xs
xsm
sm
md
lg

อริยสัจการเมืองจีน (22)พรรคเหนือทุนไทย ต้องเป็นพรรคชั้นนำระดับโลก

เผยแพร่:   โดย: สันติ ตั้งรพีพากร

กระบวนการต่อยอดของพรรคเหนือทุนไทย จะไม่สมบูรณ์ และไม่อาจพัฒนาตนเองไปสู่เป้าหมายที่วางไว้ในระยะยาว หากเพียงแต่ต่อยอดพัฒนาการพรรคการเมืองในระบอบทุนนิยม (ทั้งในและต่างประเทศ ดังที่ได้นำเสนอไว้ในบทที่แล้ว) จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องต่อยอดพัฒนาการพรรคการเมืองแนวสังคมนิยม ทั้งในประเทศที่ปกครองด้วยระบอบสังคมนิยมมาร์กซิสม์ เช่นประเทศจีน เวียดนาม ในปัจจุบัน และพรรคการเมืองแนวสังคมนิยมและสังคมประชาธิปไตยในประเทศอุตสาหกรรมทุนนิยมก้าวหน้า เช่นบางประเทศในยุโรป และนิวซีแลนด์

ทั้งหมดนั้น ก็เพื่อให้พัฒนาการทางการเมืองของไทย มีลักษณะก้าวหน้าระดับแนวหน้าของโลกได้ในทันทีที่มีการก่อตั้งพรรคเหนือทุนไทย

นั่นคือ พรรคเหนือทุนไทย จะเริ่มต้นที่ "จุดสูงสุด" ของอารยธรรมการเมืองโลกเลยทีเดียว

พรรคเหนือทุนไทย ต้องเป็นพรรคชั้นนำระดับโลก

ที่นำเสนอเช่นนี้ ก็ด้วยตระหนักในสภาวะเป็นจริงของยุคสมัย คำนึงถึงผลประโยชน์สูงสุดของประเทศชาติและประชาชนไทย ในยุคสมัยที่สังคมโลกเชื่อมโยงเข้าเป็นหนึ่งเดียวกัน บนฐานของการปฏิวัติใหญ่ทางด้านวิทยาการไฮเทค และพลังการผลิตโดยรวมของสังคมโลก

การสร้างสรรค์สันติภาพและพัฒนาตนเองให้เจริญก้าวหน้าอย่างต่อเนื่อง กลายเป็นภารกิจพื้นฐานของคนทุกชาติทุกภาษา

อุปมาคนทุกชาติทุกภาษา วัฒนธรรม ถูกจัดแถวมาอยู่บนเส้นสตาร์ทเดียวกัน ในการที่จะ (แข่งขันกัน) เดินหน้าไปสู่อนาคตอันไกลโพ้น จำเป็นต้องดำเนินกิจกรรมต่างๆที่จะส่งเสริมให้ตน (ประเทศชาติและประชาชน) มีความพร้อมที่สุดสำหรับการแข่งขันในทุกๆ ด้าน ในเงื่อนไขและกติการ่วมกันทั้งโลก

นั่นหมายความว่า ทั้งหมดนั้น ทุกฝ่ายต้องถือเอา "ตนเอง" เป็นฐาน เป็นศูนย์กลาง ซึ่งโดยนัยก็หมายถึงว่า จะต้องถือเอาประเทศชาติและประชาชนเป็นศูนย์กลาง

นั่นหมายความว่า ประเทศนั้นๆ จะต้องมีพรรคการเมืองที่เป็น "ตัวแทน" ผลประโยชน์ที่แท้จริงของประเทศชาติและของประชาชน ดำเนินการบริหารประเทศอย่างสอดคล้องกับความเรียกร้องต้องการของประเทศชาติและของประชาชนอย่างแท้จริง จึงจะสามารถเสริมสร้างความพร้อมให้แก่ประเทศชาติและประชาชนในการแข่งขันระดับโลก

หาไม่แล้ว ประเทศนั้นและประชาชนของประเทศนั้น ก็จะตกอยู่ในภาวะ "ถูกกระทำ" โดนไล่ต้อน ตกที่นั่งลำบาก ไม่อาจยืนหยัดอยู่ได้อย่างมีศักดิ์ศรีบนเวทีโลก

กล่าวได้ว่า ณ วันนี้ มนุษยโลกได้มี "วิสัยทัศน์" ร่วมกันแล้วว่า ในสภาวะเช่นนี้ มนุษยชาติ ทุกชาติทุกภาษา ย่อมมีโอกาสเท่าเทียมกันในการที่จะคิดจะทำทุกสิ่งทุกอย่างที่เป็นประโยชน์สำหรับตนเอง ขอแต่เพียงสามารถ "ปลดปล่อยตนเอง" ออกจากครอบงำทางปัญญาของคนอื่น และกล้าคิด กล้าทำ ถือเอา "การปฏิบัติ" เป็นกุญแจไขไปสู่ปัญหาและคำตอบต่างๆ ที่รออยู่เบื้องหน้า

