ผู้จัดการรายวัน – ไทยเบฟเวอร์เรจส์ ปัดฝุ่นเหล้ารุ่นคราวพ่อใหม่ ยกเครื่องสร้างภาพลักษณ์แม่โขง-แสงโสมเจาะกลุ่มเป้าหมายแตกต่างกัน พร้อมดับเครื่องชนวิสกี้นอก ปูพรมนำสูตรแม่โขงค็อกเทลเทียบเรด เลเบิ้ล เจาะกลุ่มโรงแรม บาร์ อิงกระแสคนดื่มค็อกเทล มั่นใจยอดขายทั้งในและต่างประเทศโต เล็งนำสูตรค็อกเทลกรุยตลาดอินเตอร์ต่อไป
นายฐาปน สิริวัฒนภักดี ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไทยเบฟเวอร์เรจส์ จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตและจำหน่ายสุราแม่โขง แสงโสม มังกรทอง เปิดเผยว่า บริษัทมีนโยบายในการรุกทำตลาดเหล้าแม่โขงในเชิงรุกมากขึ้น หลังจากที่ได้รับสัมปทานจากภาครัฐเมื่อปี 2543 แต่ที่ผ่านมาบริษัทกลับไม่ได้เน้นการทำตลาดมากนัก และให้ความสำคัญกับการจำหน่ายและการกระจายสินค้าเป็นหลักมากกว่า โดยเป้าหมายการรุกทำตลาดในครั้งนี้ บริษัทต้องการยกระดับภาพลักษณ์แบรนด์แม่โขงใหม่ ภายใต้แนวคิดแม่โขง ยอดฝีมือไทย
นอกจากนี้การรุกทำตลาดแม่โขงในครั้งนี้ ยังทำให้แบรนด์แม่โขง และแสงโสมมีความภาพลักษณ์ที่แตกต่างกันมากขึ้น จากที่ผ่านมาภาพลักษณ์ของทั้งสองผลิตภัณฑ์ไม่มีความแตกต่างกันมากนัก โดยจากนี้แม่โขงจะเน้นการทำตลาดภายใต้แนวคิด”แม่โขง ยอดฝีมือไทย” ขณะที่แสงโสมจะเน้นภายใต้แนวคิด “อัจฉริยะไทยระดับโลก” เพื่อเจาะกลุ่มเป้าหมายที่แตกต่างกันและมีความชัดเจนในการทำตลาดมากขึ้น
สำหรับขั้นตอนแรกบริษัทจะใช้กลยุทธ์การสร้างแบรนด์แม่โขงก่อน ด้วยการทุ่มงบ 2 ล้านบาท ปูพรมจัดโครงการประกวดหาสุดยอดค็อกเทลไทย ภายใต้ชื่อ “ไทยรัม ค็อกเทล คอนเทสต์ 2005” เพื่อหาผู้ชนะเลิศพร้อมทั้งนำสูตรค็อกเทล ทั้งสูตรสำหรับผู้หญิงและผู้ชายประชาสัมพันธ์กับทางร้านค้า ประชาชนและนักท่องเที่ยวทั่วไป รวมถึงตลาดต่างประเทศ ภายใต้สูตร “แม่โขงค็อกเทล” ในเบื้องต้นจะมีการจัด “แม่โขง ค็อกเทล โรดโชว์” ขึ้นในจังหวัดต่างๆที่มีศักยภาพสูงทางด้านธุรกิจการท่องเที่ยว
“ที่ผ่านมาภาพลักษณ์ของแม่โขงถูกมองว่าเป็นเหล้าพื้นๆเท่านั้น ซึ่งเมื่อเทียบภาพลักษณ์แม่โขงในตลาดญี่ปุ่น ถือว่าเป็นแบรนด์ที่เทียบเท่ากับ จอห์นนี่ วอล์กเกอร์ เรด เลเบิ้ลเลยก็ว่าได้ ดังนั้นขั้นตอนแรกบริษัทจึงต้องการยกระดับภาพลักษณ์แม่โขงก่อน ในขณะที่กลุ่มเป้าหมายมองว่ายังมีความภักดีต่อตราสินค้าอยู่มาก โดยเฉพาะกลุ่มเป้าหมายอายุ 30-50 ปี แต่จุดอ่อนของแม่โขงที่ผ่านมาคือการขาดการทำตลาด”
