เอเอฟพี / รอยเตอร์ - หน่วยข่าวกรองสหรัฐฯ ทำนายอนาคตโลกปี 2020 ระบุ "โลกาภิวัตน์" ตัวการสร้างความไม่มั่นคง บั่นทอนอำนาจอเมริกา ทว่า กลับเสริมความแข็งแกร่งให้คู่แข่งอย่างจีน-อินเดีย ตลอดจนเอื้อประโยชน์กลุ่มหัวรุนแรงในการเกณฑ์แนวร่วม และแสวงหาอาวุธร้าย
สภาข่าวกรองแห่งชาติ ซึ่งเป็นคลังสมองของประชาคมข่าวกรองของสหรัฐฯ ออกรายงานประจำปีเรื่อง "แผนที่อนาคตโลก" เมื่อวันพฤหัสบดี (13) ทำนายว่า การเติบโตทางเศรษฐกิจของโลกจนถึงปี 2020 ยังคงน่าประทับใจ แต่การกระจายตัวจะเป็นไปอย่างไม่ทั่วถึง ขณะที่ความขัดแย้งระหว่างชาติมหาอำนาจจะลดน้อยกว่าทุกช่วงเวลาตลอดศตวรรษที่ผ่านมา
กระนั้น ปัจจัยสำคัญ คือ ปัญหาการก่อการร้ายระหว่างประเทศ ยังคงไม่มีสัญญาณลดลงในอีก 15 ปีข้างหน้า โดยคาดว่า เครือข่ายอัลกออิดะห์ จะถูกแทนที่ด้วยกลุ่มหัวรุนแรงอื่นที่มีอุดมการณ์คล้ายกัน และมีความเป็นไปได้สูงที่กลุ่มเหล่านี้จะร่วมมือกับขบวนการแบ่งแยกดินแดนท้องถิ่น เพื่อก่อความไม่สงบ
รายงานยังชี้ว่า เทคโนโลยีสารสนเทศจะช่วยอำนวยความสะดวกแก่ผู้ก่อการร้ายในการวางแผน ตลอดจนได้มาซึ่งอาวุธชีวภาพ และอุปกรณ์นิวเคลียร์ ผ่านข้อมูลความรู้ที่ปรากฏบนเครือข่ายออนไลน์
จากการตระหนักถึงความไม่แน่นอนอันเป็นผลมาจากกระแสโลกาภิวัตน์ รายงานได้จำลองสถานการณ์ความเป็นไปได้ที่อาจเกิดขึ้นไว้ 4 แบบ เริ่มตั้งแต่เลวร้ายมากที่สุด หรือ "ไซเคิล ออฟ เฟียร์" ซึ่งความหวาดกลัวเหตุรุนแรงอาจแพร่สะพัดมากขึ้น จนถึงขั้นต้องประกาศใช้มาตรการความปลอดภัยที่รุกล้ำเสรีภาพส่วนบุคคลขนานใหญ่
สำหรับสถานการณ์เลวร้ายน้อยที่สุด หรือ "ดาวอส เวิลด์" นั้น การเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างแข็งแกร่งของจีนและอินเดีย อาจส่งผลต่อการเปลี่ยนรูปของกระบวนการโลกาภิวัตน์ และทำให้มีผู้เล่นหน้าใหม่ที่ไม่ใช่ชาติตะวันตกเพิ่มขึ้น
จุดศูนย์กลางความสนใจของรายงานชิ้นนี้อยู่ที่การเติบใหญ่ของจีนและอินเดีย ซึ่งถูกโยงไปเปรียบเทียบกับการผงาดขึ้นมาของเยอรมนีในช่วงต้นศตวรรษที่ 19 และสหรัฐฯ ในต้นศตวรรษที่ 20
ผลการทำนายชี้ว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศของจีนจะสูงเป็นอันดับ 2 รองจากสหรัฐฯ ภายในปี 2020 และเศรษฐกิจอินเดียจะไล่ทันชาติส่วนใหญ่ในยุโรป ขณะที่ยุโรปจะเผชิญภาวะชะงักงัน หากไม่ยอมรับผู้อพยพจากชาติมุสลิม เข้ามาชดเชยจำนวนประชากรที่ลดลง
ส่วนญี่ปุ่นจะเผชิญกับวิกฤตอายุประชากร และถูกบีบให้ต้องทบทวนบทบาทของตน เพื่อเลือกระหว่างการถ่วงดุลอำนาจ หรือเกาะกระแสความเจริญของจีน นอกจากนั้นรายงานยังคาดว่า บริษัทข้ามชาติจากเอเชียจะเพิ่มขึ้น สวนทางกับชาติตะวันตก เช่นเดียวกับความต้องการพลังงานที่มากขึ้น ผกผันกับจำนวนซัปพลายที่น้อยลง เนื่องจากแหล่งผลิตน้ำมันส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่ไร้เสถียรภาพอย่างตะวันออกกลาง รัสเซีย แอฟริกาตะวันตก และเวเนซุเอลา