ดังนั้น พรรคเหนือทุนไทยที่จะถือกำเนิดขึ้น เพื่อสนองตอบต่อความเรียกร้องต้องการของประเทศชาติและประชาชนนั้น จะไม่มีทางเป็นอื่น นอกจากต้องถือกำเนิดขึ้นฐานะพรรคการเมืองที่มีลักษณะก้าวหน้าที่สุด ยืนเด่นเป็นสง่าอยู่แนวหน้าสุด ในท่ามกลางพรรคการเมืองยุคใหม่ของโลก ทั้งที่เป็นพรรคการเมืองในระบอบทุนนิยมและในระบอบสังคมนิยม

ทั้งที่เป็นพรรคการเมืองกลุ่มทุนและพรรคการเมืองเหนือทุน

อัตตา หิ อัตตโน นาโถ "ตน" จึงต้องเป็นที่พึ่งแห่งตน และเราจะพึ่งตนเองได้ดีก็ด้วยมีพรรคการเมืองชั้นหนึ่งทำหน้าที่บริหารประเทศ

ด้วยเหตุนี้เอง พรรคเหนือทุนไทยจะต้องเป็นพรรค "ชั้นนำ" ระดับโลก จะเป็นอื่นไปไม่ได้ โดยเด็ดขาด

ต่อยอดพัฒนาการพรรคการเมืองเหนือทุนโลก

การต่อยอดพัฒนาการพรรคการเมืองเหนือทุนโลก แยกออกเป็นสองสาย

สายที่หนึ่ง ต่อยอดพัฒนาการพรรคการเมืองที่ยึดมั่นในอุดมการณ์มาร์กซิสม์

สายที่สอง ต่อยอดพัฒนาพรรคการเมืองสังคมนิยม และสังคมประชาธิปไตย

จุดร่วมของพรรคการเมืองทั้งสองสาย คือ การก่อตั้งพรรคเพื่อประชาชน ดำเนินกิจกรรมการเมืองในลักษณะมุ่งปกป้องสิทธิผลประโยชน์ ต่อสู้เพื่อสิทธิเสรีภาพของประชาชน

จุดต่างอยู่ตรงที่ พรรคเหนือทุนแนวมาร์กซิสม์ เชิดชูอุดมการณ์มาร์กซิสม์ มีจุดยืน ทัศนะ และวิธีการที่ตั้งอยู่บนฐานปรัชญาวัตถุนิยมวิภาษและวัตถุนิยมประวัติศาสตร์ มีจุดมุ่งหมายและยุทธศาสตร์ทั้งระยะสั้นและยาวในการเคลื่อนไหวทางการเมืองในรูปแบบเฉพาะของตน หลักๆ ก็คือมุ่งจัดตั้งมวลชน ดำเนินการต่อสู้ในรูปแบบต่างๆ ที่เป็นไปได้ เพื่อปฏิวัติเปลี่ยนแปลงสังคม จากระบอบทุนนิยมไปสู่ระบอบสังคมนิยมอย่างถาวร

ส่วนพรรคเหนือทุนแนวสังคมนิยมและสังคมประชาธิปไตย เป็นการรวมตัวกันของนักคิดนักเคลื่อนไหวมวลชน และผู้นำสหภาพแรงงาน เป็นต้น ดำเนินกิจกรรมทางการเมืองในระบบรัฐสภา ในระบอบทุนนิยม เพื่อปกป้องสิทธิผลประโยชน์ของมวลชนบางกลุ่มบางพวก ไม่มีจุดมุ่งหมายที่จะปฏิวัติเปลี่ยนแปลงระบอบสังคมแต่ประการใด

พรรคเหนือทุนทั้งสองสายนี้ มีความเกี่ยวพันกันอย่างใกล้ชิดมาตั้งแต่กลางศตวรรษที่ 19 ในขณะที่ระบอบทุนนิยมกำลังเติบใหญ่ในยุโรป ชนชั้นนายทุนได้เข้าบริหารอำนาจแทนที่ชนชั้นศักดินาอย่างทั่วด้าน เกิดการพัฒนาขยายตัวของพลังการผลิตในสังคมอย่างขนานใหญ่ แต่ก็ด้วยการสังเวยชีวิต หยดเลือดและหยาดเหงื่อแรงงานของกรรมกรผู้ใช้แรงงาน ที่ต้องทำงานหามรุ่งหามค่ำในเหมืองแร่ และโรงงาน เยี่ยงทาส

