xs
xsm
sm
md
lg

ใครพบดาวเคราะห์เนปจูน? (จบ)

เผยแพร่:   โดย: สุทัศน์ ยกส้าน


แต่เมื่อการวิวาทบาดหมางทางวิชาการไม่ควรเกิดในวงการวิทยาศาสตร์ John Herschel จึงได้พยายามไกล่เกลี่ยกรณีพิพาท โดยได้เสนอให้มีการมอบเหรียญรางวัลของสมาคม Royal Astronomical ให้แก่ Adams และ Le Verrier ทว่ากฎระเบียบของสมาคมบังคับว่า ผู้รับเหรียญต้องเป็นคนเดียวจะแบ่งกัน 2 คนไม่ได้ แต่ครั้นจะแบ่งรับ 2 เหรียญ น้ำหนักความสำคัญของการค้นพบก็ไม่พอ จึงเป็นว่าทั้ง Adams และ Le Verrier ไม่ได้รางวัลใดๆ จาก Royal Astronomical Society เลย

ถึงแม้จะถูกอุปโลกน์ให้เป็นคู่แข่ง แต่ในการพบกันที่ Oxford ในประเทศอังกฤษ เมื่อปี พ.ศ. 2390 ความสนใจที่เหมือนกันและความรู้ด้านดาราศาสตร์ที่เท่าเทียมกันทำให้ Adams และ Le Verrier ได้กลายเป็นเพื่อนที่รักกันมาก ในเวลาต่อมาสมเด็จพระราชินี Victoria แห่งอังกฤษได้ทรงโปรดให้ Adams ดำรงตำแหน่ง Sir แต่เขาปฏิเสธ และใช้ชีวิตเงียบๆ จนเสียชีวิตเมื่ออายุได้ 73 ปี และอีก 3 ปีต่อมา ทางสมาคม Royal Society แห่งอังกฤษก็ได้นำแผ่นแกะสลักชื่อของ J. C. Adams ไปวางในมหาวิหาร Westminster ใกล้ๆ กับหลุมฝังศพของ Isaac Newton และ Charles Darwin ส่วน George Airy นั้นก็ได้เสียชีวิต หลังจากที่ Adams ตายไป 3 วัน แต่เมื่อวงการวิทยาศาสตร์ของอังกฤษคิดว่า เขาเป็นคนที่ทำให้เรื่องทั้งหลายวุ่นวาย ชื่อของ Airy จึงไม่ได้รับการจารึกในมหาวิหาร Westminster แต่อย่างใด

ส่วน Le Verrier หลังจากประสบความสำเร็จในการพบดาว Neptune แล้ว เขาก็หันไปสนใจดาวพุธต่อไป เพราะนักดาราศาสตร์ได้พบว่า เวลาดาวพุธโคจรรอบดวงอาทิตย์วงโคจรของมันมิได้เป็นวงโคจรเปิด นั่นคือ มันจะไม่โคจรซ้ำรอยเดิม แต่ในทุกศตวรรษจุดใกล้ดวงอาทิตย์ที่สุดของมันจะขยับเลื่อนไป 580 ฟิลิปดา (1 องศาเท่ากับ 60 ลิปดา และ 1 ลิปดาเท่ากับ 60 ฟิลิปดา) ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่น่างุนงงมาก และเมื่อนักดาราศาสตร์ได้พิจารณาแรงโน้มถ่วงจากดาวเคราะห์ทุกดวงแล้วก็พบว่า สามารถทำให้จุดใกล้ขยับเลื่อนไปได้เพียง 542 ฟิลิปดาเท่านั้นเอง ความแตกต่างอีก 38 ฟิลิปดา จึงไม่รู้ว่าเกิดจากสาเหตุใด เหตุการณ์นี้ทำให้นักดาราศาสตร์หลายคนคิดว่า คงมีดาวเคราะห์อีกดวงหนึ่งที่โคจรใกล้ดวงอาทิตย์ยิ่งกว่าดาวพุธ ซึ่งจะเรียกว่า ดาว Vulcan ที่ส่งแรงกระทำแบบโน้มถ่วงต่อดาวพุธทำให้จุดใกล้ดวงอาทิตย์ที่สุดขยับเลื่อนไป 38 ฟิลิปดาใน 100 ปี และถึงแม้นักดาราศาสตร์จะพยายามค้นหาดาว Vulcan สักเพียงใดก็ไม่มีใครเห็นดาว Vulcan เลย แต่ใครเลยในสมัยนั้นจะคิดว่า ความแตกต่างที่น้อยนิด 38 ฟิลิปดา ซึ่งในเวลาต่อมาได้ปรับเปลี่ยนไปเป็น 43 ฟิลิปดา จะได้รับการอธิบายอย่างถูกต้องโดยทฤษฎีสัมพัทธภาพทั่วไปของ Einstein ในอีก 60 ปีต่อมา

