xs
xsm
sm
md
lg

ททบ. 5 !

เผยแพร่:   โดย: แสงแดด

สัปดาห์นี้เป็นสัปดาห์สุดท้ายของปี 2547 แทบไม่น่าเชื่อว่าหนึ่งขวบปีจะผ่านไปอย่างรวดเร็ว อีกเพียงไม่กี่วันก็เข้าสู่ปีใหม่ 2548 ปีระกา กันแล้ว "แสงแดด" มั่นใจว่าท่านผู้อ่านคงคิดคล้ายๆ กันว่า วันเวลามันผ่านไปเหมือนติดปีกบิน เหตุการณ์ต่างๆ ผ่านไปอย่างมากมายตลอดปี 2547 แต่ที่แน่นอนที่สุด ที่แทบไม่น่าเชื่อว่าสถานการณ์ชายแดนภาคใต้ เกิดอย่างมั่นคงและต่อเนื่องจนจะครบ 365 วันในสัปดาห์หน้า ชนิดที่ขานเรียกกันในหมู่คนไทยว่า "ตายรายวัน-ระเบิดรายวัน" แถมเจอ "มหันตภัยธรรมชาติ" กับ "คลื่นใต้น้ำยักษ์สึนามิ" เข้าไปอีก น่าเห็นใจจริงๆ เรียกว่าคงช้ำกันไปอีกนานทีเดียว

"กรือเซะ" และ "ตากใบ" เป็นเหตุการณ์ที่ถือว่ารุนแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ชาติไทย และไม่เคยเกิดเหตุการณ์เช่นนี้มาก่อนที่คล้ายๆ เป็น "สงครามกลางเมือง" แต่ที่น่าหดหู่และอนาถใจที่สุดคือ "คนไทย-ฆ่ากันเอง" และดังที่กล่าวไว้กับอุตสาหกรรมท่องเที่ยวที่ประสบ "โศกนาฏกรรม" ครั้งยิ่งใหญ่ในประวัติศาสตร์ที่ภูเก็ต พังงา และกระบี่กับจังหวัดใกล้เคียง

งวดสุดท้ายของปี 2547 นี้ "แสงแดด" อยากถ่ายทอดหน่วยงานหนึ่งที่บังเอิญ "แสงแดด" มีเพื่อนเกลอที่สนิทชิดชอบกันมาก ทำงานกับหน่วยงานนี้มายาวนานประมาณสิบกว่าปี หน่วยงานแห่งนี้คือ "สถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบกช่อง 5" หรือ "ช่อง 5" หรือ "ททบ. 5" ที่มักเรียกขานกัน

ในขณะเดียวกัน "ผู้อำนวยการสถานีฯ" คนปัจจุบันก็รู้จักมักคุ้นกับเพื่อน "แสงแดด" มายาวนานเช่นเดียวกัน โดย ผอ.ททบ. 5 ท่านนี้ สามารถกล่าวได้ว่า "รู้ทุกอย่าง" ภายในองค์กรแห่งนี้ "รู้ทั้งทางลึกและทางลับ!" กล่าวคือ ตลอดระยะเวลาสิบกว่าปีนี้ ผู้อำนวยการฯ ท่านนี้อยู่กับฝ่ายรายการจนเป็น รอง ผอ.ททบ. 5 มาโดยตลอดและก็ถูก "บอนไซ" ไม่ให้มีบทบาทใดๆ มากนัก ผู้บริหารระดับสูงคนอื่นๆ มักจะ "จัดกลุ่มก้อน" กันเอง จะ "อุ๊บอิ๊บ-มุบมิบ" กันอย่างไร ผอ.ท่านนี้ไม่เคยรู้เรื่อง จนพร่ำจะขอลาออกอยู่เมื่อไม่นานมานี้ เพราะครองตำแหน่งยศพลตรีมาสิบกว่าปี แถมรุ่นน้องแซงหน้า บทบาทภารกิจก็แทบไม่มี เพราะอีกไม่กี่ปีก็จะเกษียณอยู่แล้ว จึงขอโบกมือลา เกษียณยศพลโท นั่งๆ นอนๆ อยู่กับบ้านดีกว่า ลูกเต้าก็ไม่มี

