ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองจะถูกมองว่าเป็นบุคคลที่มีอำนาจและมีภาวะความเป็นผู้นำซึ่ง ไม่เป็นความจริงเสมอไป ผู้อยู่ในตำแหน่งอำนาจบางคนอาจกลายเป็นเพียงหุ่นเชิดและขาดความเป็นผู้นำทางการเมืองโดยสิ้นเชิง
คำถามก็คือภาวะความเป็นผู้นำเป็นอย่างไร
กล่าวได้ว่าบุคคลผู้ซึ่งมีภาวะความเป็นผู้นำทางการเมืองจะต้องมีความกล้าหาญ และมีความรวดเร็วในการตัดสินรวมทั้งการปฏิบัติการเมื่อเกิดปัญหาวิกฤต
คนบางคนมีความเชื่ออย่างผิดๆ ว่าการฟังความเห็นจากทุกฝ่ายและเห็นด้วยกับทุกฝ่าย และไม่ได้มีการตัดสินใจอันใดคือกระบวนการประชาธิปไตย แต่ความจริงคือคนซึ่งขาดความเป็นผู้นำ ไม่กล้าตัดสินใจ บุคคลเช่นนี้จะสร้างความเสียหายต่อองค์กร ต่อสังคมและต่อประเทศชาติอย่างใหญ่หลวงได้
ภาวะความเป็นผู้นำจะประกอบด้วยคุณลักษณะดังต่อไปนี้คือ
ประการแรก มีความเชื่อมั่นว่ามีความรู้และความสามารถที่จะทำงานที่ได้รับมอบหมายให้สำเร็จลุล่วงไปด้วยดี คนที่ขาดความเชื่อมั่นเนื่องจากรู้ตัวดีว่าไม่มีความรู้ ขาดประสบการณ์ ถึงแม้จะเสแสร้างวางทีท่าว่ามีความเชื่อมั่น มีความรู้ มีความสามารถ ผลสุดท้ายการแสดงความคิดเห็นก็ดี การกระทำก็ดี ก็จะเปิดเผยความจริงออกมาว่าเป็นบุคคลซึ่งขาดความรู้ ขาดประสบการณ์ ขาดความเข้าใจต่อปัญหา และการแก้ปัญหา ความเชื่อมั่นจะเกิดขึ้นได้ด้วยความรู้และประสบการณ์การทำงาน นักวิชาการที่มีแต่ทฤษฎีอยู่บนหอคอยงาช้างอาจเป็นนักบริหารที่ล้มเหลว
ด้วยเหตุนี้จึงมีการนล้อเลียนนักวิชาการอยู่เนืองๆ ว่า ขาดประสบการณ์ มีแต่ทฤษฎี และชอบพูดวิชาการแบบนักวิชาเกิน อย่างไรก็ตาม ก็เคยปรากฏนักวิชาการที่สามารถทำงานบริหารได้อย่างดีเยี่ยม ในกรณีเช่นนั้นก็จะได้เปรียบบุคคลอื่นเพราะมีความรู้ทางทฤษฎี และสามารถนำไปปฏิบัติได้เป็นอย่างดี
ทางออกสำหรับผู้บริหารที่ขาดความรู้และประสบการณ์ ก็คือการจ้างผู้เชี่ยวชาญไว้เป็นที่ปรึกษา ซึ่งก็เป็นทางเลือกทางหนึ่งแต่ต้องระมัดระวัง 3 เรื่องด้วยกัน เรื่องที่หนึ่ง ผู้ที่ให้คำปรึกษาอาจจะทำหน้าที่เป็นผู้ทำการตัดสินใจเอง แทนที่จะให้ข้อมูล ทางออก ทางเลือก แต่กลับเป็นการยื่นคำขาดข้อปรึกษาของตนโดยขู่ว่าจะลาออกถ้าไม่ปฏิบัติตามข้อเสนอ ที่ปรึกษาเช่นนี้เป็นที่ปรึกษาที่ใช้ไม่ได้เพราะมองบทบาทของตนผิด
เรื่องที่สอง ที่ปรึกษาอาจจะไม่ใช่ที่ปรึกษาที่มีความรู้อย่างแท้จริง รวมทั้งมีผลประโยชน์เกี่ยวข้อง ใช้ประโยชน์จากตำแหน่งเพื่อผลประโยชน์ของตนและพรรคพวก
