xs
xsm
sm
md
lg

ปริศนาคลื่นสึนามิ

เผยแพร่:   โดย: มหาปัญโญ ภิกขุ

วัดมงคลเทพาราม (ปากน้ำ)

หลังจากเกิดแผ่นดินไหวใต้ทะเลลึกที่อยู่ใกล้กับเกาะสุมาตราเวลาผ่านไปประมาณ 1-2 ชั่วโมง ท้องทะเลอันดามันเมื่อมองจากชายฝั่งภูเก็ต กระบี่ พังงา ดูเหมือนยังสงบนิ่ง แต่แล้วที่เกิดปรากฏการณ์ประหลาดน้ำทะเลเกิดลดลงอย่างรวดเร็ว อีกไม่กี่นาทีก็เห็นคลื่นยักษ์ปรากฏให้เห็นอยู่ข้างหน้า เหมือนปีศาจลึกลับที่เต็มไปด้วยพลังแห่งการทำลายล้างทั้งชีวิตและทรัพย์สิน

คลื่นสึนามิเป็นคลื่นยักษ์ที่ดูแปลกประหลาดสำหรับมนุษย์มาเป็นเวลายาวนานแล้ว มีผู้รู้นักวิทยาศาสตร์พยายามที่จะอธิบายปรากฏการณ์ของคลื่นสึนามิอยู่ไม่น้อย แต่ดูเหมือนจะไปกันคนละทางกันอยู่ และที่สำคัญยังไม่ค่อยจะสอดคล้องกับคุณสมบัติของคลื่นเท่าที่ควร เช่น อธิบายว่า คลื่นที่เกิดจากแผ่นดินไหวได้เดินทางถึงชายฝั่งจะลดความเร็วลง แล้วคลื่นที่ตามหลังมาจะไล่เข้ามาทันกัน จึงทำให้เกิดเป็นคลื่นยักษ์สึนามิ เมื่อพิจารณาแล้วจะขัดแย้งกับหลักการของคลื่นที่เกิดเพียงครั้งเดียว ตำแหน่งเดียว อย่างกรณีแผ่นดินไหว ช่วงคลื่นแต่ละช่วงที่เกิดขึ้น จะต้องมีความยาวคลื่นที่สม่ำเสมอกัน ไม่ว่าจะช้าลงหรือเร็วขึ้น อุปมาเหมือนรถที่วิ่งอยู่บนถนนทางหลวงทางเดียวกันด้วยความเร็วเท่ากันหมดทุกคัน คือ 100 กม./ชม. แต่พอเข้าเขตชุมชนต้องลดความเร็วลงเหลือ 30 กม./ชม. ถ้ารถทุกคันปฏิบัติตามหลัก ถ้ารถทุกคันปฏิบัติตามหลักการนี้ จะไม่มีรถคันไหนชนท้ายรถคันอื่นได้เลย

เมื่อเราเอากฎทางฟิสิกส์พื้นฐานที่ว่าด้วยคุณสมบัติของคลื่น เข้ามาตรวจสอบปรากฏการณ์ของคลื่นสึนามิก็จะพบความจริงว่า มันไม่ใช่สิ่งที่มีความลึกลับอะไร เพราะปรากฏการณ์ทุกอย่างที่เกิดขึ้นที่สามารถอธิบายได้ด้วยหลักการคุณสมบัติของคลื่นได้เป็นอย่างดี

ลักษณะของคลื่นที่เกิดจากแผ่นดินไหวเป็นแนวดิ่งในใต้ท้องทะเลลึก ด้วยความลึกของน้ำทะเลพลังงานแผ่นดินไหวที่ถูกโอนออกมาจากพื้นใต้ทะเลถูกน้ำหนักของน้ำกดทับเอาไว้ จึงทำให้เกิดเป็น คลื่นตามยาว แบบเดียวกับคลื่นเสียง (ซึ่งแตกต่างกับคลื่นน้ำที่เรารู้จักโดยทั่วไปจะเป็นคลื่นตามขวาง คือ คลื่นที่ทำให้เรือโยนตัวขึ้นลงในทะเลนั่นเอง)

คลื่นตามยาว คือ คลื่นที่มีทิศทางการสั่นอยู่ในแนวเดียวกับทิศที่มันเดินทาง เมื่อมวลของน้ำได้รับการถ่ายโอนพลังงานเข้ามาจำนวนหนึ่ง จะทำให้มวลของน้ำมีการอัดตัวกันเป็นย่านความดันสูง เรียกว่า ส่วนอัด (แรงอัดของคลื่นลักษณะนี้ ก็มีผู้ที่ดำน้ำอยู่ในบริเวณหมู่เกาะพีพี ขณะที่จะเกิดคลื่นสึนามิที่ชายฝั่งกล่าวว่า สามารถรับรู้ถึงแรงอัดนี้ โดยทำให้นักดำน้ำเคลื่อนตัวออกไปจากจุดเดิมที่เขาอยู่ได้ไกลพอสมควร)