สำหรับการจัดโครงการ ไทยรัม ค็อกเทล คอนเทสต์ 2005 ถือว่าเป็นการจัดกิจกรรมครั้งแรกสำหรับแม่โขง นับตั้งแต่มีการได้สัมปทานมาเมื่อปี 2543 ซึ่งที่ผ่านมาแม่โขงแทบไม่มีการจัดกิจกรรมการตลาดเลยก็ว่าได้ โดยก่อนหน้านี้ในช่วงปลายปีที่ผ่านมา บริษัทได้เพียงแต่เปิดภาพยนตร์โฆษณาภายใต้แนวคิด “แม่โขง ยอดฝีมือไทย รวมทั้งการจัดกิจกรรมชิงโชค สำหรับการจัดโครงการนี้มั่นใจว่าแม่โขง เหล้ารัมไทย จะเป็นที่รู้จักแพร่หลายทั้งในประเทศและต่างประเทศมากขึ้น”
นายฐาปน กล่าวว่า บริษัทยังมีแผนที่จะนำแม่โขงรุกตลาดต่างประเทศมากขึ้น ซึ่งก่อนหน้านี้บริษัทได้รุกตลาดประเทศเพื่อนบ้านไปแล้ว ขณะที่ประเทศญี่ปุ่น และประเทศฝรั่งเศสเพิ่งเปิดตลาดไป ปรากฏว่าได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี ส่งผลให้ในขณะนี้สัดส่วนยอดขายจากต่างประเทศมีราว10% ของยอดขายรวม และคาดว่าหลังจากที่เราได้นำสูตรแม่โขงค็อกเทล ไปโปรโมตตลาดต่างประเทศ คาดว่าจะกระตุ้นยอดขายของบริษัทได้มากขึ้น ขณะที่ตลาดภายในประเทศ ที่ผ่านมาแม่โขงมีฐานลูกค้าเป็นตลาดต่างจังหวัดมากกว่าภายในกรุงเทพ โดยผลประกอบการปีที่ผ่านมาแม่โขงมียอดขาย 2 ล้านหีบ หรือมียอดขาย 2,600 ล้านบาท แบ่งเป็นยอดขายในประเทศ 90%
นายฐาปน สิริวัฒนภักดี ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไทยเบฟเวอร์เรจส์ จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตและจำหน่ายสุราแม่โขง แสงโสม มังกรทอง เปิดเผยว่า บริษัทมีนโยบายในการรุกทำตลาดเหล้าแม่โขงในเชิงรุกมากขึ้น หลังจากที่ได้รับสัมปทานจากภาครัฐเมื่อปี 2543 แต่ที่ผ่านมาบริษัทกลับไม่ได้เน้นการทำตลาดมากนัก และให้ความสำคัญกับการจำหน่ายและการกระจายสินค้าเป็นหลักมากกว่า โดยเป้าหมายการรุกทำตลาดในครั้งนี้ บริษัทต้องการยกระดับภาพลักษณ์แบรนด์แม่โขงใหม่ ภายใต้แนวคิดแม่โขง ยอดฝีมือไทย
นอกจากนี้การรุกทำตลาดแม่โขงในครั้งนี้ ยังทำให้แบรนด์แม่โขง และแสงโสมมีความภาพลักษณ์ที่แตกต่างกันมากขึ้น จากที่ผ่านมาภาพลักษณ์ของทั้งสองผลิตภัณฑ์ไม่มีความแตกต่างกันมากนัก โดยจากนี้แม่โขงจะเน้นการทำตลาดภายใต้แนวคิด”แม่โขง ยอดฝีมือไทย” ขณะที่แสงโสมจะเน้นภายใต้แนวคิด “อัจฉริยะไทยระดับโลก” เพื่อเจาะกลุ่มเป้าหมายที่แตกต่างกันและมีความชัดเจนในการทำตลาดมากขึ้น
