นานาชาติเข้าพื้นที่ร่วมกู้ภัยเหยื่อ "สึนามิ" กรมป้องกันภัยเผยตัวเลขผู้สูญหายกว่า 4 พัน ตายพุ่ง 1,657 รายแล้ว ขณะที่การค้นหายังเดินหน้าต่อพบศพถูกฝังใต้ซากอีกเพียบ ส่งกลิ่นเหม็นไปทั่วเมือง ด้านเจ้าหน้าที่ชันสูตรศพเริ่มเหนื่อย ร่ำไห้อยากกลับบ้าน "หมอพรทิพย์" พ้อ ติดต่อสื่อสารกันไม่ได้ ระบุขาดทั้งบุคลากรและอุปกรณ์เครื่องมือแพทย์ "สุดารัตน์" เต้นสั่งเสริมกำลัง ป้องกันโรคระบาด สธ.เตือนระวัง 6 โรคร้ายระบาดตามหลัง นายกฯลงพื้นที่ตรวจสภาพความหายนะอีกครั้ง ยันรัฐบาลจะให้ความช่วยเหลือโดยเร็วที่สุด
กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย รายงานยอดผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจากเหตุการณ์คลื่นยักษ์ถล่ม 6 จังหวัดอันดามันฝั่งทะเลอันดามัน ณ เวลา 18.00น.วานนี้ (29 ธ.ค.) รวมผู้เสียชีวิตทั้งสิ้น 1,657 ราย บาดเจ็บ 8,954 ราย สูญหาย 4,086 ราย โดยแยกเป็นจังหวัด ดังนี้ ภูเก็ต มีผู้เสียชีวิต 233 ราย บาดเจ็บ 1,268 ราย สูญหาย 1,580 ราย พังงา มีผู้เสียชีวิต 1,069 ราย บาดเจ็บ 5,542 ราย สูญหาย 1,390 ราย กระบี่ มีผู้เสียชีวิต 198 ราย บาดเจ็บ 1,881 ราย สูญหาย 1,018 ราย ระนอง มีผู้เสียชีวิต 146 ราย บาดเจ็บ 182 ราย สูญหาย 97 ราย ตรัง มีผู้เสียชีวิต 5 ราย บาดเจ็บ 66 ราย และ สตูล มีผู้เสียชีวิต 6 ราย บาดเจ็บ 15 ราย สูญหาย 1 คน
ขณะที่การค้นหาศพและผู้สูญหายในเหตุการณ์โศกนาฎกรรมครั้งนี้ของเจ้าหน้าที่ทุกหน่วยงานยังคงเดินหน้าอย่างต่อเนื่องเป็นวันที่สี่ แม้ทุกคนจะเริ่มเหน็ดเหนื่อย และอ่อนแรง ขณะที่ทางกองทัพบกได้มีการเสริมกำลังทหารเข้าไปในพื้นที่อีกกว่า 4,000 นายเพื่อร่วมกับทุกฝ่ายในการกู้ภัย นอกจากนี้ยังมีหน่วยกู้ภัยจากนานาชาติ อาทิ จากประเทศญี่ปุ่น สหรัฐฯ ออสเตรเลีย เยอรมนี และฝรั่งเศส เข้าร่วมในการกู้ภัยในครั้งนี้ด้วย
***อาสาสมัครญี่ปุ่นลงใต้ช่วยกู้ภัย
โดยเมื่อเช้าวานนี้ พล.ต.จำลอง ศรีเมือง ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีได้พาคณะหน่วยกู้ภัยจากประเทศญี่ปุ่นมา 2 ชุดๆ ละ 12 คน ประกอบด้วยอาสาสมัครและคณะแพทย์พยาบาล กลุ่มแพทย์"โทโกชูไก"ของนายแพทย์ โทกูดะ โทราโอะ เพื่อมาร่วมช่วยเหลือในการกู้ภัยและผู้ประสบภัยในพื้นที่ 6 จังหวัดอันดามัน
พล.ต.จำลอง กล่าวว่า หลังจากกลุ่มอาสาสมัครและกลุ่มแพทย์"โทโกชูไก"ลงสำรวจผู้ป่วยตามโรงพยาบาลต่างๆ ที่ จ.พังงาและสภาพของผู้ประสบภัยยังพื้นที่ตะกั่วป่าว่าเป็นอย่างไรแล้ว จึงได้ติดต่อกลับประเทศญี่ปุ่นเพื่อขอให้ส่งแพทย์ พยาบาลเภสัชมาเพิ่มอีก 10 คน หลังจากที่เดินทางมาแล้ว 12 คนพร้อมเครื่องเวชภัณฑ์ 4 ตัน ซึ่งชุดหลังจะเดินทางมาถึงดอนเมือง 20.30 น.ของคืนวันที่ 29 ธ.ค.และจะลงพื้นที่เพื่อสมทบกับทีมเดิมทันที โดยคณะแพทย์จากญี่ปุ่นกลุ่มนี้เป็นผู้ที่เชี่ยวชาญรักษาผู้ประสบสาธารณภัยโดยตรงและพวกนี้จะทำงาน24 ชั่วโมง โดยไม่มีการพักตลอดระยะเวลา 3 วันหลังครบ 3 วันจึงจะได้พักผ่อน
***นานาชาติเข้าพื้นที่ช่วยกู้ภัยเพียบ
ขณะที่ พล.อ.สัมพันธ์ บุญญานันต์ รมว.กลาโหม เปิดเผยว่า ขณะนี้สหรัฐฯได้จัดส่งเครื่องบินลำเลียงและกู้ภัยมาถึงประเทศไทยและพร้อมปฏิบัติการเพื่อสนับสนุนภารกิจในการช่วยเหลือผู้ประสบภัยแล้วจำนวน 7 ลำและจะมีการเพิ่มเติมในกรณีที่เราต้องการความช่วยเหลือ ในทางทหารจะได้มีการเรียนรู้ในเรื่องเทคนิคของการ rescue นอกจากนั้นยังมีการช่วยเหลือจากออสเตรเลีย เยอรมัน ฝรั่งเศสด้วย
"ในส่วนของความสูญเสียของฐานทัพเรือพังงานั้นได้รับรายงานจาก พล.ร.อ.สามภพ อัมระปาล ผบ.ทร.ว่าได้รับความเสียหายอย่างมากโดยมีผู้เสียชีวิต 16 คน เป็นทหารเรือ 4 นาย ที่เหลือเป็นครอบครัวของกำลังพลเอง อาคารและบ้านพักเสียหายหนัก อีกทั้งเรือที่ประจำการอยู่ก็เสียหายมากเช่นกัน"
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กองทัพเรือได้เผยแพร่ข่าวประชาสัมพันธ์ว่า กองกำลังป้องกันตนเองทางทะเลประเทศญี่ปุ่นได้ประสานกระทรวงการต่างประเทศขอจัดเรือรบกองกำลังป้องกันตนเองทางทะเลประเทศญี่ปุ่น 3 ลำ ได้แก่
KIRISHIMA (DDG-174) เรือ TAKANAMI (DD-110) และเรือ HAMANA (AOE-424) เข้าเยี่ยมประเทศไทย และเข้าร่วมกับกองทัพเรือในการค้นหาผู้ประสบภัยโดยจอดเรือทอดสมอที่อ่าวป่าตอง ตั้งแต่วานนี้จนเสร็จสิ้นภารกิจ
***ทัพเรือพังงาเคลื่อนย้ายคลังอาวุธ
สำหรับความเคลื่อนไหวภายในฐานทัพเรือพังงานั้น วานนี้ได้มีการเคลื่อนย้ายอาวุธออกจากคลังสรรพาวุธ และมีการเข้าค้นหาเคลื่อนย้ายผู้เสียชีวิตภายในอาคารบ้านพักภายในฐานทัพเรือโดยเจ้าหน้าที่ แต่ยังไม่ได้นำเครื่องจักรหนักเข้าไปขุดค้นซากหาผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ครั้งนี้ ทำให้การค้นหายังทำได้ไม่เต็มที่
ขณะเดียวกัน บริเวณรอบนอกฐานทัพ ทางญาติๆ ทหารเรือที่สูญหายต่างเข้าลุยป่าเข้าค้นหาญาติพี่น้องด้วยตนเอง และให้ข้อมูลว่านับตั้งแต่เกิดเหตุยังไม่เห็นร่องรอยว่ามีการเข้าหาค้นหาผู้สูญหายแต่อย่างใด
***พบศพ"พ.ญ.กศินี-น้องภีม"แล้ว
ขณะที่เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยที่ค้นหาผู้สูญหายในพื้นที่ จ.พังงา แจ้งว่าได้พบศพแพทย์หญิงเกศินี สุนทรเกษม แพทย์ประจำโรงพยาบาลตะกั่วป่า จ.พังงาแล้ว ส่วนนางพรพิมล ขำกลิ่น มารดายังคงสูญหาย นอกจากนี้เจ้าหน้าที่พบศพเพิ่มอีก 25 ศพ ส่วนใหญ่เป็นคนในพื้นที่ ซึ่งมีญาติแจ้งรับศพไปประกอบพิธีกรรมทางศาสนาแล้ว
นอกจากนี้ยังได้พบศพ ด.ช.ภีม กุลจรรยาวิวัฒน์ วัย 3 ขวบ บุตรชายของนางกันตวรรณ กุลจรรยาวิวัฒน์ ส.ส.พังงา พรรคประชาธิปัตย์ พร้อมศพพี่เลี้ยงแล้วภายในรีสอร์ตที่พักใน อ.เขาหลัก ด้วย เบื้องต้นญาติจะนำศพมาตั้งบำเพ็ญกุศพร้อมศพนายบรม ตันเถียร อดีต รมช.คลัง ผู้เป็นตาที่เสียชีวิตในเหตุการณ์ดังกล่าวไปก่อนหน้านี้ที่วัดพระศรีมหาธาตุวรมหาวิหาร
