เชอรีล่อนผุดแผน5ปีวางหมาก ล้างภาพความเป็นถุงน่อง ผันตัวขึ้นกลุ่มสินค้าแฟชั่น เล็งแตกไลน์สินค้าใหม่เครื่องสำอาง-เสื้อผ้า เจาะกลุ่มระดับไฮเอนด์ ปูพรมสร้างขาใหม่ลงตลาดกลางปี ” แดนซ์ เมท”ยึดหัวหาดชุดเต้น-ออกกำลังกาย ทุ่มงบตลาด10 ล้านบาท ส่งเชอรีล่อน อินทิเมทแทรกซึมตลาดชุดชั้นใน ประเดิมจัดแฟชั่นโปรโมตแบรนด์ให้เป็นที่รู้จัก สิ้นปีกวาดรายได้รวม 500 ล้านบาท ส่วน 5 ปีขอ1,000 ล้านบาท
นายพิภพ โชควัฒนา กรรมการผู้จัดการ บริษัท นิวซิตี้ (กรุงเทพ) จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตและจำหน่ายถุงน่อง เชอรีล่อน และชุดชั้นใน เชอรีล่อน อินทิเมท เปิดเผยว่า บริษัทมีแผนจะแตกไลน์สินค้าใหม่ภายใต้แบรนด์”เชอรีล่อน”ซึ่งมีภาพลักษณ์และจุดขายเป็นที่รู้จักว่าเป็นกลุ่มสินค้าแนวแฟชั่น โดยวางเป้าหมายภายในระยะ 5 ปี ยอดขายโดยรวมของเชอรีล่อนทั้งเครือไว้ที่ 1,000 ล้านบาท จากนั้นบริษัทถึงจะแตกไลน์ไปสู่กลุ่มผลิตภัณฑ์อื่นๆ ทั้งนี้กลุ่มสินค้าที่มีความเป็นไปได้สูงและบริษัทกำลังอยู่ระหว่างศึกษา จะเป็นกลุ่มเสื้อผ้าและเครื่องสำอาง โดยจะจับกลุ่มเป้าหมายระดับไฮเอนด์เป็นหลัก
“จากนี้เรามีแผนจะสร้างแบรนด์เชอรีล่อนให้มีความแข็งแกร่ง และออกสินค้าใหม่ๆอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างตลาดสำหรับคนรุ่นใหม่ ซึ่งที่ผ่านกลุ่มเป้าหมายมองว่าเชอรีล่อนเป็นแบรนด์สำหรับคนรุ่นเก่า โดยล่าสุดบริษัทได้นำเชอรีล่อน อินทิเมท เข้าสู่ตลาดชุดชั้นใน ประกอบด้วย เสื้อทับ กางเกงใน บอดี้สูท บอดดี้สต็อกกิ้ง ถุงน่อง สายเดี่ยว เพื่อขยายฐานลูกค้าไปสู่กลุ่มเป้าหมายใหม่และคนรุ่นใหม่
นายพิภพ กล่าวว่า การทำตลาดเชอรีล่อนในเวลานี้ บริษัทต้องการทำตลาดสินค้าใหม่ที่ออกมาให้แข็งแกร่งก่อน โดยเฉพาะเชอรีล่อน อินทิเมทเนื่องจากหลังจากที่เปิดตัวเมื่อปลายปี2547 แต่ลูกค้าทั่วไปยังติดภาพของเชอรีล่อนว่าคือถุงน่องมากกว่าที่จะนึกถึงแผนกชุดชั้นใน ดังนั้นในช่วงต้นปีนี้บริษัทจึงได้วางแผนสร้างภาพลักษณ์ความเป็นชุดชั้นในให้มีความชัดเจนขึ้น
ล่าสุดทุ่มงบ 2 ล้านบาท จากงบการตลาดรวมทั้งปี 10 ล้านบาท จัดแฟชั่นโชว์แนะนำตัวสินค้า พร้อมแนะนำดีไซน์ใหม่ๆที่จะวางจำหน่ายเร็วๆนี้ให้ลูกค้าได้ชม ซึ่งมั่นใจว่าแฟชั่นโชว์จะเป็นอีกกิจกรรมหนึ่งที่ช่วยเสริมความชัดเจนของโพซิชั่นนิ่งในความเป็นชุดชั้นในให้แบรนด์เชอรีล่อน อินทิเมท นอกจากนี้เพื่อเป็นการรุกและขยายตลาดอย่างต่อเนื่อง ไตรมาสแรกของปีนี้ เชอรีล่อน อินทิเมท ได้นำดีไซน์ใหม่ๆเข้าไปเสริมกับสินค้าเดิมโดยจะลอนช์แบบใหม่ๆทุกๆ3เดือน ขณะที่ดีไซน์เดิมบางคอลเลกชั่นบริษัทจะไม่ผลิตซ้ำ
