ผู้จัดการรายวัน - ส่งออกไทยเดือนพ.ย.ขยายตัว 22% ส่งผลให้ยอดรวม 11 เดือนแรกปี 2547 มีมูลค่าเฉียด 9 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัว 22.6% โดยยังเกินดุลการค้า 1.8 พันล้านเหรียญสหรัฐ มั่นใจยอดส่งออกทั้งปีขยายตัวไม่ต่ำกว่า 22% ส่วนปีหน้าตั้งเป้ามูลค่าทะลุ 1.14 แสนล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัว 16.8%
นายการุณ กิตติสถาพร ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ในเดือนพ.ย.2547 ไทยส่งออกได้มูลค่า 8,800.8 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 22% ทำให้การส่งออกยอดการส่งออกรวม 11 เดือนแรกของปี 2547 (ม.ค.-พ.ย.) มีมูลค่า 89,232.9 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 22.6% เป็นการขยายตัวเพิ่มขึ้นทั้งในส่วนของสินค้าเกษตร สินค้าอุตสาหกรรมการเกษตร 12.4% และสินค้าอุตสาหกรรม 24.1%
สินค้าสำคัญที่ขยายตัวเพิ่มขึ้น ได้แก่ ข้าว มันสำปะหลัง ยางพารา ผัก ผลไม้สด กระป๋องและแปรรูป ไก่แปรรูป เครื่องใช้ไฟฟ้าและเครื่องอิเล็กทรอนิกส์ ยานยนต์และส่วนประกอบ สิ่งทอ พลาสติก วัสดุก่อสร้าง อัญมณี ผลิตภัณฑ์ยาง เฟอร์นิเจอร์
สำหรับตลาดส่งออกก็มีการขยายตัวเพิ่มขึ้นในอัตราสูงต่อเนื่อง โดยตลาดใหม่ ขยายตัว 27% ตลาดหลัก 20% ตลาดที่ขยายตัวสูง เช่น อาเซียน 28.4% แอฟริกา 59.7% อินเดีย 43.7% อินโดจีนและพม่า 32.8% ยุโรปตะวันออก 29.2% ตะวันออกกลาง 29% ลาตินอเมริกา 27.8% จีน 26.5% รวมทั้งฮ่องกง เกาหลีใต้ ออสเตรเลีย แคนาดา และไต้หวัน ทั้งนี้ คาดว่าเมื่อสิ้นปี 2547 สัดส่วนการส่งออกไปตลาดใหม่จะเพิ่มเป็น 39% และตลาดหลัก 61%
ส่วนการนำเข้าในเดือนพ.ย.มีมูลค่า 8,649.2 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 31% ทำให้การนำเข้าในช่วง 11 เดือนแรกมีมูลค่า 87,432.2 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 29.2% เป็นการนำเข้าเพิ่มขึ้นสูงในทุกหมวด ได้แก่ สินค้าเชื้อเพลิง 47.2% สินค้าวัตถุดิบ 33.2% สินค้าทุน 24.5% สินค้ายานพาหนะและชิ้นส่วนประกอบ 21.2% และสินค้าอุปโภคบริโภค 20.3%
สินค้าทุนและวัตถุดิบที่นำเข้านั้น ส่วนใหญ่เป็นสินค้าที่นำเข้ามาผลิตเพื่อการส่งออก เช่น เครื่องจักรใช้ในอุตสาหกรรมและส่วนประกอบ เหล็กและเหล็กกล้า เคมีภัณฑ์ แผงวงจรไฟฟ้า ส่วนประกอบคอมพิวเตอร์ เพชรและพลอย ส่วนประกอบอุปกรณ์โครงรถและตัวถัง ผลิตภัณฑ์โลหะ ผ้าผืนและด้าย สินแร่และโลหะอื่นๆ ปุ๋ย ไม้ซุงและไม้แปรรูป และปลาทูน่า
ทั้งนี้ จากมูลค่าการส่งออกมากกว่าการนำเข้า ทำให้เดือนพ.ย.ไทยเกินดุลการค้า 151.6 ล้านเหรียญสหรัฐ เป็นการเกินดุลต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3 และดุลการค้าในรอบ 11 เดือน ไทยยังเกินดุลการค้ามูลค่า 1,800.8 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยมั่นใจว่าทั้งปี ไทยจะส่งออกได้มูลค่า 97,700 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัว 22.1% และจะเกินดุลการค้าไม่ต่ำกว่า 2,000 ล้านเหรียญสหรัฐ
นายการุณกล่าวว่า สำหรับเป้าหมายการส่งออกสินค้าไทยในปี 2548 กระทรวงพาณิชย์ประมาณการไว้ว่าจะส่งออกได้มูลค่า 114,227 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัว 16.8% โดยคาดว่าดุลการค้าจะยังเป็นบวกอยู่ แม้ว่าจะมีหลายหน่วยงานประมาณการไว้ว่าในปี 2548 ไทยจะขาดดุลการค้าก็ตาม ซึ่งในส่วนของกระทรวงพาณิชย์จะมีการนำมาตรการดูแลการนำเข้ามาใช้อย่างเข้มงวด และจะสนับสนุนการผลิตสินค้าที่ใช้วัตถุดิบภายในประเทศให้มากขึ้น