ในภาวะเช่นนี้ กลุ่มบุคคลที่มีความคิดก้าวหน้า รักความเป็นธรรม ได้รวมตัวกันตั้งเป็นกลุ่มการเมืองเคลื่อนไหวต่อสู้เพื่อสิทธิเสรีภาพของประชาชนผู้ใช้แรงงานอย่างกว้างขวาง กระทั่งมีการก่อตั้งเป็นพรรคการเมืองดำเนินการเคลื่อนไหวต่อสู้ในรูปแบบต่างๆ ทั้งโดยสันติวิธีและใช้กำลัง ซึ่งต่อมาได้กลายเป็นขบวนการเรียกร้องสิทธิประชาธิปไตยในระบอบทุนนิยม มุ่งต่อสู้เพื่อให้ได้เข้าไปนั่งเป็นสมาชิกรัฐสภา ดำเนินการต่อสู้ในระบบรัฐสภา ผลักดันให้มีการตรากฎหมายรับรองและปกป้องสิทธิเสรีภาพของประชาชนผู้ใช้แรงงานในระบอบทุนนิยมเป็นขั้นๆ

ในระยะหลังๆ โดยเฉพาะภายหลังสงครามโลกครั้งที่สอง สังคมโลกก้าวเข้าสู่ยุคสงครามเย็น โลกทุนนิยมเผชิญกับการรุกคืบของโลกสังคมนิยม ประชาชนผู้ใช้แรงงานของกลุ่มประเทศอุตสาหกรรมตะวันตก มีแนวโน้มนิยมการปกครองในระบอบสังคมนิยม ยังผลให้พรรคสังคมนิยมและสังคมประชาธิปไตยในกลุ่มประเทศอุตสาหกรรมตะวันตกจำนวนหนึ่งประสบความสำเร็จในสนามเลือกตั้ง จากการนำเสนอนโยบายรัฐสวัสดิการรอบด้าน ดำเนินการจัดตั้งรัฐบาลบริหารประเทศหลายวาระ หลายสมัย

แต่พอถึงต้นทศวรรษ ค.ศ.1980 กลุ่มอดีตสหภาพโซเวียตล่มสลาย อิทธิพลของโลกสังคมนิยมตกฮวบ รวมทั้งการดำเนินนโยบายรัฐสวัสดิการของรัฐบาลสังคมนิยมในประเทศต่างๆ ได้สร้างภาระหนักอึ้งทางด้านการเงินการคลังของประเทศต่างๆ อย่างมาก ยุคการบริหารประเทศของพรรคสังคมนิยมจึงได้ผ่านเลยไป

ปัจจุบัน พรรคแนวสังคมนิยมในยุโรป ส่วนใหญ่ได้ปรับแนวนโยบายของตนให้เป็นแบบเสรีนิยมมากขึ้น มุ่งสนองตอบต่อความเรียกร้องต้องการของปัจเจกบุคคลทั่วไป มากกว่าที่จะสนองตอบต่อขบวนการผู้ใช้แรงงานหรือกลุ่มชนผู้ด้อยโอกาส อย่างเช่นพรรคแรงงานของอังกฤษ ปัจจุบันเป็นรัฐบาลบริหารประเทศ โดยมีนายโทนี แบลร์เป็นนายกรัฐมนตรี ดำเนินนโยบายเสรีนิยมสุดขั้ว ในทางการเมืองระหว่างประเทศถึงกับร่วมกับสหรัฐฯทำสงครามยึดครองอิรัก เป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางว่า เป็นการกระทำที่นำเอาอังกฤษเข้าไปพ่วงติดกับสหรัฐอเมริกามากเกินไป

แต่มองในแง่มุมหนึ่ง ก็จะพบว่า นายโทนี แบลร์มุ่งทำทุกอย่างเพื่อชาติอังกฤษ เพื่อผลประโยชน์ของชาวอังกฤษ ในบริบทที่สหภาพยุโรปได้รวมตัวกันเข้าเป็นหนึ่งเดียว โดยมีฝรั่งเศสและเยอรมนีเป็นแกน หากอังกฤษไม่ดำเนินนโยบายยึดถือประโยชน์ตนเป็นหลัก อังกฤษ (ความจริงคือสหราชอาณาจักร) ก็จะถูกกลบกลืนเข้าไปในกระแสการรวมตัวของกลุ่มประเทศต่างๆ บนพื้นทวีปยุโรป