เรื่องที่สาม ถ้าผู้นำผู้นั้นต้องอาศัยที่ปรึกษาอย่างมากมิฉะนั้นจะทำงานไม่ได้ ก็จะถูกครอบงำโดยที่ปรึกษาอย่างเต็มที่ อาจจำเป็นต้องตัดสินใจในสิ่งซึ่งไม่ถูกต้องไม่เหมาะไม่ควร ผลเสียก็จะตกแก่ส่วนรวมอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ประการที่สอง บุคคลที่สามารถจะแสดงภาวะความเป็นผู้นำจะต้องมีความกล้าหาญในการตัดสินใจ และเมื่อตัดสินใจด้วยความกล้าหาญแล้ว ก็ต้องปฏิบัติการอย่างรวดเร็วและฉับพลัน มหาเศรษฐีที่เป็นนักธุรกิจใหญ่ๆ ส่วนใหญ่มีความกล้าหาญที่จะเสี่ยง คนซึ่งต้องการความมั่นคงร้อยเปอร์เซ็นต์ในการประกอบธุรกิจโดยไม่ยอมเสี่ยงอันใด จะเป็นได้อย่างมากคือเจ้าของร้านของชำเท่านั้น จะไม่สามารถขยับไปสู่การเป็นเจ้าของห้างสรรพสินค้าใหญ่ๆ ได้
อย่างไรก็ตาม การเสี่ยงจะต้องเป็นการเสี่ยงที่คิดคำนวณถึงผลได้ผลเสีย และโอกาสของความสำเร็จต้องสูง ไม่ใช่เป็นการเสี่ยงแบบเล่นการพนัน เพราะนั่นขึ้นอยู่กับโชคชะตามากกว่าการควบคุมของตนเอง คนที่อยู่ในตำแหน่งบางคนไม่สามารถจะมีวิจารณญาณในการตัดสินใจอะไรได้ บุคคลเหล่านี้ไม่มีทางที่จะมีความกล้าหาญในการตัดสินใจซึ่งเกี่ยวข้องกับเรื่องใหญ่ๆ ผู้นำเช่นนี้เป็นผู้นำที่อ่อนแอ
พระราชาหรือจักรพรรดิ์ที่อ่อนแอที่ตกอยู่ภายใต้อิทธิพลของสตรีหรือขันทีในวัง ต้องเฝ้ามองการล่มสลายของอาณาจักรโดยไม่สามารถจะทำอะไรได้ ผู้บริหารที่มีนิสัยของนักบริหารต้องปฏิบัติตามขั้นตอนของระบบราชการอย่างเคร่งครัด รอรับรายงานจากผู้อยู่ใต้บังคับบัญชา จะเป็นผู้นำที่กล้าหาญและฉับพลันไม่ได้
ประการที่สาม บุคคลที่เป็นผู้นำได้นั้นจะต้องมีจริยธรรมและศีลธรรม ในส่วนของจริยธรรมและศีลธรรมเป็นเรื่องที่เกี่ยวพันกับความชอบธรรมทางการเมือง และความชอบธรรมแห่งอำนาจ ผู้นำใดก็ตามที่มีจริยธรรมและหลักการทางศีลธรรมเป็นเครื่องชี้นำ ย่อมจะมีความเชื่อมั่นว่าสิ่งที่กำลังทำอยู่นั้นเป็นสิ่งที่ถูกต้อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าสิ่งที่กระทำนั้นกระทำด้วยความบริสุทธิ์ใจ เพื่อประโยชน์ของสังคมและคนส่วนใหญ่ ดังนั้น ความรู้สึกเรื่องภารกิจอันศักดิ์สิทธิ์ก็ดี การทำหน้าที่ตามอุดมการณ์อุดมคติก็ดี จะช่วยเสริมความเชื่อมั่นและภาวะความเป็นผู้นำทางการเมืองของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองมากยิ่งขึ้น
ประการสุดท้าย บุคคลที่จะมีภาวะความเป็นผู้นำทางการเมือง คนเห็นแล้วเกิดความศรัทธาและเกิดความเชื่อมั่น ก็คือบุคลิกลักษณะ คนซึ่งเป็นคนพิกลพิการย่อมจะเสียเปรียบ ประธานาธิบดีอเมริกันผู้หนึ่งต้องนั่งเก้าอี้เข็น และสั่งงานจากเก้าอี้เข็น ซึ่งหมายความว่า ตราบเท่าที่สมองยังทำงานได้และมีกลไกการบริหารครบถ้วน การที่จะรับงานสำคัญในการบริหารระดับประเทศแม้จะมีอุปสรรคจากสภาวะทางร่างกาย ก็ยังสามารถทำงานได้
