xs
xsm
sm
md
lg

NGOรวมพลังต้านระบบทักษิณหวังสร้างสมดุลการเมืองสู่การบริหารอย่างปชต.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เครือข่าย “เอ็นจีโอ” เปิดรณรงค์ครั้งใหญ่ “ลดระบอบทักษิณ เพิ่มประชาธิปไตย” รับเลือกตั้งปี 48 ไล่ตรวจสอบนโยบายรัฐบาลไทยรักไทยประกาศเพื่อให้ประชาชนรับรู้ความเป็นจริงก่อนจะหย่อนบัตรเลือกตั้ง ย้ำจุดยืนเพื่อให้เกิด การกระจายอำนาจ ลดการเมืองผลประโยชน์ทับซ้อน คลั่งชาติ อำนาจนิยม และปลอดจากการครอบงำของระบบทุน

วานนี้ 21 ธ.ค. คณะกรรมการประสานงานองค์กรพัฒนาเอกชน (กป.อพช.) เปิดแถลงข่าวการรณรงค์ "ลดระบอบทักษิณ เพื่อประชาธิปไตย ร่วมเคลื่อนไหว สร้างการเมืองภาคประชาชน" โดยจะรณรงค์ผ่านเครือข่ายองค์กรพัฒนาเอกชน ที่ทำงานในระดับรากฐานทั่วประเทศกว่า 300 องค์กร

นางเรวดี ประเสริฐเจริญสุข ประธาน กป.อพช. กล่าวว่า การรณรงค์ครั้งนี้เพื่อให้การเลือกตั้งมีพื้นฐานจากการมีส่วนร่วมของภาคประชาชนมากกว่าจะเป็นเรื่องของพรรคการเมืองที่ไม่ได้มีการมีส่วนร่วมอย่างแท้จริง โดยจะเป็นโอกาสในการชี้ให้เห็นถึงการเมืองในระบบปัจจุบันที่เป็นปัญหา การเสนอทางออก ผลักดันการเมืองภาคประชาชน ตรวจสอบและสร้างหลักประกันเพื่อไม่ให้ปัญหาที่จะเกิดจากระบบการเมืองในระบบปัจจุบันเกิดขึ้นอีก ก่อนที่จะมีการเลือกตั้งในวันที่ 6 ก.พ. 48

นางเรวดี กล่าวว่า การลดอำนาจวัฒนธรรมการเมืองในรูปแบบที่เรียกว่า "ระบอบทักษิณ" ซึ่งมีสาระสำคัญดังนี้ 1. การเมืองแห่งการรวมศูนย์อำนาจ กำหนดนโยบายโดยไม่ฟังเสียงประชาชน ขาดการตรวจสอบถ่วงดุล 2. การเมืองภายใต้การครอบงำระบบทุนเกิดผลประโยชน์ทับซ้อนอย่างกว้างขวาง 3. การเมืองแห่งการสร้างหนี้ และความล้มละลายให้ประชาชน 4. การเมืองแห่งความรุนแรง คลั่งชาติ อำนาจนิยม

สำหรับจุดยืนการรณรงค์ครั้งนี้ไม่ใช่ต้องการเป็นฝ่ายค้านรัฐบาล ไม่ใช่การต่อต้านบุคคลแต่มุ่งที่การสร้างสมดุลการเมืองที่นำไปสู่การบริหารประเทศอย่างเป็นประชาธิปไตยโดยแท้จริง คือ 1. การเมืองแห่งการกระจายอำนาจ รับรองสิทธิชุมชนและการมีส่วนร่วมของประชาชน 2. การเมืองที่อิสระปลอดการครอบงำของระบบทุน 3. การเมืองที่เน้นการสร้างทุนทางสังคม เศรษฐกิจ วัฒนธรรมแก่ประชาชนอย่างรอบด้าน และ 4. การเมืองแห่งสันติ สมานฉันท์ บนความหลากหลายทางสังคมและวัฒนธรรม

ประธาน กป.อพช.กล่าวว่า ระบอบทักษิณโดยเฉพาะเรื่องการแปรรูป เรื่อง FTA กองทุนหมู่บ้าน 1 ล้านบาท ที่ทำลายการพึ่งตนเองของชาวบ้าน สร้างหนี้ ทำลายระเบียบวินัยการชำระหนี้ สร้างปัญหาแตกแยกในชุมชน ทั้งหมดที่เป็นนโยบายไทยรักไทยไม่ได้แก้ปัญหาความยากจนที่โครงสร้างอย่างแท้จริง

เครือข่ายองค์กรพัฒนาเอกชนทั่วประเทศ ยังจะมีการรณรงค์ให้พรรคการเมืองมีนโยบายต่อประเด็นทางสังคมที่ชัดเจน เช่น จุดยืนการทำเอฟทีเอ การแปรรูป การกระจายที่ดิน การเก็บภาษีก้าวหน้า และการสร้างหลักประกันทางสังคมที่มั่นคงที่ไม่ใช่การเอื้ออาทร