ในอีกด้านมวลของน้ำก็จะเกิดการขยายตัวเป็นย่านความดันต่ำ เรียกว่า ส่วนขยาย

ซึ่งจะเกิดเรียงสลับกันไปและทิ้งระยะห่างของช่วงคลื่นอย่างสม่ำเสมอ ตลอดการเดินทางของคลื่นก็จะปล่อยพลังงานออกไปเป็นลำดับอย่างช้าๆ

ด้วยธรรมชาติของคลื่นตามยาวนี้เอง ทำให้คลื่นแผ่นดินไหวในแนวดิ่งสามารถเดินทางขนานกันอย่างเงียบสงบในทะเลน้ำลึก จึงไม่ใช่เรื่องแปลกเมื่อเกิดคลื่นสึนามิที่ชายฝั่งอย่างรุนแรง แต่เรือที่ห่างออกจากฝั่งไม่กี่กิโลเมตรและอยู่ในน้ำลึกจะไม่รู้สึกอะไรเลย

คลื่นตามยาวกลางทะเลลึก เมื่อถึงชายฝั่งเปลี่ยนเป็นคลื่นสึนามิได้อย่างไร?

เมื่อคลื่นตามยาวได้เดินทางขนานกันมาถึงชายฝั่งที่มีความลาดเอียง คลื่นที่อยู่ใต้น้ำก็จะไต่ระดับขึ้นมาพบกับคลื่นที่อยู่ด้านบน จุดที่พบกันของคลื่นคือ จุดโฟกัส หรือจุดที่รวมของแรงคลื่นที่ขนานกันมาทั้งหมดจะมาเสริมกันจนเกิดเป็นพลังงานสูงสุดที่จุดนี้ จึงทำให้เกิดแรงยกตัวของคลื่นที่สูงไม่กี่ซม. ให้เป็นคลื่นที่มีพลังงานสูงขึ้นได้ในทันที ทำให้ความสูงของยอดคลื่นเพิ่มขึ้นได้เป็นหลายเมตร

ส่วนปรากฏการณ์น้ำที่ลดลงจากชายฝั่งก่อนคลื่นยักษ์จะเข้านั้น ก็เพราะแรงยกตัวของคลื่นที่มียอดคลื่นต่ำ ให้เป็นคลื่นที่จะต้องมียอดคลื่นสูงได้นั้นจึงต้องสร้างแรงอัดเพื่อสร้างยอดคลื่น ฉะนั้นน้ำที่ลดลงที่จริงคือ ท้องคลื่นของคลื่นสึนามินั่นเอง แต่ปรากฏการณ์เช่นนี้ไม่จำเป็นต้องเป็นอย่างนี้เสมอไป เพราะภูมิศาสตร์ของชายฝั่งบางแห่งอาจจะเป็นยอดคลื่นเข้าฝั่งก่อนท้องคลื่นได้เหมือนกัน

เพื่อความเข้าใจที่ดี ควรเทียบเคียงการเกิดคลื่นสึนามิกัน การใช้แว่นขยายรวบแสงคลื่นจากดวงอาทิตย์ให้เกิดจุดโฟกัส จนสามารถสร้างพลังงานความร้อนเพิ่มขึ้นจนสามารถเผากระดาษให้ติดไฟได้ คลื่นแสงอาทิตย์ส่องลงมาแบบขนานกัน เมื่อเราใช้แว่นขยาย (เลนส์นูน) รับคลื่นแสงดวงอาทิตย์ ทำให้แสงนั่นเกิดการหักเหเข้าหากันที่จุดโฟกัส ก็จะทำให้คลื่นแสงอาทิตย์เพิ่มพลังขึ้นทันที

กรณีของคลื่นสึนามิก็เช่นเดียวกัน ความลาดเอียงของชายฝั่งเป็นตัวหักเหเหมือนเป็นเลนส์ คลื่นใต้น้ำทั้งหมดจะมาเสริมกันที่จุดโฟกัส จนเกิดเป็นพลังงานสูงขึ้นอย่างฉับพลัน

ถ้ายิ่งชายฝั่งที่เป็นอ่าว มีลักษณะเรียวแหลมก็จะทำให้คลื่นด้านข้างทั้ง 2 ด้าน บีบตัวเข้าหากัน ทำให้คลื่นมีลักษณะที่จะเสริมกันทางด้านข้างด้วย พลังงานของคลื่นก็จะยิ่งเพิ่มมากขึ้น ซึ่งเห็นได้ชัดเจนในการเกิดคลื่นสึนามิในครั้งนี้ว่า พื้นที่ที่เกิดคลื่นสูงที่สุด คือ อ่าวที่เรียวแหลมที่สุดนั่นเอง