ถูกปลดออกจากรอง ผอ.ททบ. 5 เมื่อประมาณต้นปี ชนิดที่เรียกว่า "เก็บกระเป๋าแทบไม่ทัน!" เนื่องด้วยไม่ตอบสนองนโยบายผู้บังคับบัญชาให้ดำเนินการที่ผิดทั้งหลักการ วัตถุประสงค์ แต่คงไม่สำคัญเท่ากับ "ทุจริต-ฉ้อราษฎร์บังหลวง" จึงต้องถูกปลด หรือถ้าไม่ถูกปลดก็คงขอลากลับไปอยู่หน่วยอื่นดีกว่า

ว่าไปแล้ว ท่านผู้อำนวยการ ททบ. 5 คนปัจจุบัน เป็นที่รักใคร่อย่างมากของทหารและเจ้าหน้าที่ เพราะเป็นคนที่ตรงไปตรงมา เรียบง่าย สุภาพอ่อนโยน ไม่เคยวางก้าม หรืออำนาจบาตรใหญ่ และที่สำคัญที่สุดคือ ไม่มีประวัติด่างพร้อยในเรื่อง "มีนอกมีใน!" หรือกล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือ "ไม่เคยคดโกง" หรือ "เรียกร้องผลประโยชน์" จากผู้จัดรายการแต่ประการใด

อย่างไรก็ตาม คงจะมีเพื่อนร่วมงานทั้งรุ่นน้องและรุ่นพี่บ้างที่ไม่ค่อยพอใจผู้อำนวยการท่านนี้ ที่ไม่ได้เจริญเติบโตมาจากหน่วยงานหรือสายงานที่เกี่ยวข้องกับช่อง 5 ในอดีต พร้อมทั้งอาจเป็น "ไอ้เข้ขวางคลอง!" หรือ "ก้างตำคอ" บางกลุ่ม จึงมี "ขบวนการแซะ" ให้หลุดจาก ททบ. 5 วันละสามเวลา ทุกวันนี้ก็ยังถูก "ฤทธิ์เลื่อย-ฤทธิ์มีดสั้น" แทบหลังอาหารทุกมื้อ แต่ยังโชคดีที่ชื่อ "เลิศฤทธิ์" เพราะยังมีความเป็น "เลิศ" ต่อ "ฤทธิ์" ทั้งหลาย

ช่อง 5 เป็นสถานีโทรทัศน์ที่ว่าไปแล้ว มิได้ด้อยไปกว่าสถานีโทรทัศน์ช่องอื่นๆ เลยไม่ว่าจะเป็นด้านบุคลากร เครื่องไม้เครื่องมืออุปกรณ์ต่างๆ การกระจายคลื่นก็ปกคลุมได้ทั่วประเทศไม่ได้น้อยไปกว่าช่องอื่นเลย ความสามารถของเจ้าหน้าที่และทหาร ก็มีศักยภาพ ประสบการณ์ช่ำชอง

เมื่อ 5-6 ปีที่แล้ว ช่อง 5 ค่อยๆ ทยานขึ้นมาอยู่ชั้นแนวหน้าสถานีหนึ่งในตองอูเหมือนกัน เรียกว่า "เรตติ้ง" ไม่ได้ต่ำกว่าช่อง 7 มากมายนัก ทั้งนี้ช่อง 3 ในอดีต หรือช่อง 9 นั้น ยังมีเรตติ้งที่ต่ำกว่าช่อง 5 ด้วย แต่พอมีการเปลี่ยนผู้บริหารบ่อยครั้ง นโยบาย "ททบ. 5 นำคุณค่าสู่สังคมไทย" ก็ต้องมีอัน "ลงเหว!" เรตติ้งดิ่งร่วงจนปัจจุบันแทบจะอยู่ที่โหล่ นี่ถ้าไม่มีช่อง 11 มาคอยค้ำยันไว้ รับรองช่อง 5 บ๊วยโหล่สุดแน่นอน

