xs
xsm
sm
md
lg

อิเซตันทุ่ม400ล.แปลงโฉมสู้พารากอน ผุดโซนอาหารเพิ่ม2เท่า-ลดโซนแต่งบ้าน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ผู้จัดการรายวัน - อิเซตันปรับโฉมครั้งใหญ่ วางงบกว่า 400 ล้านบาท หวังรักษาฐานลูกค้า หลังสยามพารากอนเปิด พร้อมผุดโซนอาหารเพิ่มเป็น 2 เท่า จากเดิม 6% ของพื้นที่รวมทั้งหมด 27,000 ตร.ม. ปีนี้คาดรายได้เติบโต 8% ล่าสุด จัดงานแฟร์อาหารญี่ปุ่นขยายฐานลูกค้า

นายยาสุมาซะ อะซาอิ ประธานบริษัท อิเซตัน (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า อิเซตันมีนโยบายปรับเปลี่ยนร้านค้าภายในห้างฯ ครั้งใหญ่และเป็นครั้งแรกหลังเปิดมากว่า 13 ปีแล้ว คาดว่าใช้งบประมาณกว่า 400 ล้านบาท ซึ่งจะเริ่มปรับตั้งแต่ปี 2549-2550 โดยเฉพาะโซนอาหารนั้นจะมีการปรับเปลี่ยนครั้งใหญ่ ด้วยการเพิ่มพื้นที่อีกเท่าตัว หรือคิดเป็นสัดส่วนกว่า 15 % ของพื้นที่ทั้งหมด 27,000 ตร.ม. จากเดิมโซนอาหารมีพื้นที่เพียง 6% พร้อมปรับลดพื้นที่โซนตกแต่งบ้านลดลงในอัตราส่วนที่เท่ากัน

การที่อิเซตันหันมาปรับห้างฯ ครั้งใหญ่ เน้นเรื่องอาหาร เพื่อรักษาฐานลูกค้าเดิมไว้ หลังการเกิดของสยามพารากอน ซึ่งอาจจะทำให้ลูกค้าของทางห้างฯ อิเซตันลดลงหากไม่มีการปรับปรุง โดยปีนี้ได้ตั้งงบไว้ 5 ล้านบาท เพื่อทำสำรวจความคิดเห็นของลูกค้าที่มีต่ออิเซตัน เพื่อวางตำแหน่งของห้างฯ ให้สอดรับกับความต้องการของลูกค้า

นอกจากนี้ การที่กลุ่มซีพีเอ็นเข้ามาบริหารศูนย์การค้าเซ็นทรัล เวิล์ด พลาซ่าเต็มตัวได้ปรับเปลี่ยนร้านค้าชั้นนำในโซนกลาง และสร้างสกายวอล์กเชื่อมทางเข้ารถไฟฟ้าบีทีเอสมายังบริเวณห้างฯ พร้อมขยายลานจอดรถเพิ่มเป็น 5,000 คัน จากเดิมรองรับได้เพียง 3,000 คัน ซึ่งจะช่วยดึงลูกค้าให้เข้ามาเพิ่มขึ้นก็เป็นปัจจัยกระตุ้นให้อิเซตันต้องเร่งปรับตัว

ด้านแผนงานในปีนี้ ทางอิเซตันได้เพิ่มการลงทุนอีกกว่า 800 ล้านบาท ทำให้ทุนจดทะเบียนเพิ่มขึ้นเป็น 1,100 ล้านบาท คาดว่าจะสามารถเติบโตจากปีที่ผ่านมา 8% โดยสิ้นปีจะมียอดรายได้รวม 200 ล้านบาท แบ่งเป็นกำไร 10 ล้านบาท

ล่าสุด ห้างสรรพสินค้าอิเซตันเตรียมจัดงาน “อาโอโมริ เจแปน แฟร์ 2005” ระหว่างวันที่ 4 – 13 กุมภาพันธ์นี้ ณ ชั้น 5 ของห้างสรรพสินค้าอิเซตัน โดยนำเข้าผลิตภัณฑ์อาหารทะเลและผลไม้ที่มีชื่อเสียงของจังหวัดอาโอโมริ ประเทศญี่ปุ่น มาจำหน่ายในราคาพิเศษ พร้อมทั้งสาธิตการทำอาหารญี่ปุ่นแบบต้นตำรับ สาธิตงานศิลปหัตถกรรม และการแสดงสึการุชามิเซ็งโดยคณะนาฏศิลป์มิรัย โดยคาดว่าจะได้รับความสนใจจากกลุ่มผู้บริโภคชาวไทยเพิ่มขึ้นกว่า 20%

นายมาซาโนริ ฮิวะตาริ ผู้จัดการฝ่ายบริหารงานบริการและจัดซื้อ บริษัท อิเซตัน (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า องค์การส่งเสริมการค้าต่างประเทศของญี่ปุ่นหรือเจโทร (Japan External Trade Organization – JETRO) ระบุว่า ในปี 2546 ประเทศไทยนำเข้าสินค้าอาหารจากญี่ปุ่นเป็นอันดับที่ 6 โดยมีมูลค่าการนำเข้า 141,146 พันดอลลาร์ หรือเพิ่มขึ้นถึง 167% จากปี 2532 ที่มีมูลค่าการนำเข้า 84,346 พันดอลลาร์ โดยสินค้าหลัก ได้แก่ ปลาทูน่า ปลาโอ ปลาแซลมอน ปลาเทร้าท์ ซึ่งคาดว่าปีนี้แนวโน้มการนำเข้าต้องเพิ่มขึ้นอีก

ตลาดอาหารญี่ปุ่นในประเทศไทยขยายตัวอย่างรวดเร็วตั้งแต่เมื่อ 3 – 4 ปีมานี้ และจากกระแสความนิยมในการบริโภคของคนไทย ทำให้ผู้ประกอบการร้านอาหารญี่ปุ่นแข่งขันกันมากขึ้น จนปีที่ผ่านมาธุรกิจร้านอาหารญี่ปุ่นที่มีมูลค่าตลาดรวมประมาณ 3,500 ล้านบาท เติบโตสูงถึง 20 – 25% โดยบริษัท ไดโช (ประเทศไทย) จำกัด นับเป็นผู้นำตลาดในธุรกิจนำเข้าและจัดจำหน่ายตามซูเปอร์มาร์เก็ตและห้างสรรพสินค้า และมองว่าตลาดนี้ยังมีโอกาสเติบโตอีกมาก เพราะมีผู้นิยมบริโภคอาหารญี่ปุ่นเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มคนรุ่นใหม่

การจัดงานในครั้งนี้เป็นกิจกรรมที่อิเซตันจัดเข้ามาเพิ่มสีสันให้ตลาดอาหารญี่ปุ่นได้รับความสนใจจากผู้บริโภคชาวไทย โดยได้รับการสนับสนุนจากเจโทรและหน่วยงานต่างๆ ซึ่งปกติอิเซตันมีสัดส่วนลูกค้าไทย 50% ญี่ปุ่น 25% และชาวต่างชาติอื่นๆ 25% มั่นใจว่างานนี้จะช่วยขยายตลาดอาหารญี่ปุ่นไปยังฐานลูกค้าไทยได้อีกไม่ต่ำกว่า 20% และตลอดช่วง 10 วันที่จัดงานคาดว่าจะทำให้ยอดขายรวมของสินค้าซุปเปอร์มาร์เก็ตเพิ่มขึ้น 30%
กำลังโหลดความคิดเห็น