กกต.ยกคำร้อง “พล.ท.มะ-กุสุมาลวตี”ระบุ ไม่มีมูล ส่วนหลังเลือกนายกรัฐมนตรี ส.ส.พรรคชาติไทยจ่อคิวถูกสอย 3 ราย ประชาธิปัตย์ 4 รายขณะที่ไทยรักไทยมีแค่ 2 ราย
พล.ต.ต.เอกชัย วารุณประภา เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) เปิดเผยว่า ในขณะนี้มีเรื่องร้องเรียนการทุจริตเลือกตั้งส.ส.ที่สรุปสำนวนแล้ว และรอเข้าสู่ที่ประชุมกกต. เพื่อพิจารณาวินิจฉัยประกอบด้วย นายชัยวัฒน์ ทรัพย์รวงทอง ส.ส.พรรคไทยรักไทย เขต 2 จ.ชัยนาท นายธีระ สลักเพชร ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ เขต 1 จ.ตราด นายศิริศักดิ์ อ่อนละมัย ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ เขต 1 จ.ชุมพร นายอาคม เอ่งฉ้วน ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ เขต 1 และ นายพิเชษฐ์ พันธุ์พิชาติกุล ส.ส. พรรคประชาธิปัตย์ เขต 2 จ.กระบี่
ส่วนกรณีสำนวนของ พล.ท.มะ โพธิ์งาม ส.ส.ไทยรักไทย เขต 5 จ.กาญจนบุรี ที่ประชุมกกต. ได้มีมติให้ยกคำร้อง เนื่องจากเห็นว่าไม่มีมูล
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรณีของ พล.ท.มะ ที่มีการร้องมาว่า เจ้าหน้าที่ได้กระทำการอันเป็นคุณ เป็นโทษให้กับผู้สมัคร โดยเรียกประชุมประชาชนตามแผนการประชาคมแก้ไขปัญหาสังคม และความยากจนของทางราชการโดยผู้ถูกร้องได้ขึ้นปราศรัยหาเสียงนั้น ที่ประชุมกกต.ได้พิจารณาหลังจากที่ได้เรียก พล.ท.มะ และนายวิทิต มาไพศาลศิลป์ นายอำเภอหนองปรือ มาชี้แจง ซึ่งได้ข้อเท็จจริงเป็นที่ยุติได้ว่า การจัดประชุมชาวบ้านเป็นไปตามแผนการประชาคม ซึ่งเป็นโครงการที่ นายวิทิต ได้กระทำติดต่อกันมาตั้งแต่ก่อนมีพระราชกฤษฎีกา อีกทั้งไม่ปรากฏหลักฐานว่า การจัดประชุมดังกล่าวนายวิทิตได้กระทำเพื่อเป็นคุณเป็นโทษแก่ผู้สมัครคนใด รวมทั้งพยานหลักฐานไม่พอฟังได้ว่า พล.ท.มะ กระทำตามข้อกล่าวหา กกต.จึงมีมติเป็นเอกฉันท์ให้ยกคำร้อง
นอกจากนี้ กรณี จ.มหาสารคาม เขต 5 ซึ่งร้องเรียน นางกุสุมาลวตี ศิริโกมุท ส.ส.ไทยรักไทย ว่า ใส่ร้ายหรือจูงใจให้เข้าใจผิดในคะแนนนิยม ที่ประชุม กกต.มีมติให้ยกคำร้อง เนื่องจากได้ข้อเท็จจริงว่า ภาพที่ปรากฏในแผ่นซีดี เป็นการพูดคุยกัน มิใช่การแถลงข่าว และมิได้เป็นการจูงใจผู้มีสิทธิเลือกตั้ง เนื่องจากผู้สื่อข่าวทั้ง 5 คนที่ไปทำข่าว มิใช่ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง และไม่มีการเผยแพร่ภาพข่าวดังกล่าวต่อสาธารณชน
สำหรับข้อร้องเรียนของ นายนริศ ขำนุรักษ์ ส.ส.เขต 3 จ.พัทลุง เรื่องการใส่ร้าย ที่ประชุมมีมติให้ยกคำร้อง เพราะที่ประชุมเห็นว่า นายนริศ ไม่ได้พูดจาใส่ร้ายแต่อย่างใด
ส่วนกรณีการร้องเรียน นายประมวลศิลป์ โภคสวัสดิ์ ส.ส.เขต 1 จ.มุกดาหาร พรรคไทยรักไทย ที่ถูกร้องเรียนว่า หลอกลวงใส่ร้ายด้วยข้อความอันเป็นเท็จ และโฆษณาหาเสียงด้วยการจัดให้มีมหรสพ รวมถึงเจ้าหน้าที่ของรัฐ ใช้ตำแหน่งหน้าที่โดยมิชอบกระทำการใดๆ เพื่อเป็นคุณเป็นโทษแก่ผู้สมัคร ที่ประชุมกกต.มีมติให้ยกคำร้องทั้งสิ้น เว้นแต่กรณีการซื้อเสียง ซึ่งกกต.มีมติให้สอบสวนเพิ่มเติม
