"โคเซ่" อัดงบ 10 ล้านบาทดันสินค้าสูตรใหม่ "Rice Power Extract (r) No.11" แจ้งเกิด หวังสัดส่วนยอดขาย 15% ของรายได้
นายมาซาฮิโกะ อิชิคุระ กรรมการผู้จัดการ บริษัท โคเซ่ (ประเทศไทย) จำกัด ตัวแทนจำหน่ายเครื่องสำอาง "โคเซ่" (Kose') เปิดเผยว่า ในปีหน้าโคเซ่จะวางจำหน่ายผลิตภัณฑ์ใหม่ในกลุ่มผลิตภัณฑ์ให้ความชุ่มชื่นกับผิวหน้า สูตร "Rice Power Extract (r) No.11" ซึ่งได้รับการค้นคว้าวิจัยมานานกว่า 12 ปี โดยผลิตภัณฑ์ดังกล่าวมีส่วนผสมจากข้าว 3 ชนิด คือ ข้าวญี่ปุ่น ข้าวสาลี และข้าวมอลล์ พร้อมด้วยผสมกับเหล้าสาเกญี่ปุ่น
ผลิตภัณฑ์ใหม่ของโคเซ่จะเริ่มวางจำหน่ายตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 2548 เน้นจุดขายเรื่องรักษาความชุ่มชื่นของผิวหน้า ทำให้ผิวหน้ากระจ่างใส ซึ่งเป็นจุดขายที่ได้รับการตอบรับที่ดีจากตลาดในญี่ปุ่นมาก สามารถสร้างยอดขายในเดือนแรกของการเปิดตัวได้ 200,000 ขวด ส่งผลให้เป็นผลิตภัณฑ์ที่มียอดจำหน่ายสูงสุดของโคเซ่
ในขณะที่ตลาดประเทศไทยคาดว่าจะได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากลูกค้าเช่นกัน โดยสังเกตได้จากสื่อเซ็นทรัล เอ็กซ์คลูซีฟ เพียงสื่อเดียว มียอดจองสินค้าตัวอย่างกว่า 1,000 ขวด ในช่วง2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมา บริษัทจึงคาดว่าผลิตภัณฑ์นี้จะสามารถสร้างยอดขายได้ 15% ของยอดขายสินค้าทั้งหมด โดยวางงบการตลาดไว้ 10 ล้านบาท ใช้ในเรื่องของโฆษณา โปรโมชั่น
ทั้งนี้ บริษัทได้นำเข้าผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางหลักอยู่ 3 แบรนด์ด้วยกัน ประกอบด้วย แบรนด์โคเซ่ มียอดขายเป็นอันดับ 1 ด้วยสัดส่วน 40% , แบรนด์บิ้วเต้ เดอ โคเซ่ มีสัดส่วนยอดขาย 30%,แบรนด์ฟาซิโอ มีสัดส่วนยอดขาย 25% นอกจากนี้ บริษัทยังมีโคเซ่ บิวตี้ เซ็นเตอร์ ที่มีสัดส่วนรายได้ 5% ของรายได้ทั้งหมด
ปัจจุบันบริษัทมีช่องทางการจัดจำหน่ายในรูปแบบเคาน์เตอร์ทั้งหมด 150 สาขา แบ่งเป็น โคเซ่ 51 สาขา, บิ้วเต้ เดอ โคเซ่ 26 สาขา และฟาซิโอ 73 สาขา โดยในกลุ่มโคเซ่นั้น สินค้าที่ทำยอดขายสูงที่สุด คือ เซกิเซ มีสัดส่วนยอดขาย 45% จากยอดขายทั้งหมด
ผลประกอบการสิ้นปีน 2547 บริษัทคาดว่าจะมีรายได้รวม 250 ล้านบาท เติบโต 24% จากปีที่แล้ว โดยตั้งเป้ายอดขายในปีหน้าจะต้องมีอัตราการเติบโตขึ้นอีก 30 %
นายมาซาฮิโกะ อิชิคุระ กรรมการผู้จัดการ บริษัท โคเซ่ (ประเทศไทย) จำกัด ตัวแทนจำหน่ายเครื่องสำอาง "โคเซ่" (Kose') เปิดเผยว่า ในปีหน้าโคเซ่จะวางจำหน่ายผลิตภัณฑ์ใหม่ในกลุ่มผลิตภัณฑ์ให้ความชุ่มชื่นกับผิวหน้า สูตร "Rice Power Extract (r) No.11" ซึ่งได้รับการค้นคว้าวิจัยมานานกว่า 12 ปี โดยผลิตภัณฑ์ดังกล่าวมีส่วนผสมจากข้าว 3 ชนิด คือ ข้าวญี่ปุ่น ข้าวสาลี และข้าวมอลล์ พร้อมด้วยผสมกับเหล้าสาเกญี่ปุ่น
ผลิตภัณฑ์ใหม่ของโคเซ่จะเริ่มวางจำหน่ายตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 2548 เน้นจุดขายเรื่องรักษาความชุ่มชื่นของผิวหน้า ทำให้ผิวหน้ากระจ่างใส ซึ่งเป็นจุดขายที่ได้รับการตอบรับที่ดีจากตลาดในญี่ปุ่นมาก สามารถสร้างยอดขายในเดือนแรกของการเปิดตัวได้ 200,000 ขวด ส่งผลให้เป็นผลิตภัณฑ์ที่มียอดจำหน่ายสูงสุดของโคเซ่
ในขณะที่ตลาดประเทศไทยคาดว่าจะได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากลูกค้าเช่นกัน โดยสังเกตได้จากสื่อเซ็นทรัล เอ็กซ์คลูซีฟ เพียงสื่อเดียว มียอดจองสินค้าตัวอย่างกว่า 1,000 ขวด ในช่วง2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมา บริษัทจึงคาดว่าผลิตภัณฑ์นี้จะสามารถสร้างยอดขายได้ 15% ของยอดขายสินค้าทั้งหมด โดยวางงบการตลาดไว้ 10 ล้านบาท ใช้ในเรื่องของโฆษณา โปรโมชั่น
ทั้งนี้ บริษัทได้นำเข้าผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางหลักอยู่ 3 แบรนด์ด้วยกัน ประกอบด้วย แบรนด์โคเซ่ มียอดขายเป็นอันดับ 1 ด้วยสัดส่วน 40% , แบรนด์บิ้วเต้ เดอ โคเซ่ มีสัดส่วนยอดขาย 30%,แบรนด์ฟาซิโอ มีสัดส่วนยอดขาย 25% นอกจากนี้ บริษัทยังมีโคเซ่ บิวตี้ เซ็นเตอร์ ที่มีสัดส่วนรายได้ 5% ของรายได้ทั้งหมด
ปัจจุบันบริษัทมีช่องทางการจัดจำหน่ายในรูปแบบเคาน์เตอร์ทั้งหมด 150 สาขา แบ่งเป็น โคเซ่ 51 สาขา, บิ้วเต้ เดอ โคเซ่ 26 สาขา และฟาซิโอ 73 สาขา โดยในกลุ่มโคเซ่นั้น สินค้าที่ทำยอดขายสูงที่สุด คือ เซกิเซ มีสัดส่วนยอดขาย 45% จากยอดขายทั้งหมด
ผลประกอบการสิ้นปีน 2547 บริษัทคาดว่าจะมีรายได้รวม 250 ล้านบาท เติบโต 24% จากปีที่แล้ว โดยตั้งเป้ายอดขายในปีหน้าจะต้องมีอัตราการเติบโตขึ้นอีก 30 %