มีผู้ถามมาว่า พิพิธภัณฑ์การเรียนรู้แห่งชาตินี้จะอยู่ที่ไหน เดิมทีนายกรัฐมนตรีอยากให้อาคารเก่าบริเวณเกาะรัตนโกสินทร์ชั้นในหลายแห่ง เช่น กระทรวงกลาโหม อาคารศาลฎีกา กรมแผนที่ กรมการรักษาดินแดน โรงพักพระราชวัง ตึกแถวท่าเตียน และกระทรวงพาณิชย์ เป็นกลุ่มอาคารของพิพิธภัณฑ์ใหม่ แต่ความพร้อมของหน่วยราชการที่จะย้ายออกไปมีต่างกัน กระทรวงกลาโหมมีที่ตั้งที่เหมาะสม ตัวอาคารมีพื้นที่กว้างขวาง แต่แผนการย้ายกระทรวงกลาโหมยังต้องมีงบประมาณรองรับ ซึ่งทางกระทรวงก็ได้ตั้งคณะกรรมการขึ้นพิจารณาการย้ายแล้ว ทหารมีความผูกพันกับกระทรวงกลาโหมนี้มาก เพราะเป็นที่ดินแห่งเดียวที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระราชทานแก่ทหาร มีพื้นที่ 12 ไร่ ส่วนที่ที่เรียกกันว่า "ที่ทหาร" ไม่ว่าจะเป็นที่ของกรมทหารต่างๆ หรือที่ดินหลายหมื่นไร่แถวเมืองกาญจน์นั้น เป็นที่ที่ให้ทหารดูแลไม่มีกรรมสิทธิ์ ดังนั้น แม้จะมีการย้ายกระทรวงกลาโหมไปอยู่ที่อื่นก็ตาม แต่ทหารก็ยังอยากรักษาอาคารเก่านี้ไว้โดยเห็นว่า ควรทำเป็นอาคารอนุรักษ์
สถานที่ที่พร้อมมากที่สุดคือ อาคารกระทรวงพาณิชย์ ซึ่งมีความงดงามมาก อาคารนี้จึงจะเป็นที่ตั้งของพิพิธภัณฑ์การเรียนรู้แห่งชาติในระยะแรก ก่อนที่จะมีการตั้งพิพิธภัณฑ์ในอาคารเก่าอื่นๆ ต่อไป
อาคารกระทรวงพาณิชย์ตั้งอยู่ทางด้านใต้ของเกาะรัตนโกสินทร์ มีถนนสนามไชย และถนนมหาราชขนาบข้าง ใกล้ๆ มีวัดโพธิ์ และวัดพระแก้ว
ด้านหลังก่อนถึงแม่น้ำเจ้าพระยามีพื้นที่ของศาลคดีเด็กและเยาวชน (บ้านปรานี) และโรงเรียนราชินีล่าง และด้านหัวมุมถนนมีสถานีตำรวจพระราชวัง ซึ่งเป็นอาคารเก่า
ผมได้ขอพื้นที่ของศาลคดีเด็กและเยาวชน จากท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมไว้ด้วย เพราะทราบว่าได้มีการย้ายบ้านปรานีไปอยู่ที่อื่นแล้ว ทำให้พื้นที่ของพิพิธภัณฑ์จะเป็นสี่เหลี่ยมยาวลงไปถึงแม่น้ำเจ้าพระยา และผมกำลังจะขอพื้นที่สถานีตำรวจพระราชวังด้วย ถ้าได้พื้นที่ของพิพิธภัณฑ์ก็จะมีติดต่อกันกว้างขวางมากขึ้น
อาคารกระทรวงพาณิชย์มีอยู่ 3 อาคารด้วยกัน อาคารเก่าที่มีความสำคัญคือ อาคารจันทบุรีนฤนาทอยู่ทางด้านตะวันออกเฉียงใต้ อาคารกระทรวงพาณิชย์นี้เพิ่งได้รับการอนุรักษ์สร้างเมื่อ 90 ปีมาแล้ว เป็นสถาปัตยกรรมแบบนีโอคลาสสิกมี 3 ชั้น มีห้องใต้หลังคาสูง ภายนอกอาคารมีต้นไม้ใหญ่ทั้งด้านหน้าและด้านข้าง ตัวอาคารแต่ละชั้นมีระเบียงยาว ด้านหน้ามีห้องโถง มีบันไดขึ้นสองข้างสวยงามมาก
