xs
xsm
sm
md
lg

จดหมายเปิดผนึกถึงหัวหน้าพรรค

เผยแพร่:   โดย: ปราโมทย์ นาครทรรพ

เรียน คุณบรรหาร คุณบัญญัติ คุณทักษิณ และคุณเอนก ที่นับถือ

ผมถือโอกาสสวัสดีปีใหม่ และขอพรให้ทุกท่านสุขภาพแข็งแรง และมีความสมหวัง อย่างน้อยอย่าให้เซ็งเหมือนผมตอนถูกถามว่า ถ้ามองจากวิสัยทัศน์ คุณภาพของหัวหน้าพรรคเป็นเกณฑ์แล้ว เขาควรจะเลือกพรรคใดดี ผมไม่รู้จะตอบเขาว่าอย่างไร ผมโกรธตัวเองที่ไม่สามารถฟันธงได้ ทั้งๆที่ผมรู้จักประวัติและผลงานทั้งในและนอกวงการเมืองของท่านทุกคนพอสมควร

ผู้ลงคะแนนเสียงเลือกตั้งเมืองไทย ขาดฐานความคิด ขาดข้อมูลข้อเท็จจริง ไม่มีความรู้แจ้งพอเพียงในการเลือก ทำให้ตัดสินใจตามอำนาจของอามิสบ้าง เฮโลไปตามกระแสบ้าง ตามความเกลียด ความรักหรืออุปาทานของแต่ละกลุ่มแต่ละคนบ้าง อันจะยังให้ผลการเลือกตั้งทั่วไปครั้งที่ ๒๑ ของเมืองไทย มีความหมายน้อยลง และมีความเสี่ยงมากขึ้น

ผมขออภัยที่เรียงลำดับท่านตามอาวุโสของการเข้าสู่การเมือง คุณบรรหารซึ่งเป็นสมาชิกสภานิติบัญญัติสนามม้าพร้อมกับผมปี ๒๕๑๗ จึงขึ้นต้น ความจริงการเปรียบเทียบผู้นำโดยละเอียดทุกแง่ทุกมุม รวมทั้งสถิติและสรุปสั้นๆเชิงวิเคราะห์จะทำให้สังคมและผู้ลงคะแนนได้รับแสงสว่างเพิ่มขึ้น แม้แต่การพูดอย่าง-ทำอย่างของผู้นำ การติดยากล่อมประสาท ความพิศวาสอีหนู หรือการบ่นว่าเป็นฝ่ายค้านอดอยากปากแห้งแทบตาย เป็นสิ่งที่ประชาชนมีสิทธิจะต้องรับรู้ ผู้นำการเมืองสวีเดนคนหนึ่งกำลังจะขึ้นแท่นรับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ต้องลาออกและล้างมือการเมืองไปเลย เนื่องจากหยิบบัตรเครดิตผิด จ่ายเงินพันกว่าบาทเป็นค่านมลูก โดยใช้บัตรค่าใช้จ่ายประจำตำแหน่งราชการ

ความจริงผู้เลือกตั้งเมืองไทยมิใช่คนโง่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งชาวกรุงเทพฯได้ตัดสินใจอย่างน่าทึ่งหลายคราวทั้งๆที่ข้อมูลไม่เพียงพอ คราวนี้ หลัง ๔ ปีของรัฐบาลประเภทปะฉะดะที่มีเสถียรภาพอยู่ครบเทอมเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์การเมืองไทย ประชาชนรู้ไหมว่า ระบบพรรคการเมืองไทยมิได้พัฒนาขึ้นเลย เสียงข้างมากเด็ดขาดมิได้หมายความว่าประสิทธิภาพในการออกกฎหมาย เพราะออกกฏหมายได้ไม่กี่ฉบับ แม้จะป้องกันมิให้สภาล่มก็ยังทำไม่ได้ มิหนำซ้ำพระเจ้าอยู่หัวไม่ทรงลงพระปรมาภิไธยร่างพ.ร.บ.ถึง ๒ ฉบับ เรื่องอย่างนี้ไม่เคยมีมาก่อนเลย แม้แต่ในรัฐบาลผสมที่อ่อนแอ

ความล้มเหลวของการศึกษาการเมืองนี้ ถ้าไม่โทษผู้นำ หรือพรรคการเมือง หรือรัฐบาลนั่นแหละ แล้วจะโทษใคร ผมเคยตั้งข้อสังเกตหลายหนแล้วว่า เอกสารสำคัญของพรรคการเมืองไทยทุกพรรค สู้เอกสารของสมาคมชาวนาอังกฤษไม่ได้ด้วยซ้ำ