อีกทั้งยังได้เตรียมขยายจุดขายเพิ่มอีก 5 แห่ง จากปัจจุบันมีทั้งหมด 5 แห่ง ได้แก่ เซ็นทรัล ชิดลม บางนา ปิ่นเกล้า สีลม คอมเพล็กซ์ และเซน โดยคาดว่าปลายเดือนมกราคมนี้จะสามารถเปิดจุดขายได้อีก 2 แห่ง ได้แก่ เดอะมอลล์ บางกะปิและงามวงศ์วาน อีกทั้งยังได้เตรียมจะรุกขยายตลาดต่างประเทศภายในปีนี้ โดยเป้าหมายจะรุกตลาดเอเชียเป็นภูมิภาคแรก
“แต่ละจุดขาย เราตั้งเป้าการขายแตกต่างกัน บางแห่งยอมรับว่าตัวเลขยังไม่ถึงเป้า แต่ถ้าเป็นเป้ารวม เราถือว่าประสบความสำเร็จ มีตัวเลขเป็นที่น่าพอใจ โดยสัดส่วนของประเภทสินค้าที่ได้รับความนิยมสนใจมากที่สุด จะเป็นกลุ่มสินค้าแฟชั่น รองลงมาคือ กลุ่มสินค้าที่ช่วยกระชับรักษารูปร่าง ทั้งนี้วางเป้าหมายว่าภายหลังจากรุกขยายตลาดต่างประเทศและภายในประเทศยอดขายในปีแรก100ล้านบาท”
นายพิภพ กล่าวว่า ภายในกลางปีนี้บริษัทยังได้เตรียมออกสินค้าภายใต้แบรนด์ แดนซ์ เมท (Dance Mate) เป็นชุดสำหรับเต้นและออกกำลังกาย ซึ่งสินค้าเกี่ยวกับเต้น อาทิ บัลเล่ต์ ก่อนหน้านี้บริษัทได้พัฒนาและวางจำหน่ายสินค้ามานานแล้วแต่สินค้าใหม่ดังกล่าวนี้ จะเจาะตลาดกลุ่มที่ออกกำลังกายมากกว่า เนื่องจากเป็นตลาดที่มีทิศทางการเติบโตที่ดีด้วยผู้บริโภคปัจจุบันให้ความสำคัญกับการออกกำลังกายเพิ่มมากขึ้น
ผลประกอบปีนี้บริษัทได้ตั้งเป้าหมายจะมียอดขายเติบโตขึ้น 10% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว หรือมียอดขายประมาณ 500 ล้านบาท ขณะเดียวกันเชื่อว่าภาพรวมของตลาดในปีนี้ก็น่าจะเติบโตขึ้นประมาณ 10% เช่นกัน เนื่องจากบริษัทเองในฐานะผู้นำตลาดที่มีส่วนแบ่งตลาด85% ของมูลค่าตลาดรวมในปัจจุบัน 600 ล้านบาท ได้รุกตลาดต่อเนื่องจากปีที่แล้ว รวมทั้งแนวโน้มของตลาดมีอยู่แล้วด้วยแฟชั่นกระโปรงสั้นมาแรง
นายพิภพ โชควัฒนา กรรมการผู้จัดการ บริษัท นิวซิตี้ (กรุงเทพ) จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตและจำหน่ายถุงน่อง เชอรีล่อน และชุดชั้นใน เชอรีล่อน อินทิเมท เปิดเผยว่า บริษัทมีแผนจะแตกไลน์สินค้าใหม่ภายใต้แบรนด์”เชอรีล่อน”ซึ่งมีภาพลักษณ์และจุดขายเป็นที่รู้จักว่าเป็นกลุ่มสินค้าแนวแฟชั่น โดยวางเป้าหมายภายในระยะ 5 ปี ยอดขายโดยรวมของเชอรีล่อนทั้งเครือไว้ที่ 1,000 ล้านบาท จากนั้นบริษัทถึงจะแตกไลน์ไปสู่กลุ่มผลิตภัณฑ์อื่นๆ ทั้งนี้กลุ่มสินค้าที่มีความเป็นไปได้สูงและบริษัทกำลังอยู่ระหว่างศึกษา จะเป็นกลุ่มเสื้อผ้าและเครื่องสำอาง โดยจะจับกลุ่มเป้าหมายระดับไฮเอนด์เป็นหลัก
“จากนี้เรามีแผนจะสร้างแบรนด์เชอรีล่อนให้มีความแข็งแกร่ง และออกสินค้าใหม่ๆอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างตลาดสำหรับคนรุ่นใหม่ ซึ่งที่ผ่านกลุ่มเป้าหมายมองว่าเชอรีล่อนเป็นแบรนด์สำหรับคนรุ่นเก่า โดยล่าสุดบริษัทได้นำเชอรีล่อน อินทิเมท เข้าสู่ตลาดชุดชั้นใน ประกอบด้วย เสื้อทับ กางเกงใน บอดี้สูท บอดดี้สต็อกกิ้ง ถุงน่อง สายเดี่ยว เพื่อขยายฐานลูกค้าไปสู่กลุ่มเป้าหมายใหม่และคนรุ่นใหม่