ในวารสาร Scientific American ฉบับเดือนธันวาคม 2547 นี้ W. Sheehan นักจิตวิทยาผู้เชี่ยวชาญด้านโรคออทิสติก และ N. Kollerston แห่ง University College ที่ London กับ C. B. Waff ผู้เป็นนักประวัติศาสตร์ของ Air Force Research Laboratory ที่เมือง Dayton รัฐ Ohio ได้รายงานว่า จากการติดตามดูหลักฐานและเอกสารต่างๆ ที่ Adams, Airy, Challis และ Le Verrier เขียนติดต่อกันทำให้เขารู้ว่า ทั้ง Le Verrier และ Adams ได้สมมติให้มวลของ Neptune มากเกินจริง และใช้ระยะทางที่ดาว Neptune อยู่ห่างจากดวงอาทิตย์ก็ไกลเกินจริง เหตุการณ์ผิดกับผิดแล้วทำให้ถูกนี่ถือได้ว่าเป็นเหตุการณ์ฟลุกที่ยิ่งใหญ่ที่สุดเหตุการณ์หนึ่งของวงการวิทยาศาสตร์

และเมื่อคนทั้งสามค้นหาเอกสารที่ Adams อ้างว่าเขียนถึง Airy แต่ Airy ไม่สนใจ นักวิจัยทั้งสามก็พบว่า เมื่อ Adams เสียชีวิตลง เอกสารทุกชิ้นที่เขาเขียนได้ตกอยู่ในความดูแลของ William M. Smart แต่เมื่อ 40 ปีก่อนนี้ ได้มีนักดาราศาสตร์ 2 คนชื่อ Allan Chapman กับ Robert Smith ซึ่งได้ศึกษาเอกสารของ Adams แล้วตั้งข้อสงสัยว่า คณะนักดาราศาสตร์อังกฤษได้รวมหัวกันอ้างว่า Adams คำนวณพบดาว Neptune

ด้วยเหตุนี้นักประวัติศาสตร์ชื่อ Dennis Rawlins จึงต้องหาหลักฐานเพิ่มเติมจากจดหมายที่ Airy อ้างว่าได้รับจาก Adams แต่เมื่อใดก็ตามที่ Rawlins ขอเอกสารของ Airy จากหอดูดาวที่ Royal Greenwich บรรณารักษ์ที่นั่นจะบอกว่า "ให้ไม่ได้" ทุกครั้งไป

การปฏิเสธเลี่ยงเช่นนี้ทำให้ Rawlins สงสัยว่า Olins J. Eggen ผู้เป็นเลขานุการของ Airy ได้เก็บเอกสารไว้หมด เพราะ Eggen เองก็ต้องการเอกสารดังกล่าวในการเขียนประวัติของ Airy แต่ Eggen ได้อพยพไปออสเตรเลียแล้วอพยพต่อไปพำนักที่ Chile พร้อมกับปฏิเสธคอเป็นเอ็นว่า ไม่มีจดหมายที่ Adams เขียนถึง Airy ในครอบครอง
ความลึกลับต่างๆ เริ่มเปิดเผยในเดือนตุลาคม พ.ศ. 2541 เมื่อ Eggen ตาย และเพื่อนของ Eggen ได้ตรวจค้นห้องพักของเขาที่สถาบันวิจัยดาราศาสตร์ที่ Chile และได้พบเอกสารสำคัญมากมายที่หนักประมาณ 100 กิโลกรัม จึงได้ส่งเอกสารกลับมาที่ห้องสมุดของมหาวิทยาลัย Cambridge การอ่านวิเคราะห์เอกสารทำให้ Sheeham, Kollerstrom และ Waff เข้าใจเหตุการณ์เบื้องหน้าและเบื้องหลังของการค้นพบดาว Neptune ว่า

