ (16 มี.ค.) มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ชุดที่ 22 ปีที่ 1 ครั้งที่ 3 โดยมี นายโภคิน พลกุล ประธานสภาฯ เป็นประธานในที่ประชุม ซึ่งหลังจากที่ประชุมรับทราบพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งนายกรัฐมนตรี และรับทราบเรื่องส่งระเบียบของที่ประชุมใหญ่ตุลาการในศาลปกครองสูงสุด ว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีปกครองแล้ว ที่ประชุมได้พิจารณาเรื่องอื่น ๆ คือการกำหนดวันและเวลาประชุมสภาผู้แทนราษฎร โดยฝ่ายรัฐบาลเสนอให้ประชุมทุกวันพุธและพฤหัสบดี ซึ่งฝ่ายค้านไม่ขัดข้อง แต่เมื่อกำหนดเวลาในการประชุม ทางรัฐบาลได้เสนอเวลา 13.30 น. ทั้งสองวัน แต่ฝ่ายค้านได้เสนอเป็นเวลา 09.30 น. ทั้งสองวัน ทำให้ต้องมีการลงมติ โดยประธานเสนอให้ใช้วิธีเสียบบัตรลงคะแนน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในระหว่างนั้น น.ส.รังสิมา รอดรัศมี ส.ส.สมุทรสงคราม พรรคประชาธิปัตย์ ได้ลุกขึ้นพูดกลางที่ประชุมว่า มีคนเสียบบัตรแทนกัน ทำให้นายโภคิน ถามกลับไปทันทีว่าสามารถบอกได้หรือไม่ว่าเป็นใคร น.ส.รังสิมา เลยตอบสวนกลับไปทันทีว่า “ได้ค่ะ เป็นคุณ พายัพ ปั้นเกตุ” เป็นเหตุให้บรรยากาศในที่ประชุมเป็นไปด้วยความ เคร่งเครียดขึ้นทันที

โดยนายพายัพ ได้รีบลุกขึ้นปฏิเสธพร้อมกับให้ถอนคำพูด แต่ น.ส.รังสีมา ยืนยันว่าเห็นมีการลงคะแนนแทนกันจริง ๆ และให้ตั้งกรรมการสอบสวน แต่ก่อนที่จะมีการโต้เถียงกันมากกว่านี้ นายโภคิน ได้ตัดบท โดยให้ขานคะแนนการลงมติ สรุปว่าที่ประชุมเห็นชอบให้มีการประชุมสภาในเวลา 13.30 น. ทั้งวันพุธและวันพฤหัสฯ ด้วยคะแนน 297 ต่อ 88 เสียง

อย่างไรก็ตาม นายพายัพ ยังคงยกมือประท้วงประธานด้วยท่าทีโมโหโดยให้ประธานตัดสินให้เด็ดขาด ไม่เช่นนั้นจะเป็นการกล่าวหากัน และจะเป็นบรรทัดฐานที่ไม่ดีต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในระหว่างที่มีการโต้เถียงกัน บรรดาส.ส.พรรคไทยรักไทย ได้ยกมือประท้วงหลายคน ขณะที่นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา ว่าที่ประธานวิปรัฐบาล ได้ลุกขึ้นเดินเข้าไปสะกิดให้นายประมวล รุจนเสรี ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคไทยรักไทย ซึ่งนั่งอยู่ใกล้นายพายัพ ลุกขึ้นเป็นพยานให้ ซึ่งนายประมวล ก็เป็นพยานให้นายพายัพว่าไม่ได้ลงคะแนนแทนใคร

แต่ก่อนเหตุการณ์จะบานปลาย นายโภคิน ได้วินิจฉัยว่า น.ส.รังสิมา เห็นด้วยตา ซึ่งอยู่ระยะไกล จึงคิดว่าน่าจะเห็น และให้สำนักเลขาธิการสภาฯตรวจสอบ แต่ ให้น.ส.รังสิมา ถอนคำพูด ขณะที่น.ส.รังสิมา ยังยืนยันที่จะไม่ถอนคำพูด เพราะถ้าถอนก็เท่ากับว่า ตนโกหก จึงขอให้พิสูจน์ความจริง โดยดูจากทีวีและจอคอมพิวเตอร์ได้ทันที

