xs
xsm
sm
md
lg

กระแสคลั่งเสื้อผ้าแบรนด์นอกแรง สตาร์แฟชั่นถอดใจหันโดดร่วมวง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ผู้จัดการรายวัน - สตาร์ แฟชั่น กรุ๊ปชี้กระแสเสื้อผ้าแบรนด์นอกทะลักบีบคั้นให้ปรับทิศหันดึงเสื้อผ้านอกเข้าทำตลาดแทนปั้นแบรนด์ไทยสู้ ล่าสุด ชิมลางนำเข้า "จี๊ป" เจาะตลาดระดับบน เกาะกระแสเสื้อผ้าลำลองเติบโต เสื้อผ้าทำงานหดตัว ตั้งเป้าสิ้นปี 2548 ผุดจุดจำหน่ายครบ 30 สาขาทั่วประเทศ เล็งนำเข้าแบรนด์ใหม่เพิ่มสนตลาดผู้หญิง

นายวิทูรย์ ตะติยะมณีกุล รองประธาน และนายพิชัย หาญอติชาติ ผู้จัดการทั่วไปฝ่ายการตลาด บริษัท สตาร์ เทรนดี้ จำกัด ผู้ถือลิขสิทธิ์เสื้อผ้า ในเครือสตาร์ แฟชั่น กรุ๊ป เปิดเผยว่า กลุ่มสตาร์ แฟชั่น กรุ๊ปมีแผนที่จะนำเข้าเสื้อผ้าจากต่างประเทศเข้ามาปีละ 1 แบรนด์ เพื่อปรับตัวรับกับสถานการณ์การเข้ามาของเสื้อผ้าแบรนด์นอกที่เข้ามามากขึ้นในปีหน้า ส่งผลให้การทำตลาดของแบรนด์ไทยที่สร้างขึ้นเองลำบากมากขึ้น ก่อนหน้านี้บริษัทเน้นการสร้างแบรนด์ของตัวเองในการทำตลาด โดยแบรนด์ในเครือบริษัทเอง 4 แบรนด์ ประกอบด้วย ฮาซาร์ด, การ์แบงค์, แฟร์ ฟิลด์,ชู ชู, และมี ไฟโด ดีโด เป็นแบรนด์นำเข้ามาทำตลาดเมื่อกว่า 10 ปีที่แล้ว และสนู้ปปี้ ที่เพิ่งได้รับลิขสิทธิ์ในการทำตลาดเมื่อปีที่ผ่านมา ตั้งแต่ปีหน้าจึงนับว่าบริษัทจะรุกตลาดเสื้อผ้านำเข้ามากขึ้น

ล่าสุด ได้นำเข้าเสื้อผ้าแฟชั่นลำลอง "จี๊ป" เข้ามาทำตลาดในประเทศไทยเป็นครั้งแรก ซึ่งเป็นแบรนด์เสื้อผ้าลำลองสำหรับผู้ชายและเด็กในสัดส่วนนำเข้า 40% ผลิตเอง 60% โดยเป็นแบรนด์เสื้อผ้าลำลองแบรนด์แรกที่บริษัททำตลาด จากเดิมแบรนด์ที่มีอยู่ส่วนใหญ่เป็นเสื้อผ้าทำงาน ตามแนวโน้มของตลาดแฟชั่นระดับโลกเสื้อผ้าลำลองที่ปรับให้เข้ากับการทำงานมีมากขึ้น และเสื้อผ้าทำงานแบบเคร่งขรึมจะลดน้อยลง

ปัจจัยที่เลือกจี๊ปเป็นแบรนด์แรกในการรุกทำตลาดเสื้อผ้าแบรนด์เนม เพราะเป็นแบรนด์ที่เรียกติดปาก มีแผนทำตลาดระดับโลกที่ชัดเจน โดยตลาดในจีนเป็นตลาดที่ใหญ่มาก สิงคโปร์ ออสเตรเลีย รวมถึงประเทศในแถบยุโรปมีจำหน่ายครอบคลุม จึงมั่นใจว่าจะสามารถเจาะตลาดกลุ่มลูกค้าระดับบนในไทยได้ มีระดับราคาสินค้ากลุ่มเสื้อผ้าอยู่ที่ 700 - 2,000 บาท

บริษัทเตรียมงานด้านแผนการทำตลาดมาประมาณ 6 เดือน แต่พร้อมที่จะเปิดจุดจำหน่ายได้เมื่อพ.ย.ที่ผ่านมา โดยขณะนี้มีร้านใหญ่ในพลาซ่า 5 สาขา ได้แก่ มาบุญครอง เซ็นทรัล พระราม 3, เซ็นทรัล พระราม 2, เซ็นทรัล ปิ่นเกล้า และสมุย และเตรียมเปิดจุดจำหน่ายในดีพาร์ทเมนต์สโตร์อีก 3 แห่งที่เดอะมอลล์ บางกะปิ เดอะมอลล์ บางแค และพัทยา ในปีหน้าบริษัทเตรียมเปิดร้านใหญ่ในพลาซ่าเพิ่มอีกคาดว่าสิ้นปีจะมีสาขาครบ 12 - 14 สาขา และครบ 30 จุดจำหน่ายรวมในดีพาร์ทเมนตต์สโตร์ ซึ่งร้านใหญ่ในพลาซ่าจะมีขนาดประมาณ 120 - 160 ตร.ม. ใช้งบลงทุนสาขาละ 2 ล้านบาท โดยในปีหน้าวางงบลงทุนไว้ประมาณ 30 ล้านบาท คาดว่าปีแรกจะสามารถสร้างยอดขายได้ 150 ล้านบาท

สำหรับแบรนด์เดิมที่มีอยู่นั้นบริษัทจะเน้นรักษาฐานลูกค้าไว้ โดยเฉพาะแบรนด์ไทยที่บริษัทสร้างขึ้นมาเอง จะต้องปรับภาพลักษณ์ของแบรนด์ให้ทันสมัย พัฒนาคุณภาพของสินค้าให้เทียบเท่าแบรนด์ต่างประเทศเพื่อรับสถานการณ์ ยิ่งในภาวะที่ภาษีสินค้าแฟชั่นมีแนวโน้มปรับตัวลดลงก็ยิ่งทำให้แบรนด์ต่างประเทศเข้ามาในไทยมากขึ้น โดยในปีหน้าก็เตรียมที่จะนำเข้าเสื้อผ้าแฟชั่นมาทำตลาด ซึ่งอาจจะเป็นเสื้อผ้าผู้หญิงครั้งแรกของบริษัท ผลประกอบการของสตาร์ แฟชั่น กรุ๊ปสิ้นปี 2547 คาดว่าจะปิดยอดขายที่ 1,000 ล้านบาท ไม่เติบโต เนื่องจากมีแต่กลุ่มเสื้อผ้าทำงาน โดยแบรนด์ฮาซาร์ดเป็นแบรนด์ที่สร้างรายได้ให้มากที่สุสดมีสัดส่วน 50%
กำลังโหลดความคิดเห็น