ผู้จัดการรายวัน – ลุฟท์ฮันซ่า เพิ่มบริการ ดันภาพลักษณ์ขึ้นสู่สายการบินสำหรับนักธุรกิจ สร้างความแตกต่างชัดเจนจากโลว์คอสต์ ระบุ 14 ก.พ.ดีเดย์ เสริฟอินเทอร์เน็ตนักธุรกิจบนเครื่อง เผยเป้าหมายต้องการปรับเปลี่ยนลูกค้าจากกลุ่มนักท่องเที่ยวทั่วไปให้มาเป็นลูกค้ากลุ่มผู้บริหาร และนักธุรกิจให้มากขึ้น ขณะที่พันธมิตรในกลุ่มสตาร์ อัลไลอันส์ เตรียมวางแผน จัดแคมเปญช่วยผู้ประสบภัยสึนามิ
แหล่งข่าวจาก สายการบินลุฟท์ฮันซ่า ประจำประเทศไทย เปิดเผยว่า ลุฟท์ฮันซ่า ได้ปรับภาพลักษณ์ ให้มีความชัดเจนขึ้น เพื่อต้องการเป็นสายการบินระดับบิสซิเนสคลาสอย่างเต็มตัว โดยเมื่อปลายปีที่ผ่านมา ได้เปลี่ยนเบาะที่นั่งในเครื่องบินแอร์บัส ให้มีขนาดใหญ่ขึ้นอีก 30-150 ซ.ม. หรือใหญ่กว่าที่นั่งเดิม 25% โดยในชั้นบิสซิเนสคลาส เบาะจะปรับเอนนอนได้ 180 องศา สามารถนอนราบได้ มีความยาวถึง 2 เมตร
ล่าสุด ในวันที่ 14 กุมภาพันธ์นี้ จะเริ่มให้บริการ บิสซิเนส ออน บอร์ด (Business on board) แก่ลูกค้าบนเครื่องบินแอร์บัส ทุกที่นั่ง รวมถึงบริการ ฟลายเน็ท (Fly net) หรืออินเทอร์เน็ตบรอดแบนด์ไร้สายในระบบ WLAN และเมื่อลูกค้าต้องการใช้บริการ จะเสียค่าใช้จ่ายชั่วโมงละ 29 เหรียญดอลล่าร์สหรัฐ ซึ่งปัจจุบันนี้ ลุฟท์ฮันซ่า ใช้เครื่องบินแอร์บัส บินระหว่างกรุงเทพฯ-มิวนิค ประเทศเยอรมัน
โดยการปรับตัวครั้งนี้ เพื่อต้องการสร้างความชัดเจน ของการเป็นสายการบินสำหรับนักธุรกิจ อีกทั้งเป็นการแยกตลาดให้ชัดเจนกับสายการบินโลว์คอสต์ หรือเครื่องบินเช่าเหมาลำ (ชาร์เตอร์ไฟลท์) ซึ่งกลุ่มนี้จะจับลูกค้ากลุ่มนักท่องเที่ยวเป็นหลัก ซึ่งต้องยอมรับว่า ปัจจุบันสายการบินต้นทุนต่ำ หรือโลว์คอสต์ เข้ามามีบทบาทในธุรกิจการบินอย่างมาก บริษัทไม่สามารถสู้ในเรื่องของราคาได้ และบริษัทก็ไม่มีนโยบายปรับลดราคาเพื่อการแข่งขันเป็นเด็ดขาด ซึ่งแม้ว่าเส้นทางของลุฟท์ฮันซ่า ในประเทศไทย ที่มี กรุงเทพฯ-มิวนิค และ กรุงเทพฯ-แฟรงค์เฟิร์ท จะไม่มีสายการบินโลว์คอสต์ก็ตาม แต่จากประเทศเยอรมัน ที่บินเข้ามากรุงเทพ และภูเก็ต มีสายการบินที่ราคาต่ำกว่าลุฟท์ฮันซ่าหลายสาย หรือมีราคาเฉลี่ยประมาณ 25,000 บาท รวมถึงชาร์เตอร์ไฟลท์ ก็มีราคาถูกกว่า ดังนั้นบริษัทจึงต้องปรับเพิ่มบริการเพื่อสร้างความแตกต่างและแยกกลุ่มลูกค้าแบบชัดเจน