สำหรับขั้นตอนแรกบริษัทจะใช้กลยุทธ์การสร้างแบรนด์แม่โขงก่อน ด้วยการทุ่มงบ 2 ล้านบาท ปูพรมจัดโครงการประกวดหาสุดยอดค็อกเทลไทย ภายใต้ชื่อ “ไทยรัม ค็อกเทล คอนเทสต์ 2005” เพื่อหาผู้ชนะเลิศพร้อมทั้งนำสูตรค็อกเทล ทั้งสูตรสำหรับผู้หญิงและผู้ชายประชาสัมพันธ์กับทางร้านค้า ประชาชนและนักท่องเที่ยวทั่วไป รวมถึงตลาดต่างประเทศ ภายใต้สูตร “แม่โขงค็อกเทล” ในเบื้องต้นจะมีการจัด “แม่โขง ค็อกเทล โรดโชว์” ขึ้นในจังหวัดต่างๆที่มีศักยภาพสูงทางด้านธุรกิจการท่องเที่ยว
“ที่ผ่านมาภาพลักษณ์ของแม่โขงถูกมองว่าเป็นเหล้าพื้นๆเท่านั้น ซึ่งเมื่อเทียบภาพลักษณ์แม่โขงในตลาดญี่ปุ่น ถือว่าเป็นแบรนด์ที่เทียบเท่ากับ จอห์นนี่ วอล์กเกอร์ เรด เลเบิ้ลเลยก็ว่าได้ ดังนั้นขั้นตอนแรกบริษัทจึงต้องการยกระดับภาพลักษณ์แม่โขงก่อน ในขณะที่กลุ่มเป้าหมายมองว่ายังมีความภักดีต่อตราสินค้าอยู่มาก โดยเฉพาะกลุ่มเป้าหมายอายุ 30-50 ปี แต่จุดอ่อนของแม่โขงที่ผ่านมาคือการขาดการทำตลาด”
สำหรับการจัดโครงการ ไทยรัม ค็อกเทล คอนเทสต์ 2005 ถือว่าเป็นการจัดกิจกรรมครั้งแรกสำหรับแม่โขง นับตั้งแต่มีการได้สัมปทานมาเมื่อปี 2543 ซึ่งที่ผ่านมาแม่โขงแทบไม่มีการจัดกิจกรรมการตลาดเลยก็ว่าได้ โดยก่อนหน้านี้ในช่วงปลายปีที่ผ่านมา บริษัทได้เพียงแต่เปิดภาพยนตร์โฆษณาภายใต้แนวคิด “แม่โขง ยอดฝีมือไทย รวมทั้งการจัดกิจกรรมชิงโชค สำหรับการจัดโครงการนี้มั่นใจว่าแม่โขง เหล้ารัมไทย จะเป็นที่รู้จักแพร่หลายทั้งในประเทศและต่างประเทศมากขึ้น”
นายฐาปน กล่าวว่า บริษัทยังมีแผนที่จะนำแม่โขงรุกตลาดต่างประเทศมากขึ้น ซึ่งก่อนหน้านี้บริษัทได้รุกตลาดประเทศเพื่อนบ้านไปแล้ว ขณะที่ประเทศญี่ปุ่น และประเทศฝรั่งเศสเพิ่งเปิดตลาดไป ปรากฏว่าได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี ส่งผลให้ในขณะนี้สัดส่วนยอดขายจากต่างประเทศมีราว10% ของยอดขายรวม และคาดว่าหลังจากที่เราได้นำสูตรแม่โขงค็อกเทล ไปโปรโมตตลาดต่างประเทศ คาดว่าจะกระตุ้นยอดขายของบริษัทได้มากขึ้น ขณะที่ตลาดภายในประเทศ ที่ผ่านมาแม่โขงมีฐานลูกค้าเป็นตลาดต่างจังหวัดมากกว่าภายในกรุงเทพ โดยผลประกอบการปีที่ผ่านมาแม่โขงมียอดขาย 2 ล้านหีบ หรือมียอดขาย 2,600 ล้านบาท แบ่งเป็นยอดขายในประเทศ 90%