หนองคาย-ผู้ว่าฯหนองคายเชิญชวนนักลงทุนจีน ทำอุตสาหกรรมแปรรูปสินค้าเกษตร โดยเฉพาะโรงงานแปรรูปยางพารา ที่จะมีพื้นที่ปลูกในอีกไม่เกิน 2 ปีข้างหน้ามากถึง 2 ล้านไร่ ขณะที่สิบสองปันนาชูอุตฯท่องเที่ยวแลกเปลี่ยนการลงทุนจากไทย ส่วนลาวพร้อมเป็นทางผ่านของประชาชน นักท่องเที่ยว ระหว่างหนองคาย - สิบสองปันนา
เมื่อเร็วๆนี้ที่จังหวัดหนองคาย นายวงศ์ศักดิ์ สวัสดิ์พาณิชย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย ท่านอ้ายจวง ผู้ว่าการจังหวัดสิบสองปันนา ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน ท่านสินทอง นามโพชัย ผู้แทนรัฐบาลเวียงจันทน์ ประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว(สปป.ลาว) พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการ และหอการค้าสิบสองปันนา หอการค้าหนองคาย ได้ร่วมกันหารือเพื่อหาแนวทางการพัฒนาและส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างสามประเทศ ซึ่งถือเป็นครั้งแรก ที่ฝ่ายปกครองท้องถิ่นทั้ง 3 ประเทศได้นัดหมายพบปะกัน
นายวงศ์ศักดิ์ สวัสดิ์พาณิชย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย กล่าวว่า ไทย - ลาว และสิบสองปันนา มีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันมานาน และในอนาคตการสัญจร การคมนาคมระหว่าง 3 ประเทศจะสะดวกขึ้น เนื่องจากจังหวัดหนองคาย ได้วางยุทธศาสตร์เชื่อมเส้นทางการท่องเที่ยวทางรถยนต์ และรถไฟทั้งหมดเข้าด้วยกัน และจะขยายการเชื่อมเส้นทางทะลุถึงเวียดนามอีกด้วย
ล่าสุดหนองคายได้รับการส่งเสริมจากรัฐบาล ให้เป็นจังหวัดชายแดนอีกด้านหนึ่ง ที่ควรจะมีการลงทุนด้านอุตสาหกรรมเกษตร และพร้อมที่จะให้นักธุรกิจทั้งไทยและต่างชาติ มาลงทุนก่อสร้างโรงงานแปรรูปวัตถุดิบทางการเกษตร โดยเฉพาะอย่างยิ่งโรงงานแปรรูปยางพารา
ทั้งนี้ เนื่องจากขณะนี้หนองคาย เป็นจังหวัดที่ปลูกยางพารามากที่สุดของภาคอีสาน ประมาณ 5 แสนไร่ ซึ่งในปี 2550 ตั้งเป้าไว้ว่าจะปลูกยางพาราให้ได้ 2 ล้านไร่ คุณภาพของน้ำยางไม่แพ้ทางภาคใต้ของไทย และยังได้ส่งยางพาราไปจำหน่ายยังจีน
อีกทั้งรัฐบาลจีนยังแนะนำให้ผลิตยางพาราป้อนตลาดของจีนอีกด้วย หากนักลงทุนจากสิบสองปันนา หรือเมืองอื่น ๆ ของจีนมาลงทุนก่อสร้างโรงงานแปรรูปยางพาราที่หนองคาย ก็จะสามารถรองรับยางพาราของหนองคายได้มาก และยังจะได้รับการยกเว้นภาษีตามสิทธิที่คณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ)ให้การสนับสนุน
นอกจากนี้ จากศักยภาพความเป็นเมืองท่องเที่ยวของหนองคาย และเมืองน่าอยู่อันดับ 7 ของโลก ก็เป็นอีกความพร้อมหนึ่งของจังหวัด ที่จะเปิดกว้างรับนักท่องเที่ยว และธุรกิจส่งเสริมการท่องเที่ยวในรูปแบบต่าง ๆ นักท่องเที่ยวทั้งจากจีน หรือประเทศอื่นหากเข้ามาเที่ยวแบบโฮมสเตย์ หรือลองสเตย์ที่หนองคาย ก็จะเกิดความประทับใจเหมือนกับทุกชาติที่เคยมาเยือน
ด้านท่านอ้ายจวง ผู้ว่าการจังหวัดสิบสองปันนา กล่าวว่า เคยเดินทางมาหนองคายเมื่อ 10 ปีที่แล้ว และครั้งนี้ถือเป็นคณะที่เดินทางมามากที่สุดถึง 22 คนทั้งฝ่ายปกครองภาคการศึกษา หอการค้า และสื่อมวลชน ทำให้เห็นสภาพสังคม และเศรษฐกิจของหนองคายเปลี่ยนแปลงไปมากและกำลังพัฒนาในหลาย ๆ ด้าน ซึ่งคล้ายกับที่สิบสองปันนา อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจของสิบสองปันนาในปี 2547 มียอดสูงกว่าปี 2546 ประมาณ 12% และเป็นอัตราที่สูงที่สุดของประเทศจีน