ซึ่งในที่สุดนายโภคิน ก็ยืนยันให้น.ส.รังสิมา ถอนคำพูดไม่เช่นนั้นจะเชิญออกจากห้องประชุม ซึ่ง น.ส.รังสิมา ก็ยืนยันที่จะไม่ถอนคำพูด นายโภคินจึงเชิญ ออกจากห้องประชุม และจะให้เลขาธิการสภาฯตั้งคณะกรรมการตรวจสอบต่อไป อย่างตรงไปตรงมา เพราะเป็นข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ไม่มีใครสามารถบิดเบือนได้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า น.ส.รังสิมา ได้เดินออกจากห้องประชุมทันที โดยมีนายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ ยืนรออยู่หน้าประตูทางออก โดยมี ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ทั้งหมดได้ร่วมวอล์กเอาต์ออกจากห้องประชุมด้วย เหลืออยู่เพียง 4 คนเท่านั้น ขณะที่พรรคชาติไทยยังคงนั่งอยู่ในห้องประชุม

นายณัฐวุฒิ ประเสริฐสุวรรณ ส.ส.สุพรรณบุรี พรรคชาติไทย ได้ลุกขึ้นอภิปราย ว่า ความวุ่นวายที่เกิดขึ้นปฏิเสธไม่ได้ว่ามีการกดบัตรแทนกัน จึงอยากถามว่าต่อไปประธานจะมีแนวทางในการแก้ปัญหาต้นเหตุนี้อย่างไร

อย่างไรก็ตามก่อนที่เหตุการณ์จะวุ่นวายต่อไป ประธานได้ตัดบทให้ที่ประชุมเข้าสู่วาระพิจารณาเรื่องการกำหนดวันเริ่มสมัยประชุมสามัญนิติบัญญัติ ซึ่งที่ประชุมเห็นชอบให้วันที่ 22 ส.ค. เป็นวันเริ่มนับสมัยประชุมสามัญนิติบัญญัติ ส่วนในสมัยสามัญทั่วไป ซึ่งเป็นสมัยนี้จะเริ่มนับตั้งแต่วันที่ 4 มี.ค. ถึง 3 ก.ค. จากนั้นประธานได้สั่งปิดการประชุมไปในเวลา 12.10 น.

รังสิมายันมีลงคะแนนแทนกันจริง

ด้าน น.ส.รังสิมา รอดรัศมี ยืนยันว่าเห็นกับตาว่ามีการลงคะแนนแทนกัน เพราะตั้งใจดูว่า คะแนน377 เสียงจะมีการกดคะแนนแทนหรือไม่ ก็ได้เห็นด้วยตาจริง ๆ ประธานจะให้ตนถอนคำพูดคงทำไม่ได้ ถ้าจะให้ถูกประธานต้องตั้งกรรมการ มาตรวจสอบ เพราะเป็นที่สังเกตว่า ที่นั่งที่มีปัญหา มีที่ว่างอยู่ 2 ที่แต่มีบัตรเสียบเต็ม และคนที่นั่งก็ไม่ตรงกับบัตรของตัวเอง กดบัตรคนอื่นเสร็จถึงได้ไปกดบัตรของตัวเองอีกครั้ง คิดว่าประธานวินิจฉัยไม่ถูกต้อง ไม่เป็นกลาง

“ดิฉันคิดว่า ประธานทำไม่ถูกต้อง เพราะการวินิจฉัยทำไปทั้งที่ยังไม่รู้ว่า ทำผิดจริงหรือไม่ ไปเชื่อพยานแต่ไม่เชื่อหลักฐาน และแม้ตั้งกรรมการสอบ ถ้ามีจิตใจไม่เป็นกลาง ช่วยเหลือกันก็ไม่ถูกต้อง ดิฉันเก็บหลักฐานไว้แล้วว่า บัตรตรงนั้นเป็นที่นั่งของใคร และที่นั่งว่าง 2 ที่เป็นของใคร และทั้ง 2 ที่ก็มีบัตรทั้ง 2 ใบ”

สมศักดิ์เชื่อจับมือใครดมไม่ได้

นายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล ส.ส.อ่างทอง พรรคชาติไทย อดีตรองประธานสภา กล่าวถึงปัญหาการลงคะแนนเสียบบัตรแทนกันของส.ส.ว่าเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นมานานและจะต้องเร่งแก้ไขโดยเร่งด่วน ซึ่งในสมัยที่ผ่านมาได้เสนอให้แก้ปัญหา ด้วยการ ใช้เครื่องแสกนนิ้วมือ เพื่อป้องกันลงคะแนนแทนกัน ซึ่งประธานสภาต้องรีบตัดสินใจมิเช่นนั้นใครจะรับประกันได้ว่าจะไม่มีเหตุการณ์ทำนองนี้เกิดขึ้นอีก