ดังที่กล่าวไว้แล้วข้างต้น ช่อง 5 มีเพียบพร้อมทั้ง "กระด้างภัณฑ์" และ "ละมุนภัณฑ์" (ตามหลักเกณฑ์ของราชบัณฑิต) หรือที่เรียกกันกับศัพท์ภาษาอังกฤษก็คือ "ฮาร์ดแวร์" กับ "ซอฟต์แวร์" เพียงแต่มิได้มีการบริหารแบบคำนึงถึงเป้าหมายของสถานีฯ และที่สำคัญคือไม่คำนึงถึง "เศรษฐกิจ-ธุรกิจ" ขององค์กร แต่อาจคำนึงถึง "เศรษฐกิจ-ธุรกิจ" ของกลุ่มแก๊งต่างๆ ภายในองค์กร ผังรายการจึงถูกขึงกันตามสภาพของ "ตัวเลข" ที่เจรจาต่อกัน นั่นหนึ่งล่ะ สองการเปลี่ยนผู้บริหารอย่างต่ำปีละครั้ง คณะผู้บริหารก็เปลี่ยน นโยบายเปลี่ยน ศักยภาพของสถานีฯ จึงถูก "กด" ไว้ตลอดเวลาไม่มีโอกาสได้ "ลืมตาอ้าปาก!" กับใครได้ทั้งสิ้น จนความนิยมของสถานีฯ ร่นถอยลงแทบทุกวัน สามผู้จัดรายการบางเจ้าไม่ยึดถือประโยชน์ของสังคมและสถานี หรือกล่าวอย่างง่ายๆ ก็คือ จัดรายการที่ไม่ประเทืองปัญญา หรือ "มักง่าย" เพียงเพื่อให้รายการอยู่ได้ ทำกำไรแจกจ่ายกระจายกันถ้วนหน้า พอหอมปากหอมคอ "ขายผ้าเอาหน้ารอด" ไปวันๆ "สาละวันเตี้ยลง!" จึงเกิดขึ้นกับช่อง 5

ถามว่าเรื่อง "เรตติ้ง (RATING)" สำคัญหรือไม่ ก็ต้องตอบว่า "สำคัญ" เพราะเหล่าบรรดา เอเยนซีและสปอนเซอร์ทั้งหลาย นับเอาจำนวนเปอร์เซนต์เรตติ้งเป็นตัวชี้วัดความนิยมของรายการและสถานี กล่าวคือ ถ้าเรตติ้งมีเปอร์เซนต์ก็หมายความว่าประชาชนนิยมชมรายการนั้นรายการนี้ และจะมีผลรวมต่อความนิยมของประชาชนผูกโยงกับสถานีฯ ไปด้วย ทั้งนี้จากข้อมูลล่าสุด ความนิยม และ/หรือ เรตติ้งของช่อง 5 หดมาเหลือเพียงร้อยละ 7 จากเดิมร้อยละ 12 หรือตีความง่ายๆ ก็หมายความว่า จากเดิมประชาชนเปิดช่อง 5 ชมรายการประมาณ 12 ล้านคน ปัจจุบันเหลือเพียง 7 ล้านคนหรืออาจน้อยกว่านั้น

การนำเอาเรตติ้งมาบวกลบคูณหารคิดมูลค่า "กำไร-ขาดทุน" ของสถานีโทรทัศน์ทุกช่องต่างตั้ง "ข้อกังขา-ฉงน" กันมานานนับปีว่าเชื่อถือได้มากน้อยเพียงใด เพราะชุมชน และ/หรือ บ้านประชาชนที่เอา "เรตติ้งบ๊อก" หรือ "กล่องสำรวจ" ไปติดตั้งนั้น ใครดำเนินการและเอาเกณฑ์อะไรมาประเมินศึกษาว่าจะต้องติดตั้งที่โน่นที่นี่