สำหรับกรณีที่ กกต.เตรียมพิจารณาหลังจากประชุมรัฐสภาเลือกนายกรัฐมนตรีแล้ว จะนำสำนวนของ 1.นายมังกร ยนต์ตระกูล ส.ส.พรรคชาติไทย เขต 8 จ.ร้อยเอ็ด ที่ถูกร้องเรียนว่าได้จัดยานพาหนะนำผู้มีสิทธิเลือกตั้งไปยังหน่วยเลือกตั้ง และให้เงินแก่ผู้มีสิทธิเลือกตั้งเพื่อจูงใจ รวมทั้งสำนวนเรื่องร้องเรียนของ 2.นายรัฐกิตติ์ ผาลีพัฒน์ ส.ส.พรรคชาติไทย เขต 5 จ.อุบลราชธานี ที่ถูกร้องเรียนว่า ใส่ร้ายด้วยข้อความอันเป็นเท็จ เพื่อจูงใจให้เข้าใจผิดในคะแนนนิยม และ 3.นายชัยวัฒน์ ทรัพย์รวงทอง ส.ส.พรรคชาติไทย เขต2 จ.ชัยนาท กรณีการซื้อเสียง
นอกจากนี้สำนวนของ 4.นายอาคม เอ่งฉ้วน 5.นายพิเชษฐ์ พันธุ์วิชาติกุล ที่ปราศัรยหาเสียงเลือกตั้งนอกเหนือจากรัฐจัดสรรเวลาออกอากาศให้ 6.นายธานินทร์ ใจสมุทร ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ กรณีการโฆษณาหาเสียงเลือกตั้งด้วยการใส่ร้ายด้วยข้อความอันเป็นเท็จ เพื่อจูงใจให้เข้าใจผิดในคะแนนนิยม ฯ และ 7 .นายศิริศักดิ์ อ่อนละมัย เขต 1 จ.ชุมพร ที่ถูกร้องเรียน กรณีซื้อเสียง
ในส่วนสำนวนของพรรคไทยรักไทย ยังเหลืออีก 2 สำนวน คือสำนวนของ 8.นายยงยศ อรุณเวสสะเศรษฐ ส.ส.ไทยรักไทย เขต 1จ.ระยอง ซึ่งถูกร้องเรียนกรณีซื้อเสียง และ 9.นายนาวิน บุญเสรฐ ส.ส.ไทยรักไทย เขต 3 จ.พิจิตร ที่ถูกร้องเรียนกรณีซื้อเสียง
พล.ต.ต.เอกชัย วารุณประภา เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) เปิดเผยว่า ในขณะนี้มีเรื่องร้องเรียนการทุจริตเลือกตั้งส.ส.ที่สรุปสำนวนแล้ว และรอเข้าสู่ที่ประชุมกกต. เพื่อพิจารณาวินิจฉัยประกอบด้วย นายชัยวัฒน์ ทรัพย์รวงทอง ส.ส.พรรคไทยรักไทย เขต 2 จ.ชัยนาท นายธีระ สลักเพชร ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ เขต 1 จ.ตราด นายศิริศักดิ์ อ่อนละมัย ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ เขต 1 จ.ชุมพร นายอาคม เอ่งฉ้วน ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ เขต 1 และ นายพิเชษฐ์ พันธุ์พิชาติกุล ส.ส. พรรคประชาธิปัตย์ เขต 2 จ.กระบี่
ส่วนกรณีสำนวนของ พล.ท.มะ โพธิ์งาม ส.ส.ไทยรักไทย เขต 5 จ.กาญจนบุรี ที่ประชุมกกต. ได้มีมติให้ยกคำร้อง เนื่องจากเห็นว่าไม่มีมูล
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรณีของ พล.ท.มะ ที่มีการร้องมาว่า เจ้าหน้าที่ได้กระทำการอันเป็นคุณ เป็นโทษให้กับผู้สมัคร โดยเรียกประชุมประชาชนตามแผนการประชาคมแก้ไขปัญหาสังคม และความยากจนของทางราชการโดยผู้ถูกร้องได้ขึ้นปราศรัยหาเสียงนั้น ที่ประชุมกกต.ได้พิจารณาหลังจากที่ได้เรียก พล.ท.มะ และนายวิทิต มาไพศาลศิลป์ นายอำเภอหนองปรือ มาชี้แจง ซึ่งได้ข้อเท็จจริงเป็นที่ยุติได้ว่า การจัดประชุมชาวบ้านเป็นไปตามแผนการประชาคม ซึ่งเป็นโครงการที่ นายวิทิต ได้กระทำติดต่อกันมาตั้งแต่ก่อนมีพระราชกฤษฎีกา อีกทั้งไม่ปรากฏหลักฐานว่า การจัดประชุมดังกล่าวนายวิทิตได้กระทำเพื่อเป็นคุณเป็นโทษแก่ผู้สมัครคนใด รวมทั้งพยานหลักฐานไม่พอฟังได้ว่า พล.ท.มะ กระทำตามข้อกล่าวหา กกต.จึงมีมติเป็นเอกฉันท์ให้ยกคำร้อง