“เราเชื่อมั่นในเกียรติส.ส.แต่ก็ไม่ปฏิเสธว่าการใช้สิทธิ์แทนกันจะมีจริง ตอนที่ผมอยู่บนบัลลังก์ก็มองเห็นได้ชัดเจน เรื่องนี้สร้างความเสื่อมเสียต่อเกียรติยศ และทำลายความน่าเชื่อถือของส.ส.และขององค์กรที่เป็นสถาบันนิติบัญญัติ

อย่างไรก็ตาม แม้ประธานสภาจะมีการตั้งคณะกรรมการร่วมพิสูจน์แต่ผมเชื่อว่า ในที่สุดแล้วผลสรุปออกมาจะหาคนผิดถูกไม่ได้ เพราะตราบใดที่ยังใช้วิธีการแบบเดิมๆ เช่น สมาชิกอาจจะอ้างว่าช่องลงคะแนนของตัวเองมีปัญหาเลยลุกไปเสียบ ช่องอื่น ก็อ้างได้ ดังนั้นการแก้ปัญหานี้มีทางเดียวคือต้องใช้เครื่องแสกนนิ้วมือซึ่งจะสร้างความเชื่อมั่นให้กับสภาด้วย”

โภคินตั้งฝ่ายรัฐบาล-ฝ่ายค้านสอบ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่นายโภคิน เชิญ น.ส.รังสิมา ออกจากห้องประชุม ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ จำนวนหนึ่ง ประกอบด้วย นายสมบูรณ์ อุทัยเวียนกุล ส.ส.ตรัง นายอาคม เอ่งฉ้วน ส.ส.กระบี่ ได้ลุกขึ้นไปตรวจสอบบริเวณที่นั่งของนายพายัพ ปั้นเกตุ ก่อนจะย้ายที่ ซึ่งพบว่ายังมีบัตรประจำตัวส.ส.ที่เสียบอยู่ในช่องเสียบบัตรเพื่อลงมติอยู่ 7 ใบ จึงได้ดึงออกมาทั้งหมดแล้วจดหมายเลขประจำบัตรออกมา เพราะที่นั่งดังกล่าวมี ส.ส.พรรคไทยรักไทยนั่งอยู่เพียง 5 คน คือ นายรณฤทธิชัย คานเขต ส.ส.ยโสธร นายนิยม วรปัญญา ส.ส.ลพบุรี นายอำนวย คลังผา ส.ส.ลพบุรี นายประมวล รุจนเสรี ส.ส.บัญชีรายชื่อ และนายพายัพ ปั้นเกตุ

ส่วนที่ว่าง 2 ที่เป็นบัตรของนายพงศ์ศักดิ์ บุญศล สกลนคร กับ นายธีระชัย ศิริขันธ์ ส.ส.อำนาจเจริญ ซึ่งในระหว่างลงมติทั้งสองคนไม่ได้นั่งประจำที่ แต่จากการ ตรวจสอบผลการลงคะแนนกลับพบว่าทั้งสองคนได้ใช้สิทธิ์ลงคะแนนไปเรียบร้อยแล้ว

นอกจากนี้เมื่อตรวจสอบการลงคะแนนของส.ส.ทั้ง 5 คนปรากฏว่ามีการลงคะแนนสลับที่กัน โดยที่นั่งของนายพายัพ กลับเป็นบัตรของนายประมวล ส่วนที่นั่งของนายประมวลเป็นบัตรของนายนิยม นอกจากนี้ยังพบว่า ส.ส.พรรคไทยรักไทย เข้ามาลงคะแนนไม่ทันเป็นจำนวนมากและมีการเกณฑ์มาลงคะแนนเพิ่มเติมภายหลัง

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า นายโภคิน ได้ลงนามคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการ จริยธรรมเพื่อตรวจสอบการลงคะแนนบัตรแทนกันโดยมีนางลลิตา ฤกษ์สำราญ รองประธานสภาฯคนที่ 2 เป็นประธาน และคณะกรรมการมาจากตัวแทนของแต่ละพรรคการเมืองได้แก่ น.ส.จณิสตา ลิ่วเฉลิมวงศ์ ส.ส.กทม.พรรคชาติไทย นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ ส.ส.พัทลุง พรรคประชาธิปัตย์ นายตุ่น จินตเวช ส.ส.อุบลราชธานี พรรคมหาชน และ นายสุธรรม แสงประทุม ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคไทยรักไทย
กำลังโหลดความคิดเห็น