ยังมีผู้ที่สมควรได้รับตำหนิอีกนั่นก็คือ นักวิชาการ-อาจารย์มหาวิทยาลัย สื่อมวลชนทั้งประเภทภาพ-เสียงและตีพิมพ์ แม้กระทั่งผู้นำทางความคิดที่รับสมอ้างว่าเป็นมโนธรรมของสังคม ทั้งหมดขี้เกียจและละเลยหน้าที่ที่จะเสนอข้อเท็จจริงและคำอธิบายที่มีความหมายให้แก่สังคม

กกต.ก็ด้วย ผมในฐานะผู้มีสิทธิเลือกตั้งได้รับเอกสารจากกก.ต.ให้ข้อมูลเปรียบเทียบ

เกี่ยวกับพรรค และตีพิมพ์นโยบายที่เป็นทางการของพรรค ดังนี้

1.สร้างโอกาสให้ประชาชนมีปัจจัย 4 ครบ เพื่อชีวิตที่มั่นคง 2.แปลงสินทรัพย์เป็นทุน มีแผงลอย มีที่ทำกินเพื่อสร้างรายได้ 3. สร้างโอกาสให้ทุกหมู่บ้าน ทุกชุมชนมีอำนาจพัฒนาแก้ไขปัญหาได้ด้วยงบ SML 4.สร้างปัญญาให้เด็กไทยทุกคนเรียนถึงมหาวิทยาลัย 5.สร้างโอกาสทางสังคมให้เยาวชนปลอดภัย ปลอดยาเสพติด (ไทยรักไทย) ปลดหนี้ เรียนฟรี รักษาฟรี มีโฉนดทำกิน มีทุนการเกษตร มีสวัสดิการผู้สูงอายุ เลิกหัวคิวแรงงาน ต่อต้านเผด็จการสายพันธุ์ใหม่ ขจัดทุจริตคอร์รัปชัน (มหาชน) สร้างคน สร้างอนาคต เรียนฟรี ฟรีทุกอย่าง อนุบาลถึง ม. 6 เรียนจบมีงานทำ ประกันว่างาน 1 ปี ล้างหนี้ด้วยงาน ปลูกป่าเพิ่มรายได้ ฯลฯ 60 ปีมีเบี้ยเลี้ยง เบี้ยยังชีพเดือนละพัน รักษาฟรีมีคุณภาพ (ประชาธิปัตย์) สัจจะนิยม สร้างสังคมให้สมดุล-พูดในสิ่งที่เป็นจริง-เสนอในสิ่งที่เป็นไปได้-มุ่งหมายในสิ่งที่เป็นธรรม (ชาติไทย)

ดูแล้วปวดหัวใจ ไม่รู้ว่าแตกต่างกันตรงไหน ไม่รู้ว่าเป็นนโยบายได้อย่างไร ผมเองก็ล้มเหลวที่ไม่รู้ไม่เข้าใจว่า บ้านนี้เมืองนี้เขาสอนวิชารัฐศาสตร์หรือหน้าที่พลเมืองกันอย่างไร แม้แต่พรรคการเมืองที่เคยปกครองประเทศยังเพี้ยนได้ถึงเพียงนี้ ถ้อยคำของบางพรรคถึงกับติดสินบนเอาดื้อๆ ถ้าหากห้ามไม่ให้ผู้สมัครสัญญาอย่างนั้นอย่างนี้ เหตุไฉน พรรคจึงสัญญาได้เล่า

นโยบายพรรคการเมืองคืออะไร เอาสั้นๆก็คือพิมพ์เขียวสำหรับการสร้างชาติและสังคมตามความเชื่อและปณิธานของพรรค แล้วแต่อุดมการณ์ องค์ประกอบ และกลุ่มประชาชนที่สนับสนุนพรรค นโยบายต้องผ่านขบวนการกลั่นกรองสองทางและสวนทางจากข้างบนถึงข้างล่าง จากข้างล่างถึงข้างบน ผ่านจุดเชื่อมระหว่างทางและกลางทาง คือ สมาชิกพรรค สมัชชาของ กรรมการพรรค คณะทำงานพรรค ฯลฯ ด้วยกาลเวลาและขั้นตอนต่างๆอยู่เป็นประจำ มิใช่เลือกตั้งทีก็คิดขึ้นมาใหม่ที ซ้ำบางพรรคยังขัดกับของเก่าหน้ามือเป็นหลังมือ