ศูนย์กลางแผ่นดินไหว ทำไมถึงไม่ส่งผลกระทบลงสู่ซีกโลกใต้

สิ่งที่ควรสังเกต การเกิดแผ่นดินไหวจนทำให้เกิดคลื่นสึนามิที่บริเวณหัวเกาะสุมาตราในครั้งนี้ กระแสคลื่นไม่ได้ผ่านไปทางซีกโลกใต้เลย ทั้งที่จุดเกิดแผ่นดินไหวอยู่ใกล้กับเส้นศูนย์สูตร จึงทำให้การเกิดคลื่นจากจุดศูนย์กลางเป็นรูปครึ่งวงกลมแทนที่จะเป็นรูปวงกลม

คำตอบของปริศนาในเรื่องนี้ น่าจะอยู่ที่กระแสน้ำในมหาสมุทรอินเดีย เป็นเหตุปัจจัยหลักที่สำคัญคือ กระแสคลื่นที่ทำให้เกิดสึนามินั้น เป็นกระแสคลื่นตามยาวต้องเดินทางทวนกระแสน้ำลึกในมหาสมุทร คลื่นนั้นก็จะอ่อนกำลังลงไปแล้วสลายตัวไปก่อนที่จะถึงชายฝั่งของซีกโลกใต้ ในทางตรงกันข้ามกระแสคลื่นตามยาวได้เดินทางไปตามกระแสน้ำในมหาสมุทรก็สามารถเดินทางไปได้ไกลมากเช่นกัน และยังคงรักษาพลังงานเอาไว้ได้ระดับหนึ่ง จนสามารถไปถึงชายฝั่งจนเกิดเป็นคลื่นสึนามิ

เมื่อเราดูข้อมูลการไหลของกระแสน้ำในมหาสมุทรอินเดีย (ดูภาพประกอบ) ในบริเวณใกล้กับจุดเกิดแผ่นดินไหว ที่หัวเกาะสุมาตราจะมีกระแสน้ำศูนย์สูตรเหนือ เป็นกระแสหลักที่นำพาคลื่นเข้าหาฝั่ง ตั้งแต่ 1. อินโดนีเซีย 2. มาเลเซีย 3. ไทย 4. พม่า 5. บังกลาเทศ 6. อินเดีย 7. ศรีลังกา 8. มัลดีฟส์ แล้วเชื่อมต่อเข้ากับกระแสน้ำโซมาเลีย จนสามารถสร้างผลกระทบกับชายฝั่งของ 9. โซมาเลีย 10. เคนยา 11. แทนซาเนีย และกระแสน้ำศูนย์สูตรกลางด้านหนึ่งนำพาคลื่นไปสู่ 12. เซเชลส์ด้วย

ส่วนในซีกโลกใต้ กระแสคลื่นไม่สามารถผ่านไปได้เลยนั้น เพราะมีกระแสน้ำศูนย์สูตรกลางไหลสวนทางขึ้นมาบริเวณที่เกิดแผ่นดินไหวนั่นพอดี จึงทำให้คลื่นนั้นอ่อนกำลังลงจนสลายไปในที่สุด

ข้อสังเกตนี้เป็นประเด็นที่ควรศึกษาอย่างยิ่ง สำหรับการวางแผนป้องกันภัยจากคลื่นสึนามิในอนาคต

ปรากฏการณ์ของคลื่นในลักษณะนี้ เราจะสามารถเทียบเคียงกับคลื่นเสียง เวลามีงานวัดเสียงจากคลื่นเสียงในกลางแจ้งจะดังไปรอบทิศทาง แต่เสียงจะไปได้ไกลกว่าและดังกว่าเมื่อมีกระแสลมช่วย

ปรากฏการณ์คลื่นสึนามิในครั้งนี้ เราได้รับความช่วยเหลือด้านเทคนิคและความรู้จากต่างชาติเป็นอย่างดี แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเราจะต้องเป็นผู้คอยที่จะเรียนรู้จากต่างชาติเช่นนั้นไปตลอดกาล ควรที่จะกระตุ้นให้เยาวชนของเรารู้จักที่จะใช้หลักการทางฟิสิกส์พื้นฐาน และเก็บข้อมูลจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นประมวลผลและเทียบเคียง เพื่อสร้างแบบจำลองทางทฤษฎีที่จะนำไปใช้เป็นพื้นฐานการสร้างวิธีป้องกันภัยที่เหมาะสมด้วยตนเองต่อไป
กำลังโหลดความคิดเห็น