สำหรับลูกค้าเป้าหมาย ลุฟท์ฮันซ่า ต้องการปรับเปลี่ยนลูกค้าจากกลุ่ม นักท่องเที่ยวทั่วไป ให้มาเป็นลูกค้ากลุ่ม ผู้บริหาร และ นักธุรกิจให้มากขึ้น ซึ่งแม้บริษัทจะมีการลงทุนเรื่องบริการต่างๆและสิ่งอำนวยความสะดวกบนเครื่องบิน แต่ก็ยังไม่ได้ปรับราคาขึ้นแต่อย่างใด โดยเส้นทาง กรุงเทพฯ-มิวนิค จะมีราคาเริ่มต้นตั้งแต่ที่นั่งละ 3.4 หมื่นบาทซึ่งเป็นชั้นประหยัด ไปถึงราคากว่า 1 แสนบาท สำหรับชั้นบิสซิเนส ซึ่งเป็นราคาตั๋ว ไป-กลับ
“ที่นั่งของลุฟท์ฮันซ่า ถือเป็นเบาะที่ปรับนอนราบได้ยาวที่สุดในบรรดาที่นั่งในชั้นธุรกิจที่มีอยู่ในตลาดขณะนี้ เพื่อให้ผู้โดยสารได้นอนหลับอย่างสบายที่สุดเหมาะสำหรับเที่ยวบินพิสัยไกล นอกจากนั้น ลุฟท์ฮันซ่า ยังเพิ่มความบันเทิงมอบให้กับผู้โดยสาร ด้วยจอทีวี 10 นิ้ว วีดีโอออนดีมานด์ และออดิโอออนดีมานด์ ที่รวมโปรแกรมหนังไว้มากมาย รวมถึงข่าวสารข้อมูลและเกมส์ต่างๆ ไว้บริการ”
ลุฟท์ฮันซ่า เป็นหนึ่งในสมาชิกของ สตาร์ อัลไลอันส์ ซึ่งมีเครือข่ายสายการบินจำนวนมาก ครอบคลุม 6 ทวีปทั่วโลก ซึ่งจากเหตุการณ์คลื่นยักษ์สึนามิที่เกิดขึ้น ตอนนี้ทางกลุ่มสตาร์อัลไลอันส์ อยู่ระหว่างการจัดทำแผนช่วยเหลือผู้ประสบภัย ภายใต้ชื่อโครงการ เฮล อัลไลอันส์ คาดว่าเร็วๆนี้จะได้ข้อสรุปและออกมาเป็นแคมเปญร่วมกันในกลุ่มสมาชิก
แหล่งข่าวจาก สายการบินลุฟท์ฮันซ่า ประจำประเทศไทย เปิดเผยว่า ลุฟท์ฮันซ่า ได้ปรับภาพลักษณ์ ให้มีความชัดเจนขึ้น เพื่อต้องการเป็นสายการบินระดับบิสซิเนสคลาสอย่างเต็มตัว โดยเมื่อปลายปีที่ผ่านมา ได้เปลี่ยนเบาะที่นั่งในเครื่องบินแอร์บัส ให้มีขนาดใหญ่ขึ้นอีก 30-150 ซ.ม. หรือใหญ่กว่าที่นั่งเดิม 25% โดยในชั้นบิสซิเนสคลาส เบาะจะปรับเอนนอนได้ 180 องศา สามารถนอนราบได้ มีความยาวถึง 2 เมตร
ล่าสุด ในวันที่ 14 กุมภาพันธ์นี้ จะเริ่มให้บริการ บิสซิเนส ออน บอร์ด (Business on board) แก่ลูกค้าบนเครื่องบินแอร์บัส ทุกที่นั่ง รวมถึงบริการ ฟลายเน็ท (Fly net) หรืออินเทอร์เน็ตบรอดแบนด์ไร้สายในระบบ WLAN และเมื่อลูกค้าต้องการใช้บริการ จะเสียค่าใช้จ่ายชั่วโมงละ 29 เหรียญดอลล่าร์สหรัฐ ซึ่งปัจจุบันนี้ ลุฟท์ฮันซ่า ใช้เครื่องบินแอร์บัส บินระหว่างกรุงเทพฯ-มิวนิค ประเทศเยอรมัน