ทุกพรรคของเราแข่งกันขายสีสันโปสเตอร์ ภาพหัวหน้า คำขวัญและสโลแกนของพรรค ไม่ต่างกับการโฆษณาขายสินค้าทั่วไป เป็นเรื่องที่ฉาบฉวยอย่างลึกซึ้ง คนซื้อก็เห็นแต่ยี่ห้อกับกล่อง ไม่รู้ว่ามีอะไรอยู่ข้างใน อาทิ ไม่มีข้อมูลว่าใครเคยอยู่พรรคไหน ย้ายพรรคกี่ครั้ง ใครกำลังถูกฟ้องล้มละลายและฉ้อโกงอยู่กี่ศาล ใครเคยถูกศาลตัดสินแล้วว่าผิดเรื่องการซื้อเสียง รอลงอาญา เลยหน้าด้านแบบไทย ทั้งพรรคทั้งคน ใครคือกลุ่ม 16 ที่เคยพากันปั่นที่ดินถล่มธนาคาร เวลานี้อยู่พรรคไหน ยังมีอีกหลายเรื่องเหลือเกินที่มิใช่กรณีปลีกย่อยโดดๆ แต่เป็นพฤติกรรมทรามเป็นกลุ่มๆ ฯลฯ

ระบบพรรคการเมืองไทยยังด้อยพัฒนา พรรคการเมือง ทำตนเสมือนแก๊งเลือกตั้ง หรือกลุ่มทำมาหากินบางประเภท ต่างกันแต่ไม่ตระโกน “ไอ้เสือเอาวา”เหมือนเมื่อก่อนเท่านั้น บารมี อันเกิดแต่อำนาจและความมั่งคั่งนั้นเป็นของชั่วคราว พรรคการเมืองที่อาศัยบารมีของหัวหน้าเป็นเครื่องมือระดมผู้คน ไม่มีทางจะหลีกเลี่ยง พวก“เสือสิงห์กระทิงแรด-ร้อยพ่อพันแม่” ที่เข้ามากลุ้มรุมห้อมล้อมตามวัฒนธรรม “ชนะไหนเข้าด้วยช่วยกระพือ”ได้ พวกที่ผิดหวังก็เร่ไปที่โน่นที่นี่แหมือนกระสือ

อย่างไรก็ตามเราแทบจะรู้แล้วว่า ใครจะได้เป็นรัฐบาลอีก ผลของการเลือกตั้งคงเป็นไปตามอย่างที่คาดเดา ปัญหาหลักของชาติที่น่าวิตก โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่เป็นปัญหาโครงสร้าง และระบบพฤติกรรมที่ทำลายชาติ แบบที่เคยมีมาแต่ดั้งเดิมก็จะยังดำรงอยู่ ทุกๆพรรคก็คิดและทำเหมือนๆกัน ผมเลยอยากถามท่านหัวหน้าพรรคทั้ง 4 ว่า เรื่องต่อไปนี้ พรรคเข้าใจว่าอย่างไร จะรักษาไว้เหมือนเดิม หรือจะแก้ไขอย่างไร