***อส.ไทย-ต่างชาติผนึกกำลังกู้ภัย
ส่วนที่บริเวณเขาหลัก อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา มีทีมกู้ภัยที่ร่วมกันระหว่างต่างชาติกับไทย ร่วมมือกันค้นหาผู้ที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์ครั้งนี้โดยทีมกู้ภัยจากต่างชาติมีจำนวน 35 คนเป็นชาวไต้หวัน สหรัฐฯ และอื่นๆ ส่วนทีมจากไทยจะเป็นเจ้าหน้าที่จากมูลนิธิกุศลธรรม เป็นผู้ประสานงาน
สำหรับสภาพโดยรวมที่เขาหลัก กลิ่นซากศพเหม็นคลุ้งเนื่องจากการเสียชีวิตผ่านมาหลายวันแล้ว ที่สำคัญการขนย้ายศพออกจากพื้นที่มีความยากลำบากเนื่องจากเส้นทางจราจรระหว่าง อ.ท้ายเหมือง กับเขาหลัก ติดขัดอย่างมาก จึงได้มีการนำรถตู้คอนเทนเนอร์เข้ามาบรรทุกศพคราวละมากๆ แทนรถของมูลนิธิ ทางเจ้าหน้าที่ได้ขอร้องผู้ที่ไม่มีความจำเป็นหลีกเลี่ยงการใช้เส้นทางดังกล่าวด้วย
นอกจากนั้น ขณะนี้เริ่มมีผู้ประกอบการบางส่วนเข้ามาขนอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้า เครื่องคอมพิวเตอร์ ที่ยังไม่เสียหายมากนักออกจากพื้นที่ ส่วนบริษัทประกันภัยเริ่มเข้ามาถ่ายรูปเก็บข้อมูลรถที่อยู่ในประกัน รวมถึงชักลากออกไปบางคันโดยเฉพาะรถยุโรป
***ที่เกาะพีพีพบอีกกว่า100ศพ
ส่วนความคืบหน้าในการขุดค้นหาผู้สูญหายในเกาะพีพีตลอดวันวานนี้ ยังเป็นไปอย่างต่อเนื่อง โดยค้นพบศพผู้เสียชีวิตใต้ซากปรักหักพังอีกกว่า 100 ศพแต่ตัวเลขอย่างไม่เป็นทางการอาจจะถึง 300 ศพ อย่างไรก็ตาม มีปัญหาในเรื่องการประสานงานของทีมช่วยเหลือเนื่องจากมีหน่วยงานต่างๆ เข้ามาช่วยค้นหาจำนวนมาก โดยไม่มีหน่วยงานกลางประสานงานที่ดีพอ
***จี้ตั้งศูนย์ประสานงานที่พีพี
นายวันเลิศ กิตติธรกุล ผู้จัดการทั่วไปโรงแรมพีพีไอร์แลนด์คาบาน่า เกาะพีพี เปิดเผยว่า ตอนนี้ที่เกาะพีพีมีความสับสนวุ่นวายมากในการกู้ศพผู้ที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เนื่องต่างตนต่างเข้ามาทำงานโดยไม่มีหน่วยงานหลักในการประสานงาน โดยเฉพาะหน่วยงานของทางฝ่ายปกครองทำให้ไม่รู้ว่าจะประสานกับหน่วยงานไหน จึงอยากจะให้มีการจัดตั้งศูนย์ในการประสานงานที่เกาะพีพีเพื่อให้การทำงานสะดวกและรวดเร็ว
"การกู้เก็บศพนักท่องเที่ยวที่เกาะพีพียังคงดำเนินการต่อไปเรื่อยๆ เพราะคาดว่าน่าจะมีศพที่ยังตกค้างอยู่บนเกาะพีพีอีกประมาณ 300-400 ศพ และทางภาคเอกชนต้องการที่จะให้ค้นหาศพที่เข้าพักโรงแรมให้รวดเร็วที่สุด เนื่องจากขณะนี้ศพเริ่มส่งกลิ่นแล้ว"
***เผยเรือขนศพมีไม่เพียงพอ
ขณะที่ พ.ต.อ.สุรพล ทวนทอง ผู้บังคับการตำรวจน้ำ กล่าวว่า ขณะนี้ทางตำรวจน้ำกำลังเร่งนำศพออกจากพื้นที่พีพีโดยเร็วที่สุดเพราะศพที่ยังค้นหาไม่เจอเพิ่มส่งกลิ่นเหม็นมาก การเข้าศพออกจากซากปักหักพังทางตำรวจน้ำได้นำแม็คโครมาตักเพื่อค้นหาศพที่ติดกับอาคารบ้านเรือน คาดว่าจะใช้เวลาดำเนินการให้เสร็จ และจาก 4 วันที่ดำเนินการเก็บไปแล้ว 300 กว่าศพ ซึ่งคาดว่าจะเหลืออีกมากโดยเฉพาะที่บ่อน้ำเสีย
"ตอนนี้ศพที่เก็บได้แล้วเรือขนมีไม่เพียงพอ ต้องขอเรือจากเอกชนมาช่วยข้น และสภาพเกาะพีพียับเยินทั้งสองฝั่งโดยด้านหลังเสียหายมากกว่าด้านหน้า"
***กระบี่ระดมเก็บศพให้หมดวันนี้
ด้านนายอานนท์ พรหมนารท ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ เปิดเผยถึงการกู้ศพที่บริเวณเกาะพีพี และตามบริเวณต่างๆ ใน จ.กระบี่ว่า ทางจังหวัดจะเร่งกู้และเก็บศพที่ยังคงตกค้างอยู่ตามที่ต่างๆ ให้เสร็จสิ้นโดยเร็วไม่เกินวันที่ 30 ธ.ค.นี้เพราะสภาพศพเริ่มส่งกลิ่นและยากต่อการเก็บกู้แล้ว
ขณะนี้ได้ส่งเครื่องจักรกล รถแมคโฮว์ 4 คัน จาก นพค. 2 คัน ทางหลวงชนบท 1 คัน และ อบจ.กระบี่ 1 คัน และรถเครน 2 คันเพื่อลงไปยังเกาะพีพีทำการปรับสภาพพื้นที่และค้นหาศพผู้เสียชีวิตที่ติดอยู่ตามใต้ซากปรักหักพัง และยังได้ระดมกำลัง ตชด.พร้อมด้วยสุนัขดมกลิ่น 1 ชุด ไปยังเกาะพีพีด้วย โดยในวันที่ 31 ธ.ค.นี้จะทำการระดมอาสาสมัครนักเรียน นักศึกษาเข้าทำความสะอาดตามสถานที่ต่างๆ ที่ได้รับผลกระทบจากอุบัติภัยคลื่นยักษ์ถล่มและจัดเจ้าหน้าที่เข้าไปฟื้นฟูสภาพจิตใจของผู้ประสบเหตุ มีอยู่ประมาณ 2,000 คน ที่อาศัยอยู่ตามศูนย์อพยพ ให้เข้าสู่สภาวะปกติโดยเร็ว เพราะบางคนต้องสูญเสียครอบครัว ญาติพี่น้อง ทำให้มีสภาพจิตใจที่เลวร้าย ซึ่งจะต้องเร่งฟื้นฟูโดยเร็ว
นอกจากนี้ยังได้จัดส่งทีมแพทย์ไปประจำอยู่ตามจุดต่างๆ ที่ได้รับผลกระทบ ประมาณ 300 คนเข้าไปตรวจสอบพร้อมให้การรักษาผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ ซึ่งเกรงว่าจะเกิดโรคระบาดขึ้นด้วย
***"สุดารัตน์"รุดหารือหมอพรทิพย์
วันเดียวกันนางสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ รมว.สาธารณสุข พร้อมด้วยผู้บริหารกระทรวงฯ ได้เดินทางมาที่วัดตะกั่วป่า ซึ่งใช้เป็นจุดลำเลียงศพจาก จ.พังงามาไว้มากที่สุดเพื่อรับทราบถึงปัญหาและอุปสรรคการจัดการ ทันทีที่มาถึงนางสุดารัตน์ ได้เข้าหารือกับ พ.ญ.คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ รอง ผอ.สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ โดย พ.ญ.คุณหญิงพรทิพย์ ได้กล่าวว่า การทำงานในขณะนี้มีปัญหามาก เพราะไม่มีหน่วยงานที่เป็นเจ้าภาพหลักเข้ามาดำเนินการ และยังขาดผู้ประสานงาน แม้จะมีอาสาสมัครเข้ามาช่วยเหลือมากมายก็ตาม แต่ก็ยังเป็นปัญหา เพราะอาสาสมัครเหล่านี้ต้องหมุนเวียนกันไปทำภารกิจอื่นๆ
ดังนั้น ต้องมีทีมงานเข้ามาช่วยเสริมโดยเร็ว ซึ่งก็น่าจะคลี่คลายลงไปได้บ้าง เพราะกระทรวงสาธารณสุขได้อาสาเข้ามาช่วย ขณะที่การชันสูตรศพนั้น ก็ยังขาดผู้ช่วยลำเลียงศพขึ้นชันสูตร แต่ก็เพิ่งได้กำลังจากทหารส่วนหนึ่งเข้ามาช่วยเสริม ทำให้ปัญหาเบาบางลงไปบ้าง นอกจากนี้ เห็นว่าควรต้องมีการตั้งศูนย์ประสานงานเพื่อความช่วยเหลือขึ้นที่นี่ด้วย ไม่ใช่ไปตั้งไว้ที่ จ.ภูเก็ต แต่เพียงแห่งเดียว เพราะพื้นที่นี้ก็มีนักท่องเที่ยวจำนวนมากที่ยังคงสูญหาย
"ขอให้มีการแก้ไขปัญหาสัญญาณโทรศัพท์โดยเร็ว เพราะมีปัญหามากเรี่องการติดต่อ และไม่มีหน่วยงานใดเข้ามาดูเรื่องนี้เลย มีเพียงบริษัทเอกชนแห่งหนึ่งเท่านั้น ที่เข้ามาดำเนินการจัดเครือข่ายให้ และหากจะให้ดี ช่วยแก้ไขให้ เอไอเอส ใช้ได้ด้วย"
