นายเยิร์ก โวลเล่ ประธานและซีอีโอ บริษัท ดีเคเอสเอช เปิดเผยว่า ดีทแฮล์มได้กำหนดนโยบายทั่วโลกว่า หลังจากที่ได้เข้าควบรวมกิจการของบริษัทคู่แข่งเมื่อปีที่แล้วทำให้รายได้และกำไรของบริษัทเติบโต เพิ่มขึ้น 50% จาก 5 กลุ่มหลัก คือ คอนซูเมอร์โปรดักส์ ,เฮลท์แคร์ ,เวชภัณฑ์,ไอทีและอาหาร ทั้งนี้เมื่อปีที่แล้วได้ซื้อกิจการ 4 บริษัทในประเทศ มาเลเซีย เยอรมนี และเดนมาร์ค โดยมองทุกกลุ่มที่สามารถเพิ่มศักยภาพในการดำเนินธุรกิจ
โดยมีนโยบายมองกิจการต่างๆที่จะเข้าไปซื้อกิจการนั้นๆต้องนำมาปรับปรุงให้เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันได้
นายวัฒน์ เบรนไนส์ ประธานบริษัทดีทแฮลม์ จำกัด ประเทศไทย กล่าวว่า ในปีนี้ผลการดำเนินงานในตลาดเมืองไทยคาดว่าจะมีการเติบโต 10%และประเทศไทยจะเป็นฐานที่สำคัญของดีทแฮล์ม
หลังจากที่ปีที่แล้วบริษัทมีรายได้เพิ่มขึ้นจากเป้าหมายเดิมที่ตั้งไว้ 4.6 หมื่นล้านบาทเพิ่มขึ้นเป็น 5 หมื่นล้านบาทโดยรายได้เพิ่มขึ้น 12% ซึ่งธุรกิจหลักที่ขยายตัวสูง 3 ใน 5 กลุ่มหลักคือ กลุ่มธุรกิจสินค้าอุปโภค-บริโภคที่เติบโต 18% คิดเป็นสัดส่วนรายได้ 50% ของรายได้ทั้งหมดหรือเกือบ 2 หมื่นล้านบาท ส่วนที่รองลงมาคือ กลุ่มเฮลท์แคร์ และกลุ่มเทคโนโลยีที่มีมีสัดส่วนรายได้ 5%แต่เชื่อว่าจะมีการเติบโตอย่างมากจากผลพวงของรัฐบาลที่จะดำเนินโครงการเมกกะโปรเจค
สำหรับการลงทุนในปีนี้จะเป็นการต่อเนื่องจากแผนขยายคลังสินค้าแห่งใหม่งบลงทุน
2,000 บาท เพื่อก่อสร้างศูนย์กระจายสินค้าแห่งใหม่ โดยจะเริ่มก่อสร้างเดือนพฤษภาคมนี้ แล้วเสร็จสิ้นปีนี้ มีพื้นที่ 1 แสนตารางเมตรเพื่อให้กันกับการฉลองครบรอบ100 ปี ดีทแฮล์มในประเทศไทย
โดยมีนโยบายมองกิจการต่างๆที่จะเข้าไปซื้อกิจการนั้นๆต้องนำมาปรับปรุงให้เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันได้
นายวัฒน์ เบรนไนส์ ประธานบริษัทดีทแฮลม์ จำกัด ประเทศไทย กล่าวว่า ในปีนี้ผลการดำเนินงานในตลาดเมืองไทยคาดว่าจะมีการเติบโต 10%และประเทศไทยจะเป็นฐานที่สำคัญของดีทแฮล์ม
หลังจากที่ปีที่แล้วบริษัทมีรายได้เพิ่มขึ้นจากเป้าหมายเดิมที่ตั้งไว้ 4.6 หมื่นล้านบาทเพิ่มขึ้นเป็น 5 หมื่นล้านบาทโดยรายได้เพิ่มขึ้น 12% ซึ่งธุรกิจหลักที่ขยายตัวสูง 3 ใน 5 กลุ่มหลักคือ กลุ่มธุรกิจสินค้าอุปโภค-บริโภคที่เติบโต 18% คิดเป็นสัดส่วนรายได้ 50% ของรายได้ทั้งหมดหรือเกือบ 2 หมื่นล้านบาท ส่วนที่รองลงมาคือ กลุ่มเฮลท์แคร์ และกลุ่มเทคโนโลยีที่มีมีสัดส่วนรายได้ 5%แต่เชื่อว่าจะมีการเติบโตอย่างมากจากผลพวงของรัฐบาลที่จะดำเนินโครงการเมกกะโปรเจค
สำหรับการลงทุนในปีนี้จะเป็นการต่อเนื่องจากแผนขยายคลังสินค้าแห่งใหม่งบลงทุน
2,000 บาท เพื่อก่อสร้างศูนย์กระจายสินค้าแห่งใหม่ โดยจะเริ่มก่อสร้างเดือนพฤษภาคมนี้ แล้วเสร็จสิ้นปีนี้ มีพื้นที่ 1 แสนตารางเมตรเพื่อให้กันกับการฉลองครบรอบ100 ปี ดีทแฮล์มในประเทศไทย