นายพิภพ กล่าวว่า การทำตลาดเชอรีล่อนในเวลานี้ บริษัทต้องการทำตลาดสินค้าใหม่ที่ออกมาให้แข็งแกร่งก่อน โดยเฉพาะเชอรีล่อน อินทิเมทเนื่องจากหลังจากที่เปิดตัวเมื่อปลายปี2547 แต่ลูกค้าทั่วไปยังติดภาพของเชอรีล่อนว่าคือถุงน่องมากกว่าที่จะนึกถึงแผนกชุดชั้นใน ดังนั้นในช่วงต้นปีนี้บริษัทจึงได้วางแผนสร้างภาพลักษณ์ความเป็นชุดชั้นในให้มีความชัดเจนขึ้น
ล่าสุดทุ่มงบ 2 ล้านบาท จากงบการตลาดรวมทั้งปี 10 ล้านบาท จัดแฟชั่นโชว์แนะนำตัวสินค้า พร้อมแนะนำดีไซน์ใหม่ๆที่จะวางจำหน่ายเร็วๆนี้ให้ลูกค้าได้ชม ซึ่งมั่นใจว่าแฟชั่นโชว์จะเป็นอีกกิจกรรมหนึ่งที่ช่วยเสริมความชัดเจนของโพซิชั่นนิ่งในความเป็นชุดชั้นในให้แบรนด์เชอรีล่อน อินทิเมท นอกจากนี้เพื่อเป็นการรุกและขยายตลาดอย่างต่อเนื่อง ไตรมาสแรกของปีนี้ เชอรีล่อน อินทิเมท ได้นำดีไซน์ใหม่ๆเข้าไปเสริมกับสินค้าเดิมโดยจะลอนช์แบบใหม่ๆทุกๆ3เดือน ขณะที่ดีไซน์เดิมบางคอลเลกชั่นบริษัทจะไม่ผลิตซ้ำ
อีกทั้งยังได้เตรียมขยายจุดขายเพิ่มอีก 5 แห่ง จากปัจจุบันมีทั้งหมด 5 แห่ง ได้แก่ เซ็นทรัล ชิดลม บางนา ปิ่นเกล้า สีลม คอมเพล็กซ์ และเซน โดยคาดว่าปลายเดือนมกราคมนี้จะสามารถเปิดจุดขายได้อีก 2 แห่ง ได้แก่ เดอะมอลล์ บางกะปิและงามวงศ์วาน อีกทั้งยังได้เตรียมจะรุกขยายตลาดต่างประเทศภายในปีนี้ โดยเป้าหมายจะรุกตลาดเอเชียเป็นภูมิภาคแรก
“แต่ละจุดขาย เราตั้งเป้าการขายแตกต่างกัน บางแห่งยอมรับว่าตัวเลขยังไม่ถึงเป้า แต่ถ้าเป็นเป้ารวม เราถือว่าประสบความสำเร็จ มีตัวเลขเป็นที่น่าพอใจ โดยสัดส่วนของประเภทสินค้าที่ได้รับความนิยมสนใจมากที่สุด จะเป็นกลุ่มสินค้าแฟชั่น รองลงมาคือ กลุ่มสินค้าที่ช่วยกระชับรักษารูปร่าง ทั้งนี้วางเป้าหมายว่าภายหลังจากรุกขยายตลาดต่างประเทศและภายในประเทศยอดขายในปีแรก100ล้านบาท”
นายพิภพ กล่าวว่า ภายในกลางปีนี้บริษัทยังได้เตรียมออกสินค้าภายใต้แบรนด์ แดนซ์ เมท (Dance Mate) เป็นชุดสำหรับเต้นและออกกำลังกาย ซึ่งสินค้าเกี่ยวกับเต้น อาทิ บัลเล่ต์ ก่อนหน้านี้บริษัทได้พัฒนาและวางจำหน่ายสินค้ามานานแล้วแต่สินค้าใหม่ดังกล่าวนี้ จะเจาะตลาดกลุ่มที่ออกกำลังกายมากกว่า เนื่องจากเป็นตลาดที่มีทิศทางการเติบโตที่ดีด้วยผู้บริโภคปัจจุบันให้ความสำคัญกับการออกกำลังกายเพิ่มมากขึ้น
ผลประกอบปีนี้บริษัทได้ตั้งเป้าหมายจะมียอดขายเติบโตขึ้น 10% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว หรือมียอดขายประมาณ 500 ล้านบาท ขณะเดียวกันเชื่อว่าภาพรวมของตลาดในปีนี้ก็น่าจะเติบโตขึ้นประมาณ 10% เช่นกัน เนื่องจากบริษัทเองในฐานะผู้นำตลาดที่มีส่วนแบ่งตลาด85% ของมูลค่าตลาดรวมในปัจจุบัน 600 ล้านบาท ได้รุกตลาดต่อเนื่องจากปีที่แล้ว รวมทั้งแนวโน้มของตลาดมีอยู่แล้วด้วยแฟชั่นกระโปรงสั้นมาแรง