คณะผู้เชี่ยวชาญได้เข้าไปทำการสำรวจ และทำผังภายในอาคารโดยละเอียดแล้ว มีความเห็นว่าสามารถใช้พื้นที่บริเวณนอกอาคารหลัก สร้างอาคารใหม่ขึ้น จะเหมาะกับการนำนิทรรศการไปจัดไว้ในอาคารใหม่มากกว่า ส่วนอาคารจันทบุรีนฤนาทนั้น คงใช้พื้นที่ได้อย่างจำกัด
การทำพิพิธภัณฑ์แบบใหม่เป็นเรื่องละเอียดอ่อน การจัดพื้นที่แบ่งเป็นโซนต่างๆ เป็นเรื่องแรกที่ต้องทำ
พิพิธภัณฑ์การเรียนรู้จะแบ่งออกเป็น 4 ส่วนคือ ส่วน ก.คือส่วนที่ไม่ใช้ในการเก็บของ แต่ให้สาธารณชนผ่านเข้าได้
ส่วน ข.คือส่วนที่เก็บของและให้สาธารณชนผ่านเข้าได้
ส่วน ค.คือส่วนที่เก็บของแต่ไม่ให้สาธารณชนผ่านเข้า
ส่วน ง.คือส่วนที่ไม่ใช้เป็นของ และไม่ให้สาธารณชนผ่านเข้า
แต่ละส่วนก็จะเป็นที่ทำกิจกรรมต่างๆ กันไป เช่น ส่วน ก.คือส่วนเปิดให้สาธารณชนเข้าได้ มีพื้นที่ใช้ทำกิจกรรมเกี่ยวกับการศึกษา มีร้านขายอาหารเครื่องดื่ม ร้านขายของ
ส่วน ข.เป็นห้องแสดงกิจกรรมถาวร และชั่วคราว
ส่วน ค.ใช้เป็นที่เก็บของ
ส่วน ง.เป็นสำนักงาน และเป็นพื้นที่ที่พนักงานพิพิธภัณฑ์ใช้เตรียมงานต่างๆ
นอกจากนั้นยังต้องมีส่วนที่ใช้เก็บอุปกรณ์ต่างๆ เช่น ห้องเก็บเครื่องทำความเย็น ห้องระบบไฟฟ้า ระบบการสื่อสาร ฯลฯ
เวลานี้คณะผู้เชี่ยวชาญได้ระบุส่วนย่อยภายในอาคารจันทบุรีนฤนาทโดยละเอียดแล้ว ว่าส่วนใดมีพื้นที่เท่าใด และควรใช้ประโยชน์อย่างไร โดยแต่ละส่วนจะมีห้องสำหรับกิจกรรมหลายๆ อย่าง สำหรับอาคารจันทบุรีนฤนาทนั้น เนื่องจากเป็นอาคารอนุรักษ์ จึงจะใช้เป็นสำนักงาน ส่วนที่จะเปิดให้คนเข้าไปชมจะเป็นตัวอาคารกระทรวงพาณิชย์
ผมอยากเล่าความก้าวหน้าของการเตรียมงานพิพิธภัณฑ์ว่า จะต้องประกอบไปด้วยงาน ส่วนคือ
1. การวางแผนการใช้ประโยชน์พื้นที่และอาคาร ตลอดจนการสร้างอาคารใหม่
2. การเตรียมงานทางวิชาการตามหัวข้อเรื่องที่กำหนดไว้
3. การนำเนื้อหาทางวิชาการมาปรับปรุงให้เป็นนิทรรศการ ทั้งที่ทำไว้เป็นการถาวรกับนิทรรศการที่จะมีการเปลี่ยนไป
4. การเตรียมการฝึกอบรมเจ้าหน้าที่พิพิธภัณฑ์ ทั้งในระยะสั้น และระยะยาว
5. การเตรียมหาทุนและผู้สนับสนุนงานพิพิธภัณฑ์ นอกเหนือไปจากงบประมาณที่ได้รับจากรัฐ
6. การเตรียมการสนับสนุนงานวิจัย
7. การประสานงานกับพิพิธภัณฑ์ทั่วประเทศ ทั้งของภาครัฐและเอกชน
8. การเผยแพร่ผ่านสื่อรูปแบบต่างๆ
งานพิพิธภัณฑ์นี้เตรียมการกันมาตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2546 มีผู้ช่วยงานหลักๆ รวมทั้งตัวผมด้วยเพียง 5 คนเท่านั้น เวลานี้กำลังเตรียมรับคนอีก อัตรากำลังของสถาบันพิพิธภัณฑ์ฯ จะมีเพียง 32 คน เพราะในระยะสองปีแรกนี้ เป็นการเตรียมการ ต่อไปในปี 2549 จะต้องเตรียมหาคนเพื่อเป็นเจ้าหน้าที่พิพิธภัณฑ์ ซึ่งจะมีประมาณ 100 คน ดังนั้นในระยะสองปีนี้จึงต้องมีการฝึกอบรมระยะสั้นคือ 3 เดือน-หนึ่งปี