รัฐบาลกลางได้วางมาตรการให้ประชาชนเมืองสิบสองปันนา มีรายได้เพิ่มขึ้นด้วยการพัฒนาด้านอาชีพ การค้า การลงทุน ปัจจุบันได้วางโครงการก่อสร้างถนนทางหลวงซูเปอร์ไฮเวย์ในหลายเส้นทางของประเทศ พร้อมทั้งจะมีการขุดร่องน้ำแม่น้ำโขง เพื่อเดินเรือพาณิชย์ เป็นความร่วมมือระหว่างสิบสองปันนา - ไทย - ลาว ในการขยายเส้นทางการทำธุรกิจ
ทั้งนี้ธุรกิจที่น่าลงทุนในสิบสองปันนา ควรจะเป็นธุรกิจเกี่ยวกับการเกษตรกรรม เช่น ยางพารา เพราะสิบสองปันนามีพื้นที่ปลูกยางพารากว่า 1 ล้านไร่ ผลผลิตที่ได้ประมาณ 2 แสนตัน และ ด้านการเลี้ยงสัตว์ เพราะจีนมีนโยบายส่งเสริมให้ประชาชนมีรายได้เพิ่มขึ้นจากการเลี้ยงสัตว์ในหมู่บ้าน 1 ใน 3 ของรายได้ทั้งหมดของประชาชนจีน รวมทั้งพืชสมุนไพร
นอกจากนี้ธุรกิจอุตสาหกรรมด้านการท่องเที่ยว ร้านอาหารไทย หรือโรงแรม ที่สิบสองปันนายังไม่มี หากมีการลงทุนด้านนี้ เชื่อว่าจะสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวได้ เพราะปี 2547 มีนักท่องเที่ยวไปเที่ยวสิบสองปันนามากกว่า 13 ล้านคน มากกว่าช่วงหลายปีที่ผ่านมา ทำให้มีรายได้จากการท่องเที่ยวประมาณ 240 ล้านหยวน ซึ่งธุรกิจหรืออุตสาหกรรมด้านการท่องเที่ยวน่าจะมีโอกาสดี และอนาคตสดใส
นอกจากจะเที่ยวตามสถานที่ต่าง ๆ ในเมืองแล้ว ความต้องการท่องเที่ยวด้วยการล่องเรือแม่น้ำโขง ซึ่งสิบสองปันนาเรียกว่า "แม่น้ำล้านช้าง" ยังมีมาก ความร่วมมือเศรษฐกิจในแม่น้ำโขง โดยเฉพาะการผลักดันของรัฐบาลจีนและกลุ่มประเทศอาเซียนที่จะใช้ประโยชน์จากแม่น้ำโขงให้คุ้มค่า หากดึงธุรกิจการท่องเที่ยวทางน้ำ เป็นปัจจัยอีกด้านก็น่าจะเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวที่น่าสนใจ
ขณะที่ท่านสินทอง นามโพชัย ผู้แทนรัฐบาลลาวกล่าวว่า ที่ผ่านมาเวียงจันทน์กับหนองคาย ได้ร่วมมือกันพัฒนาหลายด้าน เช่น การท่องเที่ยว กีฬา การลงทุนผ่านทางด่านพรมแดนสะพานมิตรภาพไทย - ลาว และด่านท่าเดื่อ ซึ่งความเข้าใจในภาษาและวัฒนธรรมใกล้เคียงกัน เป็นจุดพิเศษที่ทำให้ความสัมพันธ์ไทย- ลาวเป็นไปด้วยดี
อย่างไรก็ตามภาคเหนือของลาวมีพื้นที่ติดกับจีนโดยประชาชนทั้งสองชาติ ใช้การติดต่อกันผ่านด่านบ่อหาน ทำให้ทั้ง 3 ประเทศ มีโอกาสที่จะก้าวไปสู่การค้าการลงทุนร่วมกันในอนาคต ซึ่งลาวพร้อมที่จะเป็นทางผ่านของประชาชน นักท่องเที่ยว ระหว่างหนองคาย - สิบสองปันนา หากจะทำธุรกิจที่ลาวคงเป็นเรื่องของอนาคตในเบื้องต้นการต้อนรับด้วยไมตรีจิตจากชาวลาว จะเป็นหลักในการเสริมสร้างความสัมพันธ์ของ3 ประเทศ มากกว่าการทำธุรกิจ หรือการลงทุน
รายงานข่าวเพิ่มเติมแจ้งว่า ในเร็วๆวันนี้คณะนักธุรกิจหอการค้าหนองคาย จะนำนักธุรกิจไปศึกษาสภาพการค้าการลงทุนที่สิบสองปันนา เพื่อสำรวจและจัดเก็บข้อมูลพิจารณาทำธุรกิจร่วมกันระหว่างสองประเทศ ซึ่งการหารือกันในครั้งนี้นอกจากจะได้แนวทางการพัฒนาด้านการค้าการลงทุน การท่องเที่ยวร่วมกันแล้ว ยังเป็นการกระชับความสัมพันธ์อันดีระหว่างไทย - ลาว- จีน ให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้นด้วย