ศูนย์ข่าวศรีราชา -"ตระกูลคุณปลื้ม" เตรียมใช้เงิน 1 พันล้านบาท พัฒนาโรงแรม ในเครือบางแสน 4 แห่งตลอดหาดบางแสน ทั้ง เดอะไทด์ รีสอร์ต บางแสนบีช รีสอร์ต บางแสนวิลล่า และเอส เอส บางแสน เพื่อให้มีความทันสมัย และสามารถรองรับกลุ่มลูกค้าระดับกลางและบนได้มากขึ้น พร้อมเล็งพื้นที่ผุดโรงแรมใหม่ และปรับปรุงพื้นที่บางส่วนเป็นโรงแรมบูติก ขณะเดียวกันเดินหน้าต่อสัญญาบริหารโรงแรมของททท.อีก 30 ปี ก่อนทุ่มงบประมาณจำนวนหนึ่งพัฒนารีสอร์ตที่มีอยู่ให้เป็นรีสอร์ตแบบครอบครัว
นายณรงค์ชัย คุณปลื้ม กรรมการผู้จัดการกลุ่มโรงแรมในเครือบางแสน มหานคร จังหวัด ชลบุรี ที่ประกอบด้วยโรงแรมเดอะไทด์ รีสอร์ต โรงแรมบางแสน บีช รีสอร์ต โรงแรมบางแสนวิลล่า และโรงแรมเอส เอส บางแสน เปิดเผยถึงแผนการดำเนินงาน นับจากนี้ไปจนถึง 10 ปีข้างหน้า ว่า คือการเร่งพัฒนาโรงแรมในเครือทั้งหมด เพื่อให้มีความทันสมัย และสามารถรองรับกลุ่มลูกค้า ที่ขยายตัวจากกลุ่มกลาง จนถึงระดับบนได้มากยิ่งขึ้น
เริ่มจากโรงแรมเดอะไทด์ รีสอร์ต ที่ตั้งอยู่บริเวณชายหาดบางแสน จะเพิ่มการให้บริการที่ครบวงจรมากขึ้น โดยจะขยายห้องประชุมสัมมนา ให้สามารถรองรับผู้เข้าร่วมประชุม สัมมนาให้ได้มากถึง 1,700 คน จากเดิมที่รับได้เพียง 1,200 คน ทั้งกลุ่มลูกค้าสำคัญของโรงแรม คือ กรุ๊ปสัมมนา และกลุ่มไฮเอน โดยขณะนี้ยังได้เปิดให้บริการในส่วนของสปา เพื่อรองรับกลุ่มลูกค้าที่รักสุขภาพอีกด้วย
"ในส่วนการลงทุนโรงแรมเดอะไทด์ รีสอร์ต เราใช้งบฯ 330 ล้านบาท และจากการตั้งเป้าหมายการเข้าพักในปีแรกของการเปิดดำเนินการ ที่ 60% ของจำนวนห้องพักทั้งหมด 154 ห้อง แต่เมื่อเปิดจริงกลับมีการเข้าพักเกินกว่าที่กำหนดไว้ถึง 6 % เป็น 66% ซึ่งหากอัตราการเข้าพักยังคง เติบโตเช่นนี้ คาดว่าจุดคุ้มทุนที่กำหนดไว้เดิมที่ 8 ปี จะขยับขึ้นเป็น 6 ปี"
นอกจากนี้ ยังมีแผนพัฒนาพื้นที่ลานจอดรถฝั่งตรงข้ามร้านอาหารปะการัง ให้เป็นโรงแรมระดับ 3-5 ดาว โดยใช้งบประมาณ 400 ล้านบาทขึ้นไป แต่ขณะนี้แผนลงทุนดังกล่าว ยังไม่สามารถดำเนินการได้ เพราะยังอยู่ในขั้นตอนของการศึกษาความเป็นไปได้ ในการก่อสร้างอาคารสูง และการกำหนดกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย ซึ่งเบื้องต้นกำหนดให้เป็นกลุ่มข้าราชการ ที่ต้องการเข้ามาสัมมนาในพื้นที่ ที่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ แต่ไม่ต้องเดินทางไปไกลถึงพัทยา