***"พรทิพย์"โวยอุปกรณ์ไม่พร้อม
พ.ญ.คุณหญิงพรทิพย์ กล่าวต่อว่า ขณะนี้ได้เริ่มมีผู้เชี่ยวชาญจากต่างประเทศเข้ามาช่วยเสริมในการชันสูตรศพเพิ่มมากขึ้นแล้ว ซึ่งทำให้รู้สึกสบายใจ เพราะแพทย์ชันสูตรศพในเมืองไทยมีไม่เกิน 60 คน และต่างก็มีภารกิจอยู่ จึงต้องมีการหมุนเวียนและผลัดกันลงมาทำงานในพื้นที่ อย่างไรก็ตาม ยังยืนยันที่จะไม่ให้เผาศพนิรนามโดยเด็ดขาด และจะพยายามประสานไม่ให้เกิดการสูญหาย โดยแยกศพชาวต่างชาติกับคนไทยเอาไว้ออกจากกัน
ส่วนขั้นตอนในการชันสูตรศพนั้น เบื้องต้นหากศพไม่เน่า ก็จะต้องมีการเก็บเนื้อเยื่อบริเวณกระพุ้งแก้มเอาไว้ แต่ขณะนี้ผ่านมา 3-4 วันแล้ว ศพจึงเริ่มเน่า ดังนั้น จะเป็นการเก็บตัวอย่างส้นผมมาตรวจสอบแทน ซึ่งก็มีแนวโน้มที่จะพิสูจน์ไม่ได้สูง ทั้งนี้ หากเป็นการชันสูตรที่ถูกต้องแล้ว ควรต้องใช้ชิ้นกระดูก แต่ก็ไม่สามารถทำได้ เพราะขาดเครื่องมือ รวมถึงไม่มีบุคลากรเพียงพอ
"เมื่อวานนี้ยังต้องใช้กระโถนใส่แอลกอฮอล์ เพื่อป้องกันไม่ให้ดีเอ็นเอปนกัน ต้องดัดแปลงอุปกรณ์ที่มีอยู่ทั้งหมดมาใช้ แต่ปัญหาใหญ่ที่จะตามมาต่อจากนี้ คงเป็นหน่วยงานที่ต้องตรวจดีเอ็นเอ ซึ่งขณะนี้ประเทศอังกฤษก็ได้เสนอตัวเข้ามาช่วย แต่ยังอยากให้มีหน่วยงานอื่นๆ ทั้งในและต่างประเทศ เข้ามาช่วยมากกว่านี้ เพราะการสกัดดีเอ็นเอถือเป็นเรื่องที่ยากมาก อีกทั้งปริมาณชิ้นเนื้อที่ต้องนำมาตรวจก็มีจำนวนมาก คาดว่าจะไม่ต่ำกว่า 1 หมื่นตัวอย่าง ที่ต้องส่งตรวจ"
***เผยทีมงานเริ่มเหนื่อย-น้ำตาร่วง
พ.ญ.คุณหญิงพรทิพย์ กล่าวเพิ่มว่า สำหรับสิ่งที่อยากได้มากที่สุดในขณะนี้ก็คือ พลาสติกห่อศพ เนื่องจากผ้าก๊อซ สำลี หรือผ้าห่อศพ ใช้ไม่ได้ เพราะน้ำเหลืองเริ่มไหลแล้วแต่ถ้าเป็นพลาสติกจะสามารถป้องกันการไหลของน้ำเหลืองได้ รวมถึงยังป้องกันแมลงลงมาวางไข่ด้วย ซึ่งในการจัดการเรื่องศพที่ถูกต้องนั้นได้แนะนำไปตั้งแต่วันแรกแล้วว่าควรมีการสร้าง"เตนท์เย็น"ในการจัดเก็บ แต่กลับไม่มีหน่วยงานใดเข้าใจทำให้เกิดปัญหาศพเน่า ขณะที่ตู้คอนเทนเนอร์เย็นก็เพิ่งถูกส่งมาถึงวันนี้เอง
"การทำงานมีปัญหามาก ทั้งในเรื่องผู้ช่วยบริหารจัดการ เพราะหมอต้องทำเองทั้งหมด ทั้งถ่ายรูป โหลดรูป ปริ๊นซ์งาน เติมหมึกสี งานคอมพิวเตอร์ ขณะที่ทีมงานเองก็เริ่มเหนื่อย บางคนร้องไห้อยากกลับบ้าน เพราะไม่เคยเจอสภาพนี้มาก่อน หมอก็ต้องทำหน้าที่เหมือนแม่ ต้องคอยปลอบ" พ.ญ.คุณหญิงพรทิพย์ กล่าวด้วยสีหน้าอิดโรย
**"สุดารัตน์"เต้นสั่งเสริมกำลังด่วน
ทันทีที่ได้รับทราบปัญหานางสุดารัตน์ จึงได้สั่งการให้ตั้งศูนย์ประสานงาน ณ จุดเดียวทันทีในการจัดการกับศพในพื้นที่โดยใช้อาคารสำนักงานบริษัทซีพีเงินทุน ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่ใกล้เคียงเป็นศูนย์กลาง รวมไปถึงการประสานงานทั้งหมดตลอดจนการอำนวยความสะดวกให้กับผู้มาติดต่อขอดูศพด้วย นอกจากนี้ยังได้เร่งให้จัดส่งทีมแพทย์เฉพาะทางเข้ามาเสริม ในการดูแลรักษาผู้ป่วย พร้อมเครื่องมืออุปกรณ์ที่ขาดแคลนโดยเร็ว รวมทั้งตู้คอนเทนเนอร์เย็น และเสบียงอาหารเด้วย ส่วนเรื่องของเจ้าหน้าที่ต่างประเทศที่จะมาให้ความช่วยเหลือนั้นให้ช่วยเหลือแบบไม่แบ่งเป็นประเทศ แต่ให้ทำเป็นภาพรวมของนานาชาติทั้งหมด
ส่วนเรื่องการป้องกันโรคระบาดที่อาจจะเกิดขึ้นนั้นได้สั่งการให้กรมอนามัยและกรมควบคุมโรค เร่งจัดการด้านสิ่งแวดล้อมและสุขอนามัย ทั้งในแหล่งน้ำและสถานที่ที่มีศพติดค้างอยู่โดยได้จัดเตรียมน้ำยา และเวชภัณฑ์เครื่องมือต่างๆ ไว้ให้พร้อมแล้ว
**สธ.เตือนระวัง 6 โรคร้าย ระบาด
นางสุดารัตน์ กล่าวต่อว่า ได้สั่งการให้มีการจัดทำระบบประปาสนามและส้วมสนาม ให้แล้วเสร็จในวันนี้ ตลอดจนเตรียมแจกจ่ายยาและเวชภัณฑ์รักษาโรคพื้นฐานให้แก่ประชาชนเพื่อดูแลตัวเองในเบื้องต้น พร้องทั้งจัดทีมแพทย์อาสาสมัครเคลื่อนที่เข้าไปประจำใน 7 จังหวัดที่ประสบภัยกว่า 100 ทีม ซึ่งในบางจุดอาจจะต้องอยู่ประจำ เนื่องจากมีสถานีอนามัยที่ จ.พังงา เสียหาย 4 แห่ง คือ สถานีอนามัยเกาะพระทอง สถานีอนามัยปากเกาะ สถานีอนามัยนอกนา และสถานีอนามัยน้ำเค็ม
ด้านนางนิตยา จันทร์เรือง มหาผล โฆษกกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า กรมควบคุมโรคออกประกาศกรมควบคุมโรคเรื่อง "การป้องกันโรคในพื้นที่ประสบปัญหาสาธารณภัยจากคลื่นสึนามิ 6 จังหวัด โดยได้แจ้งเตือนให้ประชาชนปฏิบัติตัวในการป้องกันโรคต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นตามมา ที่สำคัญ 6 โรค ได้แก่ 1.โรคติดต่อของระบบทางเดินอาหาร ได้แก่ โรคท้องร่วง โรคอหิวาต์ตกโรค บิด ไทฟอยด์ อาหารเป็นพิษ ตับอักเสบ 2.โรคติดเชื้อระบบทางเดินหายใจ ได้แก่ ไข้หวัด เจ็บคอ หลอดลมอักเสบ ปอดอักเสบหรือปอดบวม 3.อุบัติเหตุจากสภาพการชำรุดของถนน บ้านเรือน มีเศษอิฐ เศษไม้ และอันตรายจากสัตว์มีพิษ 4.โรคที่เกิดจากสัมผัสน้ำ เช่น น้ำกัดเท้า โรคฉี่หนู 5.โรคตาแดง 6.โรคที่นำโดยยุง เช่น โรคมาลาเรีย โรคไข้เลือดออก โรคไข้สมองอักเสบ เจ อี และโรคเท้าช้าง
***ประกาศรับบริจาคตู้คอนเทนเนอร์
นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา รมว.เกษตรและสหกรณ์ กล่าวหลัตรวจเยี่ยมสถานการณ์ผลกระทบจากภัยแผ่นดินไหวและคลื่นยักษ์สึนามิที่ จ.กระบี่ และพังงาว่า สิ่งจำเป็นเร่งด่วนขณะนี้ที่หลายหน่วยงานดำเนินการร่วมกัน คือ การขนย้ายศพผู้เสียชีวิตกลับยังภูมิลำเนาโดยเร็วที่สุด ซึ่งในส่วนของกระทรวงเกษตรได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานในสังกัดเข้าให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัย ไม่ว่าจะเป็นการขนย้ายประชาชนไปยังที่ปลอดภัย
รวมถึงการจัดซื้อและรับบริจาคตู้คอนเทนเนอร์จากภาคเอกชนต่าง ๆ ซึ่งในเบื้องต้นได้รับแล้วจำนวน 10 ตู้คอนเทนเนอร์ พร้อมทั้งได้ประสานความร่วมมือ กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งกระทรวงมหาดไทย คมนาคม และสาธารณสุข ในการอำนวยความสะดวกในการตั้งจุดรับศพ และการเคลื่อนย้ายศพผู้เสียชีวิตด้วย