ผศ.พัชรี ชินธรรมมิตร รักษาการผู้อำนวยการสถาบันฯ ได้ไปคุยกับอธิการบดีมหาวิทยาลัยศิลปากร และกับอาจารย์อภิญญา บัวสรวง ที่มหาวิทยาลัยมหิดล แล้วว่าจะมีการร่วมมือกันจัดหลักสูตรพิเศษเพื่อรองรับความต้องการนี้ หลักสูตรนี้จะเน้นภาคปฏิบัติ และการเรียนรู้การจัดพิพิธภัณฑ์แบบใหม่ในต่างประเทศเป็นสำคัญ
คนที่ทำงานให้พิพิธภัณฑ์นี้เป็นคนที่ทำงานเงียบๆ เพราะใจรัก ทำด้วยความอดทนจริงๆ ผมทราบว่าเรามีคนเก่งๆ และรู้เรื่องการจัดพิพิธภัณฑ์ดีๆ ที่ไม่เคยอวดอ้างวางก้ามว่าข้าเป็นผู้รู้อยู่คนเดียวหลายคน ผมมั่นใจว่าคนเหล่านี้จะช่วยเราทำพิพิธภัณฑ์เพื่อลูกหลานเราได้
คนรู้ที่ไม่มีอัตตา และพร้อมที่จะทำงานในสังคมไทยมีมากมายหลายคนเป็นอาสาสมัครและเป็นคนว่าง่าย
ส่วนคนว่ายากที่ชอบติชอบด่าด้วยภาษาแปลกๆ นั้น ก็ต้องปล่อยไป เพราะเป็นคนว่ายากมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว
*******
ผู้สนใจจะบริจาคสิ่งของหรือให้ขอยืม สิ่งของที่จะจัดแสดงนิทรรศการ
โปรดติดต่อได้ที่ :สถาบันพิพิธภัณฑ์การเรียนรู้แห่งชาติ ชั้น 21 อาคารทิปโก้ 118
/1 ถนนพระราม 6 แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กท.10400 โทร. 02-
357-4001-6 โทรสาร 02-357-4000
*******
หมายเหตุ-บทความชุด "ชีวิตที่เลือกได้"ของอาจารย์ชัยอนันต์ สมุทวณิช เป็นบันทึกเชิงอัตชีวประวัติต่อเนื่อง เริ่มตีพิมพ์ตั้งแต่ช่วงปี 2537 กล่าวถึงชีวิตวัยเด็ก การศึกษา ประสบการณ์การทำงาน รวมเล่มเป็นภาค 1 และภาค 2 มาแล้ว ส่วนที่ทะยอยตีพิมพ์อยู่นี้เป็นการบันทึกอัตชีวประวัติ ชีวิต และการทำงานใน่ชวงปัจจุบัน
สถานที่ที่พร้อมมากที่สุดคือ อาคารกระทรวงพาณิชย์ ซึ่งมีความงดงามมาก อาคารนี้จึงจะเป็นที่ตั้งของพิพิธภัณฑ์การเรียนรู้แห่งชาติในระยะแรก ก่อนที่จะมีการตั้งพิพิธภัณฑ์ในอาคารเก่าอื่นๆ ต่อไป
อาคารกระทรวงพาณิชย์ตั้งอยู่ทางด้านใต้ของเกาะรัตนโกสินทร์ มีถนนสนามไชย และถนนมหาราชขนาบข้าง ใกล้ๆ มีวัดโพธิ์ และวัดพระแก้ว
ด้านหลังก่อนถึงแม่น้ำเจ้าพระยามีพื้นที่ของศาลคดีเด็กและเยาวชน (บ้านปรานี) และโรงเรียนราชินีล่าง และด้านหัวมุมถนนมีสถานีตำรวจพระราชวัง ซึ่งเป็นอาคารเก่า