โดยการปรับตัวครั้งนี้ เพื่อต้องการสร้างความชัดเจน ของการเป็นสายการบินสำหรับนักธุรกิจ อีกทั้งเป็นการแยกตลาดให้ชัดเจนกับสายการบินโลว์คอสต์ หรือเครื่องบินเช่าเหมาลำ (ชาร์เตอร์ไฟลท์) ซึ่งกลุ่มนี้จะจับลูกค้ากลุ่มนักท่องเที่ยวเป็นหลัก ซึ่งต้องยอมรับว่า ปัจจุบันสายการบินต้นทุนต่ำ หรือโลว์คอสต์ เข้ามามีบทบาทในธุรกิจการบินอย่างมาก บริษัทไม่สามารถสู้ในเรื่องของราคาได้ และบริษัทก็ไม่มีนโยบายปรับลดราคาเพื่อการแข่งขันเป็นเด็ดขาด ซึ่งแม้ว่าเส้นทางของลุฟท์ฮันซ่า ในประเทศไทย ที่มี กรุงเทพฯ-มิวนิค และ กรุงเทพฯ-แฟรงค์เฟิร์ท จะไม่มีสายการบินโลว์คอสต์ก็ตาม แต่จากประเทศเยอรมัน ที่บินเข้ามากรุงเทพ และภูเก็ต มีสายการบินที่ราคาต่ำกว่าลุฟท์ฮันซ่าหลายสาย หรือมีราคาเฉลี่ยประมาณ 25,000 บาท รวมถึงชาร์เตอร์ไฟลท์ ก็มีราคาถูกกว่า ดังนั้นบริษัทจึงต้องปรับเพิ่มบริการเพื่อสร้างความแตกต่างและแยกกลุ่มลูกค้าแบบชัดเจน
สำหรับลูกค้าเป้าหมาย ลุฟท์ฮันซ่า ต้องการปรับเปลี่ยนลูกค้าจากกลุ่ม นักท่องเที่ยวทั่วไป ให้มาเป็นลูกค้ากลุ่ม ผู้บริหาร และ นักธุรกิจให้มากขึ้น ซึ่งแม้บริษัทจะมีการลงทุนเรื่องบริการต่างๆและสิ่งอำนวยความสะดวกบนเครื่องบิน แต่ก็ยังไม่ได้ปรับราคาขึ้นแต่อย่างใด โดยเส้นทาง กรุงเทพฯ-มิวนิค จะมีราคาเริ่มต้นตั้งแต่ที่นั่งละ 3.4 หมื่นบาทซึ่งเป็นชั้นประหยัด ไปถึงราคากว่า 1 แสนบาท สำหรับชั้นบิสซิเนส ซึ่งเป็นราคาตั๋ว ไป-กลับ
“ที่นั่งของลุฟท์ฮันซ่า ถือเป็นเบาะที่ปรับนอนราบได้ยาวที่สุดในบรรดาที่นั่งในชั้นธุรกิจที่มีอยู่ในตลาดขณะนี้ เพื่อให้ผู้โดยสารได้นอนหลับอย่างสบายที่สุดเหมาะสำหรับเที่ยวบินพิสัยไกล นอกจากนั้น ลุฟท์ฮันซ่า ยังเพิ่มความบันเทิงมอบให้กับผู้โดยสาร ด้วยจอทีวี 10 นิ้ว วีดีโอออนดีมานด์ และออดิโอออนดีมานด์ ที่รวมโปรแกรมหนังไว้มากมาย รวมถึงข่าวสารข้อมูลและเกมส์ต่างๆ ไว้บริการ”
ลุฟท์ฮันซ่า เป็นหนึ่งในสมาชิกของ สตาร์ อัลไลอันส์ ซึ่งมีเครือข่ายสายการบินจำนวนมาก ครอบคลุม 6 ทวีปทั่วโลก ซึ่งจากเหตุการณ์คลื่นยักษ์สึนามิที่เกิดขึ้น ตอนนี้ทางกลุ่มสตาร์อัลไลอันส์ อยู่ระหว่างการจัดทำแผนช่วยเหลือผู้ประสบภัย ภายใต้ชื่อโครงการ เฮล อัลไลอันส์ คาดว่าเร็วๆนี้จะได้ข้อสรุปและออกมาเป็นแคมเปญร่วมกันในกลุ่มสมาชิก