นายการุณ กิตติสถาพร ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ในเดือนพ.ย.2547 ไทยส่งออกได้มูลค่า 8,800.8 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 22% ทำให้การส่งออกยอดการส่งออกรวม 11 เดือนแรกของปี 2547 (ม.ค.-พ.ย.) มีมูลค่า 89,232.9 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 22.6% เป็นการขยายตัวเพิ่มขึ้นทั้งในส่วนของสินค้าเกษตร สินค้าอุตสาหกรรมการเกษตร 12.4% และสินค้าอุตสาหกรรม 24.1%
สินค้าสำคัญที่ขยายตัวเพิ่มขึ้น ได้แก่ ข้าว มันสำปะหลัง ยางพารา ผัก ผลไม้สด กระป๋องและแปรรูป ไก่แปรรูป เครื่องใช้ไฟฟ้าและเครื่องอิเล็กทรอนิกส์ ยานยนต์และส่วนประกอบ สิ่งทอ พลาสติก วัสดุก่อสร้าง อัญมณี ผลิตภัณฑ์ยาง เฟอร์นิเจอร์
สำหรับตลาดส่งออกก็มีการขยายตัวเพิ่มขึ้นในอัตราสูงต่อเนื่อง โดยตลาดใหม่ ขยายตัว 27% ตลาดหลัก 20% ตลาดที่ขยายตัวสูง เช่น อาเซียน 28.4% แอฟริกา 59.7% อินเดีย 43.7% อินโดจีนและพม่า 32.8% ยุโรปตะวันออก 29.2% ตะวันออกกลาง 29% ลาตินอเมริกา 27.8% จีน 26.5% รวมทั้งฮ่องกง เกาหลีใต้ ออสเตรเลีย แคนาดา และไต้หวัน ทั้งนี้ คาดว่าเมื่อสิ้นปี 2547 สัดส่วนการส่งออกไปตลาดใหม่จะเพิ่มเป็น 39% และตลาดหลัก 61%
ส่วนการนำเข้าในเดือนพ.ย.มีมูลค่า 8,649.2 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 31% ทำให้การนำเข้าในช่วง 11 เดือนแรกมีมูลค่า 87,432.2 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 29.2% เป็นการนำเข้าเพิ่มขึ้นสูงในทุกหมวด ได้แก่ สินค้าเชื้อเพลิง 47.2% สินค้าวัตถุดิบ 33.2% สินค้าทุน 24.5% สินค้ายานพาหนะและชิ้นส่วนประกอบ 21.2% และสินค้าอุปโภคบริโภค 20.3%
สินค้าทุนและวัตถุดิบที่นำเข้านั้น ส่วนใหญ่เป็นสินค้าที่นำเข้ามาผลิตเพื่อการส่งออก เช่น เครื่องจักรใช้ในอุตสาหกรรมและส่วนประกอบ เหล็กและเหล็กกล้า เคมีภัณฑ์ แผงวงจรไฟฟ้า ส่วนประกอบคอมพิวเตอร์ เพชรและพลอย ส่วนประกอบอุปกรณ์โครงรถและตัวถัง ผลิตภัณฑ์โลหะ ผ้าผืนและด้าย สินแร่และโลหะอื่นๆ ปุ๋ย ไม้ซุงและไม้แปรรูป และปลาทูน่า
ทั้งนี้ จากมูลค่าการส่งออกมากกว่าการนำเข้า ทำให้เดือนพ.ย.ไทยเกินดุลการค้า 151.6 ล้านเหรียญสหรัฐ เป็นการเกินดุลต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3 และดุลการค้าในรอบ 11 เดือน ไทยยังเกินดุลการค้ามูลค่า 1,800.8 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยมั่นใจว่าทั้งปี ไทยจะส่งออกได้มูลค่า 97,700 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัว 22.1% และจะเกินดุลการค้าไม่ต่ำกว่า 2,000 ล้านเหรียญสหรัฐ
นายการุณกล่าวว่า สำหรับเป้าหมายการส่งออกสินค้าไทยในปี 2548 กระทรวงพาณิชย์ประมาณการไว้ว่าจะส่งออกได้มูลค่า 114,227 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัว 16.8% โดยคาดว่าดุลการค้าจะยังเป็นบวกอยู่ แม้ว่าจะมีหลายหน่วยงานประมาณการไว้ว่าในปี 2548 ไทยจะขาดดุลการค้าก็ตาม ซึ่งในส่วนของกระทรวงพาณิชย์จะมีการนำมาตรการดูแลการนำเข้ามาใช้อย่างเข้มงวด และจะสนับสนุนการผลิตสินค้าที่ใช้วัตถุดิบภายในประเทศให้มากขึ้น