ผมได้ขอพื้นที่ของศาลคดีเด็กและเยาวชน จากท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมไว้ด้วย เพราะทราบว่าได้มีการย้ายบ้านปรานีไปอยู่ที่อื่นแล้ว ทำให้พื้นที่ของพิพิธภัณฑ์จะเป็นสี่เหลี่ยมยาวลงไปถึงแม่น้ำเจ้าพระยา และผมกำลังจะขอพื้นที่สถานีตำรวจพระราชวังด้วย ถ้าได้พื้นที่ของพิพิธภัณฑ์ก็จะมีติดต่อกันกว้างขวางมากขึ้น
อาคารกระทรวงพาณิชย์มีอยู่ 3 อาคารด้วยกัน อาคารเก่าที่มีความสำคัญคือ อาคารจันทบุรีนฤนาทอยู่ทางด้านตะวันออกเฉียงใต้ อาคารกระทรวงพาณิชย์นี้เพิ่งได้รับการอนุรักษ์สร้างเมื่อ 90 ปีมาแล้ว เป็นสถาปัตยกรรมแบบนีโอคลาสสิกมี 3 ชั้น มีห้องใต้หลังคาสูง ภายนอกอาคารมีต้นไม้ใหญ่ทั้งด้านหน้าและด้านข้าง ตัวอาคารแต่ละชั้นมีระเบียงยาว ด้านหน้ามีห้องโถง มีบันไดขึ้นสองข้างสวยงามมาก
คณะผู้เชี่ยวชาญได้เข้าไปทำการสำรวจ และทำผังภายในอาคารโดยละเอียดแล้ว มีความเห็นว่าสามารถใช้พื้นที่บริเวณนอกอาคารหลัก สร้างอาคารใหม่ขึ้น จะเหมาะกับการนำนิทรรศการไปจัดไว้ในอาคารใหม่มากกว่า ส่วนอาคารจันทบุรีนฤนาทนั้น คงใช้พื้นที่ได้อย่างจำกัด
การทำพิพิธภัณฑ์แบบใหม่เป็นเรื่องละเอียดอ่อน การจัดพื้นที่แบ่งเป็นโซนต่างๆ เป็นเรื่องแรกที่ต้องทำ
พิพิธภัณฑ์การเรียนรู้จะแบ่งออกเป็น 4 ส่วนคือ ส่วน ก.คือส่วนที่ไม่ใช้ในการเก็บของ แต่ให้สาธารณชนผ่านเข้าได้
ส่วน ข.คือส่วนที่เก็บของและให้สาธารณชนผ่านเข้าได้
ส่วน ค.คือส่วนที่เก็บของแต่ไม่ให้สาธารณชนผ่านเข้า
ส่วน ง.คือส่วนที่ไม่ใช้เป็นของ และไม่ให้สาธารณชนผ่านเข้า
แต่ละส่วนก็จะเป็นที่ทำกิจกรรมต่างๆ กันไป เช่น ส่วน ก.คือส่วนเปิดให้สาธารณชนเข้าได้ มีพื้นที่ใช้ทำกิจกรรมเกี่ยวกับการศึกษา มีร้านขายอาหารเครื่องดื่ม ร้านขายของ
ส่วน ข.เป็นห้องแสดงกิจกรรมถาวร และชั่วคราว
ส่วน ค.ใช้เป็นที่เก็บของ
ส่วน ง.เป็นสำนักงาน และเป็นพื้นที่ที่พนักงานพิพิธภัณฑ์ใช้เตรียมงานต่างๆ
นอกจากนั้นยังต้องมีส่วนที่ใช้เก็บอุปกรณ์ต่างๆ เช่น ห้องเก็บเครื่องทำความเย็น ห้องระบบไฟฟ้า ระบบการสื่อสาร ฯลฯ
เวลานี้คณะผู้เชี่ยวชาญได้ระบุส่วนย่อยภายในอาคารจันทบุรีนฤนาทโดยละเอียดแล้ว ว่าส่วนใดมีพื้นที่เท่าใด และควรใช้ประโยชน์อย่างไร โดยแต่ละส่วนจะมีห้องสำหรับกิจกรรมหลายๆ อย่าง สำหรับอาคารจันทบุรีนฤนาทนั้น เนื่องจากเป็นอาคารอนุรักษ์ จึงจะใช้เป็นสำนักงาน ส่วนที่จะเปิดให้คนเข้าไปชมจะเป็นตัวอาคารกระทรวงพาณิชย์
ผมอยากเล่าความก้าวหน้าของการเตรียมงานพิพิธภัณฑ์ว่า จะต้องประกอบไปด้วยงาน ส่วนคือ
1. การวางแผนการใช้ประโยชน์พื้นที่และอาคาร ตลอดจนการสร้างอาคารใหม่
2. การเตรียมงานทางวิชาการตามหัวข้อเรื่องที่กำหนดไว้
