xs
xsm
sm
md
lg

หวัดนกหวิดคร่าไก่ชน"เหลืองหางขาว"สูญพันธุ์

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


พิษณุโลก - เปิดใจเจ้าของฟาร์มเพาะไก่ชนเหลืองหางขาว ถิ่นกำเนิดเมืองสองแคว ที่หวิดหายสาบสูญ อดีตเคยมีฟาร์มเพาะเลี้ยงกว่า 200 ราย ล่าสุดต้องทยอยปิดฟาร์มไปกว่า 90% เหลือแค่ 10 ราย เหตุเจ้าของฟาร์มล้วนถอดใจ ไข้หวัดนกคร่าชีวิตไก่ชนตัวโปรด ขณะที่ฟาร์มที่อยู่รอดเพราะใจรักอย่างเดียว

นายสมคิด คุ้มฉาย รองประธานชมรมอนุรักษ์และพัฒนาไก่ชน พระนเรศวรเหลืองหางขาว พิษณุโลก เปิดเผยถึง สถานการณ์ไขหวัดนกรอบสอง ต่อการเพาะเลี้ยงฟาร์มไก่ชนจังหวัดพิษณุโลกว่า ที่เขตอำเภอเมืองไม่ได้รับผลกระทบ ส่วนใหญ่พบเชื้อไข้หวัดนกแถบอำเภอรอบนอก เช่น พรหมพิราม วัดโบสถ์ ทั้งนี้เป็นไก่พื้นบ้านที่ไม่ได้เฝ้าระวังอย่างดี ส่งผลให้เชื้อไข้หวัดนกกลับมาระบาดอีกครั้ง

เขาบอกว่า สาเหตุที่ฟาร์มไก่ชนแถบนี้ ปลอดเชื้อไข้หวัดนก มีอยู่หลายปัจจัยด้วยกัน ที่ผ่านมาไก่ชนที่ถูกหวัดนกคร่าชีวิต ลักษณะคือ นอนหงาย หน้าบวม สีดำคล้ำ สิ่งแวดล้อมเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้ไก่ชนได้รับเชื้อ เริ่มแรกจาก "ลม"ที่พัดพาเชื้อไข้หวัดนกมาจากแหล่งอื่น ซึ่งจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องใช้ผ้าใบปิด ลักษณะใยตาข่ายคลุมรถสีเขียว บริเวณเล้าไก่ ทั้งช่วงกลางวันและกลางคืน จะเปิดออกก็ต่อเมื่อ อากาศดีตอนเช้าที่ลมสงบเท่านั้น เพื่อให้ไก่ได้รับอากาศบริสุทธิ์

นอกจากนี้สิ่งแวดล้อมบริเวณฟาร์มเลี้ยงไก่ พื้นดินห้ามมีน้ำขังอย่างเด็ดขาด เพราะเป็นแหล่งเชื้อโรค ยกตัวอย่าง อ่างล้างเท้า ที่สุนัขมักชอบกิน บังเอิญไก่ชนที่เลี้ยงไว้ไปกินด้วย จึงโอกาสสูงที่ไก่ชนจะตาย เพราะสุนัขมักชอบกินไก่ไม่สุก หรือไก่ตาย และได้รับเชื้อไข้หวัดนก แต่สุนัขไม่ตาย กลับนำเชื้อไปปล่อยบริเวณแหล่งน้ำ ดังนั้น ควรแยกไก่ชน ออกจากสัตว์เลี้ยงอื่นที่เป็นพาหะ

ะที่สำคัญคือ คนเลี้ยง ปัจจุบัน ฟาร์มที่นี่ ไม่มีลูกน้อง หรือคนเลี้ยงไก่ เจ้าของฟาร์มจะต้องดูแลเอง ไม่ใช่เพราะไม่มีเงิน แต่เพื่อความปลอดภัย เนื่องจากไม่ทราบว่า คนเลี้ยงจะไปคลุกคลีกับฟาร์มไก่ชนอื่นหรือไม่
กรณีเมื่อไก่ตาย ต้องฉีดพ่นยาสถานเดียว เพราะจะกำจัดเชื้อหวัดนก ไม่ให้แพร่ระบาดอยู่ในสิ่งแวดล้อมเดิม โดยการฉีดยาต้องฉีดบริเวณพื้นราบ และไม่จำเป็นต้องแยกไก่ออกไปอยู่ฟาร์มแห่ง เพราะไม่มีโอกาสที่ผู้เลี้ยงจะดูแลได้อย่างทั่วถึง ทำได้เพียงดูแลฟาร์มอย่างเข้มงวดที่สุด และเตือนว่า ไม่ควรซื้อยาหรือวัคซีนจากที่อื่น เพราะส่วนใหญ่เป็นยาหมดอายุ ควรซื้อจากปศุสัตว์เท่านั้น

สำหรับฟาร์มไก่ชนแห่งนี้ อดีตเคยมีพ่อพันธุ์ไก่ 59 ตัว แม่พันธุ์อีกนับร้อย ปัจจุบันล้มหายตายจากไปหมดแล้ว เหลือเพียงพ่อพันธุ์ 9 ตัว (รวมไก่เล็ก) และแม่พันธุ์ทั้งหมด 300 ตัวเท่านั้น

ขณะที่พื้นที่แถบตำบลหัวรอ อำเภอเมืองพิษณุโลก ที่ถือว่าเป็นแหล่งเพาะเลี้ยงไก่ชนชื่อดัง เคยมีฟาร์มมากกว่า 10 ราย ล่าสุดปรากฏว่า ถอดใจหรือเลิกกิจการไปแล้ว 3-4 ราย เช่นเดียวกันกับจำนวนสมาชิกที่สังกัดชมรมอนุรักษ์ฯ พบว่า เคยมี 200 ราย ปัจจุบันเหลือ 10 ราย

นายสมคิด บอกว่า สาเหตุที่ปิดฟาร์ม ก็เพราะไก่ชนถูกตรวจพบเชื้อในรัศมี 5 กิโลเมตร กระทั่งถูกจับไปฝัง บางฟาร์มไม่เป็นหวัดนกก็ล้มตายไปเอง จนเจ้าของฟาร์มท้อแท้ และถอดใจไปมาก ที่สำคัญทำใจไม่ได้ที่ไก่สุดที่รัก ตายไปต่อหน้าต่อตา หากพบเชื้อไข้หวัดนก

ขณะเดียวกันแม้ว่า ฟาร์มเพาะเลี้ยงไก่ชนจะถูกทำลายหรือปิดตัวลงมาก ราคาไก่ชนเหลืองหางขาวก็ไม่ได้ขยับราคาขึ้น ฟาร์มเพาะเลี้ยงไก่ชนเหลืองหางขาวสายพันธุ์แท้อายุ 2-3 เดือน คู่ละหนึ่งพันบาท หากเป็นไก่รุ่นๆ พร้อมจะตีได้ สวยๆ ตัวละ 4 พัน ซึ่งบุคคลภายนอกอาจมองว่าแพง แต่ที่จริงแล้ว คือ พันธุ์แท้เหลืองหางขาว ไม่ใช่ไก่พม่า
กำลังโหลดความคิดเห็น