สภาข่าวกรองแห่งชาติ ซึ่งเป็นคลังสมองของประชาคมข่าวกรองของสหรัฐฯ ออกรายงานประจำปีเรื่อง "แผนที่อนาคตโลก" เมื่อวันพฤหัสบดี (13) ทำนายว่า การเติบโตทางเศรษฐกิจของโลกจนถึงปี 2020 ยังคงน่าประทับใจ แต่การกระจายตัวจะเป็นไปอย่างไม่ทั่วถึง ขณะที่ความขัดแย้งระหว่างชาติมหาอำนาจจะลดน้อยกว่าทุกช่วงเวลาตลอดศตวรรษที่ผ่านมา
กระนั้น ปัจจัยสำคัญ คือ ปัญหาการก่อการร้ายระหว่างประเทศ ยังคงไม่มีสัญญาณลดลงในอีก 15 ปีข้างหน้า โดยคาดว่า เครือข่ายอัลกออิดะห์ จะถูกแทนที่ด้วยกลุ่มหัวรุนแรงอื่นที่มีอุดมการณ์คล้ายกัน และมีความเป็นไปได้สูงที่กลุ่มเหล่านี้จะร่วมมือกับขบวนการแบ่งแยกดินแดนท้องถิ่น เพื่อก่อความไม่สงบ
รายงานยังชี้ว่า เทคโนโลยีสารสนเทศจะช่วยอำนวยความสะดวกแก่ผู้ก่อการร้ายในการวางแผน ตลอดจนได้มาซึ่งอาวุธชีวภาพ และอุปกรณ์นิวเคลียร์ ผ่านข้อมูลความรู้ที่ปรากฏบนเครือข่ายออนไลน์
จากการตระหนักถึงความไม่แน่นอนอันเป็นผลมาจากกระแสโลกาภิวัตน์ รายงานได้จำลองสถานการณ์ความเป็นไปได้ที่อาจเกิดขึ้นไว้ 4 แบบ เริ่มตั้งแต่เลวร้ายมากที่สุด หรือ "ไซเคิล ออฟ เฟียร์" ซึ่งความหวาดกลัวเหตุรุนแรงอาจแพร่สะพัดมากขึ้น จนถึงขั้นต้องประกาศใช้มาตรการความปลอดภัยที่รุกล้ำเสรีภาพส่วนบุคคลขนานใหญ่
สำหรับสถานการณ์เลวร้ายน้อยที่สุด หรือ "ดาวอส เวิลด์" นั้น การเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างแข็งแกร่งของจีนและอินเดีย อาจส่งผลต่อการเปลี่ยนรูปของกระบวนการโลกาภิวัตน์ และทำให้มีผู้เล่นหน้าใหม่ที่ไม่ใช่ชาติตะวันตกเพิ่มขึ้น
จุดศูนย์กลางความสนใจของรายงานชิ้นนี้อยู่ที่การเติบใหญ่ของจีนและอินเดีย ซึ่งถูกโยงไปเปรียบเทียบกับการผงาดขึ้นมาของเยอรมนีในช่วงต้นศตวรรษที่ 19 และสหรัฐฯ ในต้นศตวรรษที่ 20
ผลการทำนายชี้ว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศของจีนจะสูงเป็นอันดับ 2 รองจากสหรัฐฯ ภายในปี 2020 และเศรษฐกิจอินเดียจะไล่ทันชาติส่วนใหญ่ในยุโรป ขณะที่ยุโรปจะเผชิญภาวะชะงักงัน หากไม่ยอมรับผู้อพยพจากชาติมุสลิม เข้ามาชดเชยจำนวนประชากรที่ลดลง
ส่วนญี่ปุ่นจะเผชิญกับวิกฤตอายุประชากร และถูกบีบให้ต้องทบทวนบทบาทของตน เพื่อเลือกระหว่างการถ่วงดุลอำนาจ หรือเกาะกระแสความเจริญของจีน นอกจากนั้นรายงานยังคาดว่า บริษัทข้ามชาติจากเอเชียจะเพิ่มขึ้น สวนทางกับชาติตะวันตก เช่นเดียวกับความต้องการพลังงานที่มากขึ้น ผกผันกับจำนวนซัปพลายที่น้อยลง เนื่องจากแหล่งผลิตน้ำมันส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่ไร้เสถียรภาพอย่างตะวันออกกลาง รัสเซีย แอฟริกาตะวันตก และเวเนซุเอลา