มาถึงตรงนี้ เราจึงแทบมองไม่เห็นความแตกต่างกันระหว่างพรรคอนุรักษนิยมกับพรรคแรงงานของอังกฤษแต่ประการใดเลย นอกจากชื่อพรรคเท่านั้นเอง

ในกรณีของพรรคสังคมประชาธิปไตยและพรรคสังคมนิยมของประเทศอื่นๆในภาคพื้นทวีปยุโรปก็เช่นเดียวกัน นอกจากชื่อพรรคแล้ว แทบจะไม่ข้อแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญ ทั้งในการดำเนินนโยบายบริหารประเทศ และในการดำเนินนโยบายระหว่างประเทศ

บางที เราอาจจัด "ชั้น" ให้ใหม่ ว่าพรรคการเมืองแนวสังคมนิยมดั้งเดิมเหล่านี้ เป็น "พรรคนอกทุน" มากกว่าที่จะเป็น "พรรคเหนือทุน"

พรรคเหนือทุน "แบบจีน"

ถึง ณ วันนี้ เราอาจพูดได้ว่า ยุคสมัยที่สังคมโลกเชื่อมโยงเข้าเป็นหนึ่งเดียวกัน ทุกประเทศและมนุษย์ทุกชาติทุกภาษาได้มาตั้งแถวอยู่บนเส้นสตาร์ทเดียวกัน วัฒนธรรมการเมืองโลกได้ก้าวเข้ามาสู่ "ฐานร่วม" เดียวกันแล้วในทางเป็นจริง

นั่นคือ ทุกพรรค ไม่ว่าพรรคกลุ่มทุน พรรคนอกทุน พรรคเหนือทุน ต่างยึดถือเอา "ประเทศชาติและประชาชน" เป็นฐานในการกำหนดและดำเนินนโยบาย ทั้งภายในประเทศและระหว่างประเทศ

ต่างกันแต่ว่า ในบริบทของการยึดถือเอา "ประเทศชาติและประชาชน" เป็นฐานนั้น พรรคกลุ่มทุนจะคำนึงถึงผลประโยชน์เฉพาะตนเป็นเบื้องต้นมากกว่า ส่วนพรรคนอกทุนจะแกว่งไกวไปมาระหว่างผลประโยชน์ของกลุ่มทุนและกลุ่มมวลชนชั้นชนต่างๆ ที่เป็นเสียงส่วนใหญ่ของสังคม มีลักษณะหวังผลในคะแนนเสียงเลือกตั้งมากเป็นพิเศษ

สำหรับพรรคลัทธิมาร์กซ์ ซึ่งปัจจุบันหลักๆ ก็คือพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศจีน ก็ได้ประกาศชัดว่า ในการพัฒนาสร้างสรรค์ระบอบสังคมนิยมนั้น จะต้องถือเอาการพัฒนาเศรษฐกิจเป็นพื้นฐาน เสริมสร้างพลังรวมแห่งชาติ สำหรับความ "เป็นหนึ่ง" บนเวทีโลก ใช้การพัฒนาและยกระดับชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนเป็น "บันได"ไปสู่การสร้างสรรค์สังคมนิยม

การประกาศตนเป็น "ตัวแทน 3 ประการ" ก็ล้วนแต่เพื่อบรรลุสู่เป้าหมายการพัฒนาสร้างสรรค์ประเทศจีน เพื่อให้สามารถยืนหยัดอยู่ในสังคมโลกที่เชื่อมโยงกันเข้าเป็นหนึ่งเดียวกันได้อย่างมีศักดิ์ศรี ประชาชนคนจีนทั้งโลกสามารถลืมตาอ้าปากได้อย่างเต็มที่

ทุกอย่างเพื่อประเทศจีน และประชาชนจีน สุดๆ ไปเลย

เป็นไปได้มากทีเดียว ว่าการต่อยอดพัฒนาการพรรคเหนือทุนโลกของพรรคเหนือทุนไทยนั้น จะมีแกนหลักที่การต่อยอดพัฒนาการพรรคคอมมิวนิสต์จีน เนื่องจากเป็นพรรคเหนือทุนที่สามารถใช้อำนาจบริหารประเทศได้อย่างสอดคล้องกับความเรียกร้องต้องการของประเทศชาติและประชาชนมากที่สุด ในบรรดาพรรคการเมืองทั้งหลายในโลกยุคปัจจุบัน

ที่ต่างก็ยึดถือเอา "ประเทศชาติและประชาชน" เป็นฐาน

ส่วนจะต่อยอดอย่างไร แบบไหน ก็ขอให้ท่านผู้อ่านติดตามได้ในบทต่อๆ ไป
กำลังโหลดความคิดเห็น