หรือว่าติดตั้งแบบ "ซูเอี๋ย" กับเอเยนซีหรือไม่ หรือมี "ผลประโยชน์แอบแฝง" โยงใยกับบริษัทที่ดูแล "เรตติ้ง" เอเยนซีและลูกค้า ว่าไปแล้ว "สายสนกลใน!" ของขบวนการนี้ ยังไม่เคยเห็นใครกล้านำมาตีแผ่จริง คงต้องฝากรายการ "ถอดรหัส" ของสถานีโทรทัศน์ไอทีวี ช่วยเปิดประเด็นน่าจะดี!

การที่ ผอ.ช่อง 5 คำนึงถึงทั้ง "เรตติ้ง" และ "คุณค่า" นั้น เป็นกรณีที่ "ขีดเส้น" ยากมากเพราะ "ธุรกิจ-รายได้" ก็ต้องประกอบการให้ได้ ในขณะเดียวกันก็ต้องคำนึงถึง "คุณค่า-คุณภาพ"

รายการดีมีคุณภาพ ประเทืองปัญญาประชาชนเป็นเป้าหมายหลักของผู้อำนวยการท่านนี้อยู่แล้ว ซึ่งความจริงที่ทราบคือไม่ต้องการตัดรายการดีๆ เหล่านั้นออกไป โดยเฉพาะรายการ "สำรวจโลก" เพียงแต่ปรับสลับโยกย้ายให้เหมาะสมกับเวลา เพื่อยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว คือทั้ง "ปริมาณ-คุณภาพ" แต่บังเอิญเจ้าของบริษัทที่ทำรายการอาจนำเอา "สิ่งไม่พึงประสงค์" มาข่มขู่ อาทิ ผู้บังคับบัญชาสูงขึ้นไปกับ "ซอง" ที่ผู้อำนวยการฯ ท่านนี้ไม่มีประวัติเสียอยู่แล้วกับ "ของเน่าๆ" เช่นนี้!

ยังโชคดีที่ฝ่ายการเมืองที่ดูแลสื่อฯ มีความเป็นธรรมตั้งแต่ระดับนายกฯ รองนายกฯ ที่ต้องการให้เคลียร์กรณีดังกล่าวให้ได้

ทั้งนี้สังคมไทยทุกวันนี้ "ความอยุติธรรม" มีเยอะ "การรังแก-เอารัดเอาเปรียบ" แผ่กระจายไปทั่วทุกวงการ สื่อมวลชนสายโทรทัศน์มีบทบาทสำคัญมากกับการสร้างคุณค่าที่ดีต่อสังคม และถ้าสื่อฯ ยังไม่ได้รับความเป็นธรรมเช่นนี้ เราคนไทยจะได้รับความเป็นธรรมได้อย่างไรจากสังคม

"ปริมาณ" แน่นอนต้องมีแต่ "คุณภาพ" ก็ต้องมีประกบควบคู่กันไป

รองนายกฯ วิษณุ และผู้อำนวยการช่อง 5 หาทางออกให้เกิด "ธรรมาภิบาล" กับช่อง 5 ผู้จัดรายการ และประชาชนอย่างดีที่สุดแล้ว

จริงๆ แล้วผู้อำนวยการ "เลิศฤทธิ์" ก็ทำผังรายการเช่นนั้นอยู่แล้ว มิได้มีนอกมีในเลย เพียงแต่ผู้จัดฯ เท่านั้นที่ไม่ได้ดั่งใจทั้งข่มขู่บังคับทั้งวาง "ซอง" ก็ไม่รับการตอบสนอง จึงเอะอะโวยวายประโคมข่าว โจมตี

อย่างไรก็ดี ขอให้ "ททบ. 5" มีโอกาสได้ "นำคุณค่าสู่สังคมไทย" ในยุคนี้ก็แล้วกัน!
กำลังโหลดความคิดเห็น