อย่างไรก็ตาม ภาพของผู้นำที่นั่งอยู่บนเก้าอี้เข็นก็ไม่ถูกเปิดเผยต่อสาธารณะบ่อยครั้งนัก นอกเหนือจากนั้นเสียงที่เปล่งออกมาจากผู้นำก็จะช่วยเสริมภาวะความเป็นผู้นำของบุคคลนั้นได้ ในหลักรัฐศาสตร์อำนาจการเมืองมาจากการที่สามารถเอาความคิดไปใส่ในสมองและหัวใจของผู้อื่นให้เขาเห็นด้วย เมื่อเป็นเช่นนั้นฝีปากในการพูดจาซึ่งมาจากบุคลิกที่น่านับถือและน่าศรัทธา มีเสียงดังกังวาน จะมีส่วนช่วยความเป็นผู้นำของบุคคลนั้นๆ
ที่กล่าวมาทั้งหมดเบื้องต้นสรุปได้คำเดียวในภาษาไทย นั่นคือคำว่า บารมี บุคคลที่จะเป็นผู้นำและมีภาวะความเป็นผู้นำต้องเป็นบุคคลที่มีบารมี ซึ่งหมายถึง ความเป็นที่ยอมรับของคนโดยทั่วไปในด้านต่างๆ ตั้งแต่บุคลิก ความสามารถ น้ำเสียงที่ก้องกังวาน ความเชื่อและศรัทธาว่าเป็นคนดี มีหลักการ และมีจริยธรรมและศีลธรรม นอกจากนี้ยังมีความเชื่อด้วยว่า บารมีเกิดจากการที่บุคคลคนนั้นสร้างสมกุศลกรรมมาแต่อดีต จึงส่งผลมาในปัจจุบัน
แต่โดยสรุป ภาวะความเป็นผู้นำของบุคคลเกิดจากคุณลักษณะในตัวของบุคคลนั้นเอง เช่น รูปร่างหน้าตา เสียงที่พูด และเกิดจากการกล่อมเกลา เช่น การศึกษา การอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ช่วยเสริมความเชื่อมั่น และความรู้ความเข้าใจในทางการเมืองการบริหาร
แต่ที่สำคัญที่สุด ในแง่จิตวิทยาแล้วบุคคลที่จะมีภาวะความเป็นผู้นำจะต้องเป็นบุคคลที่มีความเชื่อ หรือถูกทำให้เชื่อว่าเป็นบุคคลที่ได้รับการเลือกแล้วให้มาประกอบภารกิจอันศักดิ์สิทธิ์ต่อชาติและสังคมในฐานะผู้นำของประเทศ
คำถามก็คือภาวะความเป็นผู้นำเป็นอย่างไร
กล่าวได้ว่าบุคคลผู้ซึ่งมีภาวะความเป็นผู้นำทางการเมืองจะต้องมีความกล้าหาญ และมีความรวดเร็วในการตัดสินรวมทั้งการปฏิบัติการเมื่อเกิดปัญหาวิกฤต
คนบางคนมีความเชื่ออย่างผิดๆ ว่าการฟังความเห็นจากทุกฝ่ายและเห็นด้วยกับทุกฝ่าย และไม่ได้มีการตัดสินใจอันใดคือกระบวนการประชาธิปไตย แต่ความจริงคือคนซึ่งขาดความเป็นผู้นำ ไม่กล้าตัดสินใจ บุคคลเช่นนี้จะสร้างความเสียหายต่อองค์กร ต่อสังคมและต่อประเทศชาติอย่างใหญ่หลวงได้
ภาวะความเป็นผู้นำจะประกอบด้วยคุณลักษณะดังต่อไปนี้คือ
ประการแรก มีความเชื่อมั่นว่ามีความรู้และความสามารถที่จะทำงานที่ได้รับมอบหมายให้สำเร็จลุล่วงไปด้วยดี คนที่ขาดความเชื่อมั่นเนื่องจากรู้ตัวดีว่าไม่มีความรู้ ขาดประสบการณ์ ถึงแม้จะเสแสร้างวางทีท่าว่ามีความเชื่อมั่น มีความรู้ มีความสามารถ ผลสุดท้ายการแสดงความคิดเห็นก็ดี การกระทำก็ดี ก็จะเปิดเผยความจริงออกมาว่าเป็นบุคคลซึ่งขาดความรู้ ขาดประสบการณ์ ขาดความเข้าใจต่อปัญหา และการแก้ปัญหา ความเชื่อมั่นจะเกิดขึ้นได้ด้วยความรู้และประสบการณ์การทำงาน นักวิชาการที่มีแต่ทฤษฎีอยู่บนหอคอยงาช้างอาจเป็นนักบริหารที่ล้มเหลว