***ศุลกากรส่งตู้แช่แข็งศพเสริม
ขณะที่นายสถิตย์ ลิ่มพงศ์พันธุ์ อธิบดีกรมศุลกากร กล่าวว่า ได้ส่งตู้คอนเทนเนอร์ทั้งหมดลงไปภาคใต้โดยบางส่วนได้จัดส่งไปแล้ววานนี้ ถ้าไม่เพียงพอจะขอความร่วมมือเอกชนเพิ่มเติม เพื่อใช้ในการจัดเก็บและลำเลียงศพ และรอให้ญาติพี่น้องมารับไปดำเนินทางพิธีศาสนาต่อไป เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นครั้งนี้ไม่ส่งผลกระทบกับเรือของกรมศุลกากรในพื้นที่ภาคใต้ เนื่องจากได้นำเรือไปลอยลำกลางทะเลได้ทัน และได้ใช้เรือที่มีอยู่ช่วยผู้ประสบภัยตั้งแต่วันที่เกิดเหตุ
นายสุวัฒน์ อัศวทองกุล ประธานเจ้าของและตัวแทนเรือกรุงเทพฯ กล่าวว่า พร้อมสนับสนุนตู้คอนเทนเอร์แช่แข็งเพิ่มเติมอีกหากจำเป็น โดยแต่ละตู้บรรจุศพได้ประมาณ 100 ศพ ทั้งนี้ เหตุการณ์ดังกล่าวไม่ได้ส่งผลกระทบกับธุรกิจเดินเรือ เพื่อส่งสินค้าและนำเข้า เนื่องจากเรือทั้งหมดอยู่ที่ท่าเรือ จ.สงขลา
***ภูเก็ตระดมสมองแก้ปัญหาด่วน
ส่วนที่ จ.ภูเก็ตเช้าวานนี้นายอุดมศักดิ์ อัศวรางกูร ผู้ว่าราชการจังหวัดฯ ได้มีการประชุมร่วมกับหัวหน้าส่วนราชการต่างๆ ใน จ.ภูเก็ต ทั้งนี้ วาระสำคัญได้มีการสรุปถึงความเสียที่เกิดขึ้นและแนวทางในการแก้ปัญหา โดยเฉพาะแผนในระยะสั้น ซึ่งได้มีการสั่งการให้ทุกหน่วยได้เข้ามาช่วยสนับสนุนกำลังอย่างเต็มที่ทั้งในส่วนของกำลังเจ้าหน้าที่ที่มีอยู่และอุปกรณ์ที่มีอยู่
ทั้งนี้ นายเปี่ยน กี่สิ้น นายกเทศมนตรีเมืองป่าตอง ได้กล่าวต่อที่ประชุมว่า ขณะนี้ในส่วนของฟื้นที่ป่าตองนั้นก็เร่งทำการฟื้นฟูเพื่อให้กลับสู่สภาพปกติโดยเร็วที่สุด โดยมีหน่วยงานต่างๆ เข้าไปช่วยกันอย่างเต็มที่ แต่ขณะนี้ปัญหาใหญ่ คือ เนื่องของศพที่มีจำนวนเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากไม่มีที่เก็บจึงขอความชัดเจนในเรื่องนี้ เพราะขณะนี้ศพเริ่มส่งกลิ่น และการค้นหาก็พบเพิ่มมาก โดยขณะนี้มีศพอยู่ที่โรงพยาบาลป่าตอง 120 ราย พร้อมกันนี้ก็ได้ขอสนับสนุนงบประมาณในการจัดสร้างโรงเรียนบ้านกะหลิมซึ่งผังไปทั้งหลังด้วย
***จัดที่กว่า10ไร่รับศพผู้เสียชีวิต
โดยนายอุดมศักดิ์ ได้ชี้แจงว่าขณะนี้ได้มีการประสานของรถห้องเย็น (ตู้คอนเทนเนอร์) มาเพื่อนำศพที่ไม่มีญาติมาติดต่อเก็บไว้ก่อน โดยได้จัดสถานที่ในการเก็บศพไว้ที่บริเวณสุสานชาวไทยใหม่ ที่บริเวณหาดไม้ขาว อ.ถลาง มีเนื้อที่ประมาณ 10 ไร่ ซึ่งน่าจะเพียงพอ และจะเก็บศพดังกล่าวไว้ในห้องเย็นประมาณ 2 วัน
หากยังไม่มีการติดต่อเข้ามาก็คงต้องให้ฝังเพื่อรอญาติมารับต่อไป เพราะในแง่ของการเก็บพยานหลักฐานนั้นไม่สามารถที่จะทำลายศพได้ นอกจากนี้ได้รับแจ้งจากทางสำนักพุทธศาสนาจังหวัดภูเก็ตว่าได้รับการสั่งการให้ทุกวัดสนับสนุนในเรื่องของการเผาศพตามประเพณีหากมีการร้องขอ โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายแต่อย่างใด
***นายกฯตรวจความหายนะอีกรอบ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อบ่ายวานนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และ พล.อ.สัมพันธ์ บุญญานันต์ รมว.กลาโหม ได้เดินทางไปตรวจเยี่ยมผู้ประสบภัยจากคลื่น "สึนามิ" ถล่ม 6 จังหวัดฝั่งทะเลอันดามันอีกครั้งหนึ่ง โดยเครื่องบินเอ 319 ถึง จ.ระนอง เมื่อเวลาประมาณ 14.00 น. จากนั้นนายกรัฐมนตรีรับฟังบรรยายสรุปจากนายวินัย มงคลธารณ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง และขึ้นเฮลิคอปเตอร์ไปยังกิ่งอำเภอสุขสำราญและนั่งรถต่อไปยังโรงเรียนสุขสำราญเพื่อพบปะประชาชนที่ประสบภัยประมาณ 100 คน ส่วนใหญ่ได้รับผลกระทบจากคลื่นยักษ์จนบ้านเรือนเสียหาย
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีได้สอบถามถึงปัญหาและแสดงความเสียใจ รวมทั้งขอให้ทุกคนอดทน ซึ่งรัฐบาลรับรู้ปัญหาแล้ว และจะให้ความช่วยเหลือโดยเร็วที่สุด แต่ขณะนี้จะขอสำรวจและเร่งแก้ปัญหาผู้เสียชีวิตก่อน หากใครมีเรื่องเดือดร้อนให้แจ้งข้าราชการ หรือผู้ว่าราชการจังหวัด พร้อมมอบเงินให้กับครอบครัวผู้เสียชีวิต หากเป็นหัวหน้าครอบครัวจะให้เงินช่วยเหลือ 25,000 บาท ถ้าเป็นสมาชิกในครอบครัวรายละ 15,000 บาท และมอบถุงยังชีพให้กับประชาชน
จากนั้นได้นั่งรถยนต์ไปยังหาดประพาส ซึ่งเป็นจุดที่คลื่นยักษ์ถล่ม โดยนายกรัฐมนตรีนั่งเครื่องบินมายัง จ.กระบี่ และขึ้นเฮลิคอปเตอร์ตรวจพื้นที่ความเสียหายที่เกาะพีพี และ ต.เขาหลัก อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา แล้วขึ้นเฮลิคอปเตอร์ต่อไปยัง จ.ภูเก็ต พร้อมกับตรวจพื้นที่ความเสียหายที่หาดป่าตองและหาดกมลา จ.ภูเก็ต
**ต่างชาติสูญหายกว่า3พันคน
ด้านนายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ รองนายกรัฐมนตรี ซึ่งดูแลการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย กล่าวถึงจำนวนผู้สูญหายที่เป็นชาวต่างชาติว่า ที่แจ้งเข้ามามีประมาณ 3-4 พันคน ซึ่งรัฐบาลได้ช่วยเหลือดูแลอพยพนักท่องเที่ยวอย่างดีที่สุด ที่ผ่านมาตนได้เดินทางไปตรวจสอบสถานที่รับนักท่องเที่ยวที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ศูนย์รังสิต พบว่านักท่องเที่ยวที่ประสบภัยมีความประทับใจในการดูแลของประเทศไทยทุกๆ ด้าน ซึ่งการดูแลอย่างใกล้ชิดเป็นเรื่องที่น่ารัก ถือว่าเป็นส่วนหนึ่งที่เราจะต้องรีบประชาสัมพันธ์ในส่วนนี้ แทนที่จะประชาสัมพันธ์ภายหลังจากเหตุการณ์สงบไปแล้ว และนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ก็ยืนยันด้วยความประทับใจว่าจะกลับมาเมืองไทยอีกครั้ง
นายสุวัจน์ กล่าวว่า นักท่องเที่ยวต่างชาติส่วนใหญ่จะเป็นชาวอังกฤษและเยอรมัน ซึ่งตนได้สั่งการให้นายประภาส ลิมปพันธ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และผู้ว่าฯ ททท.ไปสำรวจทุกโรงแรมเพื่อพบกับนักท่องเที่ยวที่อพยพเข้ามาว่าขาดแคลนสิ่งใด เพื่อประสานงานให้กับกงสุล หรือสถานทูตของนักท่องเที่ยวสัญชาตินั้นๆ