นายณรงค์ชัย ยังเผยอีกว่า การเติบโตของธุรกิจโรงแรมในเครือบางแสนมหานคร ถือว่า เกินกว่าเป้าหมายที่กำหนด แม้โรงแรมบางแห่งจะเก่าเกินไป จนทำให้ไม่สามารถสร้างอัตราการเข้าพักได้ตรงตามที่กำหนด แต่บริษัทฯ ก็ยังมีแผนที่จะปรับปรุงโรงแรมเก่าทั้งหมด ให้มีความทันสมัย โดยเฉพาะโรงแรมบางแสน บีช รีสอร์ต และบังกะโลที่มีอยู่ ซึ่งโรงแรมแห่งนี้เป็นพื้นที่ที่เช่าจากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.)และขณะนี้ อยู่ระหว่างการขอต่อสัญญาเช่าในอายุสัมปทาน 30 ปี
"สำหรับโรงแรมบางแสนบีช รีสอร์ต เราจะใช้งบฯ 106 ล้านบาท ในการปรับปรุงภูมิทัศน์ ทั้งในส่วนของตึกเก่าและบังกะโล ร่วมทั้งสระว่ายน้ำ ส่วนบังกะโล จะเริ่มปรับปรุงหลังต่อสัมปทานกับ ททท.เสร็จ คาดว่าน่าจะรู้ผลภายใน1-2 เดือน และจะใช้งบประมาณอีกก้อนหนึ่ง ปรับปรุงบังกะโลที่มีอยู่ โดยจะรักษาสภาพเดิมของบังกะโลไว้ แต่จะเปลี่ยนวัสดุ การตกแต่งภายใน และระบบไฟฟ้า ประปา ให้สามารถรองรับกลุ่มครอบครัว ที่เราวางคอนเซ็ปต์ไว้ ให้เป็นรีสอร์ตแบบครอบครัว"
ส่วนโรงแรมบางแสน วิลล่า ซึ่งตั้งอยู่ด้านตรงข้ามร้านอาหารปะการัง จะพัฒนาให้เป็นโรงแรมสำหรับรองรับการสัมมนาแบบครบวงจร และยังมีแผนพัฒนาตึกเก่าที่เป็นอพาร์ตเมนต์จำนวน 20 ห้องใกล้กับโรงแรม ให้เป็นโรงแรมในรูปแบบบูติก โฮเต็ลแห่ง แรกในเขตบางแสน ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างรอแบบและคาดว่าจะเริ่มปรับปรุงได้ในเดือนสิงหาคม 2548 โดยใช้งบฯ 30 ล้านบาท และจะสามารถเปิดให้บริการ ได้ในช่วงกลางปี 2549
ที่สำคัญยังจะพัฒนาอาคารด้านหลังโรงแรมฯที่มีห้องพัก 63 ห้อง ให้เป็นห้องพักแบบค้างคืน แทนที่จะเป็นห้องพักแบบชั่วคราว รวมทั้งยังจะมีการตกแต่งภายในทั้งหมดด้วย
ด้านโรงแรมเอส เอส บางแสน ที่ตั้งอยู่บริเวณหัวโค้งก่อนเลี้ยวลงชายหาดแหลมแท่น ในปี 2548 จะใช้งบฯ 1 ล้านบาท เพื่อปรับปรุงห้องอาหารหินทราย ให้เป็นแบบ out door ที่เปิดโล่ง และยังจะซื้อตึกแถวด้านหน้าโรงแรม เพื่อพัฒนาเป็นบูติก โฮเต็ลเช่นเดียวกัน
"รวมๆ การลงทุนทั้งหมด ที่วางไว้สำหรับการพัฒนาโรงแรมในเครือ ก็คงจะอยู่ที่ ประมาณ 1 พันล้านบาท โดยเฉพาะโรงแรมบางแสน วิลล่า จะใช้เวลาประมาณ 6 ปี จึงจะพัฒนาโรงแรม และพื้นที่โดยรอบแล้วเสร็จ และหากมองถึงการพัฒนา ที่จะเสร็จสมบูรณ์ทั้งหมดทุกโรงแรม ก็คงจะใช้เวลารวมกันประมาณ 10 ปี "
นายณรงค์ชัย ยังกล่าวถึงการแข่งขันในเชิงธุรกิจว่า หากมองเฉพาะพื้นที่บางแสนแล้ว ถือว่าไม่มีคู่แข่งทางตรงแต่คู่แข่งทางอ้อม คือ ผู้ประกอบการโรงแรมในเขตพื้นที่เมืองชลบุรี และพัทยา ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับว่า โรงแรมในเครือทั้งหมด จะสามารถทำตลาดได้ดีแค่ไหน
"คาดว่าเมื่อสนามบินสุวรรณภูมิเปิดใช้ ยอดการเข้าพักของโรง แรมเดอะไทด์ รีสอร์ต ที่มีกลุ่มเป้าหมายอยู่ที่ระดับกลางและบน จะมีการเข้าพักเพิ่มจากเดิมอีกไม่น้อยกว่า 5 %"