3. การนำเนื้อหาทางวิชาการมาปรับปรุงให้เป็นนิทรรศการ ทั้งที่ทำไว้เป็นการถาวรกับนิทรรศการที่จะมีการเปลี่ยนไป
4. การเตรียมการฝึกอบรมเจ้าหน้าที่พิพิธภัณฑ์ ทั้งในระยะสั้น และระยะยาว
5. การเตรียมหาทุนและผู้สนับสนุนงานพิพิธภัณฑ์ นอกเหนือไปจากงบประมาณที่ได้รับจากรัฐ
6. การเตรียมการสนับสนุนงานวิจัย
7. การประสานงานกับพิพิธภัณฑ์ทั่วประเทศ ทั้งของภาครัฐและเอกชน
8. การเผยแพร่ผ่านสื่อรูปแบบต่างๆ
งานพิพิธภัณฑ์นี้เตรียมการกันมาตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2546 มีผู้ช่วยงานหลักๆ รวมทั้งตัวผมด้วยเพียง 5 คนเท่านั้น เวลานี้กำลังเตรียมรับคนอีก อัตรากำลังของสถาบันพิพิธภัณฑ์ฯ จะมีเพียง 32 คน เพราะในระยะสองปีแรกนี้ เป็นการเตรียมการ ต่อไปในปี 2549 จะต้องเตรียมหาคนเพื่อเป็นเจ้าหน้าที่พิพิธภัณฑ์ ซึ่งจะมีประมาณ 100 คน ดังนั้นในระยะสองปีนี้จึงต้องมีการฝึกอบรมระยะสั้นคือ 3 เดือน-หนึ่งปี
ผศ.พัชรี ชินธรรมมิตร รักษาการผู้อำนวยการสถาบันฯ ได้ไปคุยกับอธิการบดีมหาวิทยาลัยศิลปากร และกับอาจารย์อภิญญา บัวสรวง ที่มหาวิทยาลัยมหิดล แล้วว่าจะมีการร่วมมือกันจัดหลักสูตรพิเศษเพื่อรองรับความต้องการนี้ หลักสูตรนี้จะเน้นภาคปฏิบัติ และการเรียนรู้การจัดพิพิธภัณฑ์แบบใหม่ในต่างประเทศเป็นสำคัญ
คนที่ทำงานให้พิพิธภัณฑ์นี้เป็นคนที่ทำงานเงียบๆ เพราะใจรัก ทำด้วยความอดทนจริงๆ ผมทราบว่าเรามีคนเก่งๆ และรู้เรื่องการจัดพิพิธภัณฑ์ดีๆ ที่ไม่เคยอวดอ้างวางก้ามว่าข้าเป็นผู้รู้อยู่คนเดียวหลายคน ผมมั่นใจว่าคนเหล่านี้จะช่วยเราทำพิพิธภัณฑ์เพื่อลูกหลานเราได้
คนรู้ที่ไม่มีอัตตา และพร้อมที่จะทำงานในสังคมไทยมีมากมายหลายคนเป็นอาสาสมัครและเป็นคนว่าง่าย
ส่วนคนว่ายากที่ชอบติชอบด่าด้วยภาษาแปลกๆ นั้น ก็ต้องปล่อยไป เพราะเป็นคนว่ายากมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว
*******
ผู้สนใจจะบริจาคสิ่งของหรือให้ขอยืม สิ่งของที่จะจัดแสดงนิทรรศการ
โปรดติดต่อได้ที่ :สถาบันพิพิธภัณฑ์การเรียนรู้แห่งชาติ ชั้น 21 อาคารทิปโก้ 118
/1 ถนนพระราม 6 แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กท.10400 โทร. 02-
357-4001-6 โทรสาร 02-357-4000
*******
หมายเหตุ-บทความชุด "ชีวิตที่เลือกได้"ของอาจารย์ชัยอนันต์ สมุทวณิช เป็นบันทึกเชิงอัตชีวประวัติต่อเนื่อง เริ่มตีพิมพ์ตั้งแต่ช่วงปี 2537 กล่าวถึงชีวิตวัยเด็ก การศึกษา ประสบการณ์การทำงาน รวมเล่มเป็นภาค 1 และภาค 2 มาแล้ว ส่วนที่ทะยอยตีพิมพ์อยู่นี้เป็นการบันทึกอัตชีวประวัติ ชีวิต และการทำงานใน่ชวงปัจจุบัน