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ยังคงเดินทางเข้าไปพักผ่อนในพื้นที่เกิดเหตุ เช่น หาดป่าตอง นั้น มองได้สองอย่าง คือ นักท่องเที่ยวเหล่านั้นมีความเชื่อมั่นในมาตรการต่างๆของประเทศไทยและจะเป็นข้อมูลชี้แจงให้นักท่องเที่ยวต่างชาติทราบว่าจะไม่มีเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นในประเทศไทยอีกในช่วงนี้
กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย รายงานยอดผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจากเหตุการณ์คลื่นยักษ์ถล่ม 6 จังหวัดอันดามันฝั่งทะเลอันดามัน ณ เวลา 18.00น.วานนี้ (29 ธ.ค.) รวมผู้เสียชีวิตทั้งสิ้น 1,657 ราย บาดเจ็บ 8,954 ราย สูญหาย 4,086 ราย โดยแยกเป็นจังหวัด ดังนี้ ภูเก็ต มีผู้เสียชีวิต 233 ราย บาดเจ็บ 1,268 ราย สูญหาย 1,580 ราย พังงา มีผู้เสียชีวิต 1,069 ราย บาดเจ็บ 5,542 ราย สูญหาย 1,390 ราย กระบี่ มีผู้เสียชีวิต 198 ราย บาดเจ็บ 1,881 ราย สูญหาย 1,018 ราย ระนอง มีผู้เสียชีวิต 146 ราย บาดเจ็บ 182 ราย สูญหาย 97 ราย ตรัง มีผู้เสียชีวิต 5 ราย บาดเจ็บ 66 ราย และ สตูล มีผู้เสียชีวิต 6 ราย บาดเจ็บ 15 ราย สูญหาย 1 คน
ขณะที่การค้นหาศพและผู้สูญหายในเหตุการณ์โศกนาฎกรรมครั้งนี้ของเจ้าหน้าที่ทุกหน่วยงานยังคงเดินหน้าอย่างต่อเนื่องเป็นวันที่สี่ แม้ทุกคนจะเริ่มเหน็ดเหนื่อย และอ่อนแรง ขณะที่ทางกองทัพบกได้มีการเสริมกำลังทหารเข้าไปในพื้นที่อีกกว่า 4,000 นายเพื่อร่วมกับทุกฝ่ายในการกู้ภัย นอกจากนี้ยังมีหน่วยกู้ภัยจากนานาชาติ อาทิ จากประเทศญี่ปุ่น สหรัฐฯ ออสเตรเลีย เยอรมนี และฝรั่งเศส เข้าร่วมในการกู้ภัยในครั้งนี้ด้วย
***อาสาสมัครญี่ปุ่นลงใต้ช่วยกู้ภัย
โดยเมื่อเช้าวานนี้ พล.ต.จำลอง ศรีเมือง ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีได้พาคณะหน่วยกู้ภัยจากประเทศญี่ปุ่นมา 2 ชุดๆ ละ 12 คน ประกอบด้วยอาสาสมัครและคณะแพทย์พยาบาล กลุ่มแพทย์"โทโกชูไก"ของนายแพทย์ โทกูดะ โทราโอะ เพื่อมาร่วมช่วยเหลือในการกู้ภัยและผู้ประสบภัยในพื้นที่ 6 จังหวัดอันดามัน
พล.ต.จำลอง กล่าวว่า หลังจากกลุ่มอาสาสมัครและกลุ่มแพทย์"โทโกชูไก"ลงสำรวจผู้ป่วยตามโรงพยาบาลต่างๆ ที่ จ.พังงาและสภาพของผู้ประสบภัยยังพื้นที่ตะกั่วป่าว่าเป็นอย่างไรแล้ว จึงได้ติดต่อกลับประเทศญี่ปุ่นเพื่อขอให้ส่งแพทย์ พยาบาลเภสัชมาเพิ่มอีก 10 คน หลังจากที่เดินทางมาแล้ว 12 คนพร้อมเครื่องเวชภัณฑ์ 4 ตัน ซึ่งชุดหลังจะเดินทางมาถึงดอนเมือง 20.30 น.ของคืนวันที่ 29 ธ.ค.และจะลงพื้นที่เพื่อสมทบกับทีมเดิมทันที โดยคณะแพทย์จากญี่ปุ่นกลุ่มนี้เป็นผู้ที่เชี่ยวชาญรักษาผู้ประสบสาธารณภัยโดยตรงและพวกนี้จะทำงาน24 ชั่วโมง โดยไม่มีการพักตลอดระยะเวลา 3 วันหลังครบ 3 วันจึงจะได้พักผ่อน
***นานาชาติเข้าพื้นที่ช่วยกู้ภัยเพียบ
ขณะที่ พล.อ.สัมพันธ์ บุญญานันต์ รมว.กลาโหม เปิดเผยว่า ขณะนี้สหรัฐฯได้จัดส่งเครื่องบินลำเลียงและกู้ภัยมาถึงประเทศไทยและพร้อมปฏิบัติการเพื่อสนับสนุนภารกิจในการช่วยเหลือผู้ประสบภัยแล้วจำนวน 7 ลำและจะมีการเพิ่มเติมในกรณีที่เราต้องการความช่วยเหลือ ในทางทหารจะได้มีการเรียนรู้ในเรื่องเทคนิคของการ rescue นอกจากนั้นยังมีการช่วยเหลือจากออสเตรเลีย เยอรมัน ฝรั่งเศสด้วย
"ในส่วนของความสูญเสียของฐานทัพเรือพังงานั้นได้รับรายงานจาก พล.ร.อ.สามภพ อัมระปาล ผบ.ทร.ว่าได้รับความเสียหายอย่างมากโดยมีผู้เสียชีวิต 16 คน เป็นทหารเรือ 4 นาย ที่เหลือเป็นครอบครัวของกำลังพลเอง อาคารและบ้านพักเสียหายหนัก อีกทั้งเรือที่ประจำการอยู่ก็เสียหายมากเช่นกัน"
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กองทัพเรือได้เผยแพร่ข่าวประชาสัมพันธ์ว่า กองกำลังป้องกันตนเองทางทะเลประเทศญี่ปุ่นได้ประสานกระทรวงการต่างประเทศขอจัดเรือรบกองกำลังป้องกันตนเองทางทะเลประเทศญี่ปุ่น 3 ลำ ได้แก่
KIRISHIMA (DDG-174) เรือ TAKANAMI (DD-110) และเรือ HAMANA (AOE-424) เข้าเยี่ยมประเทศไทย และเข้าร่วมกับกองทัพเรือในการค้นหาผู้ประสบภัยโดยจอดเรือทอดสมอที่อ่าวป่าตอง ตั้งแต่วานนี้จนเสร็จสิ้นภารกิจ
***ทัพเรือพังงาเคลื่อนย้ายคลังอาวุธ
สำหรับความเคลื่อนไหวภายในฐานทัพเรือพังงานั้น วานนี้ได้มีการเคลื่อนย้ายอาวุธออกจากคลังสรรพาวุธ และมีการเข้าค้นหาเคลื่อนย้ายผู้เสียชีวิตภายในอาคารบ้านพักภายในฐานทัพเรือโดยเจ้าหน้าที่ แต่ยังไม่ได้นำเครื่องจักรหนักเข้าไปขุดค้นซากหาผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ครั้งนี้ ทำให้การค้นหายังทำได้ไม่เต็มที่
ขณะเดียวกัน บริเวณรอบนอกฐานทัพ ทางญาติๆ ทหารเรือที่สูญหายต่างเข้าลุยป่าเข้าค้นหาญาติพี่น้องด้วยตนเอง และให้ข้อมูลว่านับตั้งแต่เกิดเหตุยังไม่เห็นร่องรอยว่ามีการเข้าหาค้นหาผู้สูญหายแต่อย่างใด
***พบศพ"พ.ญ.กศินี-น้องภีม"แล้ว
ขณะที่เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยที่ค้นหาผู้สูญหายในพื้นที่ จ.พังงา แจ้งว่าได้พบศพแพทย์หญิงเกศินี สุนทรเกษม แพทย์ประจำโรงพยาบาลตะกั่วป่า จ.พังงาแล้ว ส่วนนางพรพิมล ขำกลิ่น มารดายังคงสูญหาย นอกจากนี้เจ้าหน้าที่พบศพเพิ่มอีก 25 ศพ ส่วนใหญ่เป็นคนในพื้นที่ ซึ่งมีญาติแจ้งรับศพไปประกอบพิธีกรรมทางศาสนาแล้ว
นอกจากนี้ยังได้พบศพ ด.ช.ภีม กุลจรรยาวิวัฒน์ วัย 3 ขวบ บุตรชายของนางกันตวรรณ กุลจรรยาวิวัฒน์ ส.ส.พังงา พรรคประชาธิปัตย์ พร้อมศพพี่เลี้ยงแล้วภายในรีสอร์ตที่พักใน อ.เขาหลัก ด้วย เบื้องต้นญาติจะนำศพมาตั้งบำเพ็ญกุศพร้อมศพนายบรม ตันเถียร อดีต รมช.คลัง ผู้เป็นตาที่เสียชีวิตในเหตุการณ์ดังกล่าวไปก่อนหน้านี้ที่วัดพระศรีมหาธาตุวรมหาวิหาร
***อส.ไทย-ต่างชาติผนึกกำลังกู้ภัย
ส่วนที่บริเวณเขาหลัก อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา มีทีมกู้ภัยที่ร่วมกันระหว่างต่างชาติกับไทย ร่วมมือกันค้นหาผู้ที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์ครั้งนี้โดยทีมกู้ภัยจากต่างชาติมีจำนวน 35 คนเป็นชาวไต้หวัน สหรัฐฯ และอื่นๆ ส่วนทีมจากไทยจะเป็นเจ้าหน้าที่จากมูลนิธิกุศลธรรม เป็นผู้ประสานงาน