ด้วยเหตุนี้จึงมีการนล้อเลียนนักวิชาการอยู่เนืองๆ ว่า ขาดประสบการณ์ มีแต่ทฤษฎี และชอบพูดวิชาการแบบนักวิชาเกิน อย่างไรก็ตาม ก็เคยปรากฏนักวิชาการที่สามารถทำงานบริหารได้อย่างดีเยี่ยม ในกรณีเช่นนั้นก็จะได้เปรียบบุคคลอื่นเพราะมีความรู้ทางทฤษฎี และสามารถนำไปปฏิบัติได้เป็นอย่างดี
ทางออกสำหรับผู้บริหารที่ขาดความรู้และประสบการณ์ ก็คือการจ้างผู้เชี่ยวชาญไว้เป็นที่ปรึกษา ซึ่งก็เป็นทางเลือกทางหนึ่งแต่ต้องระมัดระวัง 3 เรื่องด้วยกัน เรื่องที่หนึ่ง ผู้ที่ให้คำปรึกษาอาจจะทำหน้าที่เป็นผู้ทำการตัดสินใจเอง แทนที่จะให้ข้อมูล ทางออก ทางเลือก แต่กลับเป็นการยื่นคำขาดข้อปรึกษาของตนโดยขู่ว่าจะลาออกถ้าไม่ปฏิบัติตามข้อเสนอ ที่ปรึกษาเช่นนี้เป็นที่ปรึกษาที่ใช้ไม่ได้เพราะมองบทบาทของตนผิด
เรื่องที่สอง ที่ปรึกษาอาจจะไม่ใช่ที่ปรึกษาที่มีความรู้อย่างแท้จริง รวมทั้งมีผลประโยชน์เกี่ยวข้อง ใช้ประโยชน์จากตำแหน่งเพื่อผลประโยชน์ของตนและพรรคพวก
เรื่องที่สาม ถ้าผู้นำผู้นั้นต้องอาศัยที่ปรึกษาอย่างมากมิฉะนั้นจะทำงานไม่ได้ ก็จะถูกครอบงำโดยที่ปรึกษาอย่างเต็มที่ อาจจำเป็นต้องตัดสินใจในสิ่งซึ่งไม่ถูกต้องไม่เหมาะไม่ควร ผลเสียก็จะตกแก่ส่วนรวมอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ประการที่สอง บุคคลที่สามารถจะแสดงภาวะความเป็นผู้นำจะต้องมีความกล้าหาญในการตัดสินใจ และเมื่อตัดสินใจด้วยความกล้าหาญแล้ว ก็ต้องปฏิบัติการอย่างรวดเร็วและฉับพลัน มหาเศรษฐีที่เป็นนักธุรกิจใหญ่ๆ ส่วนใหญ่มีความกล้าหาญที่จะเสี่ยง คนซึ่งต้องการความมั่นคงร้อยเปอร์เซ็นต์ในการประกอบธุรกิจโดยไม่ยอมเสี่ยงอันใด จะเป็นได้อย่างมากคือเจ้าของร้านของชำเท่านั้น จะไม่สามารถขยับไปสู่การเป็นเจ้าของห้างสรรพสินค้าใหญ่ๆ ได้
อย่างไรก็ตาม การเสี่ยงจะต้องเป็นการเสี่ยงที่คิดคำนวณถึงผลได้ผลเสีย และโอกาสของความสำเร็จต้องสูง ไม่ใช่เป็นการเสี่ยงแบบเล่นการพนัน เพราะนั่นขึ้นอยู่กับโชคชะตามากกว่าการควบคุมของตนเอง คนที่อยู่ในตำแหน่งบางคนไม่สามารถจะมีวิจารณญาณในการตัดสินใจอะไรได้ บุคคลเหล่านี้ไม่มีทางที่จะมีความกล้าหาญในการตัดสินใจซึ่งเกี่ยวข้องกับเรื่องใหญ่ๆ ผู้นำเช่นนี้เป็นผู้นำที่อ่อนแอ
พระราชาหรือจักรพรรดิ์ที่อ่อนแอที่ตกอยู่ภายใต้อิทธิพลของสตรีหรือขันทีในวัง ต้องเฝ้ามองการล่มสลายของอาณาจักรโดยไม่สามารถจะทำอะไรได้ ผู้บริหารที่มีนิสัยของนักบริหารต้องปฏิบัติตามขั้นตอนของระบบราชการอย่างเคร่งครัด รอรับรายงานจากผู้อยู่ใต้บังคับบัญชา จะเป็นผู้นำที่กล้าหาญและฉับพลันไม่ได้
