xs
xsm
sm
md
lg

เอ็มบีเครุกอี-คอมเมิร์ซจับต่างชาติดึงพื้นที่ชั้นล่างคืนทำลานดูดเงิน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ผู้จัดการรายวัน – เอ็มบีเค เซ็นเตอร์ รุกอัดแคมเปญดูดลูกค้าต่างชาติเพิ่ม หลังพบเม็ดเงินใช้จ่ายต่อหัวทะลุ 4,000 บาท ขณะที่ลูกค้าคนไทย ใช้จ่ายเพียง 700 - 800 บาท พร้อมรับกระแสรัฐดันท่องเที่ยวไทยบูม ปรับโฉมเว็บไซต์ เล็งพัฒนาสู่อี-คอมเมิร์ซ เผยย้าย 4 ร้านค้าเช่าชั้น 1 ดึงพื้นที่กลับคืน ปรับทำเป็นลานกิจกรรม

นายเขมภัทร นิสสัยสรการ รองกรรมการผู้อำนวยการสายพัฒนาธุรกิจ บริษัท เอ็ม บี เค จำกัด (มหาชน) ผู้บริหารศูนย์การค้ามาบุญครอง เปิดเผยว่า แผนการทำตลาดของศูนย์ฯ ในปีนี้ จะเน้นขยายกลุ่มลูกค้าต่างชาติมากขึ้น เนื่องจากเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อสูงมาก โดยเมื่อปีที่ผ่านมาเป็นปีแรกที่ทางศูนย์ฯ เริ่มเก็บตัวเลขการใช้จ่ายของลูกค้าต่างชาติอย่างจริงจัง แม้ว่าทางศูนย์ฯ จะมีลูกค้าต่างชาติเข้ามาใช้บริการเป็นจำนวนมากอยู่ก่อนแล้ว
ทั้งนี้จากการเก็บข้อมูลของบริษัทฯพบว่า ปัจจุบันลูกค้าชาวต่างชาติส่วนใหญ่จะเป็นชาวสิงคโปร์ มาเลเซีย ตะวันออกกลาง ยุโรป ซึ่งมีสัดส่วนประมาณ 20% หรืออยู่ที่ 20,000 คนต่อวัน ของจำนวนลูกค้าทั้งหมดที่เดินหมุนเวียนภายในศูนย์ฯ ประมาณ 100,000 รายต่อวันโดย มีการใช้จ่ายภายในศูนย์ฯ เฉลี่ย 4,000 บาทต่อคนต่อครั้งที่มาใช้บริการ โดยสินค้าที่นิยมซื้อส่วนใหญ่จะเป็นสินค้าแฟชั่น เสื้อผ้า เครื่องหนัง ในขณะที่ลูกค้าคนไทยมีอัตราการใช้จ่ายภายในศูนย์ฯ เฉลี่ยอยู่ที่ 700 - 800 บาทต่อคนต่อครั้ง
อีกทั้ง ภาครัฐบาลยังให้การสนับสนุนการท่องเที่ยวในไทยอย่างจริงจัง ทำให้จำนวนนักท่องเที่ยวใหม่ที่เข้ามาเพิ่มมากขึ้น ปีนี้ทางศูนย์ฯ จึงเตรียมแคมเปญโฆษณาประชาสัมพันธ์ตามสื่อนิตยสารที่เจาะกลุ่มนักท่องเที่ยวโดยเฉพาะอาทิ สวัสดี, กินนรี, รวมถึงสื่อต่างๆ ของททท. ด้วย พร้อมทั้งปรับปรุงเว็บไซต์ www.mbk-center.com ใหม่ โดยใส่ร้านค้าทุกร้านที่อยู่ในศูนย์ฯ เข้าไปในเว็บไซต์ด้วย และในอนาคตจะขยายผลให้สามารถขายสินค้าผ่านอินเทอร์เน็ตได้ ซึ่งคาดว่าจะช่วยกระตุ้นลูกค้าต่างชาติเพิ่มขึ้นได้ปีละ 10%
นอกจากนี้ ทางศูนย์ฯ ยังจัดอบรมด้านภาษาอังกฤษ เพื่อให้พนักงานสื่อสารกับลูกค้าต่างชาติได้ และเตรียมจัดทำคำทักทายประโยคสั้นๆ ของภาษาอาหรับ และญี่ปุ่นเพิ่มขึ้น เพื่อสร้างความประทับใจให้กับลูกค้ากลุ่มนี้ เพราะในบางช่วงจะมีลูกค้าตะวันออกกลางหรือญี่ปุ่นค่อนข้างมาก
ด้านการปรับปรุงศูนย์ฯ ในแต่ละปีใช้งบประมาณ 20 -30 ล้านบาท ซึ่งในปีนี้เตรียมปรับพื้นที่ร้านเช่าจำนวน 4 ร้านชั้น 1 ใกล้กับท็อปส์ ซูเปอร์มาร์เก็ต ซึ่งจะหมดสัญญาในอีก 3 เดือนข้างหน้า มีพื้นที่รวมกว่า 250 ตร.ม. เพื่อทำเป็นลานกิจกรรมอเนกประสงค์ ทั้งนี้ เป็นเพราะทางศูนย์ฯ มองว่าพื้นที่ดังกล่าวเป็นทำเลที่ดีมาก แต่มีจำนวนของร้านค้าหนาแน่นเกินไป ทำให้เสียโอกาสในการจัดกิจกรรมหรือลานแสดงสินค้าต่างๆ ได้
นายเขมภัทรกล่าวต่อว่า สัญญาเช่าระหว่างศูนย์ฯ กับทางจุฬาฯ นั้นจะครบสัญญาในปี 2556 ซึ่งหากทางจุฬาฯ มีนโยบายปรับค่าเช่าเพิ่มขึ้นสูงมาก ทางศูนย์ฯ ก็ไม่สามารถไปปรับขึ้นในอัตราที่สูงตามกับผู้เช่าต่อได้ เพราะถือว่าราคาค่าเช่าอยู่ในระดับราคาตลาดแล้ว
ล่าสุด ได้จัดงาน Early Bird Of The Year เพื่อมอบรางวัลให้กับผู้ประกอบการ 6 ร้านค้าที่เปิดให้บริการในเวลา 10.00 น. และไม่เปิดร้านก่อนเวลา 20.00 น.อย่างสม่ำเสมอ ซึ่งในช่วง 10.00 น.นั้น มีกลุ่มลูกค้าต่างชาติเข้ามาใช้บริการเป็นจำนวนมากแล้ว
กำลังโหลดความคิดเห็น