สำหรับสภาพโดยรวมที่เขาหลัก กลิ่นซากศพเหม็นคลุ้งเนื่องจากการเสียชีวิตผ่านมาหลายวันแล้ว ที่สำคัญการขนย้ายศพออกจากพื้นที่มีความยากลำบากเนื่องจากเส้นทางจราจรระหว่าง อ.ท้ายเหมือง กับเขาหลัก ติดขัดอย่างมาก จึงได้มีการนำรถตู้คอนเทนเนอร์เข้ามาบรรทุกศพคราวละมากๆ แทนรถของมูลนิธิ ทางเจ้าหน้าที่ได้ขอร้องผู้ที่ไม่มีความจำเป็นหลีกเลี่ยงการใช้เส้นทางดังกล่าวด้วย
นอกจากนั้น ขณะนี้เริ่มมีผู้ประกอบการบางส่วนเข้ามาขนอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้า เครื่องคอมพิวเตอร์ ที่ยังไม่เสียหายมากนักออกจากพื้นที่ ส่วนบริษัทประกันภัยเริ่มเข้ามาถ่ายรูปเก็บข้อมูลรถที่อยู่ในประกัน รวมถึงชักลากออกไปบางคันโดยเฉพาะรถยุโรป
***ที่เกาะพีพีพบอีกกว่า100ศพ
ส่วนความคืบหน้าในการขุดค้นหาผู้สูญหายในเกาะพีพีตลอดวันวานนี้ ยังเป็นไปอย่างต่อเนื่อง โดยค้นพบศพผู้เสียชีวิตใต้ซากปรักหักพังอีกกว่า 100 ศพแต่ตัวเลขอย่างไม่เป็นทางการอาจจะถึง 300 ศพ อย่างไรก็ตาม มีปัญหาในเรื่องการประสานงานของทีมช่วยเหลือเนื่องจากมีหน่วยงานต่างๆ เข้ามาช่วยค้นหาจำนวนมาก โดยไม่มีหน่วยงานกลางประสานงานที่ดีพอ
***จี้ตั้งศูนย์ประสานงานที่พีพี
นายวันเลิศ กิตติธรกุล ผู้จัดการทั่วไปโรงแรมพีพีไอร์แลนด์คาบาน่า เกาะพีพี เปิดเผยว่า ตอนนี้ที่เกาะพีพีมีความสับสนวุ่นวายมากในการกู้ศพผู้ที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เนื่องต่างตนต่างเข้ามาทำงานโดยไม่มีหน่วยงานหลักในการประสานงาน โดยเฉพาะหน่วยงานของทางฝ่ายปกครองทำให้ไม่รู้ว่าจะประสานกับหน่วยงานไหน จึงอยากจะให้มีการจัดตั้งศูนย์ในการประสานงานที่เกาะพีพีเพื่อให้การทำงานสะดวกและรวดเร็ว
"การกู้เก็บศพนักท่องเที่ยวที่เกาะพีพียังคงดำเนินการต่อไปเรื่อยๆ เพราะคาดว่าน่าจะมีศพที่ยังตกค้างอยู่บนเกาะพีพีอีกประมาณ 300-400 ศพ และทางภาคเอกชนต้องการที่จะให้ค้นหาศพที่เข้าพักโรงแรมให้รวดเร็วที่สุด เนื่องจากขณะนี้ศพเริ่มส่งกลิ่นแล้ว"
***เผยเรือขนศพมีไม่เพียงพอ
ขณะที่ พ.ต.อ.สุรพล ทวนทอง ผู้บังคับการตำรวจน้ำ กล่าวว่า ขณะนี้ทางตำรวจน้ำกำลังเร่งนำศพออกจากพื้นที่พีพีโดยเร็วที่สุดเพราะศพที่ยังค้นหาไม่เจอเพิ่มส่งกลิ่นเหม็นมาก การเข้าศพออกจากซากปักหักพังทางตำรวจน้ำได้นำแม็คโครมาตักเพื่อค้นหาศพที่ติดกับอาคารบ้านเรือน คาดว่าจะใช้เวลาดำเนินการให้เสร็จ และจาก 4 วันที่ดำเนินการเก็บไปแล้ว 300 กว่าศพ ซึ่งคาดว่าจะเหลืออีกมากโดยเฉพาะที่บ่อน้ำเสีย
"ตอนนี้ศพที่เก็บได้แล้วเรือขนมีไม่เพียงพอ ต้องขอเรือจากเอกชนมาช่วยข้น และสภาพเกาะพีพียับเยินทั้งสองฝั่งโดยด้านหลังเสียหายมากกว่าด้านหน้า"
***กระบี่ระดมเก็บศพให้หมดวันนี้
ด้านนายอานนท์ พรหมนารท ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ เปิดเผยถึงการกู้ศพที่บริเวณเกาะพีพี และตามบริเวณต่างๆ ใน จ.กระบี่ว่า ทางจังหวัดจะเร่งกู้และเก็บศพที่ยังคงตกค้างอยู่ตามที่ต่างๆ ให้เสร็จสิ้นโดยเร็วไม่เกินวันที่ 30 ธ.ค.นี้เพราะสภาพศพเริ่มส่งกลิ่นและยากต่อการเก็บกู้แล้ว
ขณะนี้ได้ส่งเครื่องจักรกล รถแมคโฮว์ 4 คัน จาก นพค. 2 คัน ทางหลวงชนบท 1 คัน และ อบจ.กระบี่ 1 คัน และรถเครน 2 คันเพื่อลงไปยังเกาะพีพีทำการปรับสภาพพื้นที่และค้นหาศพผู้เสียชีวิตที่ติดอยู่ตามใต้ซากปรักหักพัง และยังได้ระดมกำลัง ตชด.พร้อมด้วยสุนัขดมกลิ่น 1 ชุด ไปยังเกาะพีพีด้วย โดยในวันที่ 31 ธ.ค.นี้จะทำการระดมอาสาสมัครนักเรียน นักศึกษาเข้าทำความสะอาดตามสถานที่ต่างๆ ที่ได้รับผลกระทบจากอุบัติภัยคลื่นยักษ์ถล่มและจัดเจ้าหน้าที่เข้าไปฟื้นฟูสภาพจิตใจของผู้ประสบเหตุ มีอยู่ประมาณ 2,000 คน ที่อาศัยอยู่ตามศูนย์อพยพ ให้เข้าสู่สภาวะปกติโดยเร็ว เพราะบางคนต้องสูญเสียครอบครัว ญาติพี่น้อง ทำให้มีสภาพจิตใจที่เลวร้าย ซึ่งจะต้องเร่งฟื้นฟูโดยเร็ว
นอกจากนี้ยังได้จัดส่งทีมแพทย์ไปประจำอยู่ตามจุดต่างๆ ที่ได้รับผลกระทบ ประมาณ 300 คนเข้าไปตรวจสอบพร้อมให้การรักษาผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ ซึ่งเกรงว่าจะเกิดโรคระบาดขึ้นด้วย
***"สุดารัตน์"รุดหารือหมอพรทิพย์
วันเดียวกันนางสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ รมว.สาธารณสุข พร้อมด้วยผู้บริหารกระทรวงฯ ได้เดินทางมาที่วัดตะกั่วป่า ซึ่งใช้เป็นจุดลำเลียงศพจาก จ.พังงามาไว้มากที่สุดเพื่อรับทราบถึงปัญหาและอุปสรรคการจัดการ ทันทีที่มาถึงนางสุดารัตน์ ได้เข้าหารือกับ พ.ญ.คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ รอง ผอ.สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ โดย พ.ญ.คุณหญิงพรทิพย์ ได้กล่าวว่า การทำงานในขณะนี้มีปัญหามาก เพราะไม่มีหน่วยงานที่เป็นเจ้าภาพหลักเข้ามาดำเนินการ และยังขาดผู้ประสานงาน แม้จะมีอาสาสมัครเข้ามาช่วยเหลือมากมายก็ตาม แต่ก็ยังเป็นปัญหา เพราะอาสาสมัครเหล่านี้ต้องหมุนเวียนกันไปทำภารกิจอื่นๆ
ดังนั้น ต้องมีทีมงานเข้ามาช่วยเสริมโดยเร็ว ซึ่งก็น่าจะคลี่คลายลงไปได้บ้าง เพราะกระทรวงสาธารณสุขได้อาสาเข้ามาช่วย ขณะที่การชันสูตรศพนั้น ก็ยังขาดผู้ช่วยลำเลียงศพขึ้นชันสูตร แต่ก็เพิ่งได้กำลังจากทหารส่วนหนึ่งเข้ามาช่วยเสริม ทำให้ปัญหาเบาบางลงไปบ้าง นอกจากนี้ เห็นว่าควรต้องมีการตั้งศูนย์ประสานงานเพื่อความช่วยเหลือขึ้นที่นี่ด้วย ไม่ใช่ไปตั้งไว้ที่ จ.ภูเก็ต แต่เพียงแห่งเดียว เพราะพื้นที่นี้ก็มีนักท่องเที่ยวจำนวนมากที่ยังคงสูญหาย
"ขอให้มีการแก้ไขปัญหาสัญญาณโทรศัพท์โดยเร็ว เพราะมีปัญหามากเรี่องการติดต่อ และไม่มีหน่วยงานใดเข้ามาดูเรื่องนี้เลย มีเพียงบริษัทเอกชนแห่งหนึ่งเท่านั้น ที่เข้ามาดำเนินการจัดเครือข่ายให้ และหากจะให้ดี ช่วยแก้ไขให้ เอไอเอส ใช้ได้ด้วย"
***"พรทิพย์"โวยอุปกรณ์ไม่พร้อม
พ.ญ.คุณหญิงพรทิพย์ กล่าวต่อว่า ขณะนี้ได้เริ่มมีผู้เชี่ยวชาญจากต่างประเทศเข้ามาช่วยเสริมในการชันสูตรศพเพิ่มมากขึ้นแล้ว ซึ่งทำให้รู้สึกสบายใจ เพราะแพทย์ชันสูตรศพในเมืองไทยมีไม่เกิน 60 คน และต่างก็มีภารกิจอยู่ จึงต้องมีการหมุนเวียนและผลัดกันลงมาทำงานในพื้นที่ อย่างไรก็ตาม ยังยืนยันที่จะไม่ให้เผาศพนิรนามโดยเด็ดขาด และจะพยายามประสานไม่ให้เกิดการสูญหาย โดยแยกศพชาวต่างชาติกับคนไทยเอาไว้ออกจากกัน