นอกจากนี้ กรณี จ.มหาสารคาม เขต 5 ซึ่งร้องเรียน นางกุสุมาลวตี ศิริโกมุท ส.ส.ไทยรักไทย ว่า ใส่ร้ายหรือจูงใจให้เข้าใจผิดในคะแนนนิยม ที่ประชุม กกต.มีมติให้ยกคำร้อง เนื่องจากได้ข้อเท็จจริงว่า ภาพที่ปรากฏในแผ่นซีดี เป็นการพูดคุยกัน มิใช่การแถลงข่าว และมิได้เป็นการจูงใจผู้มีสิทธิเลือกตั้ง เนื่องจากผู้สื่อข่าวทั้ง 5 คนที่ไปทำข่าว มิใช่ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง และไม่มีการเผยแพร่ภาพข่าวดังกล่าวต่อสาธารณชน
สำหรับข้อร้องเรียนของ นายนริศ ขำนุรักษ์ ส.ส.เขต 3 จ.พัทลุง เรื่องการใส่ร้าย ที่ประชุมมีมติให้ยกคำร้อง เพราะที่ประชุมเห็นว่า นายนริศ ไม่ได้พูดจาใส่ร้ายแต่อย่างใด
ส่วนกรณีการร้องเรียน นายประมวลศิลป์ โภคสวัสดิ์ ส.ส.เขต 1 จ.มุกดาหาร พรรคไทยรักไทย ที่ถูกร้องเรียนว่า หลอกลวงใส่ร้ายด้วยข้อความอันเป็นเท็จ และโฆษณาหาเสียงด้วยการจัดให้มีมหรสพ รวมถึงเจ้าหน้าที่ของรัฐ ใช้ตำแหน่งหน้าที่โดยมิชอบกระทำการใดๆ เพื่อเป็นคุณเป็นโทษแก่ผู้สมัคร ที่ประชุมกกต.มีมติให้ยกคำร้องทั้งสิ้น เว้นแต่กรณีการซื้อเสียง ซึ่งกกต.มีมติให้สอบสวนเพิ่มเติม
สำหรับกรณีที่ กกต.เตรียมพิจารณาหลังจากประชุมรัฐสภาเลือกนายกรัฐมนตรีแล้ว จะนำสำนวนของ 1.นายมังกร ยนต์ตระกูล ส.ส.พรรคชาติไทย เขต 8 จ.ร้อยเอ็ด ที่ถูกร้องเรียนว่าได้จัดยานพาหนะนำผู้มีสิทธิเลือกตั้งไปยังหน่วยเลือกตั้ง และให้เงินแก่ผู้มีสิทธิเลือกตั้งเพื่อจูงใจ รวมทั้งสำนวนเรื่องร้องเรียนของ 2.นายรัฐกิตติ์ ผาลีพัฒน์ ส.ส.พรรคชาติไทย เขต 5 จ.อุบลราชธานี ที่ถูกร้องเรียนว่า ใส่ร้ายด้วยข้อความอันเป็นเท็จ เพื่อจูงใจให้เข้าใจผิดในคะแนนนิยม และ 3.นายชัยวัฒน์ ทรัพย์รวงทอง ส.ส.พรรคชาติไทย เขต2 จ.ชัยนาท กรณีการซื้อเสียง
นอกจากนี้สำนวนของ 4.นายอาคม เอ่งฉ้วน 5.นายพิเชษฐ์ พันธุ์วิชาติกุล ที่ปราศัรยหาเสียงเลือกตั้งนอกเหนือจากรัฐจัดสรรเวลาออกอากาศให้ 6.นายธานินทร์ ใจสมุทร ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ กรณีการโฆษณาหาเสียงเลือกตั้งด้วยการใส่ร้ายด้วยข้อความอันเป็นเท็จ เพื่อจูงใจให้เข้าใจผิดในคะแนนนิยม ฯ และ 7 .นายศิริศักดิ์ อ่อนละมัย เขต 1 จ.ชุมพร ที่ถูกร้องเรียน กรณีซื้อเสียง
ในส่วนสำนวนของพรรคไทยรักไทย ยังเหลืออีก 2 สำนวน คือสำนวนของ 8.นายยงยศ อรุณเวสสะเศรษฐ ส.ส.ไทยรักไทย เขต 1จ.ระยอง ซึ่งถูกร้องเรียนกรณีซื้อเสียง และ 9.นายนาวิน บุญเสรฐ ส.ส.ไทยรักไทย เขต 3 จ.พิจิตร ที่ถูกร้องเรียนกรณีซื้อเสียง