ประการที่สาม บุคคลที่เป็นผู้นำได้นั้นจะต้องมีจริยธรรมและศีลธรรม ในส่วนของจริยธรรมและศีลธรรมเป็นเรื่องที่เกี่ยวพันกับความชอบธรรมทางการเมือง และความชอบธรรมแห่งอำนาจ ผู้นำใดก็ตามที่มีจริยธรรมและหลักการทางศีลธรรมเป็นเครื่องชี้นำ ย่อมจะมีความเชื่อมั่นว่าสิ่งที่กำลังทำอยู่นั้นเป็นสิ่งที่ถูกต้อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าสิ่งที่กระทำนั้นกระทำด้วยความบริสุทธิ์ใจ เพื่อประโยชน์ของสังคมและคนส่วนใหญ่ ดังนั้น ความรู้สึกเรื่องภารกิจอันศักดิ์สิทธิ์ก็ดี การทำหน้าที่ตามอุดมการณ์อุดมคติก็ดี จะช่วยเสริมความเชื่อมั่นและภาวะความเป็นผู้นำทางการเมืองของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองมากยิ่งขึ้น
ประการสุดท้าย บุคคลที่จะมีภาวะความเป็นผู้นำทางการเมือง คนเห็นแล้วเกิดความศรัทธาและเกิดความเชื่อมั่น ก็คือบุคลิกลักษณะ คนซึ่งเป็นคนพิกลพิการย่อมจะเสียเปรียบ ประธานาธิบดีอเมริกันผู้หนึ่งต้องนั่งเก้าอี้เข็น และสั่งงานจากเก้าอี้เข็น ซึ่งหมายความว่า ตราบเท่าที่สมองยังทำงานได้และมีกลไกการบริหารครบถ้วน การที่จะรับงานสำคัญในการบริหารระดับประเทศแม้จะมีอุปสรรคจากสภาวะทางร่างกาย ก็ยังสามารถทำงานได้
อย่างไรก็ตาม ภาพของผู้นำที่นั่งอยู่บนเก้าอี้เข็นก็ไม่ถูกเปิดเผยต่อสาธารณะบ่อยครั้งนัก นอกเหนือจากนั้นเสียงที่เปล่งออกมาจากผู้นำก็จะช่วยเสริมภาวะความเป็นผู้นำของบุคคลนั้นได้ ในหลักรัฐศาสตร์อำนาจการเมืองมาจากการที่สามารถเอาความคิดไปใส่ในสมองและหัวใจของผู้อื่นให้เขาเห็นด้วย เมื่อเป็นเช่นนั้นฝีปากในการพูดจาซึ่งมาจากบุคลิกที่น่านับถือและน่าศรัทธา มีเสียงดังกังวาน จะมีส่วนช่วยความเป็นผู้นำของบุคคลนั้นๆ
ที่กล่าวมาทั้งหมดเบื้องต้นสรุปได้คำเดียวในภาษาไทย นั่นคือคำว่า บารมี บุคคลที่จะเป็นผู้นำและมีภาวะความเป็นผู้นำต้องเป็นบุคคลที่มีบารมี ซึ่งหมายถึง ความเป็นที่ยอมรับของคนโดยทั่วไปในด้านต่างๆ ตั้งแต่บุคลิก ความสามารถ น้ำเสียงที่ก้องกังวาน ความเชื่อและศรัทธาว่าเป็นคนดี มีหลักการ และมีจริยธรรมและศีลธรรม นอกจากนี้ยังมีความเชื่อด้วยว่า บารมีเกิดจากการที่บุคคลคนนั้นสร้างสมกุศลกรรมมาแต่อดีต จึงส่งผลมาในปัจจุบัน
แต่โดยสรุป ภาวะความเป็นผู้นำของบุคคลเกิดจากคุณลักษณะในตัวของบุคคลนั้นเอง เช่น รูปร่างหน้าตา เสียงที่พูด และเกิดจากการกล่อมเกลา เช่น การศึกษา การอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ช่วยเสริมความเชื่อมั่น และความรู้ความเข้าใจในทางการเมืองการบริหาร
แต่ที่สำคัญที่สุด ในแง่จิตวิทยาแล้วบุคคลที่จะมีภาวะความเป็นผู้นำจะต้องเป็นบุคคลที่มีความเชื่อ หรือถูกทำให้เชื่อว่าเป็นบุคคลที่ได้รับการเลือกแล้วให้มาประกอบภารกิจอันศักดิ์สิทธิ์ต่อชาติและสังคมในฐานะผู้นำของประเทศ