ส่วนขั้นตอนในการชันสูตรศพนั้น เบื้องต้นหากศพไม่เน่า ก็จะต้องมีการเก็บเนื้อเยื่อบริเวณกระพุ้งแก้มเอาไว้ แต่ขณะนี้ผ่านมา 3-4 วันแล้ว ศพจึงเริ่มเน่า ดังนั้น จะเป็นการเก็บตัวอย่างส้นผมมาตรวจสอบแทน ซึ่งก็มีแนวโน้มที่จะพิสูจน์ไม่ได้สูง ทั้งนี้ หากเป็นการชันสูตรที่ถูกต้องแล้ว ควรต้องใช้ชิ้นกระดูก แต่ก็ไม่สามารถทำได้ เพราะขาดเครื่องมือ รวมถึงไม่มีบุคลากรเพียงพอ
"เมื่อวานนี้ยังต้องใช้กระโถนใส่แอลกอฮอล์ เพื่อป้องกันไม่ให้ดีเอ็นเอปนกัน ต้องดัดแปลงอุปกรณ์ที่มีอยู่ทั้งหมดมาใช้ แต่ปัญหาใหญ่ที่จะตามมาต่อจากนี้ คงเป็นหน่วยงานที่ต้องตรวจดีเอ็นเอ ซึ่งขณะนี้ประเทศอังกฤษก็ได้เสนอตัวเข้ามาช่วย แต่ยังอยากให้มีหน่วยงานอื่นๆ ทั้งในและต่างประเทศ เข้ามาช่วยมากกว่านี้ เพราะการสกัดดีเอ็นเอถือเป็นเรื่องที่ยากมาก อีกทั้งปริมาณชิ้นเนื้อที่ต้องนำมาตรวจก็มีจำนวนมาก คาดว่าจะไม่ต่ำกว่า 1 หมื่นตัวอย่าง ที่ต้องส่งตรวจ"
***เผยทีมงานเริ่มเหนื่อย-น้ำตาร่วง
พ.ญ.คุณหญิงพรทิพย์ กล่าวเพิ่มว่า สำหรับสิ่งที่อยากได้มากที่สุดในขณะนี้ก็คือ พลาสติกห่อศพ เนื่องจากผ้าก๊อซ สำลี หรือผ้าห่อศพ ใช้ไม่ได้ เพราะน้ำเหลืองเริ่มไหลแล้วแต่ถ้าเป็นพลาสติกจะสามารถป้องกันการไหลของน้ำเหลืองได้ รวมถึงยังป้องกันแมลงลงมาวางไข่ด้วย ซึ่งในการจัดการเรื่องศพที่ถูกต้องนั้นได้แนะนำไปตั้งแต่วันแรกแล้วว่าควรมีการสร้าง"เตนท์เย็น"ในการจัดเก็บ แต่กลับไม่มีหน่วยงานใดเข้าใจทำให้เกิดปัญหาศพเน่า ขณะที่ตู้คอนเทนเนอร์เย็นก็เพิ่งถูกส่งมาถึงวันนี้เอง
"การทำงานมีปัญหามาก ทั้งในเรื่องผู้ช่วยบริหารจัดการ เพราะหมอต้องทำเองทั้งหมด ทั้งถ่ายรูป โหลดรูป ปริ๊นซ์งาน เติมหมึกสี งานคอมพิวเตอร์ ขณะที่ทีมงานเองก็เริ่มเหนื่อย บางคนร้องไห้อยากกลับบ้าน เพราะไม่เคยเจอสภาพนี้มาก่อน หมอก็ต้องทำหน้าที่เหมือนแม่ ต้องคอยปลอบ" พ.ญ.คุณหญิงพรทิพย์ กล่าวด้วยสีหน้าอิดโรย
**"สุดารัตน์"เต้นสั่งเสริมกำลังด่วน
ทันทีที่ได้รับทราบปัญหานางสุดารัตน์ จึงได้สั่งการให้ตั้งศูนย์ประสานงาน ณ จุดเดียวทันทีในการจัดการกับศพในพื้นที่โดยใช้อาคารสำนักงานบริษัทซีพีเงินทุน ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่ใกล้เคียงเป็นศูนย์กลาง รวมไปถึงการประสานงานทั้งหมดตลอดจนการอำนวยความสะดวกให้กับผู้มาติดต่อขอดูศพด้วย นอกจากนี้ยังได้เร่งให้จัดส่งทีมแพทย์เฉพาะทางเข้ามาเสริม ในการดูแลรักษาผู้ป่วย พร้อมเครื่องมืออุปกรณ์ที่ขาดแคลนโดยเร็ว รวมทั้งตู้คอนเทนเนอร์เย็น และเสบียงอาหารเด้วย ส่วนเรื่องของเจ้าหน้าที่ต่างประเทศที่จะมาให้ความช่วยเหลือนั้นให้ช่วยเหลือแบบไม่แบ่งเป็นประเทศ แต่ให้ทำเป็นภาพรวมของนานาชาติทั้งหมด
ส่วนเรื่องการป้องกันโรคระบาดที่อาจจะเกิดขึ้นนั้นได้สั่งการให้กรมอนามัยและกรมควบคุมโรค เร่งจัดการด้านสิ่งแวดล้อมและสุขอนามัย ทั้งในแหล่งน้ำและสถานที่ที่มีศพติดค้างอยู่โดยได้จัดเตรียมน้ำยา และเวชภัณฑ์เครื่องมือต่างๆ ไว้ให้พร้อมแล้ว
**สธ.เตือนระวัง 6 โรคร้าย ระบาด
นางสุดารัตน์ กล่าวต่อว่า ได้สั่งการให้มีการจัดทำระบบประปาสนามและส้วมสนาม ให้แล้วเสร็จในวันนี้ ตลอดจนเตรียมแจกจ่ายยาและเวชภัณฑ์รักษาโรคพื้นฐานให้แก่ประชาชนเพื่อดูแลตัวเองในเบื้องต้น พร้องทั้งจัดทีมแพทย์อาสาสมัครเคลื่อนที่เข้าไปประจำใน 7 จังหวัดที่ประสบภัยกว่า 100 ทีม ซึ่งในบางจุดอาจจะต้องอยู่ประจำ เนื่องจากมีสถานีอนามัยที่ จ.พังงา เสียหาย 4 แห่ง คือ สถานีอนามัยเกาะพระทอง สถานีอนามัยปากเกาะ สถานีอนามัยนอกนา และสถานีอนามัยน้ำเค็ม
ด้านนางนิตยา จันทร์เรือง มหาผล โฆษกกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า กรมควบคุมโรคออกประกาศกรมควบคุมโรคเรื่อง "การป้องกันโรคในพื้นที่ประสบปัญหาสาธารณภัยจากคลื่นสึนามิ 6 จังหวัด โดยได้แจ้งเตือนให้ประชาชนปฏิบัติตัวในการป้องกันโรคต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นตามมา ที่สำคัญ 6 โรค ได้แก่ 1.โรคติดต่อของระบบทางเดินอาหาร ได้แก่ โรคท้องร่วง โรคอหิวาต์ตกโรค บิด ไทฟอยด์ อาหารเป็นพิษ ตับอักเสบ 2.โรคติดเชื้อระบบทางเดินหายใจ ได้แก่ ไข้หวัด เจ็บคอ หลอดลมอักเสบ ปอดอักเสบหรือปอดบวม 3.อุบัติเหตุจากสภาพการชำรุดของถนน บ้านเรือน มีเศษอิฐ เศษไม้ และอันตรายจากสัตว์มีพิษ 4.โรคที่เกิดจากสัมผัสน้ำ เช่น น้ำกัดเท้า โรคฉี่หนู 5.โรคตาแดง 6.โรคที่นำโดยยุง เช่น โรคมาลาเรีย โรคไข้เลือดออก โรคไข้สมองอักเสบ เจ อี และโรคเท้าช้าง
***ประกาศรับบริจาคตู้คอนเทนเนอร์
นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา รมว.เกษตรและสหกรณ์ กล่าวหลัตรวจเยี่ยมสถานการณ์ผลกระทบจากภัยแผ่นดินไหวและคลื่นยักษ์สึนามิที่ จ.กระบี่ และพังงาว่า สิ่งจำเป็นเร่งด่วนขณะนี้ที่หลายหน่วยงานดำเนินการร่วมกัน คือ การขนย้ายศพผู้เสียชีวิตกลับยังภูมิลำเนาโดยเร็วที่สุด ซึ่งในส่วนของกระทรวงเกษตรได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานในสังกัดเข้าให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัย ไม่ว่าจะเป็นการขนย้ายประชาชนไปยังที่ปลอดภัย
รวมถึงการจัดซื้อและรับบริจาคตู้คอนเทนเนอร์จากภาคเอกชนต่าง ๆ ซึ่งในเบื้องต้นได้รับแล้วจำนวน 10 ตู้คอนเทนเนอร์ พร้อมทั้งได้ประสานความร่วมมือ กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งกระทรวงมหาดไทย คมนาคม และสาธารณสุข ในการอำนวยความสะดวกในการตั้งจุดรับศพ และการเคลื่อนย้ายศพผู้เสียชีวิตด้วย