ทางด้าน น.ส.รสนา โตสิตระกูล ตัวแทนจากเครือข่ายองค์กรพัฒนาเอกชนด้านผู้บริโภคและสาธารณสุข กล่าวว่า การเมืองในระบบตัวแทนได้มาถึงจุดตีบตัน และทำให้นักธุรกิจการเมืองเข้ามามีบทบาทและควบคุมการเมืองมากมาย รัฐบาลที่เป็นองค์ประกอบของกลุ่มทุนทำให้กลุ่มทุนรวยขึ้น ตลาดหุ้นตกอยู่ในมือของคนในรัฐบาลถึง 40% สิ่งที่น่ากลัวที่สุด คือ การจะแปรรูปประเทศไทยเข้าไปอยู่ในกระเป๋าพรรคการเมือง

“พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เคยระบุว่า ประชาธิปไตย ไม่ใช่เป้าหมายของผม" สังคมต้องตั้งคำถามว่าประชาธิปไตยไม่ใช่เป้าหมาย แล้วเป้าหมายคืออะไรอัตตาธิปไตยใช่หรือไม่ ประชาชนไม่ควรเป็นแค่ตรายางเท่านั้น" นางรสนา กล่าว และย้ำว่า นักการเมืองที่จะร่วมวงศ์กับพรรครัฐบาลที่จะนำไปสู่การเพิ่มอำนาจกลุ่มทุนจะต้องถูกตรวจสอบทัดทานแม้ประเทศไทยจะไม่มีกฎหมายที่ให้ประชาชนถอนการสนับสนุนแต่ถ้าประชาชนตื่นตัวนักการเมืองจะต้องเคารพระบอบการเมืองที่ประชาชนเป็นใหญ่”

ทางด้าน น.ส.สารี อ๋องสมหวัง ตัวแทนจากคณะทำงานรณรงค์ กล่าวว่า หลังจากการเปิดตัวการรณรงค์แล้ว ทาง กป.อพช.และองค์กรพันธมิตรจะพัฒนาข้อเสนอภาคประชาชนเพื่อให้พรรคการเมืองพิจารณาโดยที่จะมีการตรวจสอบนโยบายพรรคต่างๆว่ามีจุดยืนอย่างไรในประเด็นต่างๆ เพื่อนำเสนอรายงานต่อสาธารณะ นอกจากนี้ จะมีการตรวจสอบและติดตามนโยบายของรัฐบาลใหม่เพื่อให้เป็นไปตามที่รับปากกับประชาชนด้วย

น.ส.สารี กล่าวว่า ในวันที่ 5 ม.ค. จะยื่นข้อเสนอของภาคประชาชนต่อพรรคการเมืองต่างๆ และในวันที่ 13 ม.ค. ทางองค์กรพัฒนาเอกชนทั้งหมดจะรายงานผลของการตอบคำถามของพรรคการเมืองต่อประเด็นปัญหาสังคมและความยากจนต่างๆ ที่เสนอให้พรรคการเมืองเพื่อแถลงต่อประชาชนให้ได้รับทราบ และจะประมวลผลกระทบที่เกิดจากนโยบายของรัฐบาลว่า ระบอบทักษิณ 4 ปีที่ผ่านมาเป็นอย่างไร พร้อมกับเสนอนโยบายที่สร้างสรรค์ เช่น กระจายอำนาจ สิทธิชุมชน ดูแลภูมิปัญญาท้องถิ่น เป็นต้น

“กระบวนการทำเอฟทีเอที่รัฐบาลเร่งทำอยู่ในขณะนี้ เป็นตัวอย่างของการเมืองที่ข้ามหัวประชาชนและสร้างความเดือดร้อนให้กับสังคมอย่างยิ่งเราคาดหวังว่า พรรคการเมืองต่าง ๆ จะปรับเปลี่ยนนโยบายให้สอดคล้องกับความต้องการของสังคม เช่น การปรับเปลี่ยนนโยบายเรื่องข้อตกลงเขตการค้าเสรี ยกเลิกการแปรรูปรัฐวิสาหกิจ ต้องเก็บภาษีก้าวหน้า และสร้างหลักประกันทางสังคมที่ไม่ใช่การเอื้ออาทร” ในการแถลงข่าวครั้งนี้ กป.อพช. ยังเผยแพร่เอกสาร "ลดทักษิณ เพิ่มประชาธิปไตย ร่วมเคลื่อนไหว การเมืองภาคประชาชน" สำหรับเป็นคู่เมืองเลือกตั้งและมากกว่าเลือกตั้ง 2548 ด้วย
กำลังโหลดความคิดเห็น