1.การปฏิรูประบบพรรคการเมือง การสร้างผู้นำการเมือง และการปฏิรูปการเมือง : ยอมรับเถิดนะครับว่าพรรคของท่านด้อยพัฒนา ไม่งั้นสภาจะไม่ล่ม กฎหมายจะไม่ถูกในหลวงส่งคืน เลขาฯที่ร่วมสร้างพรรคจะไม่หายตัว ผัวสมัครพรรคนี้ เมียสมัครพรรคโน้นฯลฯ ผมอยากให้ทุกท่านทำใจอ่านหนังสือของรังสรรค์ ธนะพรพันธุ์ ดู ไม่ต้องไปอ่านหนังสือฝรั่งดอก ผมเห็นใจที่ท่านและพรรคของท่านเป็นส่วนหนึ่งของระบบพรรคการเมืองที่ไม่พัฒนา ท่านจึงต้องตกหลุม พราะท่านต้องการอาศัยมันเป็นเครื่องมือช่วงชิงอำนาจ ท่านอาจจะขยันไต่ไม่หมั่นเพียร ไม่ยอมสร้างเอาแต่ซื้อ เพราะเขาบังคับให้ท่านจดทะเบียนพรรคเหมือนบริษัทรับเหมาเข้าประมูล ผมอยากทราบว่าท่านมีแผนจะปฏิรูปพรรคอย่างไร ให้การศึกษาและสร้างผู้นำพรรค ผู้นำกกลุ่ม(นโยบาย—ไม่ใช่มุ้ง)อย่างไร เวลานี้มีคนห่วงพรรคนายกฯว่าหากท่านมีอันเป็นไป ใครจะเป็นนายกแทนท่านได้ สุริยะ สมศักดิ์ สุวัจน์หรือใครที่อยู่ต้นๆ เพราะว่าสมคิด และคนที่น่าจะพอเป็นได้ถูกคัดไปอยู่บัญชีนอกเสียแล้ว พรรคที่ประกาศ 3 บัญชีนี้ก็จี้สาหัส ไม่เข้าใจรัฐธรรมนูญอย่างจริงใจ หรือจะจงใจก็ไม่รู้ ทุกๆพรรคที่ส่งผู้สมัครที่อายุสมาชิกยังไม่ครบเพราะเพิ่งอกหักมาจากพรรคอื่น แสดงว่ากฎหมายรัฐธรรมนูญ กฎหมายพรรคของเรามันใช้ไม่ได้ ท่านจะแก้มันไหม แก้อย่างไร ท่านมีแผนการปฏิรูปการเมืองอย่างไร

2. การปราบคอร์รัปชัน: นี่เป็นเรื่องที่ในหลวงทรงทุกข์ระทมและสาปแช่งที่สุด เดี๋ยวนี้ คอร์รัปชั่นมันระบาดลงไปถึงรากหญ้า แต่คอร์รัปชั่นระดับบนสุดก็ใช่ว่าจะย่อย มีวิธีทุจริตแต่ไม่ผิดกฎหมายเพิ่มขึ้นมาก เช่น การกำหนดค่าที่ปรึกษา 4-5 พันล้านจากโครงการ 4 หมื่นล้านเป็นต้น เรื่องการทับซ้อนผลประโยชน์ แต่ละพรรคต่างก็อ้อมแอ้ม ครั้นจวนตัวก็ตีโวหาร ผมอยากทราบว่าแต่ละพรรคมีวิธีการและขั้นตอนอย่างไรในการปราบคอร์รัปชั่น มีข้าราชชั้น ซี 10 ขึ้นไปทุกกระทรวงทบวงกรม และสมาคมผู้รับเหมาไทยเสนอวิธีการดีๆ รวมทั้งการให้แยกประเภทและวิธีคอรรัปชั่น โดนอาศัยปากคำของผู้ชำนาญในอดีตที่หมดอายุความหรือรอดตัวมาแล้ว หากพรรคใดยอมออกกฎหมายนิรโทษกรรมพยานจึงจะปราบสำเร็จ ผมอยากถามว่า ท่านจะเอาไหม

3.เวลาและกระดาษไม่พอเสียแล้ว ผมเริ่มเขียนตอน 11 โมงวันจันทร์ ครั้งต่อไป ผมจะถามเรื่องการศึกษาและระบบรวมศูนย์-รวบอำนาจ ที่ทำลายประเทศ ประชาชนและทรัพยากรธรรมชาติ วันนี้ผมจะจบด้วยการถามเรื่องนโยบายต่างประเทศแบบชักน้ำเข้าลึกชักศึกเข้าบ้าน การเป็นลูกกะโล่ให้อเมริกันที่อีรัก กับผลสะท้อนประจำวันในปักษ์ใต้ การให้สิงคโปร์ศิษย์เอกของอิสราเอลในเรื่องการทหารและความมั่นคง และตัวแทนของสหรัฐอเมริกา เข้ามาใช้ฐานทัพไทยโดยไม่มีการปรึกษาประชาชนหรือสภาผู้แทน พรรคใดจะช่วยอธิบายได้ไหมว่าเพราะอะไร ท่านต่างกันอย่างไร หรือเหมือนกัน

ท่านหัวหน้าครับ ช่วยส่งต่อให้ท่านผู้อ่านและประชาชนที่เคารพ ช่วยผมตั้งคำถามและแสวงหาคำตอบแทนพ่อแม่พี่น้องด้วย เพราะเขากำลังจะถูกหลอกอีกแล้ว
กำลังโหลดความคิดเห็น