***ศุลกากรส่งตู้แช่แข็งศพเสริม
ขณะที่นายสถิตย์ ลิ่มพงศ์พันธุ์ อธิบดีกรมศุลกากร กล่าวว่า ได้ส่งตู้คอนเทนเนอร์ทั้งหมดลงไปภาคใต้โดยบางส่วนได้จัดส่งไปแล้ววานนี้ ถ้าไม่เพียงพอจะขอความร่วมมือเอกชนเพิ่มเติม เพื่อใช้ในการจัดเก็บและลำเลียงศพ และรอให้ญาติพี่น้องมารับไปดำเนินทางพิธีศาสนาต่อไป เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นครั้งนี้ไม่ส่งผลกระทบกับเรือของกรมศุลกากรในพื้นที่ภาคใต้ เนื่องจากได้นำเรือไปลอยลำกลางทะเลได้ทัน และได้ใช้เรือที่มีอยู่ช่วยผู้ประสบภัยตั้งแต่วันที่เกิดเหตุ
นายสุวัฒน์ อัศวทองกุล ประธานเจ้าของและตัวแทนเรือกรุงเทพฯ กล่าวว่า พร้อมสนับสนุนตู้คอนเทนเอร์แช่แข็งเพิ่มเติมอีกหากจำเป็น โดยแต่ละตู้บรรจุศพได้ประมาณ 100 ศพ ทั้งนี้ เหตุการณ์ดังกล่าวไม่ได้ส่งผลกระทบกับธุรกิจเดินเรือ เพื่อส่งสินค้าและนำเข้า เนื่องจากเรือทั้งหมดอยู่ที่ท่าเรือ จ.สงขลา
***ภูเก็ตระดมสมองแก้ปัญหาด่วน
ส่วนที่ จ.ภูเก็ตเช้าวานนี้นายอุดมศักดิ์ อัศวรางกูร ผู้ว่าราชการจังหวัดฯ ได้มีการประชุมร่วมกับหัวหน้าส่วนราชการต่างๆ ใน จ.ภูเก็ต ทั้งนี้ วาระสำคัญได้มีการสรุปถึงความเสียที่เกิดขึ้นและแนวทางในการแก้ปัญหา โดยเฉพาะแผนในระยะสั้น ซึ่งได้มีการสั่งการให้ทุกหน่วยได้เข้ามาช่วยสนับสนุนกำลังอย่างเต็มที่ทั้งในส่วนของกำลังเจ้าหน้าที่ที่มีอยู่และอุปกรณ์ที่มีอยู่
ทั้งนี้ นายเปี่ยน กี่สิ้น นายกเทศมนตรีเมืองป่าตอง ได้กล่าวต่อที่ประชุมว่า ขณะนี้ในส่วนของฟื้นที่ป่าตองนั้นก็เร่งทำการฟื้นฟูเพื่อให้กลับสู่สภาพปกติโดยเร็วที่สุด โดยมีหน่วยงานต่างๆ เข้าไปช่วยกันอย่างเต็มที่ แต่ขณะนี้ปัญหาใหญ่ คือ เนื่องของศพที่มีจำนวนเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากไม่มีที่เก็บจึงขอความชัดเจนในเรื่องนี้ เพราะขณะนี้ศพเริ่มส่งกลิ่น และการค้นหาก็พบเพิ่มมาก โดยขณะนี้มีศพอยู่ที่โรงพยาบาลป่าตอง 120 ราย พร้อมกันนี้ก็ได้ขอสนับสนุนงบประมาณในการจัดสร้างโรงเรียนบ้านกะหลิมซึ่งผังไปทั้งหลังด้วย
***จัดที่กว่า10ไร่รับศพผู้เสียชีวิต
โดยนายอุดมศักดิ์ ได้ชี้แจงว่าขณะนี้ได้มีการประสานของรถห้องเย็น (ตู้คอนเทนเนอร์) มาเพื่อนำศพที่ไม่มีญาติมาติดต่อเก็บไว้ก่อน โดยได้จัดสถานที่ในการเก็บศพไว้ที่บริเวณสุสานชาวไทยใหม่ ที่บริเวณหาดไม้ขาว อ.ถลาง มีเนื้อที่ประมาณ 10 ไร่ ซึ่งน่าจะเพียงพอ และจะเก็บศพดังกล่าวไว้ในห้องเย็นประมาณ 2 วัน
หากยังไม่มีการติดต่อเข้ามาก็คงต้องให้ฝังเพื่อรอญาติมารับต่อไป เพราะในแง่ของการเก็บพยานหลักฐานนั้นไม่สามารถที่จะทำลายศพได้ นอกจากนี้ได้รับแจ้งจากทางสำนักพุทธศาสนาจังหวัดภูเก็ตว่าได้รับการสั่งการให้ทุกวัดสนับสนุนในเรื่องของการเผาศพตามประเพณีหากมีการร้องขอ โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายแต่อย่างใด
***นายกฯตรวจความหายนะอีกรอบ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อบ่ายวานนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และ พล.อ.สัมพันธ์ บุญญานันต์ รมว.กลาโหม ได้เดินทางไปตรวจเยี่ยมผู้ประสบภัยจากคลื่น "สึนามิ" ถล่ม 6 จังหวัดฝั่งทะเลอันดามันอีกครั้งหนึ่ง โดยเครื่องบินเอ 319 ถึง จ.ระนอง เมื่อเวลาประมาณ 14.00 น. จากนั้นนายกรัฐมนตรีรับฟังบรรยายสรุปจากนายวินัย มงคลธารณ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง และขึ้นเฮลิคอปเตอร์ไปยังกิ่งอำเภอสุขสำราญและนั่งรถต่อไปยังโรงเรียนสุขสำราญเพื่อพบปะประชาชนที่ประสบภัยประมาณ 100 คน ส่วนใหญ่ได้รับผลกระทบจากคลื่นยักษ์จนบ้านเรือนเสียหาย
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีได้สอบถามถึงปัญหาและแสดงความเสียใจ รวมทั้งขอให้ทุกคนอดทน ซึ่งรัฐบาลรับรู้ปัญหาแล้ว และจะให้ความช่วยเหลือโดยเร็วที่สุด แต่ขณะนี้จะขอสำรวจและเร่งแก้ปัญหาผู้เสียชีวิตก่อน หากใครมีเรื่องเดือดร้อนให้แจ้งข้าราชการ หรือผู้ว่าราชการจังหวัด พร้อมมอบเงินให้กับครอบครัวผู้เสียชีวิต หากเป็นหัวหน้าครอบครัวจะให้เงินช่วยเหลือ 25,000 บาท ถ้าเป็นสมาชิกในครอบครัวรายละ 15,000 บาท และมอบถุงยังชีพให้กับประชาชน
จากนั้นได้นั่งรถยนต์ไปยังหาดประพาส ซึ่งเป็นจุดที่คลื่นยักษ์ถล่ม โดยนายกรัฐมนตรีนั่งเครื่องบินมายัง จ.กระบี่ และขึ้นเฮลิคอปเตอร์ตรวจพื้นที่ความเสียหายที่เกาะพีพี และ ต.เขาหลัก อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา แล้วขึ้นเฮลิคอปเตอร์ต่อไปยัง จ.ภูเก็ต พร้อมกับตรวจพื้นที่ความเสียหายที่หาดป่าตองและหาดกมลา จ.ภูเก็ต
**ต่างชาติสูญหายกว่า3พันคน
ด้านนายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ รองนายกรัฐมนตรี ซึ่งดูแลการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย กล่าวถึงจำนวนผู้สูญหายที่เป็นชาวต่างชาติว่า ที่แจ้งเข้ามามีประมาณ 3-4 พันคน ซึ่งรัฐบาลได้ช่วยเหลือดูแลอพยพนักท่องเที่ยวอย่างดีที่สุด ที่ผ่านมาตนได้เดินทางไปตรวจสอบสถานที่รับนักท่องเที่ยวที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ศูนย์รังสิต พบว่านักท่องเที่ยวที่ประสบภัยมีความประทับใจในการดูแลของประเทศไทยทุกๆ ด้าน ซึ่งการดูแลอย่างใกล้ชิดเป็นเรื่องที่น่ารัก ถือว่าเป็นส่วนหนึ่งที่เราจะต้องรีบประชาสัมพันธ์ในส่วนนี้ แทนที่จะประชาสัมพันธ์ภายหลังจากเหตุการณ์สงบไปแล้ว และนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ก็ยืนยันด้วยความประทับใจว่าจะกลับมาเมืองไทยอีกครั้ง
นายสุวัจน์ กล่าวว่า นักท่องเที่ยวต่างชาติส่วนใหญ่จะเป็นชาวอังกฤษและเยอรมัน ซึ่งตนได้สั่งการให้นายประภาส ลิมปพันธ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และผู้ว่าฯ ททท.ไปสำรวจทุกโรงแรมเพื่อพบกับนักท่องเที่ยวที่อพยพเข้ามาว่าขาดแคลนสิ่งใด เพื่อประสานงานให้กับกงสุล หรือสถานทูตของนักท่องเที่ยวสัญชาตินั้นๆ
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ยังคงเดินทางเข้าไปพักผ่อนในพื้นที่เกิดเหตุ เช่น หาดป่าตอง นั้น มองได้สองอย่าง คือ นักท่องเที่ยวเหล่านั้นมีความเชื่อมั่นในมาตรการต่างๆของประเทศไทยและจะเป็นข้อมูลชี้แจงให้นักท่องเที่ยวต่างชาติทราบว่าจะไม่มีเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นในประเทศไทยอีกในช่วงนี้