xs
xsm
sm
md
lg

สตาร์บริดจ์หวั่นธุรกิจทีวีเสี่ยงสูงดันธุรกิจทัวร์-เครื่องสำอางช่วย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ผู้จัดการรายวัน - สตาร์บริดจ์ยังไม่ทิ้งธุรกิจจอตู้ เตรียมเสนอรายการสาระบันเทิงรายการใหม่ปีหน้าเพิ่ม 1 รายการ พร้อมแตกธุรกิจใหม่รับความเสี่ยงทีวีไม่นิ่ง ปรับผังรายวัน คาดครีมบำรุงทรวงอกดันยอดปีหน้าโต 100%ชี้สัดส่วนรายได้เทียบเท่าทีวี

นายสาธิต ยุวนันทการุญ กรรมการผู้จัดการ บริษัท สตาร์บริดจ์ จำกัด เปิดเผยว่า ธุรกิจรายการโทรทัศน์บริษัทก็ยังคงให้ความสำคัญอยู่ เพราะเป็นธุรกิจที่บริษัทมีความเชี่ยวชาญมากที่สุด แม้ว่าจะหันไปขยายธุรกิจอื่นควบคู่ไปด้วย โดยในปีหน้าเตรียมจะนำเสนอรายการใหม่เกี่ยวกับสาระบันเทิงให้กับสถานีโทรทัศน์ต่างๆ ภายในไตรมาส 1 ซึ่งหากได้รับเวลาที่เหมาะสมคาดว่าจะสามารถเริ่มได้ในช่วงไตรมาส 2

แต่การที่ต้องแตกไลน์ธุรกิจใหม่ควบคู่ไปด้วยนั้น เนื่องจากสถานการณ์ของธุรกิจโทรทัศน์แข่งขันค่อนข้างสูง และมีความเสี่ยงมาก เกิดการเปลี่ยนแปลงปรับผังได้ทุก 3 เดือน จึงมองว่าเป็นธุรกิจที่ไม่แน่นอนเหมือนกับธุรกิจอื่นที่คิดแล้วสามารถทำได้เลย ไม่ต้องรอได้รับเวลา

ปัจจุบันสตาร์บริดจ์มีรายการโทรทัศน์ 4 รายการ ได้แก่ รายการบันเทิง โชว์ไทม์ บาย ศศิธร ทางโมเดิร์นไนน์ ทีวี รายการท่องเที่ยว เฮง เฮง ทางโมเดิร์นไนน์ ทีวี รายการท่องเที่ยว ฮอ ฮอ ทางไอทีวี และรายการสวัสดีหนี่ฮาว ทางช่อง 3 ส่วนใหญ่จะเป็นรายการที่เพิ่งเกิดใหม่เมื่อ 1-2 ปีที่ผ่านมา ยกเว้นรายการโชว์ไทม บาย ศศิธร ที่มีมาประมาณ 11- 12 ปีแล้ว และเป็นรายการที่ทำรายได้ให้บริษัทมากที่สุด

ด้านธุรกิจออกาไนเซอร์ที่ดำเนินการมาได้ประมาณ 3-4 ปีแล้ว ซึ่งถือว่าอยู่ตัวแล้ว ไม่จำเป็นต้องหาลูกค้าเพิ่ม โดยจำเป็นรับงานเพียง 2 งานต่อเดือน และธุรกิจจัดทอล์ค โชว์ที่อยู่ในส่วนงานออกาไนเซอร์จากเดิมที่เคยจัดสูงสุดถึง 35 งานต่อปี ได้ทยอยลดเหลือเดือนละ 1 งาน และขณะนี้ก็จะหยุดพักไว้ก่อน และจะรอให้กระแสความนิยมทอล์ก โชว์กลับมาอีกครั้ง เพราะช่วงนี้กระแสของทอล์ก โชว์ไม่แรงเท่าหลายปีที่ผ่านมาแล้ว

นอกจากนี้ ในปีหน้าบริษัทจะให้ความสำคัญกับธุรกิจทัวร์และธุรกิจเครื่องสำอางความงามมากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มเครื่องสำอางความงาม เนื่องจากเป็นสินค้าที่อยู่ในกระแสความนิยมของผู้บริโภค ซึ่งให้ความสนใจเกี่ยวกับเรื่องสุขภาพมากขึ้น อีกทั้ง ยังเป็นธุรกิจใหม่ที่เพิ่งเริ่มเมื่อช่วงปลายปีที่ผ่านมา โดยล่าสุด ได้เปิดตัวครีมบำรุงทรวงอก "อิมเมจิค" เป็นผลิตภัณฑ์ตัวแรก ใช้งบโฆษณาประชาสัมพันธ์ 40 ล้านบาท ตั้งเป้ายอดขาย 10,000 ชิ้นต่อเดือน ปีหน้าจะออกผลิตภัณฑ์ใหม่อีกอย่างน้อย 4-5 ตัว ซึ่งคาดว่ารายได้ในปีหน้าจะเติบโตขึ้นถึง 100%

นายสาธิตกล่าวต่อว่า สัดส่วนรายได้ของบริษัทในปี 2548 จะต้องเปลี่ยนไปแน่นอน โดยกลุ่มเครื่องสำอางจะมีสัดส่วนที่เท่ากับธุรกิจรายการโทรทัศน์ที่ 35% จากเดิมที่ธุรกิจรายการโทรทัศน์มีสัดส่วนสูงถึง 60% ธุรกิจทัวร์ 20% เท่าเดิม ออกาไนเซอร์ จะลดเหลือ 10% จากเดิม 20%
กำลังโหลดความคิดเห็น