เพื่อนนักดาราศาสตร์ของ Adams ได้ให้เกียรติและเครดิตแก่ Adams มากเกินไป เพราะถึงแม้ว่า Adams จะได้คำนวณอธิบายวิถีโคจรของ Uranus โดยสมมติว่า มีดาว Neptune เข้ามาเกี่ยวข้องก็ตาม แต่ Adams ก็ไม่ได้ส่งข่าว ไม่ได้ตีพิมพ์ผลงาน และรายงานอย่างละเอียดให้โลกรู้ Adams จึงเป็นบุคคลแรกที่คำนวณเรื่องนี้ แต่การค้นพบอะไรก็ตาม ในทางวิทยาศาสตร์ผู้พบจะต้องสื่อข่าวให้บุคคลในวงการรู้ และตรวจสอบการค้นพบจึงเป็นทั้งเหตุการณ์ส่วนตัวของผู้พบ และเป็นเหตุการณ์สาธารณะของนักวิทยาศาสตร์คนอื่นๆ ที่จะต้องวิพากษ์วิจารณ์และตรวจสอบ ดังนั้น Adams จึงได้ทำแต่เพียงครึ่งเดียว ทั้งนี้ก็อาจมาจากสาเหตุที่ว่า Adams เป็นคนเงียบที่ไม่ชอบเปิดตัว แต่ Le Verrier เป็นคนกล้า และไม่กลัวคำวิพากษ์วิจารณ์การมีนิสัยเหิมเกริม จึงทำให้ Le Verrier ไม่ค่อยมีเพื่อน ส่วน Adams นั้น มีเพื่อนมาก ดังนั้น คณะนักวิทยาศาสตร์อังกฤษจึงรวมตัวกันสนับสนุน Adams โดยอ้างว่า Adams ก็พบ Neptune เพื่อโลกจะได้ยอมรับความยิ่งใหญ่ของนักดาราศาสตร์อังกฤษว่าไม่ยิ่งหย่อนกว่านักดาราศาสตร์ฝรั่งเศส

การติดตามศึกษาเอกสารที่ Olin Eggen ขโมยไปจากห้องสมุดของหอดูดาวที่ Greenwich เมื่อ 30 ปีก่อน ทำให้ Sheehan และคณะเห็นว่า John Couch Adams เป็นบุคคลแรกที่ทำนายว่ามีดาวเคราะห์หรือ Neptune ซึ่งโคจรอยู่ไกลจากดวงอาทิตย์ยิ่งกว่าดาว Uranus จริง โดย Adams ได้ระบุตำแหน่งของดาว Neptune ที่ลึกลับดวงนั้น แต่รายงานฉบับสั้นที่ Adams เขียนถึง Airy เมื่อปี พ.ศ. 2388 นั้นบอกแต่ผลการคำนวณโดยไม่ได้ให้รายละเอียดของการคำนวณเลย

นอกจากนี้ Sheehan กับคณะก็ยังพบอีกว่า เมื่อ Airy เห็นรายงานฉบับสั้นของ Adams Airy ได้ตั้งคำถามหลายประเด็นที่ตนสงสัย และขอให้ Adams ชี้แจง แต่ Adams ก็ไม่เคยตอบข้อสงสัยของ Airy ซึ่งถ้าตอบเครดิตการพบ Neptune จะเป็นของ Adams คนเดียว และจดหมายที่ Adams เขียนตอบ แต่ไม่ได้ส่งถึง Airy ก็แสดงให้เห็นว่า Adams ไม่ได้ให้ความสำคัญสำหรับคำถามของ Airy เลย และเมื่อใครถาม Adams เกี่ยวกับเรื่องนี้ Adams ก็มักตอบว่า ตนไม่ชอบเขียนจดหมาย

ดังนั้น การศึกษาหลักฐานทั้งหลายทั้งปวงตลอดปีที่ผ่านมา ทำให้ Sheehan กับคณะลงความเห็นว่า ผู้พบดาว Neptune คือ Le Verrier เพราะได้ทำนาย และประสบความสำเร็จในการกระตุ้นนักดาราศาสตร์ (Galle) ได้ค้นหามันจนพบ ส่วน Adams นั้น ไม่ควรได้เครดิตเท่า Le Verrier ว่าเป็นผู้พบดาว Neptune

และนั่นก็หมายความว่า เมื่อ 60 ปีก่อนนี้ Sheehan กับคณะมีความเห็นว่า นักดาราศาสตร์อังกฤษได้ขโมยเกียรติทางปัญญาในการพบดาวเคราะห์ Neptune จากนักดาราศาสตร์ชาวฝรั่งเศสชื่อ Le Verrier ครับ

สุทัศน์ ยกส้าน ภาคีสมาชิก ราชบัณฑิตยสถาน
กำลังโหลดความคิดเห็น